ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1606 ฝึกยิง
ถังจื่อโม่คิดว่า ตนจำเป็นต้องไปคุยกับน้องสาวสักหน่อยแล้ว! ตกลงแล้วเธอยังจำคำสั่งสองของหม่ามี้ได้อยู่หรือเปล่า!เข้าหาคนคนหนึ่ง ทั้งยังเชื่อใจคนคนหนึ่งง่าย ๆ อย่างนี้! ตอนนี้นึกไม่ถึงว่ายังเป็นฝ่ายมาหาเขาเองอีก! ฟังจากน้ำเสียงของน้องสาวแล้ว เธอไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนี้เลยสักนิดเดียว…ถังจื่อโม่รู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
“ไหน ๆ ก็มาแล้ว เธอสามารถอยู่กับจื่อซีอีกหลาย ๆ วัน สิ่งที่น่าสนใจทางนี้มันเยอะมาก” ซ่างกวนหงพูดแนะนำออกไป ถังจื่อโม่ไม่วางใจเขาโดยสมบูรณ์ ความระแวดระวังของเขายังมีมากอยู่ ซ่างกวนหงรู้ และก็ไม่ได้คิดจะไปขจัดความกังวลของเขาไปเลย
“คุณลุง! จื่อซีลงไปแล้วนะคะ!” ถังจื่อซีอยู่ที่ห้องไปสักพักนึง คิดว่าพวกเขาคุยกันไปประมาณหนึ่งแล้ว ตนจึงเดินลงไป และยังตั้งใจจะเตือนพวกเขาออกไปสักหน่อยด้วย
ซ่างกวนหงพอได้ยินก็เข้าใจขึ้นมา เมื่อกี้นั้นจื่อซีตั้งใจมอบโอกาสให้เขา ความลำเอียงรักเป็นพิเศษต่อถังจื่อซีเพิ่มมามากขึ้น ยิ้มพลางเอ่ยออกไป “พี่ชายของหนูวางแผนจะอยู่ที่นี่อีกหลาย ๆ วัน หนูสบายใจได้ พวกหนูลงมาพอดีเลย ไปเดินเล่นที่ในลานบ้านให้มาก ๆ หน่อยแล้วกัน มันน่าสนุกมากเลย!”
“ได้ค่ะ~” ถังจื่อซีตอบกลับไปเสียงหวาน มองไปแล้วพี่ชายกับคุณลุงคุยกันสนุกมากเลย คุณลุงชอบพี่ชาย สีหน้าที่แสดงออกมาของพี่ชายก็สงบนิ่งมากเลยด้วย คงจะชอบพี่ชายมากเหมือนกัน อย่างนี้ก็ดีแล้ว ทั้งสองคนต่างก็มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน พี่ชายจะได้ไม่ต้องมาเร่งให้เธอไป อีกทั้ง ขอเพียงแค่พี่ชายยอมรับคุณลุงคนนี้ ต่อไปถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะถามขึ้นมา เขาก็จะได้ช่วยจื่อซีพูดไปด้วย!
“จื่อซี เธอต้องเรียกเขาว่าคุณปู่!” ถังจื่อโม่พูดไปอย่างไม่พอใจ คุณลุงกับคุณปู่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คำเรียก แต่มันก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันเลย คุณปู่มันดูมีความรักใคร่เอ็นดูมากกว่าหน่อย!
“หา?” ถังจื่อซีอึ้งไป คุณปู่? ทั้ง ๆ ที่เป็นคุณลุงที่ยังหนุ่มและหน้าตางดงามคนหนึ่งนี่นะ! คุณปู่อายุมันต่างมากสุด ๆ ! คุณลุงไม่ได้แก่ขนาดนั้นมั้ยล่ะ!
“ใช่แล้ว พวกหนูเรียกฉันว่าคุณปู่จะเหมาะกว่าหน่อย” ซ่างกวนหงถือโอกาสพูดออกไป พลางยิ้มกริ่มออกมา “ลูกสาวของฉันอายุพอ ๆ กับแม่ของหนูเลย!” นี่เป็นลูกสาวกับลูกชายของถังฉิ้นเอ๋อ ก่อนหน้านี้เขาคิดมาโดยตลอดว่าถังฉิ้นเอ๋อเป็นลูกสาวของเขา ถึงแม้ว่าภายในใจตอนนี้ก็จะยังหวังว่าถังฉิ้นเอ๋อจะเป็นอยู่ ดังนั้นแล้ว จึงรักพวกเขาเป็นแบบหลานชาย หลานสาวเลยล่ะมั้ง
ถังจื่อซีตะลึงไป เรื่องนี้…มันต่างจากที่จินตนาการเอาไว้ค่อนข้างเยอะเลยนะเนี่ย แต่เห็นสีหน้าที่จริงจังของพี่ชายแล้ว แล้วก็สีหน้าที่เรียบนิ่งของคุณลุงด้วยแล้ว เธอรู้ว่าพวกเขาไม่ได้โกหก แล้วก็ได้พูดไปด้วยจิตใจที่หดหู่ “คุณปู่”
ซ่างกวนหงฟังออกถึงความหดหู่ของถังจื่อซี แต่ไม่เข้าใจว่ามาจากที่ตรงไหน จึงเอ่ยปลอบออกไป “เด็กโง่ ลุงกับปู่ไม่ใช่ว่าเหมือนกันหรือไง? ฉันก็รักจื่อซีเหมือนกันอยู่ดี!”
“อืม ๆ!” ถังจื่อซีได้ถูกเอาใจไปทันที ไม่ว่าคุณลุงหรือว่าคุณปู่ ขอเพียงแค่สามารถเล่นกับเขาได้ ถูกเขาพะเน้าพะนอ เธอก็มีความสุขทั้งนั้น!
“ไปเที่ยวกันเถอะ สวนดอกไม้ของที่นี่พวกเธอคงจะชอบกัน” ซ่างกวนหงพูด ที่นี่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มาบ่อย แต่ก็มีคนคอยดูแลอยู่ตลอดเหมือนกัน ถึงขนาดที่ตั้งใจดูแลเป็นพิเศษเลยทีเดียว สำหรับเด็กคนนึงแล้ว มันก็เพียงพอให้เที่ยวเล่นแล้ว
ถังจื่อโม่พาถังจื่อซีออกจากห้องไป เขาเองก็อยากจะลองเดินเล่นไปทั่วทุกที่เหมือนกัน ดูสักหน่อยว่ารอบ ๆ มันมีสภาพแวดล้อมแบบไหน มีสถานที่อะไรที่พิเศษหรือเปล่า เขาไม่อยากมาถึงที่นี่แล้วไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง การทำความเข้าใจต่อสภาพแวดล้อมที่ตนอาศัยอยู่นั้นมันเป็นเรื่องที่จำเป็น
ผู้ดูแลจ้งได้นำพวกเขาตรงไปยังสวนดอกไม้ สวนดอกไม้ของที่นี่ใหญ่มาก ตั้งแต่ตอนที่เริ่มสร้างใหม่ ๆ ก็จะนึกเพาะปลูกพืชดัดแปลงขึ้นมาเลย จากการเติบโตแบบสุ่มตามใจชอบเมื่อตอนแรกเริ่มไปจนถึงการปรับปรุงใหม่โดยเจตนาในตอนหลัง ล้วนแล้วแต่ได้ใช้ความคิดไปไม่น้อยเลยทีเดียว
ถังจื่อโม่กับถังจื่อซีไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก เพียงแค่เพื่อความสนุกเอาเท่านั้น แต่มองไปแล้วก็พบว่าที่นี่มันมีพืชพันธุ์มากมายที่ปกติแล้วจะไม่เคยได้พบเห็นทั้งนั้นเลย ความสนใจมีมากขึ้นมาหน่อย
“ที่นี่มีแบบที่หนูไม่เคยเจอมาก่อนเยอะเลย!” ถังจื่อซีเดินไปพลางพูดไปพลาง เธอไม่รู้จักของพวกนี้เลย เพียงแค่ชอบสิ่งสวย ๆ งาม ๆ เท่านั้น เพราะถึงยังไงเด็กผู้หญิงแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่มีแรงต้านทานต่อของสวย ๆ งาม ๆ แปลกใหม่อยู่แล้ว
“ของพวกนี้ได้เก็บรวบรวมมาเพาะเลี้ยงโดยเฉพาะจากสถานที่ต่าง ๆ ทั้งนั้น หลาย ๆ ชนิดเมื่อก่อนหน้านี้ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้ จึงลงแรงไปไม่น้อยเลยนะครับ!” ผู้ดูแลจ้งพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ ไม่เสียแรงที่เขาตั้งใจพาถังจื่อซีกับถังจื่อโม่มาเป็นพิเศษ ก็เพื่อ “อวด” พืชพันธุ์ที่หายากพวกนี้ ให้พวกเขาเกิดความสนใจต่อที่นี่ ยินดีจะอยู่ต่ออีกหลาย ๆ วัน อย่างนี้หัวหน้าก็จะมีความสุขด้วยเหมือนกัน
ถังจื่อโม่ยิ่งดูก็ยิ่งตะลึง ชนิดของพืชพันธุ์ที่นี่มันเยอะสุด ๆ อันที่ไม่ได้พบเจอทั่วไปเยอะยิ่งกว่า ถึงแม้ว่าในสายตาของหลายคนจะไม่สำคัญ แต่ถังจื่อโม่ก็รู้ดีว่า นี่แสดงให้เห็นถึงกำลังความแข็งแกร่งและอำนาจทางการเงินของซ่างกวนหงแล้ว คนคนนี้ เกรงว่าคงจะยิ่งใหญ่กว่าที่จินตนาการเอาไว้เสียอีก
“ข้าง ๆ นั่นคืออะไร?” สายตาของถังจื่อโม่ถูกอีกที่นึงดึงดูดไป มองไปแล้วดูเหมือนกับว่าเป็นสนามซ้อมที่หนึ่ง ค่องข้างที่จะโล่งเตียนอยู่บ้างเล็กน้อย
“อันนั้นเหรอ…” ผู้ดูแลจ้งมองตามสายตาของถังจื่อโม่ไป “นั่นเป็นสถานที่ฝึกซ้อมของหัวหน้า คุณชายน้อยอยากจะไปดูสักหน่อยมั้ยครับ?”
“ดี!” ถังจื่อโม่พยักหน้าออกมาไม่หยุด เขามีความอยากรู้อยากเห็นต่อตัวซ่างกวนหงมากขึ้นเรื่อย ๆ คนคนนี้ ชวนให้คนอื่นมีความต้องการที่จะเข้าไปค้นหาแบบเชิงลึกมากเลย
สนามอันนั้นมันใหญ่มาก มีของในการฝึกเยอะมาก ยังมีเครื่องกลบางอย่างอยู่ด้วย “หัวหน้าของคุณฝีมือสุดยอดมากเลยเหรอ?” จู่ ๆ ถังจื่อโม่ก็ได้ถามออกไป
“พอใช้ได้ ตอนนี้หัวหน้าลงมือจับของพวกนี้น้อยมาก แต่ปกติแล้วน้อยคนมากที่จะชนะเขาได้” ผู้ดูแลจ้งพูด นี่เป็นความจริง หัวหน้าตัวตนอย่างเขา โดยพื้นฐานแล้วไม่จำเป็นต้องให้เขาลงมือเลย แต่หัวหน้าไม่เคยลดการฝึกซ้อมให้น้อยลงเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนนี้ฝีมือก็ยังดีอยู่
ถังจื่อโม่ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่คิดอยู่ตลอดว่าตัวตนของคนคนนี้มันสูงขนาดนี้ ทำไมถึงได้ดีกับจื่อซีขนาดนั้น? ไม่มีอะไรที่จะดีแบบที่ไร้เหตุผล ส่วนใหญ่แล้วจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่ทั้งนั้น ด้วยอายุของซ่างกวนหงแล้ว ว่ากันด้วยสถานะแล้วนั้น จื่อซีไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย และยิ่งไม่มีความจำเป็นจะต้องเอาใจจื่อซีเลยด้วย ตอนนี้ถังจื่อโม่ยังไม่เข้าใจ ความดีบางอย่างมันก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นมาแบบไร้เหตุผล เพียงแค่เพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือด ก็คือความชื่นชอบที่พ่อแม่มีต่อลูก และลูกมีต่อพ่อแม่ หลากหลายอย่างมันก็ไม่มีจุดประสงค์อื่นกันทั้งนั้น
“ยังมีสถานที่ฝึกซ้อมอื่นอีกหรือเปล่า?” ถังจื่อโม่ถามออกไปอย่างจริงจัง สถานที่แห่งนี้ใหญ่มาก คนน้อยมาก ถ้าไม่ใช่ว่าตอนที่เข้ามามีคน เขาไม่สงสัยเลยสักนิดว่านี่เป็นเมืองร้างแห่งหนึ่ง ที่นี่มันเงียบมากเกินไป
“มีครับ ผมพาพวกคุณเข้าไปเอง” ผู้ดูแลจ้งพูดออกมา เรียกจื่อซีเอาไว้ ของที่สนามฝึกซ้อมแห่งนี้มันมีจำกัด จะอยู่ในร่มมากกว่า ห้องใต้ดินล้วนเต็มไปด้วยสนามฝึกซ้อมเต็ม ๆ ทั้งชั้น
เข้าไปที่สนามฝึกซ้อมแล้ว ถังจื่อโม่เห็นเครื่องกลที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า ความตื่นตะลึงภายในใจไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่แล้ว เพราะถึงยังไงซ่างกวนหงคนนี้นั้น สถานที่แห่งนี้ ได้นำความประหลาดใจมาให้เขาเยอะเกินไปแล้ว ตอนนี้เหมือนกับว่าจะไม่นับว่าเป็นอะไรไปแล้ว
“คุณชายน้อยอยากจะลองดูสักหน่อยหรือเปล่าครับ?” ผู้ดูแลจ้งมองถังจื่อโม่ ถามออกไปอย่างใจดี เด็กน้อยมักจะไม่มีแรงตานทานต่อสิ่งที่มันแปลกใหม่อยู่แล้ว
“ได้” ก่อนหน้านี้ถังจื่อโม่ไม่เคยเห็นมาก่อน ความต้องการต่อของพวกนี้มันก็เลยไม่ได้เยอะมากนัก เพียงแค่อยากจะลองดูสักหน่อยเท่านั้น สำหรับการฝึกซ้อมแล้ว เขาคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็น เพียงแต่ว่าตอนนี้เขายังเด็กอยู่ การฝึกซ้อมที่เหมาะสมมันก็ได้อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเขาฝึกซ้อมไปก็แค่เพื่อเสริมสมรรถภาพทางร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น ปกป้องตัวเองและคนรอบข้างได้ก็พอแล้ว สิ่งที่เขาพึ่ง มันไม่ใช่การใช้ความรุนแรง แต่เป็นสติปัญญาเสียมากกว่า
ถังจื่อโม่หยิบปืนพกขึ้นมา นี่เพียงแค่ปืนที่ใช้ในการฝึกยิงเท่านั้น ไม่ได้มีความสามารถในการสังหารอะไร ถังจื่อโม่เองก็แค่ลองดูไปเท่านั้น
ยิงเล่น ๆ ไปสองนัด ผลไม่ดีเลย ถึงขนาดที่มีนัดนึงที่ไม่เข้าเป้าเลย ถังจื่อโม่ขมวดคิ้วออกมา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจ แต่ผลอย่างนี้เขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน อยากจะลองตั้งใจดูสักหน่อย!
หลังจากที่ได้ยิงต่อเนื่องไปหลายนัด ก็ยังไม่แม่นอยู่ดี เขาหยิบปืนขึ้นมาศึกษาอยู่ครู่นึง คิดว่าทำยังไงถึงจะยิงแม่นได้ ถังจื่อซีมองอยู่ข้าง ๆ เธอรู้ว่านี่เป็นการกระตุ้นจิตใจที่อยากเอาชนะของพี่ชายขึ้นมาแล้ว——ตั้งแต่เด็กเขาจะทำอะไรก็สำเร็จได้โดยง่ายทั้งนั้น ครั้งนี้ยิงไม่เข้าเป้าเลยสักนัดเดียวจะต้องรู้สึกไม่ยินยอมมากแน่ ๆ เลย เธอแอบให้กำลังใจถังจื่อโม่อยู่ในใจ
ผู้ดูแลจ้งกำลังคิดว่าต้องเตือนคุณชายน้อยสักหน่อยหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าเป็นครั้งแรกของคุณชายน้อย ยิงไม่แม่นมันก็เป็นเรื่องปกติแล้ว แต่ท่าทางที่เขาขมวดคิ้วเครียดออกมานั้น มันจริงจังเกินไป เหมือนกับเอ่ยปากพูดไปมันล้วนเป็นความผิดบาปอย่างนึงเลย
“อันดับแรก ท่ามันต้องมั่นคง” มีเสียงดังเข้ามาจากทางด้านหลัง ถังจื่อโม่ผันร่างไป เห็นซ่างกวนหงเดินเข้ามา เขาไม่ได้มองถังจื่อซีมากมาย ดึงถังจื่อโม่เดินเข้าไปยืนอยู่ที่ตรงหน้าเป้าให้ดี ๆ กดร่างของถังจื่อโม่เอาไว้ พลางพูดอธิบายออกไป “ตอนที่ยิง เท้าทั้งสองข้างต้องแยกออกเป็นตัวเลขแปด กว้างกว่าไหล่เล็กน้อย ช่วงบนเหยียดตรงเอาไว้ ทิ้งน้ำหนักไปที่ขาทั้งสองข้าง”
ถังจื่อโม่ทำตามซ่างกวนหงไปอย่างไม่รู้ตัว “อันดับต่อมา แรงที่จับปืนต้องเหมาะสม จะต้องสมดุลกัน ง่ามมือขวาจับที่พานท้ายปืน ใช้ฝ่ามือส่วนที่มีเนื้อหนาร่วมกับนิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อยกำด้ามปืน นิ้วหัวแม่มือเหยียดตรงอย่างเป็นธรรมชาติ วางแนบไปที่ข้างซ้ายของตัวปืน มันจะทำให้จับปืนเป็นธรรมชาติขึ้น” เสียงของซ่างกวนหงเอ่ยออกมาอย่างไม่ช้าไม่เร็ว ตกเข้ามาในหูของถังจื่อโม่เหมือนกับคำชี้แนะที่หนักแน่นอย่างหนึ่ง เขาฟัง และทำตามไปอย่างตั้งใจ
“แขนข้างขวายืดตรง แล้วล็อกข้อมือเอาไว้” ซ่างกวนหงเห็นถังจื่อโม่ที่จริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำพูดก็ได้มั่นคงขึ้นมามากขึ้นด้วยเหมือนกัน “เชื่อในตัวเอง ขจัดความกดดันออกไป ขจัดสิ่งที่รบกวนสมาธิออกไป จดจ่อไปที่ปืน บนเป้า หลังจากที่เล็งไปที่เป้าแล้วก็ยิงเลย!”