ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1648 ใช้ความจริงใจ
ใช่แล้ว ภาพลวงตา! ซือถูมู่หรงรู้สึกตัวขึ้นมาทันที ระหว่างทั้งสอง คือภาพลวงตาจริงๆ พวกเขาในเวลานี้ ไม่ได้รักกัน ไม่สนิทสนม ถึงขั้นว่ามีความขัดแย้งกันด้วย ซือถูมู่หรงคิด ถ้าหลิวหยิงโอนอ่อนสักหน่อยจะดีเพียงใด ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องเปลืองสมองขนาดนี้ ขอเพียงหลิวหยิงยินยอม เขาก็สามารถมอบฐานะที่ถูกต้องให้เธอได้ ไม่ว่าใคร ต่อให้เป็นแม่ของเขาก็ขวางไม่ได้ แต่หลิวหยิงไม่ยินยอม ระหว่างพวกเขา ดูเหมือนจะไม่เกิดผลใดๆ ซือถูมู่หรงจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีเย้ยหยันของหลิวหยิง รู้สึกเพียงว่ามือของตัวเองถูกสะบัดออก
นายเลิกคิดได้เลย! หลิวหยิงปฏิเสธอย่างเด็ดขาด ซือถูมู่หรงถึงขีดจำกัดแล้ว สามี? ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขามันสนิทสนมกันถึงขนาดนั้นหรือ? ความสัมพันธ์แบบข้อตกลง ยังจะมีหน้ามีตาได้อีกหรือ?
ซือถูมู่หรงไม่โกรธแล้ว เขามองหลิวหยิงเงียบๆ ไม่เป็นไร พวกเขายังมีเวลา ต้องมีสักวัน เขาจะต้องทำให้หลิวหยิงเข้าใจให้ได้ว่าเขาจริงใจกับเธอ ไม่ได้มีความคิดใดๆแฝงอยู่ ไม่ว่าใครก็ไม่อาจขัดขวางพวกเขาได้
หลิวหยิงก็ไม่โกรธแล้วเหมือนกัน ไม่เป็นไร ระหว่างพวกเขา ไม่มีความเป็นไปได้ใดๆแล้ว ทำไมต้องโมโหกับคนที่ไม่มีความเป็นไปได้คนหนึ่งด้วยล่ะ? ในใจของหลิวหยิงวางแผนจะตีจากเอาไว้แล้ว รับแม่มาครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อปกป้อง ยิ่งเพื่อตัดขาดการติดต่อเหล่านี้โดยสิ้นเชิงอีกด้วย
ทั้งสองเงียบลงอย่างประหลาด ต่างไม่พูดจา ซือถูมู่หรงเป็นคนทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน เธอกลับไปเถอะ ตอนนี้อากาศร้อนเกินไป เธอเดินอยู่ข้างนอกตลอด จะเป็นไข้แดดเอา
ถ้าประธานซือถูไม่ตามฉันละก็ ทำไมฉันจะต้องมาเดินตากแดดอยู่เพียงลำพังด้วย หลิวหยิงโต้แย้ง พูดอย่างไม่ใส่ใจ
ซือถูมู่หรงขมวดคิ้ว ชื่อ
หลิวหยิงฉงน ซือถูมู่หรงจ้องเธอเขม็ง หลิวหยิงจึงรู้สึกตัว ที่แท้ก็ ก็แค่ชื่อเรียกซือถูมู่หรงกับประธานซือถูไม่ใช่เหรอ มีอะไรแตกต่างกัน?
ทว่าเธอไม่อยากจะยั่วโมโหซือถูมู่หรงอีก ยิ่งไม่อยากจะชักนำการป้องกันของเขาขึ้นมา จึงพูดเสียงอู้อี้ ถ้าไม่ใช่ว่านายซือถูมู่หรงคอยตาม ฉันจะออกมาคนเดียวเหรอ?
ซือถูมู่หรงถูกเอาใจแล้ว แววตาที่เขามองหลิวหยิงจึงแฝงไปด้วยความอบอุ่นอยู่หลายส่วน ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากให้ฉันตาม ฉันรับปากเธอ วันนี้ฉันไม่ตามเธอแล้ว เธอกลับไปเถอะ
หลิวหยิงขมวดคิ้ว วันนี้ไม่ตาม พรุ่งนี้จะตามต่อหรือ? เขาช่างว่างเสียจริง
แต่ว่า อย่าให้ฉันรู้ว่าเธออยู่กับผู้ชายคนอื่น ซือถูมู่หรงเอ่ยเตือน หลิวหยิงยิ้มเย็น ไม่ได้ตอบกลับ ถามไปตรงๆว่า งั้นขอถามหน่อย ฉันไปได้หรือยัง?
ซือถูมู่หรงพยักหน้า เขากวักมือ ด้านหลังมีคนขับรถขึ้นมาทันที ซือถูมู่หรงเปิดประตูรถ เข้าไปสิ ฉันส่งเธอกลับไปก่อน
หลิวหยิงยืนนิ่งไม่ขยับ บนใบหน้าเต็มไปด้วยคำว่าปฏิเสธ ถึงขึ้นหยิบโทรศัพท์ออกมากดเรียกรถ ซือถูมู่หรงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ บอกตัวเองว่าอย่าโกรธ! เขาถอยหลังแล้วขอร้องอีกครั้ง ให้เขาไปส่งเธอ ฉันไม่ตามไปด้วย
หลิวหยิงมองไปทางซือถูมู่หรง คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีวันที่ยอมถอยด้วย ยังเป็นเรื่องราวอย่างนี้อีก แต่หลิวหยิงก็เห็นเช่นกันว่า ซือถูมู่หรงไม่ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธเลย เธอครุ่นคิด ก็ได้ ในเมื่อก็ยินดีจะตากแดด ทำไมจะไม่ได้เล่า?
หลิวหยิงขึ้นรถไป ปิดประตูรถ บอกสถานที่ให้คนขับรถพาเธอไป
คนขับรถไม่กล้าชักช้า แม้เขาจะดูออกว่าท่านประธานกำลังทะเลาะกับหญิงคนนี้อยู่ แต่ก็ดูออกยิ่งกว่าว่าท่านประธานเอาใจใส่ผู้หญิงคนนี้มาก เพื่อให้เธอยอม เขาถึงกับยอมเดินเองเสียยังจะดีกว่า แล้วให้ตนไปส่งเธอกลับ เขาคิดถึงข่าวลือของหลิวหยิงที่บริษัทก่อนหน้านี้ เกรงว่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้นี่แหละ คิดในใจว่าคนอย่างท่านประธานซือถู ก็ไม่พ้นด่านสาวงามเช่นกัน
เขาคิด ตนต้องโน้มน้าวสักสองสามคำไหมนะ? เขาหยั่งเชิงถาม คุณหนูหลิวทะเลาะกับท่านประธานหรือครับ?
หลิวหยิงไม่พูดอะไร รู้สึกหนวกหู คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดพร่ำไม่หยุด ผมติดตามท่านประธานได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่ก็มองออกว่าเขาปฏิบัติตัวคุณหนูหลิวไม่เหมือนทั่วไป ท่านประธานไม่เคยใส่ใจผู้หญิงคนอื่นมาก่อน วันนี้กลับเอาอกเอาใจคุณหนูหลิวขนาดนี้ ก็น่าจะชื่นชอบแล้วจริงๆ
หลิวหยิงหัวเราะเยาะ นี่เรียกว่าเอาใจอยู่เหรอ? เขาไม่เคยเห็นคุณชายสามเย่เอาอกเอาใจฉิงฉิงมาก่อน แบบนั้นถึงจะเรียกว่าเอาใจของจริง เอาใจไปถึงกระดูกเช่นนั้น ใครก็เทียบไม่ได้
คนขับรถมองไม่ออกถึงความไม่พอใจของหลิวหยิง พูดต่อไปว่า ครั้งก่อนที่คุณหนูหลิวไปที่บริษัท ทุกคนต่างก็พูดถกกัน คิดว่าคุณหนูหลิวสะสวยอ่อนโยน เหมาะสมกับท่านประธานมาก ไม่รู้ว่าทำให้สาวๆหมดหวังไปกี่คน
พวกเธอยินดี ก็สามารถเข้าไปดูได้ หลิวหยิงพูดอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอเพียงทำให้ซือถูมู่หรงเปลี่ยนใจได้ ใกล้ชิดเขาได้ สำหรับตนล้วนเป็นการช่วยชีวิตอย่างหนึ่ง
คนขับรถเข้าใจความหมายของหลิวหยิงผิดไป คิดว่าเธอหึงเข้าแล้ว ในใจคิดว่าคุณหนูหลิวรักท่านประธานจริงๆด้วย ไม่ยอมให้คนอื่นอยากได้เลยสักนิด เขารีบเปลี่ยนประเด็น ก่อนหน้านี้ผมได้ยินว่า ตอนที่คุณหนูหลิวกับประธานไป๋ออกไปข้างนอกกันตามลำพัง อยู่ที่คลับซิงหยุนสามชั่วโมงกว่า ท่านประธานรออยู่ด้านนอกตลอด คิดไม่ถึงเลยว่าความสัมพันธ์ของคุณหนูหลิวกับท่านประธานจะดีถึงเพียงนี้ ท่านประธานจะไว้ใจคุณหนูหลิวขนาดนี้ ไม่ถูกหรือไง เชื่อถือไว้ใจขนาดที่ผู้หญิงของตัวเองอยู่กับชายอื่นในห้องตามลำพังสามชั่วโมงกว่าโดยไม่สงสัย เขาทำไม่ได้หรอก ตอนนี้เห็นคุณหนูหลิวยังคงได้รับความรักใคร่ คาดว่าคงได้เป็นคุณผู้หญิงไม่ผิดแน่
หลิวหยิงตะลึงงันไปแล้ว เมื่อครู่ว่าพูดว่าอะไรนะ? เธอออกไปกับไป๋ยี่รุ่ยครั้งก่อน ซือถูมู่หรงคอยตามอยู่ตลอดงั้นหรือ? สามชั่วโมงกว่า? นี่ไม่ใช่เวลาที่เธออยู่กับไป๋ยี่รุ่ยตามลำพังหรือ? ไม่ต่างกันเท่าไร ดังนั้น…ตอนที่ตนไปพบไป๋ยี่รุ่ยซือถูมู่หรงก็ตามไปด้วยงั้นหรือ?
เขาไปทำอะไร? หลิวหยิงคิดไม่ออกว่าซือถูมู่หรงไปเพราะอะไร ตอนนี้สาเหตุที่กำจัดไป๋ยี่รุ่ยไป แล้วเหลือไว้เพียงตัวเอง หลิวหยิงไม่อยากจะคิดไปทางนี้เลย สามชั่วโมง ชายโสดหญิงโสด อยู่ในห้อง เรื่องที่ควรทำก็ทำไปแล้ว ดังนั้น ซือถูมู่หรงไปจับชู้งั้นหรือ?
เขาถือสิทธิ์อะไร! ปฏิกิริยาแรกของหลิวหยิงคือสิ่งนี้! ซือถูมู่หรงมีสิทธิ์อะไรจะไปจับชู้ตน? กลัวว่าตนจะหนีไปเหรอ? หรือกลัวว่าตนจะทำเรื่องอะไรแล้วส่งผลกระทบต่อเขา? แม้จะเป็นเวลาห้าปีแล้ว ในสายตาของเขา ตนก็ยังเป็นของส่วนตัวของเขาหรือ? เขาไปดูว่าตนจะทำเรื่องที่ผิดต่อเขาหรือไม่กระมัง?
หลิวหยิงยิ้มเย็น ซือถูมู่หรง มีอารมณ์เช่นนี้ด้วย ดูท่าจะว่างมากไปแล้วจริงๆ! หลิวหยิงไม่คิดเลยว่า ซือถูมู่หรงจะรออยู่ข้างนอกสามชั่วโมงกว่า ไม่เข้าไปข้างในหมายความว่าอย่างไร เพียงแค่รู้สึกว่าเกินความจำเป็น ไม่มีอะไรให้ชวนทะเลาะ
อ่า ท่านประธานปฏิบัติต่อคุณหนูหลิวเป็นพิเศษ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานมาก่อน คุณหนูหลิวเป็นคนแรก อีกอย่าง ยังเป็นท่านประธานลงมารับคุณด้วยตัวเองอีก เขาปฏิบัติต่อคุณด้วยความจริงใจ
หลิวหยิงเพียงรู้สึกดูถูก ซือถูมู่หรงมีเคล็ดลับในการซื้อใจคนจริงๆ ก็ใช่ ไม่อย่างนั้นตนจะยินยอมอยู่ข้างกายเขาถึงห้าปีได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่ว่ารู้เรื่องนั้นแล้ว เธอคงไม่จากไปอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ยิ่งไม่โกรธเกลียดซือถูมู่หรงขนาดนี้ ไม่แน่ว่ายังซาบซึ้งในบุญคุณเขาด้วย ถ้าเขาดีกับตนอีกเพียงเล็กน้อย ไม่แน่ตนอาจจะจมอยู่ในความรู้สึกนี้ก็ได้ หลิวหยิงแค่คิดถึงสถานการณ์นี้ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา ถือศัตรูเป็นผู้มีพระคุณ ช่างน่าหัวเราะเยาะเสียจริง
ที่จริงแล้ว ท่านประธานไม่ชอบแสดงออก แต่เขาจริงใจกับคุณหนูหลิวอย่างแน่นอน คนขับรถคิดอยากจะพูดถ้อยคำดีๆถึงซือถูมู่หรงอยู่ตลอด เขาได้สัมผัสซือถูมู่หรงน้อยยิ่งนัก ไม่อยากจะละทิ้งโอกาสนี้ไป ดังนั้นจึงพยายามทำให้หลิวหยิงกับซือถูมู่หรงคืนดีกันสุดความสามารถ เช่นนี้ฐานะของตนอาจมีการเปลี่ยนแปลงก้าวใหญ่ก็ได้ ไม่แน่อาจจะได้ติดตามซือถูมู่ตรงโดยตรง โอกาสอย่างนี้มีไม่มาก เขาอยากจะคว้าไว้ให้ได้
จริงใจ? ท่านประธานของนายเคยจริงใจด้วยหรือ? เขาปฏิบัติต่อผู้คน ไม่ใช่ว่าคิดใช้ผลประโยชน์อยู่ตลอดหรอกหรือ? หลิวหยิงพูดกลั้วหัวเราะ เสียงหัวเราะนี้ดังเข้าหูคนขับรถ เขาก็ขนลุกชันไปทั้งตัว เสียงหัวเราะที่ไร้ความรู้สึก ถึงขึ้นว่าแฝงไปด้วยความเกลียดชังและการเย้ยหยัน คุณหนูหลิวกับท่านประธานซือถูมีความแค้นกันมากเพียงใดกัน! เขารู้สึกว่าตัวเองพูดมากขึ้นมาทันที แต่ตอนนี้มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงก็ต้องฝืนใจไป มิฉะนั้นความพยายามก่อนหน้านี้จะไม่สูญเปล่าหรือ?
เขากัดฟัน ปลุกเร้าความกล้าพูดอย่างจริงจัง บางทีคุณหนูหลิวอาจไม่เข้าใจ สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ผู้หญิงที่ตนรักอยู่ร่วมห้องกับผู้ชายคนอื่น ทั้งยังอยู่ถึงสามชั่วโมงมันหมายความว่าอย่างไร แต่ว่า ผู้ชายที่สามารถทนได้นานขนาดนั้น ย่อมต้องจริงใจกับผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน ทั้งยังหวังจะแก้แค้น หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะจงรักภักดีกับเขา มีความรักต่อเขามากพอ ที่จะสามารถต้านทานสิ่งดึงดูดใจภายนอกได้