ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1620 ย้อนกลับ
หลิวหยิงได้แต่ทำเรื่องของตัวเองเงียบๆ ซือถูมู่หรงก็ได้แต่มองจากไกลๆ พยายามอย่างมากที่จะไม่ไปรบกวน……เวินลั่วฉิงรู้สึกว่า ซือถูมู่หรงต้องมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อหลิวหยิงอย่างแน่นอน
หลิวหยิงฝืนยิ้ม แล้วก็พูดกับเวินลั่วฉิงอย่างไร้อารมณ์ว่า “ซือถูมู่หรงบอกฉันว่า เขาไม่มีทางปล่อยฉันไป ฉันต้องอยู่กับเขาตลอดไป”
เวินลั่วฉิงไม่ได้รู้สึกประหลาดใจ คนอย่างซือถูมู่หรง จะอนุญาตให้หลิวหยิงจากไปได้ยังไงกันล่ะ? ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าเขารู้สึกผิดต่อหลิวหยิง ตอนนี้เขาก็ไม่มีทางตามหลิวหยิงอยู่เงียบๆ และไม่ค่อยถามเรื่องของเธอแบบนี้หรอก
“ถ้ายังงั้นเธอคิดยังไงกันล่ะ? ”เวินลั่วฉิงรู้สึกว่า เธอต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกในใจของหลิวหยิงก่อน ถึงจะพยายามทำความเข้าใจเรื่องราวได้ แล้วเธอก็ถามออกมาอย่างอ่อนโยน
หลิวหยิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าด้านนอกเป็นสีฟ้าสว่างมาก เมฆก็สวยงาม แต่ว่าตัวเธอเองกลับเหมือนนกที่ปีกหัก ไปไหนก็ไม่ได้ เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พูดออกมาอย่างช้าๆ ว่า “ฉันอยากจะไปจากเขา เรื่องในอดีต ฉันไม่สามารถยกโทษให้เขาได้หรอก แม้แต่คิดอยากจะแก้แค้นด้วยซ้ำ แต่ว่า เขากับฉันมันแตกต่างกันมากเกินไป ฉันยังมีแม่ของเขา ฉันไม่อยากจะให้แม่ต้องเจ็บปวดอีก เพราะฉะนั้น ฉันก็ไม่สามารถแก้แค้นเขาได้ แต่ขอแค่ได้ไปจากเขาก็ดีพอแล้ว”
เวินลั่วฉิงทอดถอนใจ ตอนนี้หลิวหยิงไม่ได้รู้สึกอะไรต่อซือถูมู่หรงเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นความรัก หรือว่าความเกลียดชัง มันก็ต่างเป็นความรู้สึกทั้งนั้น แต่ว่าตอนนี้ การไร้ความปรารถนาของหลิวหยิงต่างหากที่โหดร้าย เธอปฏิเสธซือถูมู่หรงโดยสมบูรณ์ แล้วก็ละทิ้งความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อซือถูมู่หรงในอดีต ไม่รู้ว่าซือถูมู่หรงจะคิดยังไง
“ซือถูมู่หรงไม่มีทางปล่อยไปแบบนั้นง่ายๆ หรอก เธอเคยคิดไหมว่ามีโอกาสจะได้กลับมาคบกันรึเปล่า? ”เวินลั่วฉิงถามเบาๆ
หลิวหยิงหัวเราะเยาะ “คบกันงั้นเหรอ? ระหว่างฉันกับเขา มันไม่มีอะไรดีๆ ให้พูดกันแล้ว ความตายของพ่อฉัน ฉันไม่มีทางให้อภัยเขาได้อยู่แล้ว ละยิ่งไปกว่านั้น การกลับไปอยู่กับเขาอีกครั้ง เป็นในฐานะคนรักรึเปล่า? ห้าปีของความอัปยศ มันยังไม่เพียงพออีกเหรอ? ”หลิวหยิงพูดแล้วก็รู้สึกโมโห พอนึกถึงเวินลั่วฉิงที่อยู่ด้านข้างของตัวเอง เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ก็พยายามกดความโกรธเอาไว้แล้วพูดว่า “แล้วอีกอย่าง ซือถูมู่หรงก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าฉันคบกับเขาตอนนี้ คงน่าอับอายขายหน้าน่าดูเลย แม่ของเขาก็ไม่มีทางเห็นด้วยหรอก และฉันก็ไม่เคยคิดที่จะคืนดีกับเขาด้วย”
เวินลั่วฉิงก้าวขึ้นไปด้านหน้าและกอดหลิวหยิงเอาไว้ สองสามปีมานี้เธอก็ไม่ได้อยู่ดีเลย พอพูดถึงความสัมพันธ์ของเธอกับซือถูมู่หรง หลิวหยิงก็รู้สึกว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์แบบคนรัก ที่มองไม่เห็นแสงสว่าง เกรงว่าจะแยกการจัดการของซือถูมู่หรงไม่ออก แล้วอีกอย่าง หลิวหยิงก็ไม่พอใจในตัวของซือถูมู่หรงเป็นอย่างมาก พอพูดถึงขึ้นมาก็โกรธในทันที ไม่มีทางที่จะพูดคุยสนทนากันอย่างปกติได้หรอก เวินลั่วฉิงก็เลยต้องยอมแพ้ที่จะคุยเรื่องของซือถูมู่หรง รอให้หลิวหยิงอารมณ์คงที่กว่านี้หน่อยค่อยคุย
“เมื่อกี้เธอบอกว่า วันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยเหรอ? ”เวินลั่วฉิงนึกถึงคำพูดของหลิวหยิง แล้วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเข้าหากัน เมื่อกี้ตัวเองละเลยไป ได้แต่นึกถึงเรื่องของซือถูมู่หรง เวินลั่วฉิงอดรู้สึกปวดใจไม่ได้ ตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวมาทั้งวันจะรู้สึกหิวแค่ไหนกัน!
ก่อนหน้านี้หลิวหยิงก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอเวินลั่วฉิงถามขึ้นมาแล้วเธอก็รู้สึกหิวขึ้นมาในทันที แม้แต่รู้สึกหมดแรงเลยด้วยซ้ำ ไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น เธอมองไปที่เวินลั่วฉิง แล้วก็พูดกับเธออย่างออดอ้อนว่า “ตอนนี้ฉันรู้สึกหิวมากเลย แต่ว่าที่นี่ไม่มีอะไรให้กินเลย”
เวินลั่วฉิงเหลือบมองเธอด้วยความโกรธ แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาสั่งอาหาร เพียงพริบตาเดียวเธอก็สั่งไปเยอะมาก หลิวหยิงไม่ได้กินอะไรทั้งวัน ไม่รู้ว่ากระเพาะจะเป็นยังไงบ้าง พอคิดได้แบบนี้แล้วก็สั่งโจ๊กมาอีก
หลิวหยิงมองดูการกระทำของเวินลั่วฉิง แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างซาบซึ้งใจ เธอโชคดีแค่ไหนกัน ถึงได้มีเพื่อนอย่างเวินลั่วฉิง คอยปกป้องเธออยู่เสมอไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับเธอเสมออีกด้วย เพื่อนสนิทแบบนี้ จะยอมให้เธอถูกทำร้ายแม้แต่นิดเดียวได้ยังไงกัน
หลิวหยิงอดคิดไม่ได้ ว่าถ้าเกิดเมื่อตอนปีนั้นเธอได้เจอกับเวินลั่วฉิงแบบในวันนี้ คงไม่ต้องจะไปขอร้องซือถูมู่หรงแล้วรึเปล่า? เธอกับซือถูมู่หรงก็จะไม่ต้องเผชิญกับความสัมพันธ์ที่โชคร้ายแบบนี้ แต่ว่า!บนโลกใบนี้ไม่มีคำว่าถ้าหรอกนะ เวลาเมื่อห้าปีก่อน เวินลั่วฉิงก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเหมือนกัน ตัวเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แล้วเธอจะไปให้ฉิงฉิงมาช่วยเธอได้ยังไงกันล่ะ? โชคดีที่ เวินลั่วฉิงก็ยังผ่านมาได้ และเดินมาจนถึงจุดนี้ในวันนี้
“เดี๋ยวอีกแป๊บหนึ่งอาหารก็มาส่งแล้ว”เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องที่หลิวหยิงอาศัยอยู่ที่โรงแรมในตอนนี้ ก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยสะดวกสบายเลย เลยออกปากเตือนว่า “เธอจะอยู่ที่โรงแรมตลอดไม่ได้นะ ไม่ยังงั้นก็ย้ายมาอยู่กับฉันก็ได้”
“ไม่เป็นไรหรอก แล้วยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดว่าฉันย้ายไปอยู่กับเธอ คิดว่าเย่ซือเฉินต้องหึงทุกวันแน่เลย!ฉันไม่อยากจะถูกเกลียดโดยไม่มีสาเหตุหรอกนะ”หลิวหยิงหยอกล้อ เย่ซือเฉินเป็นราชาแห่งการหึงหวง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือว่าผู้หญิง ถ้าเกิดว่าเข้าใกล้เวินลั่วฉิงเมื่อไหร่ก็จะถูกหึงในทันที เธอไม่อยากจะไปเจอเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกนะ
“……”เวินลั่วฉิงพูดอะไรไม่ออก ทำไมมันถึงได้ฟังดูไม่รื่นหูจังเลย? แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถโต้แย้งได้ เวินลั่วฉิงนึกถึงนิสัยของเย่ซือเฉิน ก็ค่อนข้างจะสร้างความยุ่งยากจริงๆ “ไม่อย่างนั้น เธอก็มาอยู่ที่คอนโดฉันก็ได้ ก่อนหน้านี้ฉันซื้อคอนโดไว้ห้องหนึ่ง อยู่ใจกลางเมืองเลย ไปที่ไหนก็สะดวกสบาย เธอเองก็รู้นี่ ตอนนี้ฉันกับเย่ซือเฉินอยู่ด้วยกัน จะออกไปอยู่ที่นั่นก็ไม่ได้ เธอก็มาช่วยฉันแบ่งเบาหน่อย ถ้าเกิดว่าฉันจะออกไปข้างนอกจะได้ไปหาเธอได้” เวินลั่วฉิงเสนอ คอนโดห้องนั้นถูกซื้อไว้นานแล้ว ด้านในก็ตกแต่งเรียบร้อย หลิวหยิงสามารถถือกระเป๋าเข้าไปอยู่ได้เลย
หลิวหยิงรู้ว่าเวินลั่วฉิงหวังดีกับตัวเอง และก็พูดเพราะว่าหวังดีกับตัวเธอเองเหมือนกัน เธอเหลือบมองเวินลั่วฉิงด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ และเวินลั่วฉิงก็หยิกแก้มของเธอเบาๆ “ยัยบื้อ พวกเราเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งหลายปี มีอะไรให้ต้องถือสากันอีกรึไง? ”
“ฉิงฉิง ขอบคุณนะ โชคดีที่มีเธออยู่!”หลิวหยิงพูดอย่างจริงใจ เวินลั่วฉิงก็ขยับเข้าไปอยู่ข้างๆ เธอ “ฉันเองก็เหมือนกัน ขอบคุณมากที่เธออยู่ข้างฉันตลอด!”
ทั้งสองคนยังไม่ทันจะมีเวลาได้ซาบซึ้งใจต่อกันและกัน จู่ๆ ท้องของหลิวหยิงก็ร้องขึ้นมา เธอมองไปที่เวินลั่วฉิงอย่างเก้อเขิน เวินลั่วฉิงหลุดหัวเราะออกมา แล้วก็เปิดโทรศัพท์ดู “เดี๋ยวฉันลองช่วยเจ้าหมูน้อยที่หิวโหยมาทั้งวันดูหน่อยซิ ว่าอาการมาถึงไหนแล้ว!”
หลิวหยิงจงใจทำเสียงสบถออกมา “เธอต่างหากที่เป็นเจ้าหมูน้อย!”
เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เธอเปิดโทรศัพท์ออกยังไม่ทันจะเห็นสถานะของอาหารที่มาส่ง แต่ก็ถูกดึงดูดด้วยลำดับการค้นหาที่ร้อนแรงบนอินเทอร์เน็ตซะก่อน——นั่นมันเกี่ยวข้องกับไป๋ยี่รุ่ย สีหน้าของเธอก็อดไม่ได้ที่จะจริงจังขึ้นมาในทันที
หลิวหยิงสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเวินลั่วฉิงได้อย่างรวดเร็ว ก็เลยถามออกมา “เกิดอะไรขึ้นเหรอ? เธอมีธุระให้ต้องไปจัดการรึเปล่า? ”
เวินลั่วฉิงมองไปที่หลิวหยิง แล้วก็ยื่นโทรศัพท์ให้กับเธอ “เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย ขึ้นลำดับการค้นหายอดฮิตอีกแล้ว”
หลิวหยิงก็เคร่งขรึมขึ้นมาในทันทีเหมือนกัน เธอเปิดดูลำดับการค้นหายอดฮิต นี่เป็นสิ่งที่ตำรวจอธิบายเหตุการณ์ของไป๋ยี่รุ่ย ในนั้นมีรายละเอียดบอกว่าทำไมประธานของบริษัทฉิงรุ่ยกรุ๊ป ไป๋ยี่รุ่ยถึงได้ฆ่าคน เหตุการณ์ที่ผ่านมาต่างๆ แถวเขายังเข้ามอบตัวเองอีกด้วย แถมตำรวจยังแนบรูปถ่ายมากมาย เช่น การตรวจสารเสพติดในอาหาร ร่องรอยบนเตียง แม้กระทั่งหนังสือที่ขอยื่นตรวจสอบความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างไป๋หยิงกับไป๋ยี่รุ่ย จะเห็นได้ว่าครั้งนี้ การเตรียมตัวจัดเต็มมาก พื้นฐานแล้วสามารถทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อถือได้ ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้โกหก ระหว่างไป๋ยี่รุ่ยกับไป๋ยี่รุ่ย ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดต่อกัน ถ้ายังงั้น เรื่องนี้ก็จะลึกซึ้งมากขึ้น ด้านล่างก็มีความโกลาหลเกิดขึ้นแล้ว
ก่อนที่จะมีคำอธิบายนี้ออกมา ในอินเทอร์เน็ตต่างมีการด่าไป๋ยี่รุ่ยเต็มไปหมด แต่พอมีคำอธิบายนี้ออกมา หลายคนก็รู้สึกว่ามันสามารถให้อภัยได้ คนที่คิดว่าเป็นพี่สาวแท้ๆ มาโดยตลอด กลับมาวางยาตัวเอง แล้วก็บังคับให้ตัวเองมีอะไรกับเธอด้วย แค่จุดนี้ ตื่นมาก็รับไม่ได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากนั้นยังเติมน้ำมันเข้ากองไฟอีก คนปกติทั่วไปคงไม่มีใครรับอะไรแบบนี้ได้หรอกนะ? เรื่องนี้มันมีอะไรที่ค่อนข้างจะลึกซึ้ง การที่ไป๋ยี่รุ่ยกับไป๋หยิงมีอะไรกัน เขาเป็นคนเริ่มก่อน เหมือนพอเมาแล้วก็เริ่มทำอะไรเกินเลย ทุกคนก็คงจะไม่ลังเลใจหรอก แม้แต่คิดว่าไป๋ยี่รุ่ยทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยซ้ำ ไม่มีความรับผิดชอบหรือปัดความรับผิดชอบ แต่ว่าครั้งนี้ เขาถูกวางยา และในสถานการณ์ที่ได้รับยาไปเกินขนาดนั้น ทั้งสองคนก็มีอะไรกัน ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าไป๋หยิงนั้นช่างต่ำทรามเหลือเกิน ไร้ยางอาย ไป๋ยี่รุ่ยคือเหยื่อที่แท้จริง คนที่เป็นพี่สาวของเขามา10-20กว่าปี กลับมาวางยาตัวเอง มุมมองของทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้พังทลายไปแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้ ไป๋ยี่รุ่ยน่าสงสารมาก แม้กระทั่งคิดว่าเขาน่าสังเวชเลยด้วยซ้ำ ตัวเองถูก ‘ข่มขืน’และพ่อของตัวเองก็ถูกสวมเขามา20กว่าปี เป็นสิ่งที่คนเรารับไม่ไหวหรอก!บางคนถึงกับบอกว่าไป๋ยี่รุ่ยก่อเหตุฆาตกรรมด้วยความใจร้อน ไป๋หยิงต่างหากที่เป็นผู้ร้าย ส่วนใหญ่จะเป็นความเห็นที่เห็นอกเห็นใจ
แน่นอนว่า ด้านล่างยังมีความเห็นแบบอื่นอยู่อีก บอกว่าเรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยมันเป็นเรื่องจริง จะไม่ลงโทษเขาเพราะว่าเขาเป็นเหยื่อไม่ได้
แล้วก็มีความเห็นอื่น ที่บอกว่าไป๋ยี่รุ่ยจงใจฆ่าเธออยู่แล้ว เกรงว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างนั้น ทุกคนถูกโกหกแล้ว แต่ว่าภายใต้คอมเมนท์นั้นก็มีการทะเลาะกันเกิดขึ้น เขาถามว่าจะรับได้ไหมว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับเขา เขาจะถูก “ข่มขืน” แล้วยังไม่ทำอะไร หรือจะยังทำต่อไป?