ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1623 จะเป็นใครกัน
ถ้าไม่ใช่เจิ้งฉง งั้นคนที่สามารถเป็นไปได้ก็คือ……
เดิมทีหลิวหยิงสงสัยซือถูมู่หรง แต่ว่าเมื่อวานเธอก็ถามซือถูมู่หรงแล้ว แล้วก็รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำ ถ้ายังงั้น ต้องมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน หรือว่า จะเป็นแม่ของซือถูมู่หรงงั้นเหรอ? แม่ของเขาเกลียดเธอมาโดยตลอด และเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เธอก็พึ่งจะไปเจอไป๋ยี่รุ่ยมา ซือถูมู่หรงส่งคนให้ตามเธอไป งั้นแม่ของซือถูมู่หรงก็สามารถทำได้เหมือนกัน หรือว่า แม่ของซือถูมู่หรงอยากจะดึงเธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้เธอต้องทนไม่ไหว แล้วก็ไปจากซือถูมู่หรงเอง หลิวหยิงนึกถึงเรื่องที่ซือถูมู่หรงกับแม่ของเขาทำ หัวใจก็เย็นวาบขึ้นมาในทันที เธอคิดแล้วก็พูดกับเวินลั่วฉิงว่า “เรื่องนี้ เป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นฝีมือแม่ของซือถูมู่หรง? ”
“หา? ”เวินลั่วฉิงไม่เคยนึกถึงคนนี้เลย ไม่ว่าจะยังไง ซือถูมู่หรงก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องทำเรื่องแบบนี้เลย ถ้าเกิดว่าเขาเป็นคนทำ ก็มีแต่จะทำให้หลิวหยิงเกลียดเขาเท่านั้น และยิ่งเป็นการผลักหลิวหยิงให้ออกไปไกลขึ้นเรื่อย ได้ไม่คุ้มเสีย ซือถูมู่หรงต้องเข้าใจสถานการณ์นี้ดีอยู่แล้ว ในเรื่องของไป๋ยี่รุ่ย เกรงว่าถ้าไม่แตะต้องได้ก็จะไม่แตะต้อง สามารถอยู่ให้ห่างได้แค่ไหนก็ห่างไปเท่านั้น กลัวว่าถ้าเกี่ยวข้องอะไรขึ้นมา หลิวหยิงจะมาคิดบัญชีกับเขา และถึงตอนนั้นมันคงจะทุกข์ใจจนพูดไม่ออก
เวินลั่วฉิงพยายามคิดอย่างตั้งใจ ถ้าเกิดว่าเป็นซือถูมู่หรงในตอนปีแรกนั้น เป็นไปได้ว่าเขาจะทำแบบนั้น แต่ว่าที่ทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะว่าต้องการจะโจมตีไป๋ยี่รุ่ย แต่ว่าทำเพราะหลิวหยิงต่างหาก เขาอยากจะให้หลิวหยิงเห็นว่า คนที่ตัวเองเคยชอบนั้นเหลือทนแค่ไหน แต่ว่าตอนนี้ ซือถูมู่หรงไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก เขาสามารถทนได้กับการที่ไป๋ยี่รุ่ยกับหลิวหยิงอยู่ด้วยกันในห้องโรงแรมสามชั่วโมงได้ เรื่องนี้ก็เบาไปเยอะเลย แล้วอีกอย่าง เขาก็ยังคงมีความรู้สึกผิดต่อหลิวหยิง เขาไม่มีทางผลักหลิวหยิงออกไปอย่างแน่นอน ไม่แน่ว่า เขาอาจจะใช้โอกาสนี้ในการอยู่กับหลิวหยิงต่อ ต้องยอมรับว่า เวินลั่วฉิงตัดสินเรื่องนี้ค่อนข้างแม่นยำ ถ้าเกิดว่าหลิวหยิงรู้การคาดเดาของเวินลั่วฉิงในตอนนี้ คงจะสงสัยว่าเมื่อคืนเธออยู่ในห้องนี้ด้วยรึเปล่า
แต่ว่า แม่ของซือถูมู่หรงงั้นเหรอ? เวินลั่วฉิงขมวดคิ้ว เธอไม่เคยสัมผัสกับแม่ของเขามาก่อน เลยไม่รู้ว่านิสัยเป็นยังไง แต่ว่า เหตุผลของหลิวหยิงก็ค่อนข้างจะลงรอย แม่ของซือถูมู่หรง น่าจะมีเป้าหมายอยากให้หลิวหยิงไปจากซือถูมู่หรง ก็ไม่ได้คิดถึงคนอื่นมากมาย แล้วอีกอย่างเธอกับไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน คงจะไม่หาเรื่องอย่างไม่มีเหตุผลหรอก ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะเป็นเธอนั้นมันค่อนข้างน้อย ดังนั้นเวินลั่วฉิงก็เลยส่ายหน้า “ฉันคิดว่าไม่น่าใช่นะ เรื่องนี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ไป๋หยิง แต่ว่าเป็นไป๋ยี่รุ่ย ถ้ายังงั้นแสดงว่าต้องการทำลายไป๋ยี่รุ่ย เธอลองคิดดูสิ ความสัมพันธ์ของเธอกับไป๋ยี่รุ่ย แม่ของซือถูมู่หรงไม่มีทางรู้อย่างชัดเจนขนาดนั้นหรอก ถ้าเกิดว่าเธออยากจะให้เธอไปจากซือถูมู่หรง จุดประสงค์ของเธอก็บรรลุแล้วตอนที่เธอเล่าเรื่องของพ่อให้เธอฟัง แสดงว่าเรื่องนี้ มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับเธอเลย แล้วทำไมถึงต้องมามีส่วนร่วมด้วยล่ะ?
หลิวหยิงคิดว่ามันสมเหตุสมผล แต่ว่าเรื่องนี้ เหมือนกับว่าไป๋ยี่รุ่ยจะบอกเธอแค่คนเดียว แล้วจะมีใครรู้ได้อีกล่ะ? แล้วยิ่งไปกว่านั้น ใครจะมีความสามารถมากพอที่จะไปตามหาเรื่องนี้ได้? หลิวหยิงรู้สึกสงสัย
“ความจริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องมองหาคนที่อยู่รอบตัวซือถูมู่หรงหรอก ตอนนี้เธอมองเขาเป็นศัตรูมากเกินไป มันจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินของเธอนะ หนีออกมาจากความคิดนั้นได้แล้ว อาจจะตีโจทย์แตกก็ได้นะ”เวินลั่วฉิงพูด ที่จะนึกถึงคนคนหนึ่งได้ตลอด แปลว่ายังไม่ลืมหรือปล่อยมือ หลิวหยิงน่าจะยังคงมีความรู้สึกต่อซือถูมู่หรงอยู่ แต่ว่าเธอไม่ทันสังเกตเห็นเท่านั้นเอง เวินลั่วฉิงคิดว่าเวลาห้าปีที่ผ่านมา หลิวหยิงอยู่ข้างกายซือถูมู่หรงมาโดยตลอด ถ้าจะบอกว่าไม่มีความรู้สึกอะไรเลยมันก็เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ว่าหลิวหยิงรักษาความสงบมานานหลายปีขนาดนั้น ความจริงแล้ว……ก็นึกไม่ถึงเลย
หลิวหยิงรู้สึกว่าเวินลั่วฉิงพูดจามีเหตุผลมาก เธอรู้สึกไม่พอใจต่อซือถูมู่หรง แต่ว่าในเรื่องแบบนี้ เธอไม่ได้มีความจำเป็นต้องไปจับจ้องซือถูมู่หรง ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เขาจริงๆ ถ้ายังงั้นเรื่องของไป๋ยี่รุ่ยจะเป็นฝีมือใครกันแน่ล่ะ? คู่แข่งทางธุรกิจของไป๋ยี่รุ่ยยังงั้นเหรอ? คนพวกนี้ฉิงฉิงต้องนึกได้อยู่แล้ว แล้วก็ส่งคนไปตรวจสอบใช่ไหม? คนที่อยู่รอบข้างไป๋ยี่รุ่ยงั้นเหรอ? ตอนนี้ถ้าคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไป๋ยี่รุ่ย ก็เหมือนจะมีแค่เวินลั่วฉิงกับตัวเธอเอง สำหรับตัวฉันเองนั้นไม่ได้จำเป็นเลย ปฏิสัมพันธ์น้อยเกินไป แล้วใครจะอยากจะมาจัดการอะไรกับเธอล่ะ? นอกจากซือถูมู่หรงที่ไม่ยอมปล่อยเธอไปแล้วนั้น ก็ไม่มีคนอื่นอีกแล้ว ถ้ายังงั้น ทางด้านฝั่งของฉิงฉิงล่ะ? ถ้าเกิดว่าเพื่อให้ฉิงฉิง หรือว่าต้องการจะให้ส่งผลกระทบต่อฉิงฉิง……ทันใดนั้นหลิวหยิงก็รู้สึกว่า ตัวเองได้นึกถึงสิ่งที่เวินลั่วฉิงนึกไม่ถึง แต่ก็พยายามอดทนไว้ และไตร่ตรองอย่างจริงจัง
ถ้าเกิดว่าเพื่อเวินลั่วฉิงจริงๆ แสดงว่าต้องเป็นคนที่อยู่ข้างกายเธอ เรื่องนี้มันเป็นการทำร้ายเวินลั่วฉิง ถ้ายังงั้น คนที่ไม่อยากให้เวินลั่วฉิงมีชีวิตที่ดี จะเป็นใครไปได้ล่ะ? หลิวหยิงคิดอย่างรวดเร็ว แล้วก็ตัดออกในทันที
เย่ซือเฉินไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่ เขาไม่มีทางทำร้ายฉิงฉิงได้อย่างแน่นอน และยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดว่าเกิดเรื่องขึ้นกับไป๋ยี่รุ่ย ฉิงฉิงก็ต้องช่วยแน่นอนอยู่แล้ว เย่ซือเฉินไม่มีทางให้เรื่องนี้มันวุ่ยวายอย่างแน่นอน แล้วยิ่งไปกว่านั้น มันแทบจะปิดบังไม่ได้เลย ถ้ายังงั้น จะเป็นใครได้อีกล่ะ? ตระกูลถังงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก พวกเขาโอ๋ฉิงฉิงจะตาย ไป๋หยิงก็ตายไปแล้ว เจิ้งฉงล่ะ?แต่ว่าตอนนี้เขายังเอาตัวเองไม่รอด แล้วจะเป็นใครได้อีก!หลิวหยิงพยายามบีบความคิดของตัวเอง รู้สึกว่านี่คือทางที่ถูกต้องแล้ว ไม่ใช่เพราะเธอ ก็เพราะคนอื่น คนรอบข้างไป๋ยี่รุ่ยที่เหมาะสมให้วางแผนร้ายใส่ ก็มีเพียงฉิงฉิงเท่านั้น!
พอหลิวหยิงคิดได้ว่าจุดประสงค์น่าจะเป็นเวินลั่วฉิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ มีผีเต็มไปหมด ฉิงฉิงไม่สามารถผ่อนคลายได้เลย!คนรอบตัวของฉิงฉิงยังมี ยังมี……ถังไป๋เชียน……แต่ว่าคนคนนี้……หลิวหยิงลังเลเล็กน้อย เธอมองไปที่เวินลั่วฉิง แล้วก็พูดอย่างลำบากใจวา่า “ฉิงฉิง เธอเคยนึกถึง นึกถึงคนคนนั้นไหม……”
“ใครเหรอ? ” เวินลั่วฉิงเห็นสีหน้าที่สับสนของหลิวหยิง ก็รู้สึกว่าชื่อที่เธอกำลังจะพูดออกมาเป็นชื่อที่เธอกำลังต้องการอยู่พอดี แล้วก็ถามอย่างอดรอไม่ไหว เธอจับจ้องไปที่หลิวหยิง ทำให้หลิวหยิงรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่นัก แต่ว่า ถังไป๋เชียน ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูง แล้วอีกอย่าง ถ้าเกิดว่าทิศทางที่เธอคาดเดาไปมันไม่ผิดล่ะก็ เป้าหมายของคนคนนี้ก็คือฉิงฉิงจริงๆ คนที่เขาอยากจะทำร้ายจริงๆ ก็คือฉิงฉิง!หลิวหยิงจำได้ว่า ถังไป๋เชียนชอบเวินลั่วฉิง ถ้ายังงั้น แล้วคนคนนี้มีเป้าหมายอะไรถึงได้ทำร้ายเวินลั่วฉิงล่ะ? เพราะว่ารักแต่ไม่สามารถครอบครองได้ยังงั้นเหรอ? เพราะว่ารักก็เลยเกลียด? แต่ว่าเรื่องของไป๋ยี่รุ่ย รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็รู้วิธีแก้แล้ว แต่ว่า ถ้าเกิดว่าเป้าหมายของถังไป๋เชียนคือเวินลั่วฉิงจริงๆ ถ้ายังงั้น เรื่องนี้เกรงว่ามันจะพึ่งเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนี้มันจะมีเรื่องราวที่น่ากลัวกว่านี้อีก หลิวหยิงไม่อยากจะคิดโดยละเอียด เพราะกลัวว่ามันจะกลายเป็นความจริงเข้า เธอไม่ได้รู้จักถังไป๋เชียนดี แต่ว่าแต่เธอรู้สึกเสมอว่าคนคนนี้ช่างลึกซึ้ง และเธอก็ลังเลที่จะเข้าใกล้โดยสัญชาตญาณ
“หยิงเอ๋อร์ เธอนึกถึงใคร? ”เวินลั่วฉิงถามอย่างจริงจัง สีหน้าของหลิวหยิงนั้นเคร่งขรึม แม้แต่ดูสุดจะทนด้วยซ้ำ เวินลั่วฉิงรู้สึกว่า ตัวเองน่าจะเมินทางนั้นไป และคนที่หลิวหยิงคิดออก ก็ต้องเป็นคนที่พวกเธอรู้จัก สีหน้าของหลิวหยิงบอกเธออย่างชัดเจนว่า คนคนนี้โหดร้ายสำหรับเธอมาก
“ไม่ต้องกลัว บอกฉันมาเลย!”เวินลั่วฉิงพูดอย่างอ่อนโยน “ตอนนี้เราอยู่ในแสงสว่างและคู่ต่อสู้อยู่ในความมืด ทุกย่างก้าวของเราอาจถูกจับตามอง ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร ฉันก็ไม่กลัว แต่ฉันกลัวความมืดภายใต้แสงไฟ บอกฉันทีว่าคนที่เธอกำลังเดาเป็นใคร ขอแค่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร ฉันถึงจะสามารถหาวิธีตอบโต้ได้ เชื่อฉันเถอะ ฉันไม่มีทางล้มลงได้ง่ายขนาดนั้นหรอก”
หลิวหยิงสูดหายใจเข้าลึกๆ สายตาค่อยๆ สงบลง แล้วก็ค่อยๆ พูดออกมาว่า “ฉันนึกถึงคนคนหนึ่ง คนคนนั้น เธออาจจะไม่นึกถึงเขา หรืออาจจะไม่ไปสงสัยเขา”หลิวหยิงไม่ค่อยรู้เรื่องราวของถังไป๋เชียนกับเวินลั่วฉิงเท่าไหร่นัก แต่ว่าเธอรู้ ว่าถังไป๋เชียนกับเวินลั่วฉิงแตกหักกันอย่างร้ายแรง ทั้งสองคนทะเลาะกันอย่างรุนแรงมาก หลิวหยิงรู้ว่า เวินลั่วฉิงยังคงรู้สึกอะไรบางอย่างกับถังไป๋เชียนอู่ เพราะถึงยังไงตอนแรกถังไป๋เชียนก็ดูแลเวินลั่วฉิงเป็นพิเศษ ทำให้เวินลั่วฉิงสามารถข้ามผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายมาได้ ดังนั้นตอนนี้ เธอรู้สึกว่าถ้าจะพูดชื่อนี้ออกไปมันก็ค่อนข้างจะโหดร้าย หลิวหยิงเอาแต่คิดอยู่แบบนั้น แต่ว่าคนที่เธอเชื่อถือมากที่สุดก็คือเวินลั่วฉิง ดังนั้น เธอก็รู้ดีกว่า ถ้าเกิดว่าเวินลั่วฉิงกับเวินลั่วฉิงแยกจากกัน ความขัดแย้งระหว่างพวกเขาไม่สามารถประนีประนอมได้ ดังนั้นตอนนี้ถังไป๋เชียนก็อาจจะสามารถทำร้ายเวินลั่วฉิงได้ เธอต้องบอกเวินลั่วฉิงให้รู้เอาไว้ ดังนั้น หลิวหยิงก็เลยมองไปที่เวินลั่วฉิง และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉิงฉิง ฉันสงสัยคนคนหนึ่งจริงๆ เขาก็คือถังไป๋เชียน”
เวินลั่วฉิงเหมือนหัวจะระเบิดในทันที! ตอนที่หลิวหยิงพูดประโยคนั้นออกมา เธอก็มีเสียงแอบบอกตัวเองอยู่ในใจว่า ใช่ มันคือเขา มันคือถังไป๋เชียน เรื่องของไป๋ยี่รุ่ย ต้องมีถังไป๋เชียนคอยจัดการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน!