ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1621 เขาสารภาพแล้ว
หลิวหยิงอ่านข้อความบนอินเทอร์เน็ต หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน เรื่องในตอนนี้ มันเกิดเลยสิ่งที่เธอคาดคิดไว้ตั้งแต่แรกไปแล้ว เธอนึกไม่ถึงเลยจริงๆ ตอนแรกเธอนึกว่า เรื่องนี้จะสามารถจัดการได้เงียบๆ คนอื่นๆ จะไม่รู้เรื่อง แต่ว่าตอนนี้ เหมือนกับว่าทุกคนจะรู้เรื่องนี้แล้ว วันนี้ เธอนึกว่า เวินลั่วฉิงจะแค่ไปหาไป๋ยี่รุ่ย แล้วก็เกลี้ยกล่อมให้เขาพูดความจริงออกมาเพื่อต่อสู้ลดโทษ แต่ไม่คิดเลยว่า ตอนนี้เรื่องนี้จะลามปามไปบนอินเทอร์เน็ตได้ เรื่องที่เกิดขึ้นฉับพลันแบบนี้ ทำให้หลิวหยิงตะลึงไปก่อน สถานการณ์ในตอนนี้ หลิวหยิงเชื่อว่าไป๋ยี่รุ่ยเป็นคนทำเอง ไม่ยังงั้น ไม่มีทางที่เวินลั่วฉิงจะพึ่งไปหาไป๋ยี่รุ่ย แล้วตอนนี้ทางด้านฝั่งตำรวจก็ได้ออกมาอธิบายสถานการณ์แล้ว มันเร็วเกินไปหน่อย เห็นได้ชัดว่ามีคนคอยดันอยู่ด้านหลัง แต่ว่าหลิวหยิงก็ไม่คิดว่าเวินลั่วฉิงทำอะไรผิด ตอนนี้ เรื่องราวมันไม่ใช่ว่าสามารถปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติได้ ต้องมีคนคอยชักนำ ทำให้เรื่องของไป๋ยี่รุ่ยเป็นที่ยอมรับหน่อย
แต่สิ่งที่หลิวหยิงนึกไม่ถึงก็คือ ไป๋ยี่รุ่ยจะยอมให้ปล่อยเรื่องนี้ลงอินเทอร์เน็ตได้ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยอยากให้คนอื่นรับรู้เรื่องนี้ เอาแต่ปิดบังเวินลั่วฉิงไว้ตลอด ความรู้สึกนั้น หลิวหยิงเข้าใจเป็นอย่างดี ถ้าเกิดว่าเป็นตัวเธอเอง ที่เกิดเรื่องที่สุดจะเหลือทนแบบนั้นขึ้น คนที่เธอไม่อยากให้รู้มากที่สุด ก็คือญาติพี่น้องและคนที่ตัวเองรัก เมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบ เธออยากจะรักษาความสมบูรณ์แบบของตัวเองเอาไว้ แต่ว่าหลิวหยิงก็เข้าใจ ว่าไม่ใช่ว่าไป๋ยี่รุ่ยไม่อยากให้คนอื่นรู้ ไป๋ยี่รุ่ยไม่สนใจเลยว่าคนอื่นจะมองยังไง สิ่งเดียวที่เขาแคร์ก็คือเวินลั่วฉิงเพียงคนเดียวเท่านั้น หลิวหยิงรู้สึกซาบซึ้งใจ ความรู้สึกที่ไป๋ยี่รุ่ยมีต่อเวินลั่วฉิง หลิวหยิงรู้ดีมาโดยตลอด แต่ว่าเธอแค่ยังไม่เคยสัมผัสอย่างลึกซึ้งเท่าไหร่นัก ขนาดเธอเป็นคนนอกยังรู้สึกประทับใจเลย แต่น่าเสียดาย ที่เวินลั่วฉิงมีคนที่ตัวเองชอบอยู่แล้ว และความสัมพันธ์ของเวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินก็ไม่ได้ตื้นเขินไปกว่าความรู้สึกที่ไป๋ยี่รุ่ยมีให้เวินลั่วฉิงเลยด้วย ดังนั้น ความรู้สึกของไป๋ยี่รุ่ย มันคงไม่ได้รับการตอบรับหรอก ในขณะที่ถอนหายใจ หลิวหยิงก็รู้สึกอิจฉาเหมือนกัน เมื่อไหร่กัน ที่เธอจะได้รับความรักเช่นนี้บ้าง? จะมีใครมาชอบเธอเหมือนกับที่เย่ซือเฉินหรือไป๋ยี่รุ่ยชอบเวินลั่วฉิงบ้างรึเปล่า? ถ้าเกิดว่ามี เธอจะตอบแทนเขาด้วยความรักแบบเดียวกันอย่างแน่นอน!
“อย่างที่คิดจริงๆ มีแค่ฉิงฉิงเท่านั้นที่สามารถเกลี้ยกล่อมไป๋ยี่รุ่ยได้”หลิวหยิงอ่านความคิดเห็นด้านล่าง ก็สบายใจขึ้นเยอะเลย เธอยื่นโทรศัพท์คืนให้เวินลั่วฉิง แล้วก็พูดอย่างเรียบง่าย ฉิงฉิงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ไป๋ยี่รุ่ยคือคนที่เธอเคยชอบ ตอนนั้นเธอไม่ได้เข้าไปสอดแทรกความสัมพันธ์ระหว่างไป๋ยี่รุ่ยกับเวินลั่วฉิง ตอนนี้เธอก็จะไม่ไปริษยาเวินลั่วฉิงหรอก อย่างมากก็แค่อิจฉาเท่านัน้เอง อิจฉาความสมบูรณ์และการได้ทำอะไรตามใจของเวินลั่วฉิง แต่หลิวหยิงก็รู้ดีว่า เรื่องพวกนี้เวินลั่วฉิงต่อสู้เพื่อให้ได้มันมาด้วยตัวของเธอเอง ดังนั้นเธอก็จะไม่ดูถูก และก็ไม่คิดจะแย่งมาด้วย
““เพราะเขายังมีสิ่งที่เขาแคร์ ตราบใดที่ความปรารถนาที่จะปกป้องถูกปลุกเร้า เขาจะมีเรี่ยวแรงที่จะมีชีวิตอยู่”เวินลั่วฉิงยิ้มและพูด เธอมองออกว่า ตอนนี้หลิวหยิงไม่ได้มีความรู้สึกรักต่อไป๋ยี่รุ่ยอีกแล้ว ตอนที่พูดถึงไป๋ยี่รุ่ยก็ดูธรรมดาๆ แววตาก็ดูเรียบเฉย แค่เป็นห่วง แต่ไม่ได้รักใคร่ เวินลั่วฉิงชื่นชอบสีหน้าแบบนี้ หลิวหยิงที่เป็นแบบนี้ ยิ่งนับวันยิ่งเป็นอิสระ มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ข้าราชบริพารของใครอีกต่อไป และเธอจะดีขึ้นเรื่อยๆ
“เธอก็เหมือนกันนะ ถ้าเธอนึกถึงคนที่เธอต้องการปกป้อง และสิ่งที่เธออยากทำ เธอก็สามารถทำต่อไปได้ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนเธอก็จะเดินหน้าต่อไปได้”เวินลั่วฉิงพูดให้กำลังใจ ตอนนั้น เธอเองก็มีช่วงที่ท้อแท้ ใจสั่น คิดท้อถอยเหมือนกัน แต่เธอมีคนที่เธอห่วงใย โดยเฉพาะจื่อซีกับจื่อโม่ นั่นคือสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมแพ้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจึงพากเพียร และมาถึงจุดนี้ ตอนนี้ เธอรู้สึกขอบคุณมากสำหรับความพากเพียรของเธอในตอนแรก มิฉะนั้น เธอจะมีความสุขแบบในตอนนี้ได้ยังไงกัน?
“ฉันรู้! ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้”หลิวหยิงตอบอย่างแน่วแน่ ถึงแม้จะเป็นซือถูมู่หรงแล้วจะยังไงกันล่ะ เขามีอำนาจมากพอที่จะบดขยี้เธอ แต่ว่าตัวเธอเองก็สามารถยืนหยัดในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำต่อไปได้นี่ ถึงแม้ว่าสุดท้าย เธอจะไม่สามารถปกป้องร่างกายของตัวเองไว้ได้ แต่ว่าเธอก็ยังสามารถปกป้องหัวใจของตัวเองได้ อะไรจะน่าถากถางไปมากกว่าคนที่นอนเตียงเดียวกันแต่มีความฝันต่างกันล่ะ?
หลิวหยิงได้วางแผนสิ่งที่แย่ที่สุดไว้แล้ว ถ้าเกิดว่าสุดท้าย ซือถูมู่หรงเอาแม่ของเธอมาบีบบังคับเธอ ถ้ายังงั้น เธอก็จะละทิ้งความมุ่งมั่นของตัวเอง แล้วก็อยู่ข้างกายซือถูมู่หรงต่อไป แต่ว่าเธอจะไม่เหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว ที่อ่อนโยนและมีน้ำใจ เชื่อฟังและมีเหตุผล เธอจะไม่คล้อยตามซือถูมู่หรงอีกต่อไปแล้ว เขาไม่ปล่อยให้เธอได้มีชีวิตที่ดี ถ้ายังงั้น ซือถูมู่หรงก็อย่าคิดจะมีด้วยเหมือนกันเลย ทรมานกันและกันไปแบบนี้แหละ ดูว่าใครจะยอมแพ้ก่อนกัน
“ถ้ายังงั้นก็ดี!”เวินลั่วฉิงมองหลิวหยิงที่กำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง เหมือนกับว่าเห็นตัวเองในตอนนั้น เธอรู้ว่า หลิวหยิงมองภายนอกจะดูอ่อนแอ แต่ว่าในใจเธอเข้มแข็งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะจุดอ่อนของเธอถูกบีบ เธอคงยอมตายดีกว่ายอมแพ้ หลิวหยิงเป็นคนใจอ่อน และเมื่อแตะโดนจุดอ่อนของเธอเมื่อไหร่ เธอจะยอมอ่อนข้อให้ในทันที จุดนี้เธอไม่เหมือนกับตัวเอง แต่ว่าเรื่องอื่นๆ ก็ค่อนข้างจะคล้ายกัน
“เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย ถ้าไม่เกิดข้อผิดพลาด ไม่นานก็ตัดสินได้แล้วล่ะ ตอนนี้ความเห็นบนอินเทอร์เน็ตต่างก็เอนเอียงไปที่ไป๋ยี่รุ่ยแล้ว เมื่อไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการกระตุ้นความโกรธของประชาชน การตัดสินจะค่อนข้างราบรื่น”เวินลั่วฉิงพูดง่ายๆ เหมือนเป็นการเอายาคลายเครียดให้หลิวหยิง
หลิวหยิงพยักหน้า พอมีคำพูดของเวินลั่วฉิง เธอถึงได้สบายใจขึ้นจริงๆ ความจริงตั้งแต่เล็กจนโต เธอเชื่อฉิงฉิงอยากแปลกประหลาดมาโดยตลอด ถ้าเกิดว่าฉิงฉิงพูดอะไรออกมา เธอก็จะตามไปโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่โชคดีก็คือ ความรู้สึกระหว่างเธอกับเวินลั่วฉิง มันยังคงยืนหยัดมาจนถึงทุกวันนี้
“ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราก็เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ เรื่องนี้ถึงแม้ว่าเจิ้งฉงไม่อยากจะให้ไป๋หยิงมีความสุจ อยากจะให้เธอตายไปก็ตาไม่หลับ ก่อนหน้านี้หัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ได้รับปากว่าจะจัดการเจิ้งฉง ตอนนี้เขายังเอาตัวเองไม่รอดเลย แล้วจะมีเวลามาถามว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหนกันล่ะ? ”เวินลั่วฉิงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วก็ปวดหัว ก่อนหน้านี้หัวหน้าน้อยนัดให้เธอไปเจอกัน แต่เย่ซือเฉินได้ยินเข้า ถึงแม้ว่าจะมาแก้ไขได้ทีหลังเพราะคำสารภาพรักจากเธอ แต่ว่า……ไม่ว่ายังไงก็มีอันตรายแฝงอยู่ดี เพราะว่าหัวหน้าน้อยช่วยเธอเรื่องนี้ เธอก็ควรจะไปเจอหน้าเขาหน่อย แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่โทรไป เย่ซือเฉินก็อยู่ข้างๆ หัวหน้าน้อยแถมยังพูดในสิ่งที่ทำให้เข้าใจผิดอีก ช่างน่าโมโหจริงๆ !เพราะว่าเหตุผลนี้ เดาว่าเย่ซือเฉินไม่มีทางปล่อยให้เธอไปเจอหัวหน้าน้อยได้อย่างง่ายดายหรอก
เวินลั่วฉิงนวดขมับ สิ่งที่เธอพยายามปลูกฝังความไว้วางใจของเย่ซือเฉิน กลัวจริงๆ ว่ามันจะมาล้มเหลวเพราะว่าหัวหน้าน้อย คนคนนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว แถมยังมีลูกแล้วอีกต่างหาก ยังจงใจพูดคำพูดที่คลุมเครือแบบนั้นอีก แล้วทีนี้เป็นไง ขนาดจะเจอหน้ากันยังยากเลย!เวินลั่วฉิงกำลังคิดว่าจะไปพูดกับเย่ซือเฉินยังไงดี? ถ้าเกิดว่าเจิ้งฉงถูกจัดการจริงๆล่ะก็ หัวหน้าน้อยมาแย่งความดีความชอบไป แล้วเธอควรจะไป? หรือว่าจะไม่ไปดี? สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือจะไปยังไงเนี่ยสิ!ต้องทำยังไงถึงจะไม่ให้เย่ซือเฉินสงสัยและยินยอมแต่โดยดี? คงจะพาเย่ซือเฉินไปด้วยไม่ได้หรอกนะ……
เวินลั่วฉิงไม่เคยรู้สึกสับสนขนาดนี้มาก่อนเลย ในอดีตเธอสามารถตัดสินใจอะไรได้อย่างรวดเร็ว มีเพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้นที่มันช่างพิเศษ ตัดบัวยังเหลือใย ความรู้สึกยังไม่หายไป มันไม่สามารถใช้ความคิดแบบธรรมดาได้ ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ยิ่งเกลียดมากเท่านั้น จากความรู้สึกที่เย่ซือเฉินมีให้กับเธอ ถ้าเกิดว่าเธอกล้าคิดถึงเรื่องผู้ชายคนอื่นแม้แต่นิดเดียว เกรงว่า……ฟ้าคงจะถล่มลงมาเลย!แน่นอน หมายความว่าสำหรับเธอแล้ว เธอไม่ต้องการปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนมันเจ็บปวดอีกต่อไป
เวินลั่วฉิงถอนหายใจออกมา นี่มันช่างน่ากลัดกลุ้มจริงๆ เลย หลิวหยิงมองไปที่เวินลั่วฉิงอย่างไม่เข้าใจ “เธอเป็นอะไรไป? ทำไมถึงได้ดูกังวลขนาดนี้? ”หลิวหยิงรู้สึกว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้เป็นกังวลเพราะไป๋ยี่รุ่ย เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้คุยกันไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้ายังงั้น นอกจากไป๋ยี่รุ่ย เธอยังมีเรื่องอื่นให้ต้องกังวลอีกงั้นเหรอ?
เวินลั่วฉิงเล่าเรื่องที่หัวหน้าน้อยโทรมาหาเธอก่อนหน้านี้ให้หลิวหยิงฟัง แล้วก็เล่าว่าตอนนั้นเย่ซือเฉินก็อยู่ด้วย และเขาก็โกรธมาก ยังดีที่เธอสามารถง้อกลับมาได้ แต่ถ้าเกิดว่าสามารถแก้ไขเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยได้แล้ เธอต้องไปหาหัวหน้าน้อยด้วยตัวเอง ช่างน่าลำบากใจจริงๆ
หลิวหยิงตกใจจนเกือบคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไปด้วยซ้ำ——หัวหน้าน้อยสนิทสนมกับฉิงฉิงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ไม่ใช่สิ……จะโทรไปตอนนี้มันก็จะช้าไปแล้วรึเปล่า? เดี๋ยวนะ!ฉิงฉิงสารภาพรักกับเย่ซือเฉินไปแล้ว!ตอนที่เวินลั่วฉิงกำลังอธิบายเรื่องราวนั้น หลิวหยิงได้ยินทีหนึ่งก็ตะลึงไปทีหนึ่ง ต้องยอมรับว่า หลิวหยิงเป็นคนที่จับจุดสำคัญได้ค่อนข้างแม่นยำ เรื่องหนึ่งสำคัญกว่าอีกเรื่อง และอีกเรื่องก็ส่งผลกระทบมากกว่า แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เวินลั่วฉิงสารภาพรักกับเย่ซือเฉินไปแล้ว! เรื่องนี้มันทำให้หลิวหยิงทั้งประหลาดใจและดีใจ! เธอจำไม่ได้แล้วว่าเวินลั่วฉิงกำลังเป็นกังวลอยู่ แล้วก็ถามในทันทีว่า “เธอสารภาพรักกับเย่ซือเฉินแล้ว แล้วเขามีท่าทียังไงบ้าง? วันนั้นเธอตื่นไหวไหม? ”