ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1660 สายตาที่เฉียบแหลมของจื่อซี
แล้ว หลินฉือคือใคร? คนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียว ถังจื่อซีก็เชื่อขนาดนี้แล้วเหรอ?
ถังจื่อโม่คิดได้ว่าก่อนหน้านี้อาจจะไม่เคยได้พูดถึงหลินฉือมาก่อน ก็เลยช่วยถังจื่อซีพูดเสริม พี่หลินฉือก็คือคนที่พวกเราเจอที่月之星星ในวันนั้นครับ ช่วยพวกเราเลือกเสื้อผ้า เครื่องประดับของจื่อซีก็เป็นของที่เธอมอบให้ ถังจื่อโม่ฉลาดมีไหวพริบกว่าถังจื่อซีมาก เขาก็รู้สึกว่าจะรับของที่คนอื่นให้มาสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ แต่หลินฉือดูเหมือนขอร้องอยู่ไม่น้อย ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธขนาดนั้น
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เวินลั่วฉิงพยักหน้า วิธีการของหลินฉือ แสดงให้เห็นว่าเธอมีความชื่นชอบในตัวของถังจื่อซีเป็นอย่างมาก แต่เธอก็ยังอยากรู้อยู่ดี ว่าเจอกันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำไมถึงยึดมั่นถือมั่นขนาดนี้ล่ะ?
หลินฉือแทบจะไม่รู้ถึงสถานภาพของถังจื่อซีเลย แค่เพราะว่าเจอกันแค่ครั้งเดียวก็ตัดสินใจให้ถังจื่อซีเข้าไปในVGแล้วเหรอ? หลินฉือมีสถานภาพอะไรกัน? ถึงได้ตัดสินใจเรื่องเหล่านี้ได้อย่าง่ายๆสบายๆขนาดนี้ รู้สึกชอบถูกใจถังจื่อซีแล้วอย่างนั้นเหรอ? เวินลั่วฉิงครุ่นคิดพิจารณาอย่างอดไม่ได้
แถมแค่เจอหน้ากันครั้งเดียว หลินฉือก็มอบเครื่องประดับให้กับถังจื่อซีแล้ว จะไม่เรียกว่าแปลกได้ยังไง
เธอน่าจะสกุลโม่ เย่ซือเฉินพูดเสริม คนของตระกูลโม่มีน้อย แต่ตราบใดที่เป็นสกุลนี้ เขาจะไม่มีทางเพิกเฉยอย่างแน่นอน
หม่ามี๊ เห็นด้วยไหม? ถังจื่อซีถาม เธอเข้าใจนางแบบแล้ว รู้สึกว่าค่อนข้างสนุก แล้วยังชอบหลินฉืออีกด้วย ก็เลยเต็มใจไป ถ้าเวินลั่วฉิงแล้วก็เย่ซือเฉินไม่เห็นด้วย ถังจื่อซีก็จะขอเรื่องที่รองลงมา เป็นแค่นางแบบของหลินฉือแทน
แล้วลูกล่ะ? ลูกอยากไปเพราะว่าหลินฉือ หรือว่าผ่านการคิดพิจารณามาแล้วตัวเองก็เลยอยากไป เลยมาขอความเห็นจากหม่ามี๊? เวินลั่วฉิงถามขึ้นมาอีกครั้ง เธอหวังหว่าการที่ถังจื่อซีจะทำเรื่องอะไรเรื่องหนึ่ง ใช่เพื่อว่าคนอื่น แต่มาจากความชอบและความสนใจของตัวเอง
ถังจื่อซีพูดอย่างหนักแน่นจริงจัง หม่ามี๊ แม้ว่าพี่หลินฉือจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดก็เพราะว่าตัวหนูเอง หนูชอบชีวิตที่สดใสและมีชีวิตชีวาแบบนั้น
หลังจากที่ถังจื่อซีเข้าใจแล้ว ถึงดึงดูดโดยสิ่งเหล่านี้ แถมครั้งแรกที่เห็นการแต่งตัวของหลินฉือ ทำให้เธอรู้สึกว่าสวยงาม และเท่มากๆ!เธอรู้สึกว่า นางแบบสามารถสวมใส่เสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ตามความประสงค์ต้องการของตัวเองได้อย่างสบายๆ เธออยากที่จะลองดู
เวินลั่วฉิงพูดขึ้นอย่างจริงจัง นางแบบดูผิวเผินแล้วสวยงามสดใส แต่ความยากลำบากที่อยู่เบื้องหลังนั้นมันเกินกว่าจินตนาการของคนปกติทั่วไปมากนะ ลูกต้องมีความตระหนักในส่วนตรงนี้ด้วย
หม่ามี๊ ไม่มีเรื่องไหนที่มันสบายจริงๆหรอก หนูรู้ หนูชอบมัน เหนื่อยแค่ไหนหนูก็สามารถยืนหยัดต่อไปได้ ถังจื่อซีพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เรื่องที่เธอยึดมั่น จะไม่มีทางล้มเลิกแน่นอน
ได้ ในเมื่อลูกคิดดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นหม่ามี๊ก็เห็นด้วย หลินฉืออยู่ที่นี่ใช่ไหม? เดี๋ยววันหลังหม่ามี๊จะพูดคุยกับเธอสักหน่อย เวินลั่วฉิงพูด เรื่องของลูก เธอจะไม่ยอมถอยไปแม้แต่ก้าวเดียว ตอนนี้ถังจื่อซียังเด็ก ถ้าเป็นนางแบบตั้งแต่ตอนนี้ แล้วต่อไปถ้าเกิดยังชอบอยู่ ก็จะได้ยึดเป็นอาชีพไปตลอดชีวิตเลย แม้ว่าจะเป็นVG เธอก็จะต้องทำความเข้าใจอยู่สักหน่อยเหมือนกัน
ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหม่ามี๊พูดคุยกับพี่หลินฉือสักหน่อยแล้วกัน ถังจื่อซีพูดขึ้นอย่างดีอกดีใจ ก่อนหน้านี้เธอยังเป็นกังวลใจอยู่เลยว่าเวินลั่วฉิงจะปฏิเสธ คิดไม่ถึงว่าจะยอมตกลงง่ายๆขนาดนี้ ดีใจออกนอกหน้า ส่วนเย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร แน่นอนว่าก็ยอมรับอยู่เงียบๆอยู่แล้ว
ฉิงฉิง เดี๋ยวผมจะไปหาหลินฉือเป็นเพื่อนคุณด้วย เย่ซือเฉินขับรถพลางพูดไปพลาง ถ้าหลินฉือเป็นคนของตระกูลโม่จริง ถ้าอย่างนั้น เธอก็เป็นนักธุรกิจเหมือนกัน นักธุรกิจจะเห็นแก่ผลประโยชน์เป็นหลัก
ได้ เวินลั่วฉิงตกลง ถังจื่อซีหยิบมือถือออกมาส่งข้อความวีแชทออกไปหาหลินฉือ ไม่นานก็ได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว บอกว่าจะนัดเวลาไหนก็ได้ ที่เธอมาที่นี่ก็เพื่อพักผ่อนอยู่แล้ว ถังจื่อซีพูดกับเวินลั่วฉิง เวินลั่วฉิงก็นัดเป็นวันมะรืน
พอส่งข้อความไปและได้รับคำตอบที่แน่นอนแล้ว ถังจื่อซีก็เก็บมือถือ คิดไม่ถึงว่าอีกไม่นานก็จะได้เจอกับหลินฉือแล้ว
พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ ร้านชิงฮวน ออกมาไม่ทันไรก็มาถึงร้านอาหาร ถังจื่อโม่พูดเสนอว่าให้ไป ร้านชิงฮวน เย่ซือเฉินไม่รู้จักสถานที่นี้ ใช้GPSนำทางอยู่สักพัก
ถึงจะเป็นช่วงเที่ยง แต่คนที่ร้านชิงฮวนก็ไม่ได้เยอะมาก ตอนที่ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่เข้ามา คนที่ร้านชิงฮวนต่างก็รู้จัก รีบตรงเข้ามาทักทายทันที
คุณชายถัง คุณเวิน จะไปห้องที่จองไว้ก่อนหน้านี้เหรอครับ? แขกที่เถ้าแก่เป็นคนแนะนำกับตัวเอง พวกเขาไม่กล้าบริการแย่ๆ
ถังจื่อโม่พยักหน้า เดินขึ้นไปข้างบน ตอนที่อยู่ตรงทางเดิน เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ถังจื่อโม่รู้สึกว่าคุ้นเคย ยังไม่ทันนึกออกว่าเคยเจอที่ไหน ถังจื่อซีก็ตะโกนขึ้นมาว่าพี่หลินฉือด้วยความดีอกดีใจ!
เวินลั่วฉิงกับเย่ซือเฉินมองตรงไปหาคนที่อยู่ข้างหน้า เห็นแค่ด้านหลังเท่านั้น ผอมบาง สูงเพรียว สวมส้นสูง เวินลั่วฉิงรู้สึกสงสัย ถังจื่อซีคาดหวังที่จะเจอกับหลินฉือมากเกินไปไหม? แค่ด้านหลังก็มองออกแล้วอย่างนั้นเหรอ? จื่อซีนี่ สายตาหลักแหลม เหลือเกินนะ
ผู้หญิงตรงหน้าหันกลับมา เธอเห็นถังจื่อซีที่กำลังถูกผู้หญิงคนอื่นจูงมืออยู่ไม่ไกล เผยรอยยิ้มออกมา ราวกับดอกโบตั๋นกำลังเบ่งบาน สวยงามอย่างถึงที่สุด จื่อซี?
ถังจื่อซีพยักหน้า เธอดีใจมาก!มองสำรวจการแต่งกายในวันนี้ของ หลินฉือ ชุดเดรสสีแดง ไม่มีลวดลายใดๆ ให้ความรู้สึกแปลกหน้ายากที่จะเข้าถึง
เย่ซือเฉินกับเวินลั่วฉิงพาถังจื่อซีกับถังจื่อโม่เดินตรงเข้าไป หลินฉือเป็นฝ่ายทักทายก่อน คิดว่าพวกคุณก็คือพ่อแม่ของจื่อซีสินะคะ ไหนๆก็อยู่กันที่หมดแล้ว จะมาร่วมทานอาหารด้วยกันไหม? ฉันนัดเพื่อนไว้หนึ่งคนตอนนี้ยังมาไม่ถึง
ค่ะ เวินลั่วฉิงตอบกลับพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย หลินฉือยกคิ้ว เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ถึงได้โดดเด่นขนาดนี้ เพราะว่ามีพ่อแม่ที่หน้าตาสวยหล่อน่าหลงใหลนี่เอง ลูกจะหน้าตาไม่ดีได้ยังไง? ส่วนถังจื่อซี เหมือนเวินลั่วฉิงมากกว่าหน่อย บุคลิกท่าทางก็ใช่
ห้องที่หลินฉือเลือกเป็นด้านที่สว่างมีแดด แสงแดดเพิ่งจะสาดส่องเข้ามา ปกคลุมไปทั่วพื้น ถูกผ้าชีฟองกั้นเอาไว้ ดังนั้นในห้องจึงสว่างแต่กลับไม่รู้สึกร้อนอ้าว
หลินฉือดูผิวเผินแล้วเย็นชา แต่จริงๆแล้วแอบมีความคุ้นเคยอยู่นิดหน่อย ตอนที่เธอแนะนำตัวเอง ถือโอกาสพูดเรื่องของถังจื่อซีและถังจื่อโม่ออกมา ทำให้เวินลั่วฉิงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าตัวเองมองคนผิดไปหรือเปล่า เมื่อตะกี้ตอนที่เจอหลินฉือ เธอรู้สึกว่าคนคนนี้เป็นคนที่เย็นชาเข้าถึงยาก แต่การพูดจาที่ฉะฉานของหลินฉือ ทำให้ไม่รู้สึกห่างเหินเลยแม้แต่นิดเดียว
เย่ซือเฉินฟังอย่างนิ่งเงียบ รู้สึกว่าตัวเองคิดเยอะไป คนของตระกูลโม่ ขึ้นชื่อเรื่องความเข้าถึงยาก ในด้านของธุรกิจสนแต่เรื่องของผลประโยชน์ หลินฉือคนนี้ เป็นคนของตระกูลโม่เหรอ? ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมถึงมีสิทธิ์ในการจัดการเรื่องของVGได้ล่ะ?
คุณถัง คุณนายถัง คิดว่าจื่อซีกับจื่อโม่น่าจะพูดกับพวกคุณไว้แล้วนะคะ ว่าฉันอยากที่จะให้จื่อซีเป็นนางแบบของVG พวกคุณคิดเห็นว่ายังไงบ้างคะ?
หลินฉือพูดเล่าเรื่องในวันนี้อย่างคร่าวๆ เจาะตรงประเด็น
พวกเขาตรงนั้นต่างพากันอึ้งตะลึงไป การเรียกแบบนี้……พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเวินลั่วฉิง นี่คือสามีของฉัน เย่ซือเฉิน เวินลั่วฉิงค่อยๆเปิดปากพูดขึ้น ถือว่าสลัดความอึดอัดเขินอายจากหลินฉือทิ้งไป
หลินฉือมองพวกเขาแปลกๆ ถังจื่อซี……สกุลถังได้ยังไง พ่อของเธอสกุลเย่ แม่สกุลเวิน? นี่มันวุ่นวายมั่วซั่วเกินไปไหม?
เรื่องมันยาว แต่ว่า พวกเราเป็นพ่อแม่ของจื่อซีและจื่อโม่จริงๆ เวินลั่วฉิงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ มันยุ่งยากซับซ้อนจริงๆ
หลินฉือก็ไม่อยากจะสงสัยลังเลเรื่องนี้เช่นกัน พูดหยอกล้อออกมา ก่อนหน้านี้ฉันให้คนไปถามสถานภาพของจื่อซีและจื่อโม่มาแล้ว เป็นคนของตระกูลถัง ตอนนี้ดูแล้ว เกรงว่าคุณเวินก็น่าจะเป็นลูกสาวของถังฉิ้นเอ๋อสินะคะ? หลินฉือให้คนไปตรวจสอบสถานภาพของถังจื่อซีและถังจื่อโม่มาแล้ว ตระกูลที่มีเด็กอายุที่พอเหมาะกัน แถมยังเป็นแฝดกันก็คือตระกูลถัง แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้คิดมากอะไร ตอนนี้พอเอามาปะติดปะต่อกันแล้ว ก็คิดถึงเรื่องที่ยากลำบากครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนหน้านี้
นี่มันทำให้เย่ซือเฉินรู้สึกอึดอัดไม่น้อย มีคนมาตรวจสอบตนเองตรงๆแบบนี้ แต่ทางนี้กลับยังไม่ได้รับแจ้งอะไรเลย ที่หลินฉือเรียกพวกเขาว่า คุณถัง คุณนายถัง เขาไม่ได้รู้สึกไม่สบอารมณ์แต่อย่างใด ถึงยังไงหลินฉือก็ไม่ได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แต่มันก็เป็นสัญญาณเตือนเช่นเดียวกัน หลินฉือไม่ได้ตรวจสอบเชิงลึกก็จริง แต่พอเวินลั่วฉิงเปิดปากพูดออกมาเธอก็สามารถเชื่อมต่อเรื่องได้ทันที แสดงว่าเธอก็ใช้ความคิดอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
หลินฉือดูเหมือนจะมองออกถึงความอึดอัดของเย่ซือเฉิน เธอพูดอธิบาย ที่ฉันตรวจสอบพวกคุณ ก็แค่เพราะว่าจื่อซีนะคะ หลังจากที่รู้ว่าเป็นคนของตระกูลถัง ก็ไม่ได้ตรวจสอบมากมายอะไรอีก ฉันคิดว่า พวกคุณยินยอม ก็เลยพูดออกมาเยอะแยะขนาดนี้ แถมจื่อซีก็มีสถานภาพเป็นลูกสาวตระกูลถัง ฉันจะทำให้เกิดความขุ่นเคืองใจได้ยังไงกันล่ะคะ? หลินฉือพูดอธิบาย
เย่ซือเฉินพยักหน้า เขาเข้าใจ ถ้าเขาหาคนที่จะมาร่วมงานกันสักคน แน่นอนว่าก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนแจ่มแจ้งเหมือนกัน แต่ว่า หลินฉือทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายนิดหน่อย แอบสงสัยว่าช่วงเวลานี้ตัวเองใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเกินไปไหม ถึงได้ละเลยอะไรมากมายขนาดนี้ ถังไป๋เชียนหายไปอย่างไร้ร่องรอยไปแล้ว ราวกับสูญหายไปอย่างไรอย่างนั้น เมื่อวานมีคนพูดถึง สอบถามเรื่องตระกูลถังแบบอ้อมๆ แต่ไม่นานก็ไม่มีวี่แววอะไร เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเหมือนกัน ที่แท้ก็มารอเขาอยู่ที่นี่นี่เอง ถ้าคนคนนี้ไม่ใช่ หลินฉือ แล้วเป็นคนที่มีเป้าหมายอื่น นั่นก็เป็นภัยร้ายที่กำลังซ่อนตัวอยู่เป็นแน่
เวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเรื่องที่หลินฉือตรวจสอบสถานภาพของถังจื่อซีเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดพลาดร้ายแรงอะไร แถมที่หลินฉือพูดก็เปิดเผยตรงไปตรงมา ทำให้เธอรู้สึกว่าเชื่อถือได้