ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1607 จะไม่เปิดประตูตลอดไป
“เชื่อในตัวเอง ขจัดความกดดันออกไป ขจัดสิ่งที่รบกวนสมาธิออกไป จดจ่อไปที่ปืน บนเป้า หลังจากที่เล็งไปที่เป้าแล้วก็ยิงเเลย!”
ได้ยินคำแนะนำของซ่างกวนหง ถังจื่อโม่สงบใจลงอย่างน่าอัศจรรย์ ครั้งนี้ เขาไม่ลังเลเลย ยิงออกไปด้วยความว่องไว ครั้งนี้ ยิงเข้าเป้า ถังจื่อโม่เอียงหัวเล็กน้อย ดีใจขึ้นมานิดหน่อย
“พี่ชายสุดยอดไปเลย!” ถังจื่อซีดีใจยิ่งกว่าถังจื่อโม่เสียอีกพุ่งเข้าไปกอดแขนถังจื่อโม่ เธอรู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างที่จะยากเลย เพราะถึงยังไงตอนเริ่มแรกพี่ชายก็ทำไม่สำเร็จ แต่ภายใต้การชี้แนะของคุณปู่ก็ยิงเข้าเป้าไปเลยทันที และก็เป็นเพราะความสามารถของพี่ชายด้วยเหมือนกัน!
ถังจื่อโม่ยิ้ม แล้วเล่นกับปืนไป ตอนนี้ในใจของเขารู้สึกอบอุ่นขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าความรู้สึกที่ถูกคนสั่งสอนมันเป็นอย่างนี้ ตั้งแต่เด็กเขาทำอะไรก็ค่อนข้างที่จะยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ปกติแล้วก็ไม่เคยเข้ามายุ่ง วันนี้ยิงเป็นครั้งแรก ซ่างกวนหงสอนไปอย่างใจเย็น ทำให้เขารู้สึกสนิทใจขึ้นมา ผู้ชายคนนี้ แท้จริงแล้วก็รู้จักเอาชนะใจคนอื่นอยู่บ้างเหมือนกัน
ซ่างกวนหงมองกระสุนที่อยู่บนเป้า ในใจก็ตะลึงกับความฉลาดของถังจื่อโม่ ไม่เคยเล่นมาก่อนเห็นแวบแรกก็สามารถมองออกแล้ว สีหน้าที่กำลังครุ่นคิดอยู่ของถังจื่อโม่ก่อนหน้านี้เขาเองก็เห็นมันเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าตนเพียงแค่เตือนออกไปแค่สองประโยคง่าย ๆ เขาก็สามารถยิงเข้าเป้าได้แล้ว ต้องบอกเลยว่ามีพรสวรรค์ทางด้านนี้!
“เธอดูเรียนจนทำเป็นแล้ว ลองฝึกเองมาก ๆ อีกสักหน่อยก็จะสามารถยิงเข้ากลางเป้าได้แล้ว!” ซ่างกวนหงพูดไปอย่างตั้งใจ เขาไม่ตระหนี่คำชมของตัวเองอยู่แล้ว
“ขอบคุณ!” ถังจื่อโม่พูดเสียงเบาออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจริงใจต่อซ่างกวนหง เขารู้สึกขอบคุณกับการชี้แนะของซ่างกวนหง ยิ่งรู้สึกขอบคุณที่เขาไม่ได้มีความขุ่นเคืองต่อเขาเลย บางทีในตอนนี้ เขาอาจจะมีความไว้วางใจต่อตัวซ่างกวนหงขึ้นมาบ้างแล้วจริง ๆ !
เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยได้ดองอยู่ในเน็ตมาตลอด ความคิดเห็นแบบต่าง ๆ ในเน็ตมีไปเสียทุกแบบ แต่ไม่มีเลยสักอันที่จะไม่ด่าไป๋ยี่รุ่ยกันออกมา ตั้งแต่ที่เรื่องมันได้เปิดเผยออกมาแล้วนั้น หลิวหยิงก็ติดตามมาโดยตลอด ในใจเธอโกรธมาก เรื่องนี้ที่จริงแล้วมันไม่ได้เหมือนอย่างที่พวกเขาคาดเดากันอย่างนั้นเลย แต่เธอก็พูดไม่ออกเลยสักคำเดียว เธอจะพูดออกไปด้วยสถานะอะไรกันน่ะ? พูดออกไปทุกคนก็ไม่เชื่อกันอยู่ดี เกรงว่าคงจะเชิญให้เข้ามาด่ากันเสียมากกว่า!หลิวหยิงรู้สึกว่ามีใจที่อยากจะทำแต่ก็ไร้ความสามารถเหลือเกิน ไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่ยอมจะอธิบายเลยสักคำเดียวอีก ถ้าเขาเปิดปากพูดออกมา ความคิดเห็นของสังคมบนอินเทอร์เน็ตคงจะเปลี่ยนไปบ้าง ไม่ต้องพูดถึงการเข้าข้างเขา ช่วยพูดแทนเขาเลย อย่างน้อยก็จะไม่ด่าว่ากันแบบไม่น่าฟังอย่างนี้
หลิวหยิงร้อนใจอยู่ภายในห้องเพียงลำพัง เวินลั่วฉิงไปหาเย่ซือเฉิน ไม่กลับมาเลย ไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่ให้คนอื่นสอดมือเข้าไปยุ่งเลย ถึงแม้ว่าเธออยากจะช่วยมันก็ไร้หนทางเช่นกัน อันที่จริงเธอก็อยากจะเกลี้ยกล่อมไป๋ยี่รุ่ยให้แก้ตัวให้กับตัวเองสักหน่อยอยู่เหมือนกัน เขาฆ่าคนมันเป็นเรื่องจริง แต่ถูกบีบให้ทำมันก็เป็นความจริงเหมือนกัน ท่าทีตอนนี้ดีอยู่ ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ จะสามารถลดโทษลงได้ หลิวหยิงกลุ้มใจจริง ๆ เรื่องนี้เหมือนกับเขาวงกต ไม่มีทางออกไปเลย!
“ก๊อก ๆ ๆ!” ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังเข้ามา หลิวหยิงหงุดหงิดสุด ๆ เดินเข้าไปพลางเอ่ยถามออกไป “ใครน่ะ!” น้ำเสียงนี้มันไม่ดีเลย
“ฉันเอง!” เสียงทุ้มต่ำทำให้หลิวหยิงรู้สึกไม่ดีขึ้นมา ซือถูมู่หรง? เขามาทำไม? หลิวหยิงไม่อยากเปิดประตู ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
ซือถูมู่หรงคิดว่าไม่นานก็เปิดประตูแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ตั้งใจฟังให้ดีแล้วมันไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้าเลยด้วยซ้ำ เขาโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ได้เคาะประตูไปอย่างแรงอีกที “ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างใน เปิดประตู”
หลิวหยิงยืนนิ่งไม่อยากขยับ ตอนนี้เธอไม่อยากจะมีความเกี่ยวข้องกับซือถูมู่หรงเลยสักนิดเดียว สัญญาห้าปีมันก็ครบกำหนดแล้ว ตอนนี้ยังรู้อีกด้วยว่าเขาเป็นคนบีบบังคับให้พ่อของตนถึงแก่ความตาย เธอไม่ไปหาเรื่องสร้างความวุ่นวายให้เขาก็พอแล้ว นึกไม่ถึงว่าเขาจะยังมาหากันถึงที่อีก คือคิดว่าระหว่างพวกเขามันยังมีโอกาสผ่อนปรนความบาดหมางให้ลดน้อยลงอีกเหรอ? หลิวหยิงถึงขนาดที่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมซือถูมู่หรงยังมีกะจิตกะใจมาหาเธออีก? ระหว่างพวกเขาจะยังมีความเป็นไปได้อยู่อีกงั้นเหรอ?
ซือถูมู่หรงโกรธแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว ผู้หญิงที่อยู่ในห้องคิดจะแสร้งทำเป็นหายไปงั้นเหรอ? คำพูดประโยคเมื่อกี้ทำเป็นว่าเขาไม่ได้ยิน? “ใครน่ะ” ที่ชัดเจนขนาดนั้น เกรงว่าคงจะมีเพียงแค่คนหูหนวกเท่านั้นที่จะไม่ได้ยิน ตอนนี้เขาเคาะประตูไปอยู่สักพักนึงแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าข้างในจะยังไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวอะไรออกมาเลยสักนิดเดียว เธอไปทำอะไร! หลบเขาก็ไม่ควรจะหลบด้วยวิธีนี้! หรือว่าจะต้องบีบให้เขาพังประตูเข้าไปให้ได้งั้นเหรอ? ผู้หญิงคนนี้ อยากจะหลุดพ้นไปจากการเกี่ยวข้องกับเขาขนาดนี้เลยเหรอ? รอไม่ไหวสักเสี้ยวนาทีเดียวเลย?
“หลิวหยิง ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างใน เปิดประตู!” พูดออกไปครั้งนี้ ในน้ำเสียงของซือถูมู่หรงได้ประดับไปด้วยการคุกคามออกมาเล็กน้อย ความโกรธในน้ำเสียงของเขานั้นถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจไปแยกแยะดูก็สามารถฟังออกเช่นกัน
หลิวหยิงเองก็โกรธมากเหมือนกัน มีสิทธิ์อะไร มีสิทธิ์อะไรมาบอกให้เธอเปิดประตูแล้วต้องเปิด เขาคิดว่าเธอเป็นอะไรกัน? เครื่องมือเหรอ? สิ่งของเหรอ? ไม่มีความคิดของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ต้องคล้อยตามเขาหมด? ช่วงเวลาห้าปี เธอได้รับมาพอแล้ว ตอนนี้สามารถออกมาได้แล้ว เธอจะไม่มีวันหยุดนิ่งอยู่กับที่เลยสักนิดเดียวเป็นอันขาด!หลิวหยิงอยากจะกลับไปที่ห้อง นั่งอยู่บนเตียง ทำเป็นด้านนอกไม่มีคนคนนี้อยู่
ซือถูมู่หรงได้ยินเสียงฝีเท้าก็ประหลาดใจขึ้นมาก่อน ได้ยินเสียงฝีเท้าไกลออกไปเรื่อย ๆ โกรธจัดขึ้นมาทันที ยกเท้าขึ้นมาเตะไปที่บนประตู ผู้หญิงคนนี้อยากจะให้เขาโกรธตายเลยใช่มั้ย? ดีที่เขาคิดว่าเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยได้เปิดเผยออกมา ในใจของเธอมันก็รู้สึกไม่ดีอยู่แล้ว เลยมาปลอบใจเธอสักหน่อย ถึงขนาดที่อยากจะถามดูสักหน่อยว่าเธอต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า ช่างเป็นการป้อนความปรารถนาดีไปโดยเปล่าประโยชน์เสียจริง! ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว! ห้าปี พวกเขาอยู่ด้วยกันมาห้าปี นึกไม่ถึงว่าเธอจะไร้หัวใจต่อเขาอย่างนี้!
“หลิวหยิง!” ซือถูมู่หรงพูดออกมาด้วยความโกรธ! พยายามให้ตนใจเย็นลง รู้ตัวขึ้นมาว่านี่เป็นโรงแรม มีคีการ์ดของห้องไม่ใช่ว่าก็จบแล้ว! ไปที่หน้าล็อบบี้ ใช้สถานะของเขาเพื่อเอามีคีการ์ดของห้องเข้าไป
ในห้องรับแขกไม่มีใคร นั่นก็แสดงว่าอยู่ที่ในห้อง! ซือถูมู่หรงส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา มันไม่มีที่ให้ไปแล้วจริง ๆ ตอนกลางวันก็ต้องนอนอยู่บนเตียงด้วย! เปิดประตูเข้าไปก็เห็นหลิวหยิงนั่งหันหลังให้กับตนอยู่บนเตียง มองไปข้างนอกหน้าต่างไปเงียบ ๆ มองไม่เห็นสีหน้า ยิ่งไม่รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงขนาดที่แม้แต่เขาเข้ามาแล้วก็ยังไม่รู้สึกตัวเลยก็ไม่ปาน
“หลิวหยิง” ซือถูมู่หรงส่งเสียงทำลายบรรยากาศออกไป ผู้หญิงคนนี้ตอนที่เงียบมองไปแล้วก็ดูงดงามเสียขนาดนั้น งดงาม เงียบสงบ รู้ความ ถึงขนาดที่ใบหน้าที่อ่อนโยนได้ให้ความรู้สึกสนิทใจขึ้นมาด้วยเลย แต่มันไม่ใช่เลย ในส่วนลึกของหัวใจของเธอนั้นมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เธอเฉียบแหลม เย็นชา เหมือนกับน้ำแข็งก้อนนึงเลยไม่มีผิดไม่ว่าจะยังไงก็ไม่อบอุ่นขึ้นมาเลยสักนิด! ซือถูมู่หรงคิด ตกลงแล้วเขามองหลิวหยิงผิดไปหรือว่าหลิวหยิงแสร้งทำเก่งเกินไปจริง ๆ กันแน่?
“คุณเข้ามาได้ยังไง?” หลิวหยิงได้ยินเสียงก็เด้งตัวขึ้นมาเลยทันที ประหนึ่งนกที่ตื่นธนู รู้สึกกลัวต่อซือถูมู่หรงโดยสัญชาตญาณ เธอกลัวผู้ชายคนนี้มากจริง ๆ เขาเย็นชาไร้ความรู้สึก มีวิธีการที่ร้ายกาจกว่าคนทั่ว ๆ ไป ถึงแม้ว่าจะอยู่บนเตียงของเขา ในฐานะเพื่อนร่วมเตียง ไม่มีวันรู้เลยเหมือนกันว่าเขาทำอะไรอยู่ คิดอะไรอยู่ เขาสามารถยิ้มแล้วคิดบัญชีตนไปด้วยได้ ถึงขนาดที่ตนยังช่วยเขานับเงินด้วยเลย น่าเศร้าขนาดไหนกัน? ซือถูมู่หรงในตอนนี้ สำหรับหลิวหยิงแล้วก็เหมือนกับงูตัวหนึ่ง งูที่จ้องจะจู่โจมเธอตัวหนึ่ง งูตัวที่ต้องการจะเอาชีวิตเธออยู่ตลอดเวลา เธอไม่กล้าเข้าไปใกล้ เธอสู้ไม่ได้เลย เธอได้ยอมแพ้ไปเลยทันที ก็แค่อยากจะออกไปเลย ก็เท่านั้นเอง แต่เพียงแค่อย่างนี้ ซือถูมู่หรงเองก็ไม่อยากจะปล่อยเธอไปด้วยเหมือนกัน
ซือถูมู่หรงชูคีการ์ดในมือขึ้นมา การกระทำตกอยู่ในสายตาของหลิวหยิงมันก็คือการเยาะเย้ยกันอย่างเปิดเผยเลยนั่นเอง เธอก็หนีออกมาแล้ว ทำไมเขาถึงยังตามเธอมาอีก? หลิวหยิงรู้ว่าตัวเองเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่อาจจะไปเทียบกับซือถูมู่หรงได้เลย เธอไม่ขออะไรแล้วจริง ๆ! เธออยู่ที่โรงแรม ก็คิดว่าซือถูมู่หรงจะไม่มาหาเธอแล้ว ถ้าโรงแรมไม่อาจอยู่ได้ เธอยังจะต้องไปที่ไหนอีกล่ะ?
“ทำไมเมื่อกี้เธอไม่เปิดประตู?” จากเดิมซือถูมู่หรงก็แค่ถามออกไปง่าย ๆ เท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าเขาจะโกรธเคืองเรื่องการหลบหนีไปของหลิวหยิง ถึงแม้ว่าอยู่ในห้องก็ยังไม่เปิดประตูด้วยอีก แต่เข้ามาแล้ว เขาเองก็ไม่อยากจะไปซักไซ้ด้วยเหมือนกัน อีกอย่างเมื่อกี้นาทีที่เห็นหลิวหยิงนั้น เขาก็สงสารเธออยู่บ้าง ตอนนี้หลิวหยิงไม่มีความสุขและปล่อยตัวไปตามอารมณ์อย่างเมื่อตอนแรกเลย เธอไม่มีความสุข เขารู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน
“ทำไมฉันต้องเปิดประตู?” หลิวหยิงถูกคำพูดประโยคนี้กระตุ้นให้เกิดโทสะขึ้นมา ทำไมเธอถึงไม่สามารถมีความคิดของตัวเองได้? ทำไมต้องทำตามเขา! คำพูดประโยคเมื่อกี้นี้เป็นคำถามเหรอ? เขาซือถูมู่หรงมีสิทธิ์อะไรมาถามเธอ?
ซือถูมู่หรงไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ หลิวหยิงถึงได้โกรธขึ้นมา ขมวดคิ้วออกมา หลิวหยิงจ้องกลับไปอย่างไม่มีเกรงกลัว ไม่เป็นไร เธอไม่แคร์ ตอนนี้เธอไม่มีอะไรเลยสักอย่าง คนที่เธอแคร์ สิ่งที่เธอแคร์ มันไม่มีอะไรเลย ตอนนี้เธอเหลือเพียงแค่แม่ ถ้าซือถูมู่หรงกล้าแตะต้องแม่ของเธอ เธอจะขอสู้ตายอย่างแน่นอน!
“หรือว่าเธอคิดจะไม่เปิดประตูตลอดไปเลยงั้นเหรอ?” ซือถูมู่หรงถูกสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของหลิวหยิงทำให้เกิดโทสะขึ้นมา เธอมีสิทธิ์อะไรมามองเขาแบบนี้? ระหว่างพวกเขาเหลือเพียงแค่ความเกลียดชังเท่านั้นแล้วเหรอ? ห้าปีมานี้ เขารักใคร่พะเน้าพะนอเธอไม่พอเหรอ? ในตอนหลังไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามใจเธอหมด! ทำไมเธอถึงไม่จดจำความดีของเขาเลยสักนิดเดียว?
“ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ ฉันก็ไม่อยากจะออกไปตลอดชีวิตเลย” หลิวหยิงพูดออกมาอย่างประชดประชัน คนคนนี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะยังมีหน้ามาพูดอีก? เธอไม่อยากเจอเขา แทบจะไม่อยากเจอตลอดไปเลย เปิดประตู? ต้อนรับเขาเข้ามาเหรอ? เธอจะไม่มีวันทำตามเขาอีกแล้ว เธอต้องมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง ทำสิ่งที่เธออยากทำ