ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1609 ฉันแคร์เธอ
หลิวหยิงโกรธขึ้นมา ตกลงแล้วเขาเข้าใจหรือไม่เข้าใจกันแน่ ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนมันมีสิ่งที่ขวางกั้นเอาไว้เยอะเกินไป? เธอไม่อาจทำการยอมรับเขามาอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจอะไรเลยได้ ยิ่งไปกว่านั้นครอบครัวของเขาเองก็ไม่มีทางจะเห็นด้วยเช่นกัน!
“ได้ งั้นพวกเราไม่คุยเรื่องนี้กันแล้ว ถ้าหลังจากนี้ยืนยันแล้วว่าพ่อของเธอไม่บริสุทธิ์ เธอก็ห้ามไปจากฉัน” ซือถูมู่หรงตัดสินใจที่จะค่อยเป็นค่อยไป รั้งเธอไว้ก็ดี พวกเขาจะต้องยังมีโอกาสอยู่ ซือถูมู่หรงคิดอยู่ตลอดว่าถ้าหลิวหยิงอยากไป จะทำอะไรดี? เธอได้รู้เรื่องนั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็ได้บอกกับเขาว่าจะจากไปแล้วด้วยเช่นกัน ตอนนี้รั้งไว้ที่นี่ เป็นเพราะอะไรกัน? เรื่องไป๋ยี่รุ่ยเหรอ? ต้องบอกเลยว่าซือถูมู่หรงมักจะไม่ยอมไปคิดถึงไป๋ยี่รุ่ยเลย เหมือนกับว่าเอ่ยถึงเขาขึ้นมาแล้วก็จะมีความเกี่ยวข้องที่พิเศษอะไรกับหลิวหยิงขึ้นมา
หลิวหยิงไม่พูดอะไร ไม่อยากตกลง “ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอมีหลายเรื่อง เธอกำลังกังวลเรื่องไป๋ยี่รุ่ยอยู่ตลอด ถ้าฉันช่วยเธอ พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งได้มั้ย?” ซือถูมู่หรงลดความเป็นตัวเองลง ค่อย ๆ พูดออกไป นี่เป็นการลดราวาศอกที่มากที่สุดของเขาแล้ว
หลิวหยิงนิ่งอึ้งไป ความหมายเมื่อกี้ของเขาคือเขายอมช่วยไป๋ยี่รุ่ย ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่ายังโกรธเสียแทบอยากจะฆ่าไป๋ยี่รุ่ยให้ตายไปเสียเลยหรือไง? นึกถึงเรื่องที่อยูในอินเทอร์เน็ตขึ้นมา เธอเงยหน้าขึ้นไปถาม “เรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยฆ่าคน คุณเป็นคนปล่อยข่าวออกไปใช่หรือเปล่า?”
“เธอสงสัยฉัน?” ซือถูมู่หรงพูดออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ หรือว่าในสายตาเธอ เขามันเป็นคนที่สามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการอย่างนั้นเหรอ? ยิ่งไปกว่านั้นไป๋ยี่รุ่ย มีสิทธิ์อะไรให้เขาไปใส่ใจ? ถ้าไม่ใช่หลิวหยิง เขาไม่มีวันมองไป๋ยี่รุ่ยเลยสักนิด!
หลิวหยิงเห็นสายตาของเขา ส่ายหน้าออกมาเล็กน้อย หรือว่าจะไม่ใช่เขา? แล้วจะเป็นใครกันล่ะ? เรื่องนี้ตกลงแล้วมันจะมีประโยชน์กับใครกันแน่? การนิ่งเงียบไปของหลิวหยิงในความคิดของซือถูมู่หรงนั้นได้เป็นการยอมรับออกมาโดยปริยาย เธอยอมรับออกมากลาย ๆ ว่าสงสัยว่าเขาเป็นคนลงมือทำ อารมณ์ที่เพิ่งสงบไปเมื่อกี้ได้ระเบิดออกมาอีกครั้ง!
“ไป๋ยี่รุ่ยมันมีค่าอะไรให้ฉันต้องลงมือด้วย? เขาฆ่าคนเข้าคุกเข้าตะรางมันก็เป็นที่แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าฉันคิดจะทำอะไรจริง ๆ ก็ทำให้เขาไม่ได้ออกมาอีกเลย ติดคุกไปตลอดชีวิตก็พอแล้ว ทำไมจะต้องปล่อยข่าวออกไป?” ซือถูมู่หรงโกรธขึ้นมา นับว่าเป็นการกู่ร้องออกมาเลยทีเดียว
หลิวหยิงมองซือถูมู่หรงไปอย่างตื่นตกใจ นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีความคิดแบบนี้ ให้ไป๋ยี่รุ่ยติดอยู่ในคุกตลอดไป? ทำไมเขาถึงได้ชั่วร้ายขนาดนี้? ไป๋ยี่รุ่ยเคยทำให้เขาไม่พอใจที่ตรงไหน?
ซือถูมู่หรงมองหลิวหยิง พูดเสียงดังฟังชัดออกมาเป็นคำ ๆ “ถ้าฉันช่วยไป๋ยี่รุ่ย ให้โอกาสฉันสักครั้ง พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่ ได้หรือเปล่า?”
หลิวหยิงเริ่มหวั่นไหวขึ้นมาทันที เรื่องนี้เดิมทีแล้วมันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะสามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งได้เลย ไป๋ยี่รุ่ยไม่อยากให้เธอช่วย ไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง เหมือนกับปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม เวินลั่วฉิงจะต้องมีวิธี แต่ว่าตอนนี้ติดต่อไม่ได้ เรื่องมันได้หมักหมมอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนกลายเป็นยังไง ถ้าซือถูมู่หรงลงมือจัดการ…ถ้าเขาช่วย…แต่แบบนี้ เธอก็ต้องพัวพันกับเขาอีก นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการเลย เธอกลัวว่าพอตัวเองพูดออกไปแล้วเธอจะสลัดซือถูมู่หรงออกไปไม่ได้อีกเหมือนกัน
การนิ่งเงียบไปของหลิวหยิงมันได้สร้างความพอใจให้แก่ซือถูมู่หรงเป็นอย่างมาก ยิ่งเธอคิดนานเท่าไหร่ ก็แสดงให้เห็นว่าไป๋ยี่รุ่ยสำหรับเธอแล้วไม่ได้สำคัญขนาดนั้น บางที ตนอาจจะคิดมากไปเองมาโดยตลอด เธอไม่ได้รักไป๋ยี่รุ่ยจริง ๆ! ก้นบึ้งภายในใจของซือถูมู่หรงยิ่งมีความหวังขึ้นมา ขอเพียงแค่หลิวหยิงไม่ได้รักไป๋ยี่รุ่ยอยู่ เขาก็เชื่อว่าตนจะสามารถได้หัวใจเธอมาได้ แน่นอนว่า ถึงแม้ว่าหลิวหยิงจะชอบเขาจริง ๆ สุดท้ายแล้วคนที่ต้องแต่งงานด้วย ก็ต้องเป็นเขาอยู่ดี!
หลิวหยิงคิดอยู่นานมาก คิดไปถึงความชอบที่เธอเคยมีต่อไป๋ยี่รุ่ย คิดไปถึงอดีตที่แล้วมาของเธอกับซือถูมู่หรง คิดถึงไป๋ยี่รุ่ยในตอนนี้ รวมไปถึงสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเธอตอนนี้ แล้วพูดออกไปอย่างยากลำบาก “คุณเก็บความคิดของคุณกลับไปเถอะ เรื่องไป๋ยี่รุ่ย ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ถึงฉันจะช่วยไม่ได้ แต่ฉิงฉิงจะต้องช่วยได้แน่”
ถึงแม้ว่าจะเป็นการปฏิเสธ แต่ซือถูมู่หรงกลับไม่เสียใจเลยสักนิดเดียว นี่แสดงว่าเธอไม่รักไป๋ยี่รุ่ย ถ้ารัก หลิวหยิงจะต้องขอร้องให้เขาช่วยอย่างแน่นอน ถึงเขาจะรับปากไป แต่ก็ไม่มีทางจะช่วยอย่างเต็มที่ขนาดนั้น ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่บรรลุข้อตกลงกัน เขาเองก็ไม่มีทางจะไปสนใจไป๋ยี่รุ่ยอีกเหมือนกัน จะเป็นจะตายยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้เขา คิดถึงเพียงแค่หลิวหยิงเท่านั้น
“ดี ฉันจะไม่ถามเรื่องไป๋ยี่รุ่ยอีก แต่ว่าเธอ ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้อย่างแน่นอน!” ซือถูมู่หรงพูด แน่วแน่ไม่ยอมแพ้กับเรื่องนี้เด็ดขาด!
“แล้วแต่คุณแล้วกัน ฉันไม่สนใจ!” หลิวหยิงอึดอัดใจอยู่บ้าง เธอได้ตัดขาดทางหนีทีไล่ของไป๋ยี่รุ่ยไปเพราะตัวเองเสียแล้วใช่มั้ย? เธอไม่เชื่อว่าซือถูมู่หรงจะช่วยไป๋ยี่รุ่ยจริง ๆ และยิ่งไม่คิดอยากจะมีความเกี่ยวข้องกับซือถูมู่หรงเลยด้วย เธอ เห็นแก่ตัวขนาดไหนกัน
“ฉันแคร์ ฉันแคร์เธอ” จู่ ๆ ซือถูมู่หรงก็พูดขึ้นมา เขาไม่อาจทนมองหลิวหยิงทำเหมือนกับว่าไม่ได้แคร์อะไรทั้งนั้นแล้วในตอนนี้ เหมือนกับมองข้ามความเป็นความตายไป ไม่ว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลย เธอที่เป็นอย่างนั้น มักจะให้ความรู้สึกออกมาว่าไม่ว่าใครก็ไม่อาจคว้าเอาไว้ได้ทั้งนั้น
หลิวหยิงตอบสนองออกมาเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจว่าซือถูมู่หรงพูดเรื่องอะไรขึ้นมา น่าขัน น่าเศร้า! เขาคิดว่าพูดมาอย่างนี้แล้วเธอจะเชื่องั้นเหรอ? แคร์? ถ้าแคร์ ก็คงจะไม่ทำอย่างนั้นกับเธอหรอก ถ้าแคร์ ก็จะไม่ทำให้พ่อตายไปโดยที่ไม่สนใจไยดีอะไรหรอก สุดท้ายแล้ว ยังไงเขาก็เป็นคนที่ยึดเอาตนเองเป็นศูนย์กลางคนนึงอยู่ดี! เขาไม่แคร์ใครเลย แคร์ก็แต่ตัวเอง
“ทำไมเธอไม่ยอมเชื่อล่ะ? หลิวหยิง ทำไม? ทำไมไม่ยอมให้โอกาสฉัน? เธอเกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?” ซือถูมู่หรงแทบจะไม่รู้เลยว่าจะคุยกับหลิวหยิงไปยังไงดี เธอแสดงท่าทีไม่แคร์อะไรเลยอยู่ตลอด ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ก็เอาแต่มองเขาไปด้วยการเยาะหยันอยู่เต็มไปหมด ราวกับว่าทุกอย่างที่เขาได้ทำไปมันล้วนแล้วแต่จะแสดงอยู่ทั้งนั้นเลยไม่มีผิด! ในใจของเธอหลิวหยิง เขาซือถูมู่หรงคนนี้มันจอมปลอมถึงขั้นนี้เลยเหรอ!
“ใช่แล้ว ฉันเกลียดคุณ” หลิวหยิงพูดออกมาอย่างแผ่วเบา เธอไม่กลัวว่ามันจะทำให้เขาไม่พอใจ เธอทำให้เขาไม่พอใจไปตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เหรอ?
“เธอมันใจร้ายมากเลย! ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นคนไร้หัวใจอย่างนี้!” ซือถูมู่หรงบีบบ่าของหลิวหยิง บีบแน่นขึ้นทีละนิด ๆ ในเมื่อเขาเจ็บปวดแล้ว งั้นพวกเราก็มาเจ็บด้วยกันเลย! ความเจ็บปวดมักจะเกิดขึ้นร่วมกันเสมอ!
“ปล่อยฉัน!” หลิวหยิงร้องออกมาด้วยความเจ็บ เธอไม่อยากมีการสัมผัสแตะต้องกับเขาเลยสักนิด ห้าปีนั้นมันเพียงพอแล้ว ตอนนี้ การสัมผัสเพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้เธอรู้สึกแย่ไปหมดแล้ว ทรยศตัวเองในอดีต ทำร้ายพ่อที่ได้ล่วงลับไป หลิวหยิงไม่อาจให้อภัยให้กับตัวเองได้เลย
“ไม่มีทาง ฉันไม่มีทางยอมแพ้จากเธอตลอดไป! หลิวหยิง เชื่อฉัน เธอไม่มีวันจะหลุดพ้นไปจากฉันได้ ขอเพียงแค่ฉันไม่ยินยอม เธอก็ทำได้แค่เพียงต้องเป็นผู้หญิงของฉันตลอดไปเท่านั้น!” ซือถูมู่หรงโกรธจัด ได้พูดแฝงไปด้วยการคุกคามออกมา! เขาซือถูมู่หรงอยากได้ผู้หญิงแบบไหนแล้วไม่ได้มา? ขอเพียงแค่เขาคิด หลิวหยิง ก็หนีออกไปจากกำมือเขาไม่ได้ตลอดไป!
“ใครเป็นผู้หญิงของคุณ!” หลิวหยิงได้ปัดมือของซือถูมู่หรงออก เขามันกล้าคิดจริง ๆ เลย
“เธอไง!เธอลืมสิ่งที่พวกเราได้ทำร่วมกันไปในช่วงห้าปีนี้ไปแล้วเหรอ? เธอลืมไปแล้วว่าพวกเรานอนเตียงเดียวกัน ลืมสิ่งที่พวกเราเคยทำกันบนเตียงไปแล้วเหรอ! เธอเคยยิ้มออกมาเสียมีความสุข อ่อนโยนเสียขนาดนั้น…ฉันไม่มีวันลืมมันไปได้เลย!” ซือถูมู่หรงจงใจพูดออกไป และยังเข้าไปใกล้หลิวหยิงทีละนิด ๆ มีท่าทีที่ดูคลุมเครือออกมาไม่หยุดหย่อน
หลิวหยิงเหมือนกับได้รับความอัปยศเป็นอย่างมาก หน้าแดงก่ำไปหมด “ซือถูมู่หรง คุณอย่าเกินไปหน่อยเลย!”
“ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ลืมนะ! ก็ใช่ เธอจะลืมมันไปได้ยังไงกันล่ะ? ฉันเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ ความรักใคร่โปรดปรานที่พวกเราเคยมีให้แก่กัน ร่างกายของเธอจะต้องจำได้” ซือถูมู่หรงลูบแก้ม ซอกคอของหลิวหยิง ค่อย ๆ พูดอยู่ที่ตรงข้างใบหูของเธอทีละนิด ๆ
“คุณพอได้แล้ว!” หลิวหยิงถอยออกไป ชนเข้ากับขอบเตียง “ซือถูมู่หรงทำไมคุณถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้!”
“นี่มันจะเรียกว่าไร้ยางอายได้ยังไงกันน่ะ? ฉันเป็นผู้ชายของเธอ เธอเป็นผู้หญิงของฉัน พูดคำพูดอย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติหรือไง?” ซือถูมู่หรงไม่ได้สนใจว่าหลิวหยิงจะพูดอะไรเสียหน่อย ตอนนี้มองเธออยู่ ไม่อาจปฏิเสธได้เลย เขาต้องการเธอ อยากให้เธออยู่ข้างกายเขาไปตลอดชีวิต
“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ พวกเราเพียงแค่การตกลงที่จะอยู่ร่วมกันเท่านั้น ตอนนี้ได้แยกทางกันไปแล้ว!” หลิวหยิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ว่าไปแล้ว อย่างมากฉันก็แค่กิ๊กคนหนึ่ง และก็ยังเป็นกิ๊กที่ไม่กล้าให้คนอื่นได้รู้คนหนึ่ง! หรือว่าคุณซือถูมู่หรงแม้แต่กิ๊กคนนึงก็ยังไม่ปล่อยไปอีก?” หลิวหยิงเองก็ได้ทุ่มออกไปสุดตัวเช่นกัน กัดฟันพูดออกมา คำพูดอย่างนี้ ปกติแล้วเธอไม่พูดออกมาหรอก ตอนนี้เพื่อให้หลุดรอดออกไปจากซือถูมู่หรง จึงไม่สนอะไรทั้งนั้น
“กิ๊ก?” ซือถูมู่หรงหัวเราะออกมา เธอช่างกล้าพูดจริง ๆ เลย! แต่ทว่า พูดอย่างนี้มันก็ถูกเหมือนกัน ความรักทำให้โลกกลายเป็นสีชมพู ในสายตาของเขาซือถูมู่หรงนั้น เธอสวยที่สุดจริง ๆ ! สวยจน เขาไม่อยากจะให้คนอื่นได้เห็นเลยด้วยซ้ำ!
“ใช่แล้ว กิ๊กที่ไม่อาจบอกใครได้ นอกจากขึ้นเตียงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำอย่างอื่นแล้ว” หลิวหยิงพูดอย่างเย็นชาออกมา เวลาพวกเขาอยู่บนเตียงเหมือนกับว่าจะไม่น้อยเลย มันเหมือนกับว่าเป็นกิ๊กกันจริง ๆ เลย ไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
“เธอได้เตือนสติฉันแล้ว” ซือถูมู่หรงเดินเข้าไปยังหลิวหยิง เธอได้ถูกบีบเข้ากับขอบเตียงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถอยหลังออกไปโดยไม่รู้ตัวแล้วนั่งลงไปบนเตียงทันที ซือถูมู่หรงยังจงใจเดินเข้าไปอีก โน้มตัวลงไปเล็กน้อย หลิวหยิงเอนตัวไปข้างหลังอย่างทำอะไรไม่ถูกเพื่อหลบเลี่ยงการเข้าใกล้ของเขา แทบจะนอนเข้ากับเตียงอยู่แล้ว…