ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1664 ในห้องคือใคร
และความหมายของเวินลั่วฉิงก็ชัดเจนเช่นเดียวกัน ถ้าหลิวหยิงไม่ต้องการเจอเขา ถ้าอย่างนั้น เวินลั่วฉิงก็จะหาทางไม่ให้เขาเจอกับหลิวหยิงแน่นอน นี่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก เขาไม่สามารถปฏิบัติต่อเวินลั่วฉิงมากเกินไป ด้านหนึ่งเพราะว่าหลิวหยิง อีกด้านหนึ่ง เพราะว่าเย่ซือเฉิน
ซือถูมู่หรงไม่อยากจะใจร้ายเกินไป อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้น ในคำพูดจึงไม่มีความไร้เหตุผล: เพราะงั้น คุณเวินหมายความว่า ต้องแล้วแต่หลิวหยิง?
นั่นแน่นอนอยู่แล้ว ความหมายชัดเจนขนาดนี้ เวินลั่วฉิงคิดไม่ออกว่าทำไมซือถูมู่หรงถึงถามซ้ำอีกรอบ
แต่ว่า หลิวหยิงปฏิเสธโดยสิ้นเชิงไม่ใช่หรอ? ผมอยู่ตรงนี้มานานขนาดนี้แล้ว หลิวหยิงก็ไม่พูดอะไรเลย เพราะงั้น ผมคิดว่าคุณเวินไม่ควรมาถามผมโดยตรง ซือถูมู่หรงพูดในส่วนของตัวเอง ราวกับระหว่างหลิวหยิง ยังมีโอกาสมากมาย หรือจะบอกว่า เขาอวดดีแบบนี้มาตลอด คิดว่าของที่ตัวเองต้องการ แต่ไหนแต่ไรไม่เคยไม่ได้มา
เวินลั่วฉิงมองซือถูมู่หรง ที่แท้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าหลิวหยิงจะจากไป บางที ตอนนี้หลิวหยิงยอมให้เขาเข้ามาพัวพัน เพียงเพื่อหลังจากที่จากไป ไม่ทำให้เขาเกิดสงสัย ดังนั้นเวินลั่วฉิงจึงไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ เพียงแค่หัวเราะเบาๆ: ฉันหวังว่าประธานซือถูจะจำได้ หลิวหยิงก็เป็นคนคนหนึ่ง เธอมีคนในครอบครัวของตัวเอง มีเพื่อน มีคนและเรื่องที่ตัวเองชอบ ดังนั้น ฉันหวังว่า ประธานซือถูจะเคารพหลิวหยิง เคารพการตัดสินใจของเธอ
ซือถูมู่หรงคิดว่า นี่เวินลั่วฉิงกำลังเตือนเขาเรื่องให้หลิวหยิงเซ็นสัญญาเมื่อห้าปีก่อน สีหน้านิ่งขรึมเล็กน้อย สัญญานี้ เขากลับไม่รู้สึกว่าอย่างไร ยังไงสัญญาฉบับนี้ ผูกมัดเขาและหลิวหยิงไว้ด้วยกันเป็นเวลาห้าปี ในห้าปีนี้ นอกจากช่วงแรกที่เขาปฏิบัติต่อหลิวหยิงมากเกินไปเล็กน้อย อย่างอื่น ก็คือตามใจเธออย่าง เรื่องเดียวที่มากเกินไป คือใช้สัญญาฉบับนี้ บีบบังคับพ่อของหลิวหยิงให้ตาย นี่ก็เป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ถ้ามีอีกครั้งหนึ่ง เขาจะไม่ใจร้ายแบบนี้แน่ ไม่มีทางให้ความสัมพันธ์ของเขาและหลิวหยิงหมดหนทางแบบนี้
ถ้าอย่างนั้น ผมก็ขอบคุณคุณเวินที่เตือน ซือถูมู่หรงพูด เวินลั่วฉิงฟัง พยักหน้า ไม่พูดอะไรอีกแล้วออกจากที่นี่ไป
ซือถูมู่หรงยังคงอยู่ที่เดิม มองไปที่ห้องของหลิวหยิง ผู้หญิงคนนี้ ไม่ได้ออกมาหลายวันแล้ว ไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ตลอด ไม่อย่างนั้น? ขึ้นไปดู?
ซือถูมู่หรงคาดเดา หลิวหยิงอาจจะพาใครกลับมา แต่ว่า คนคนนี้เป็นใครเขาก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ จู่ๆก็เกิดความคิดชัดเจนขึ้นมา หยุดไม่ได้
ซือถูมู่หรงขึ้นไปเคาะประตูห้องของหลิวหยิง หลิวหยิงนึกว่าเป็นเวินลั่วฉิงลืมของอะไร เลยย้อนกลับมา เลยไม่ได้คิดอะไรมากก็เปิดประตูแล้ว เห็นซือถูมู่หรงก็ตะลึงไปเลย พวกเขาไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้ว เธอไม่ได้คิดเรื่องเขามานานแล้ว ตอนนี้จู่ๆก็ตัวคนก็มาปรากฏตรงหน้าเธอ ไม่อยากจะเชื่อ…เล็กน้อย
หลิวหยิงนึกได้ว่าแม่ของตัวเองก็อยู่ในห้องด้วย เลยไม่ยอมถอยให้ ตรงออกมานอกห้อง และปิดประตู เธอถามอย่างเย็นชาว่า: ไม่ทราบว่าประธานซือถูมาหาฉันมีธุระอะไร?
ตอนที่ซือถูมู่หรงขึ้นมา อารมณ์ดีใช้ได้ อีกทั้งยังเตรียมใจไว้แล้ว หากครั้งนี้หลิวหยิงไม่ต่อต้านมากนัก พวกเขาก็พูดคุยกันอย่างราบรื่นได้ ถ้าอย่างนั้น เขาอยากจะบอกกับหลิวหยิงถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเธออย่างจริงจัง อย่างน้อย ก็ทำให้หลิวหยิงเชื่อได้ ต่อไปก็จะค่อยๆคิดไปทางด้านนี้
ซือถูมู่หรงรู้ เมื่อก่อนหลิวหยิงไม่เชื่อ คิดว่าคำพูดของเขาล้วนหลอกลวงเธอ แต่ ถ้าหลายๆครั้งล่ะ? ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่เชื่อว่าหลิวหยิงจะไม่หวั่นไหว เขาแค่ต้องการให้ความคิดหนึ่งแก่หลิวหยิง ให้ความคิดนี้เติบโตขึ้นในใจของหลิวหยิง บวกกับการกระทำของเขา เขาไม่เชื่อ ว่าหลิวหยิงจะไม่เชื่อไปตลอด
ซือถูมู่หรงรู้สึกว่า ขอแค่หลิวหยิงมีความรู้สึกต่อเขา เขาจะต้องทำให้หลิวหยิงตกหลุมรักเขาได้แน่ ทำให้หลิวหยิงเชื่อเขา ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน ขอแค่หลิวหยิงและเขามั่นคง เช่นนั้นเรื่องอื่นๆ เขาจะจัดการอย่างดี จะไม่ยอมให้ใคร หรือเรื่องอะไรมากระทบต่อหลิวหยิง แม่ของเขาก็ไม่ได้
แต่ว่า การกระทำของหลิวหยิง กระตุ้นซือถูมู่หรงอย่างลึกๆ คนที่อยู่ในห้องนี้คือใครกันแน่? ทำไมหลิวหยิงถึงแคร์มากขนาดนี้? แค่เห็นหน้าสักนิดก็ไม่อนุญาต? ยอมที่จะออกมา ไม่ยอมให้เขาเข้าไป กระทั่ง ทั้งๆที่หลิวหยิงก็รู้ ว่าการกระทำนี้จะทำให้เขาหงุดหงิด เธอก็ไม่สนใจ ในใจของหลิวหยิง สถานะของคนในห้องนั้น สำคัญกว่าเขามาก
อีกอย่าง…หลิวหยิงเรียกเขา กลับเป็นประธานซือถู เธอแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเก็บคำพูดของตัวเองมาใส่ใจ เธอไม่เคยเอาตัวเองมาใส่ใจเลย
ซือถูมู่หรงโกรธ มองดูสีหน้าของหลิวหยิง คาดเดาคนที่อยู่ในห้อง หรือว่า! หลิวหยิงหาผู้ชายมาอยู่ในห้อง เพียงเพื่อทำให้เขาอึดอัดใจ? ไม่ ไม่แน่นอน แบบนั้นหลิวหยิงจะต้องเปิดประตู ไม่ใช่ปิดประตู หรือจะบอกว่า… หลิวหยิงแคร์คนคนนั้น ดังนั้นเลยไม่อยากให้พวกเขาเจอหน้ากัน?
ซือถูมู่หรงยิ่งคิดก็ยิ่งไร้เหตุผล แต่ว่าในใจเอาแต่บอกกับตัวเอง อย่าคิดมาก อย่าคิดมาก วันนั้นหลิวหยิงไปรับคน ไม่ใช่ผู้ชายคนอื่นแน่นอนชัดเจน เขาไม่จำเป็นต้องคิดมาก อีกอย่าง ถ้าหลิวหยิงเป็นคนที่คิดในทางไม่ดีแบบนั้น ก็ไม่คู่ควรให้เขาชอบ เขาสงบสติอารมณ์ตัวเองลง แต่ว่า อ้าปากถามตรงๆว่า: ในห้อง คนคนนั้นเป็นใคร? อย่างที่คิด ยังคงไม่สามารถไม่ใส่ใจได้ ถึงขั้น ใส่ใจมาก เหมือนมีก้างติดคอ
นี่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย? หลิวหยิงย้อนถาม ทำไม มาขวางประตูบ้านตนเอง ถามสถานการณ์บ้านของตนเอง แล้วยังโผงผางแบบนี้ เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร?
สองสามวันนี้คุณไม่ออกไปไหน ก็เพื่ออยู่เป็นเพื่อนเขา? ซือถูมู่หรงกำลังจะโกรธจนเป็นบ้า หลิวหยิงมักจะยั่วอารมณ์ของตัวเองได้ง่ายๆ และท่าทีไม่ใส่ใจของเธอแบบนี้ เป็นสิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุด โมโหที่สุด แคร์คนคนหนึ่ง ไม่ใช่ท่าทางไม่สนใจแบบนี้แน่นอน ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ทำอะไร ก็ไม่สามารถกระตุ้นอารมณ์ของเธอได้ มีแค่ตอนที่เกี่ยวข้องกับคนที่เธอแคร์ จึงจะขาดการควบคุมอารมณ์ และตอนนี้ มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น เรื่องที่กำลังพูดถึงไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น หลิวหยิงแม้แต่พูดขอไปทีก็ไม่ยอมที่จะพูดใส่เขา
แน่นอน ไม่อย่างนั้นฉันจะอยู่แต่บ้านตลอดทำไม? หลิวหยิงพูดอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าตอนนี้ เธอจะไม่มีอารมณ์ออกไปข้างนอกเลย แต่ว่า ได้อยู่ในบ้านเป็นเพื่อนแม่ เธอก็เต็มใจที่จะไม่ออกไปข้างนอก สองสามวันนี้ แม่มักจะพูดถึงเรื่องตอนเด็กๆตลอด ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย และทุกวันทุกมื้อ แม่ก็มักจะเปลี่ยนเมนูต่างๆทำให้เธอกิน หลิวหยิงรู้สึกว่า กำลังจะถูกเลี้ยงจนอ้วนแล้ว ชีวิตที่สบายแบบนี้ ทำให้เธอเริ่มขี้เกียจ ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น ถ้าไม่ใช่ซือถูมู่หรงมา เธอเดิมทีก็ไม่คิดว่าตัวเองไม่ได้ออกไปไหนมากี่วันแล้ว
ซือถูมู่หรงกำลังจะโกรธ หลิวหยิงทำไมถึงพูดแบบนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย? ไม่ออกไปข้างนอก ไม่ใช่เพื่อหลบเขา แต่เพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนในบ้านคนนั้น ถ้าอย่างนั้นพวกเขาอยู่บ้านทำอะไรทั้งวัน? สองคน อยู่ในห้องติดต่อกันสองสามวัน จะทำอะไรได้? ซือถูมู่หรงอดไม่ได้ที่จะถามหลิวหยิง เธอไม่สนใจตัวเองจริงๆใช่ไหม สักนิดก็ไม่มีเลยหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมถึงยั่วโมโหเขาแบบนี้ ไม่นึกถึงความรู้สึกของเขาเลยสักนิด?
คุณแคร์คนที่อยู่ในห้องขนาดนั้นเลยเหรอ? น้ำเสียงของซือถูมู่หรงเย็นชา กลับมีความรู้สึกได้รับบาดเจ็บ เขายอมให้หลิวหยิงเพื่อหลบเขาถึงไม่ออกไป มากกว่าให้เธอเพื่ออยู่เป็นเพื่อนคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม!
ใช่ ฉันแคร์เธอมาก เพื่อเธอ ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น! หลิวหยิงไม่ได้ถอยแม้แต่น้อย คนที่อยู่ในห้อง คือแม่ของเธอ คนที่ให้กำเนิดเธอเลี้ยงดูเธอ เป็นคนที่เธอจะไม่มีวันละทิ้งตลอดชีวิตแน่
ซือถูมู่หรงมองหลิวหยิง สีหน้าท่าทางเธอเย็นชา สีหน้าเคร่งขรึม ไม่ได้อารมณ์เสียแม้แต่น้อย คนที่อยู่ในห้อง สำหรับหลิวหยิง สำคัญมากจริงๆ สำคัญจน เพื่อเขา หลิวหยิงก็ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น? แม้แต่ชีวิตก็ไม่เอาหรอ?
ซือถูมู่หรงทันใดนั้นก็นึกถึงวันนั้น หลิวหยิงถามเขา ว่าจะพิสูจน์ว่ารักเธออย่างไร? เพราะงั้น…เพราะหลิวหยิงสามารถสละชีวิตเพื่อคนที่เธอรักได้ ถึงถามเขา? กระแนะกระแหนแบบนี้หรอ?
หลิวหยิง ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่าให้ผมรู้ว่ามีผู้ชายคนอื่นอยู่ข้างกายคุณ ผมอดไม่ได้ที่จะอยากฆ่า ซือถูมู่หรงมองหลิวหยิงอย่างหดหู่ คำพูดที่เขาเคยพูด ไม่อนุญาตให้หลิวหยิงลืม ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นคำพูดที่สำคัญขนาดนี้ หรือจะบอกว่า… หลิวหยิงยอมตายไปพร้อมกันกับคนคนนั้น? หัวใจของซือถูมู่หรงอดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดขึ้นมา หลิวหยิงจะตอบว่ายังไงนะ?