ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน - บทที่ 1679 หนูทำให้แม่ผิดหวังรึเปล่า
หลิวหยิงไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้มากเลยจริงๆ เธอไม่อยากเก็บเด็กคนนี้ไว้ แต่ว่าก็จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ และสุดท้ายคนที่ต้องเจ็บที่สุด ก็ต้องเป็นเด็กคนนี้อย่างแน่นอน เด็กน้อยผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แต่เธอกลับเอาอคติของตัวเองไปแปะไว้ที่เขา เกินไปแล้ว แต่ว่าในใจของหลิวหยิง มันก็มีความเคียดแค้นอยู่จริงๆ
คุณหมอหวางมองดูสีหน้าที่ขุ่นเคืองของหลิวหยิงแล้วเธอก็ส่ายหน้า ผู้ชายกับผู้หญิงเวลาตกหลุมรักกันมากๆ มีใครบ้างที่ไม่เดินทางผิด ต่างก็เดินทางผิดกันทั้งนั้น และเธอ ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย
หลิวหยิงกลับบ้านด้วยความงงงวย พอเห็นคุณแม่หลิวที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่นั้น ก็ได้แต่ยืนร้องไห้ไม่มีเสียงอยู่ตรงนั้น คุณแม่หลิวตกใจและรีบเดินเข้ามาในทันที เธอกอดหลิวหยิงเอาไว้ เป็นอะไรไป หยิงเอ๋อร์ มีอะไรเหรอลูก?
หลิวหยิงเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด เหมือนกับว่าไม่รับรู้ถึงโลกภายนอกเลย คุณแม่หลิวกอดเธอเอาไว้แน่น เวลาที่เธอมาที่นี่ หลิวหยิงร้องไห้ตั้งหลายครั้ง เดิมอารมณ์ก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว สามารถสูญเสียการควบคุมอารมณ์ได้ง่าย ตอนนี้มีลูกขึ้นมา อารมณ์ของเธอก็ยิ่งควบคุมยากขึ้นไปใหญ่ ตอนนี้หลิวหยิงไปได้รับการกระตุ้นอะไรมาอีกกันล่ะ?
ไม่รู้ว่าร้องไห้อยู่นานแค่ไหนกว่าหลิวหยิงจะหยุด เธอร้องไห้ตลอดเวลา คุณแม่หลิวก็ไม่ได้ไปรีบร้อนถามเธอ ได้แต่รอให้อารมณ์ของเธอคงที่ขึ้น จนสีหน้าของหลิวหยิงเริ่มจะสงบลง คุณแม่หลิวถึงได้พาเธอกลับไปที่ห้อง
หยิงเอ๋อร์ แม่อยู่นี่เอง ต่อให้ฟ้าพังทลายลงมา แม่ก็จะอยู่ข้างหน้าลูกและช่วยแบกมันเอาไว้ คุณแม่หลิวมองไปที่หลิวหยิงด้วยความเจ็บปาด ได้แต่ทำให้เธอรับรู้ว่ายังมีแม่คอยอยู่ตรงนี้
ให้เธอรู้ว่ามีคนอยู่รอบข้างเธอเสมอ และเธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
แม่ หนู…… หลิวหยิงพูดอะไรไม่ออก เธอเจ็บปวดหัวใจเหมือนกับว่ามีคนคอยเอามีดแทงเข้ามาไม่หยุด เธอนึกว่ามันจะจบลงแล้ว แต่ที่แท้มันกลับกลายเป็นแค่จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม เหมือนกับแค่ย้ายมาอยู่กรงอื่นเท่านั้นเอง ถ้ายังงั้น เมื่อไหร่กันที่เธอจะสามารถหนีออกไปได้อย่างแท้จริง? เมื่อไหร่กัน เธอถึงจะไม่ต้องมีความสัมพันธ์อะไรที่เกี่ยวข้องกับซือถูมู่หรงอีกแล้ว?
หยิงเอ๋อร์ ไม่เป็นไรนะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร แม่ก็สามารถรับได้ทั้งนั้น หลิวหยิงลูบผมของหลิวหยิง ผมของเธอยาวแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการดูแลดีๆ เส้นผมไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อน ผมที่ตอนแรกอ่อนนุ่มก็เริ่มหยาบกร้าน ก็เหมือนชีวิตที่สงบสุข เมื่อมีคลื่นลูกใหญ่เกินขึ้น ก็ละเอียดและน่ารำคาญเหมือนกับเส้นผมนั่นแหละ
แม่ หนูกำลังคิดว่าจะเอาเด็กคนนี้ออกดีไหม หลิวหยิงขยับเข้าไปในอ้อมแขนของคุณแม่หลิว แล้วก็กดตัว นี่เป็นท่าทางที่สามารถปกป้องได้มาก เหมือนกับอยู่ในท้องของแม่ หดตัวเองให้เล็กโดยอัตโนมัติ ป้องกันทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายนอก
คุณแม่หลิวใจเต้นในทันที ดูท่าทางหลิวหยิงจะรู้แล้ว และกลัวว่าถ้าเกิดว่าเอาเด็กออก จะได้รับความเสียหายมากขึ้นกว่าเดิม หยิงเอ๋อร์ถึงได้ลังเล ถ้าเกิดว่ามองจากมุมเธออย่างเดียว แน่นอนว่าเธอไม่อยากให้หลิวหยิงคลอดเด็กคนนี้ออกมา แต่ว่า ถ้าเกิดว่ามองจากมุมของคนเป็นแม่ เธอก็ยังคงรอคอยการมาถึงของหลานชายหรือว่าหลานสาวคนนี้อยู่ เรื่องที่หลิวหยิงเป็นกังวลอยู่นั้น เธอก็คาดเดาได้ในใจแล้ว แต่ว่า เธอกำลังพยายามยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าเธอระแวง หรือว่าหวาดกลัวกันแน่?
หยิงเอ๋อร์ ถ้าเกิดจะบอกว่าแม่ไม่แคร์เลยแม้แต่นิดเดียว นั่นมันก็เป็นไปไม่ได้หรอกนะ เพราะถึงยังไง พ่อของเด็กคนนี้ก็คือคนที่ทำให้สามีของแม่ต้องตาย แต่ว่า แม่รักลูกมากกว่า เด็กคนนี้ไร้เดียงสา ถ้าเกิดว่าลูกเลือกที่จะคลอดเขาออกมา แม่ก็รับได้เหมือนกัน และแม่ก็จะรักเขาเหมือนกับที่รักลูก คุณแม่หลิวพูดช้าๆ ขอแค่เด็กคนนี้ไม่ต้องโตมาหน้าเหมือนซือถูมู่หรงมาก เธอก็สามารถยอมรับเด็กด้วยความอุ่นใจและเลี้ยงดูให้เขาเติบโตขึ้น
แม่ หนูเอาเขาออกไม่ได้ หมอบอกว่า ถ้าเกิดว่าหนูเอาเด็กคนนี้ออก ต่อไปจะไม่สามารถมีลูกได้อีกแล้ว หลิวหยิงน้ำตาคลอเบ้า เธอไม่รู้ว่ามันคือธรรมชาติของคนเป็นแม่ และอีกอย่าง เพียงเพราะเด็กคนนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองไม่ได้สามารถรับได้เรื่องที่เธอจะไม่สามารถมีลูกอีก สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว มันโหดร้ายจนเกินไป เธอรอคอยวันที่จะได้มีลูก มันคือความต่อเนื่องของชีวิตเธอ ถ้าเกิดว่าไม่มี เธอก็จะเสียใจไปตลอดชีวิต
คุณแม่หลิวไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ เธอมองไปที่หลิวหยิง สายตาดูซับซ้อน ถ้าเกิดว่าตัดสินใจจะไม่มีลูกอยู่แล้ว จะสามารถมีลูกได้หรือไม่ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ว่า หยิงเอ๋อร์นั้นไม่เหมือนกัน เธอคาดหวังกับครอบครัวมาก ถ้าเกิดว่าไม่มีลูก สำหรับเธอแล้วนั้นมันโหดร้ายเกินไป!คุณแม่หลิวรู้ดี ว่าจำเป็นต้องเก็บเด็กคนนี้เอาไว้
หยิงเอ๋อร์ พวกเราเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เถอะ คลอดเขาออกมา แม่คิดว่านะ เด็กคนนี้ต้องหน้าตาเหมือนลูกแน่เลย ต้องเป็นลูกสาวที่แสนสวย หรือไม่ก็ลูกชายสุดหล่อ แม่ก็อายุมากแล้ว ถึงเวลาที่ต้องมีเด็กน้อยมาทำให้มีความสุขแล้ว แล้วอีกอย่าง ลูกดูฉิงฉิงสิ ตอนนี้ลูกเธอห้าขวบเข้าไปแล้ว ตอนนี้ลูกกับเธอในตอนนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรกันนักหรอก และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ลูกยังมีแม่อยู่ด้วยนะ มีคนในครอบครัวคอยสนับสนุน มันก็ควรจะยอมรับได้มากขึ้นไม่ใช่เหรอ? คุณแม่หลิวปลอบใจหลิวหยิง เธอรู้ดีว่า หลิวหยิงชอบเวินลั่วฉิง และในขณะเดียวกันก็อิจฉาที่เวินลั่วฉิงมีลูกที่น่ารักตั้งสองคน ถ้าเกิดว่าให้เธอเป็นเหมือนเวินลั่วฉิง เธอก็จะพยายามทำมันจนได้
แต่ว่า หนูไม่สามารถรับเด็กคนนี้ได้เลย เวลามองเขา หนูก็จะนึกถึงซือถูมู่หรง แล้วก็นึกถึงที่ซือถูมู่หรงทำกับพวกเรา หลิวหยิงกอดตัวเองให้แน่นขึ้น สถานการณ์ของเวินลั่วฉิงในตอนนั้น เธอเองก็รู้ดี ใช่ เธอมีความสุขกว่าเวินลั่วฉิงตั้งเยอะแล้ว ตอนนี้ เธอมีครอบครัวของตัวเองอยู่ข้างๆ แถมยังสามารถรับในตัวของเด็กคนนี้ได้อย่างง่ายด้วย แล้วยังมีอะไรให้ต้องเก็บมาใส่ใจอีกล่ะ? แต่ว่า ปมที่อยู่ในใจของเธอนั้น ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถปล่อยวางลงได้เลย
ไม่มีทางหรอก คุณแม่หลิวอ่อนโยน แล้วก็ลูบหลิวหยิงเบาๆ ลูกน่ะนะ ก็จะค่อยๆ เติบโตขึ้นช้าๆ ตอนนี้เขาอยู่ในท้องของลูกเงียบๆ รู้แค่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นแม่คนแล้ว แต่ไม่เพียงเท่านี้ พอเด็กน้อยโตขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกของลูกก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน ตอนสี่เดือนลูกก็จะเริ่มดิ้นได้แล้ว เขาอยู่ในร่างกายของคุณ เหยียดแขนของเขา ขยับขาของเขา ลูกไม่สามารถรู้สึกถึงการมีอยู่ของเขาตลอดเวลาหรอก พอถึงเวลา ลูกก็จะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ และชอบเด็กคนนี้ขึ้นเรื่อยๆ คุณแม่หลิวพูดช้าๆ ตั้งแต่ตอนที่ลูกเริ่มดิ้น เด็กคนนี้ ก็ผูกพันกับคนเป็นแม่แล้ว เธอจะสามารถรู้สึกได้ตลอดเวลา ว่าในร่างกายของตัวเองนั้นมีชีวิตน้อยๆ อยู่อีกชีวิตหนึ่ง เธอจะสามารถสัมผัสได้ถึงการขยับเขยื้อนของเขา แม้แต่ความทุกข์และความสุขของเขา แล้วจะยิ่งรู้สึกไม่อยากปล่อยมือจากเขามากขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ว่าทำไมยิ่งเอาเด็กออกไปได้เร็วยิ่งดี เมื่อรู้สึกว่ามีเด็กที่ใกล้ชิดกับตัวเอง ก็จะรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงการดำรงอยู่ของเขา และก็จะไม่อยากปล่อยมือจากเขา
หลิวหยิงได้แต่ฟังเงียบๆ มันจะเป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ? ตอนที่เธอสามารถรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของเด็กคนนี้ เธอจะรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ งั้นเหรอ?
หยิงเอ๋อร์ ลูกลองคิดดูนะ เด็กคนนี้จะอยู่ในท้องของลูกสิบเดือน สิบเดือนนี้ เขาจะเชื่อมโยงเข้ากับชีวิตของลูก มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด การกระทำของลูกจะส่งผลกระทบถึงเขา และการกระทำของเขา ลูกก็จะรับรู้เหมือนกัน แล้วจะไม่สนใจเขาได้ยังไงกันล่ะ? เขาก็คือตัวลูกอีกคนหนึ่งนะ คุณแม่หลิวเห็นว่าหลิวหยิงไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ก็เลยพูดต่อ ตอนนั้น ตอนที่แม่ตั้งท้องลูก ลูกไม่เชื่อฟังเลยแม้แต่นิดเดียว ก่อกวนเยอะมาก ตอนนั้นแม่ทั้งอาเจียนและท้องร่วง เจ็บปวดมาก แม่จะทนต่อความเจ็บปวดแบบนี้ได้ที่ไหนกัน ถ้าเกิดว่าเป็นคนอื่น แม่ต้องเกลียดเขาไปแล้วแน่ๆ แต่ว่าคนคนนั้นเป็นลูก แม่สามารถรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของลูกอย่างชัดเจน ดังนั้น แม่จะยอมปล่อยมือได้ยังไงกันล่ะ? ลูกรู้ไหม ตอนนั้นแม่นะ ดุลูก แล้วก็รู้สึกเจ็บปวดกับลูกในเวลาเดียวกัน ตอนเด็กยังวุ่นวายขนาดนั้น แล้วโตมาจะขนาดไหน
หลิวหยิงถูกดึงดูดด้วยคำพูดของคุณแม่หลิวโดยไม่รู้ตัว ตอนนั้นที่ตั้งท้องเธออย่างนั้นเหรอ? เรื่องที่ผ่านมาตั้งนานหลายปีขนาดนั้น ทำไมแม่ถึงได้จำชัดเจนขนาดนี้?
ตอนที่ลูกขยับได้ แม่ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับทั้งคืน เอาแต่คิดว่า จะเป็นเด็กผู้ชายหรือว่าเด็กผู้หญิง ถ้าเกิดว่าเป็นเด็กผู้ชาย จะต้องมีจิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จะต้องมีความรับผิดชอบ แม่จะส่งเขาเข้าเรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด แม่หวังว่าในอนาคตเขาจะสามารถเรียนธุรกิจเพื่อบริหารบริษัทของครอบครัวได้ และก็หวังว่าเขาจะหล่อเหลา จะได้แต่งงานกับลูกสะใภ้ดีๆ คุณแม่หลิวพูดแล้วก็ยิ้มออกมา
ถ้าเกิดว่าเป็นลูกสาว เธอก็จะต้องหน้าตาดีหน่อย เหมือนกับเจ้าหญิง แม่จะสอนเธอร้องเพลงและเต้น ให้เธอเรียนเปียโน เรียนวาดรูป เป็นผู้หญิงที่ทั้งสวยและยอดเยี่ยม ลูกไม่รู้หรอกว่า ตอนนั้นแม่คิดเยอะแค่ไหน เอาแต่คิดอยู่ตลอดว่า เด็กคนนี้โตขึ้นมาจะเป็นยังไง แม่จะสอนเขายังไง ในอนาคตเขาจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมรึเปล่า นี่มันคงเป็นสิ่งที่แม่ทุกคนคาดหวัง อยากให้ลูกชายเป็นมังกร และลูกสาวเป็นนกฟินิกซ์ล่ะมั้ง คุณแม่หลิวพูด ค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มที่ชวนให้นึกถึงอดีต เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และตอนนี้เธอยังจำมันได้ดี
หลิวหยิงหน้าตาเศร้าหมอง เธอ ทำให้แม่ต้องผิดหวังรึเปล่า? แม่อยากได้ลูกสาวที่ดีและประสบความสำเร็จ แต่ว่าเธอ……ไม่ใช่แบบนั้นเลย