ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 327 สิ่งล่อตาล่อใจที่นำไปสู่หายนะ
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 327 สิ่งล่อตาล่อใจที่นำไปสู่หายนะ
บทที่ 327: สิ่งล่อตาล่อใจที่นำไปสู่หายนะ
น…นี่มันคืออะไรกันแน่ ? มีอะไรที่น่ารักขนาดนี้บนโลกด้วยงั้นเหรอ ?
นั่นเป็นความคิดเพียงอย่างเดียวที่หลงเหลืออยู่ภายในจิตใจของลิเลียน ขณะที่เธอกำลังจ้องไปที่เด็กชายที่นอนหมดสติอยู่ในอ้อมแขน
เขามีผิวที่เนียนเรียบ ขนตายาวระยิบระยับ ริมฝีปากเล็กเหมือนเชอร์รี่ หูเล็ก ๆ หนึ่งคู่ ผมยาวสลวย และใบหน้าที่ละเอียดอ่อน ร่างกายของเขานุ่มและน่ากอดอย่างไม่น่าเชื่อ จนเกือบจะเหมือนตุ๊กตาผ้าตัวเล็ก ๆ
แค่มองที่เด็กน้อยคนนี้ก็ทำให้หัวใจของลิเลียนเต้นระรัว เขาน่ารักมากจนเธออยากจะกอดเขาให้หนำใจ แต่ในไม่ช้าเธอก็หลุดออกจากภวังค์
“ไม่จริงน่า โรเอลกลายเป็นเด็กได้ยังไงกัน ? นี่มัน…”
เมื่อนึกถึงสถานการณ์อันผิดธรรมชาติในปัจจุบัน ลิเลียนก็ตกอยู่ในความสับสน
แม้ว่ารูปร่างหน้าตาและอายุของเขาจะเปลี่ยนไป แต่ลิเลียนก็มั่นใจว่าเด็กน้อยในอ้อมแขนของเธอคือโรเอล แอสคาร์ด ความมั่นใจของเธอมาจากการสั่นพ้องทางพลังสายเลือด แม้ว่ามันจะอ่อนแอมากจนแทบจะสัมผัสไม่ได้ก็ตาม !
ลิเลียนพยายามจะทำความเข้าใจกับเหตุการณ์อันแปลกประหลาดนี้
โรเอลกลายเป็นเด็ก ? นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ?
คาถาเวทย์มากมายหลายรูปแบบถูกสรรค์สร้างขึ้นโดยผู้มีพลังเหนือธรรมชาติในประวัติศาสตร์อันยาวนานของทวีปเซีย แต่มีเพียงไม่กี่คาถาเท่านั้นที่จะมีผลกระทบกับห้วงมิติหรือระยะเวลาชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นผลของคาถา หรือผลข้างเคียงของมันก็ตาม ลิเลียนเคยได้ยินเกี่ยวกับคาถาเวทย์ที่มีผลข้างเคียงในการเร่งอายุให้เร็วขึ้น แต่เธอยังไม่เคยเห็นคาถาเวทย์ที่ทำให้อายุลดลงได้มาก่อน
พลังของศิลาแห่งมงกุฎนั้นเหนือกว่าจินตนาการของเธอไปมาก
ลิเลียนหลับตาเพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนเริ่มตรวจดูสภาพของโรเอล
แทบไม่มีการไหลเวียนของพลังเวทย์ใด ๆ แผ่ออกมาจากตัวเขา แม้ว่าพลังทางสายเลือดของเขาจะยังคงปรากฏอยู่ แต่มันก็อยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุดเท่าที่เคยมีมา สัญญาณเหล่านี้บ่งบอกว่าโรเอลได้สูญเสียความสามารถในฐานะผู้มีพลังเหนือธรรมชาติของเขาไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าเขาได้ถอยกลับสู่วัยเด็กไปแล้วจริง ๆ
ที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ไม่มีรู้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพนี้ไปอีกนานแค่ไหน
“…”
ลิเลียนเงียบไปครู่ใหญ่ ๆ
นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก ทว่าลางสังหรณ์ของเธอกลับบอกว่านี่ยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
ความผิดปกติอย่างหนึ่งที่ลิเลียนสังเกตเห็นก็คือเธอถูกดึงดูดเข้าหาโรเอลอย่างไม่อาจต้านทานได้ และต้องการจะเข้าใกล้เขาให้มากที่สุด ราวกับเสพติดเขา แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ผลของการสั่นพ้องของพลังสายเลือด ด้วยที่พลังทางสายเลือดของโรเอลนั้นอ่อนแอลงมามาก ทำให้การสั่นพ้องเองก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน
มีรายละเอียดสำคัญบางอย่างที่ลิเลียนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับสภาพนี้ของโรเอล
โรเอลไม่เพียงแค่ตัวเล็กลงเท่านั้น รูปร่างที่เหมือนเด็กนี้เกิดจากการถดถอยของอายุ… แต่นี่เป็นผลข้างเคียงทั้งหมดจริง ๆ งั้นหรือ ? ทำไมเรารู้สึกว่ายังมีบางอย่างที่อันตรายกว่านั้นซ่อนอยู่อีก…
ลิเลียนพยายามจะแตะแก้มของโรเอลเบา ๆ แต่ทันทีที่นิ้วของเธอสัมผัสกับผิวอันบอบบางของเขา เธอก็รู้สึกได้ถึงความเบิกบานใจที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย มันยากที่จะอธิบายความรู้สึกนี้ได้อย่างถูกต้อง แต่มันทำให้เธอรู้สึกมีกำลังใจและกระฉับกระเฉงมากขึ้น
มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้ลิเลียนมึนเมา จนเธอกระหายในตัวของเขามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งดึงเธอเข้าไปหาโรเอล
เด็กสาวขมวดคิ้วอย่างสับสน พยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในใจของเธอ ทำให้เธอเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
“เดี๋ยวก่อน หรือว่า… เขากำลังมีสภาวะเวลารั่วไหล ?”
ดวงตาสีอเมทิสต์ของลิเลียนหรี่ลงด้วยความสยดสยอง ใบหน้าของเธอซีดลงอย่างน่ากลัวภายในไม่กี่วินาที ทำให้ริมฝีปากของเธอก็สั่นเทาอย่างสั่นกลัว
นี่มันแย่กว่าที่เราคิดไว้ซะอีก !
แค่คิดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสิ่งนี้ ก็ทำให้ลิเลียนมีลางสังหรณ์อันน่าสะพรึงกลัวผุดขึ้นมาในหัว
สภาวะเวลารั่วไหล หมายความว่าเขากำลังย้อนเวลาของสรรพสิ่งรอบตัว ลิเลียนไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผลกระทบนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวหรือถาวร แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไร มันจะต้องนำมาสู่หายนะเป็นแน่
หากจะมีความสามารถใดบนโลกนี้ ที่ทำให้ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติทั้งหมดต้องโหยหาตาเป็นมัน ก็คงจะเป็นความสามารถในการฟื้นฟูความอ่อนเยาว์
แม้แต่ในทวีปเซียอันลึกลับ ที่ซึ่งสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ มันก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไม่สามารถทำได้ไม่ว่าพวกเขาจะมีพลังมากเพียงใดก็ตาม นั่นก็คือการหลบหนีจากความชรา ไม่ว่าจะเป็นนักรบ นักบุญ ผู้ทรยศ หรือจักรพรรดิ พวกเขาล้วนเท่าเทียมกันเมื่ออยู่ต่อหน้ากาลเวลา
แม้แต่สิ่งมีชีวิตในตำนานที่ขึ้นชื่อเรื่องอายุขัยอันยืนยาว เช่นเผ่าพันธุ์มังกรและยักษ์ก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่กาลเวลาที่ดำเนินไปอย่างไม่หยุดยั้ง
สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีอายุสั้นแล้ว ความปรารถนาที่จะมีชีวิตอันยืนยาวก็ยิ่งแรงกล้าขึ้นไปอีก หากมีโอกาสแล้วล่ะก็ พวกเขาหลายคนก็พร้อมที่จะยอมทำบาปเพื่อแลกกับอายุขัยที่ยืนยาวขึ้น
และโอกาสนั้นก็เพิ่งปรากฏขึ้นในอ้อมกอดของลิเลียน
ใครก็ตามที่สัมผัสกับเด็กหนุ่มผู้งดงามแต่ไร้ซึ่งอำนาจคนนี้ คนผู้นั้นจะสามารถฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ได้ !
ไม่มีสิ่งใดจะล่อตาล่อใจไปยิ่งกว่านี้อีกแล้ว ลิเลียนนึกภาพออกได้ในทันทีว่าเหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ของจักรวรรดิออสทีนจะคลั่งไคล้แค่ไหนหากพวกเขารู้ถึงเรื่องนี้ !!
ต่อหน้าโอกาสที่จะได้ฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ แม้แต่เพื่อนสนิทที่สุดก็ยังพร้อมที่จะขัดแย้งห้ำหั่นกันเอง
แม้พลังสายเลือดของตระกูลแอสคาร์ดจะทรงพลังมาก แต่โรเอลก็ยังไปไม่ถึงศักยภาพสูงสุดของมัน ต่อให้เป็นโรเอลในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดก็คงไม่อาจจะสามารถต่อสู้กับกลุ่มอำนาจที่เพ่งเล็งเขาได้ แน่นอนว่าคงไม่ต้องพูดถึงสภาพที่อ่อนแอของเขาในตอนนี้
ถ้าโรเอลถูกจับตัวไปโดยกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่พร้อมจะใช้ยาและคาถาเวทย์ควบคุมเขาแล้วล่ะก็ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็อาจเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
“…ไม่ได้การแล้ว ! เราต้องห้ามไม่ให้ใครรู้ถึงเรื่องนี้โดยเด็ดขาด !”
ความคิดดังกล่าวทำให้มือของลิเลียนสั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนก เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างรวดเร็วเพื่อบังคับตัวเองให้สงบลง
พวกเขาไม่สามารถอยู่ในสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากที่นี่มีผู้คนมากเกินไปที่จดจำโรเอลได้ ยิ่งไปกว่านั้นลิเลียนจำได้อย่างชัดเจนว่าโรเอลเคยบอกกับเธอว่าลัทธิสังเวยโลหิตเป็นเพียงหนึ่งในลัทธิชั่วร้ายมากมายที่แทรกซึมเข้ามาในสถาบัน
แต่เราจะหนีไปที่ไหนได้ล่ะ ?
ลิเลียนมีพระราชวังมากมายภายใต้อาณัติของเธอ แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเช่นกัน มีสายตามากมายที่มองมาที่เธอ และหนึ่งในนั้นคือจักรพรรดิลูคัส
และเขาเป็นคนที่ไม่ควรได้รับรู้ถึงสภาพนี้ของโรเอลมากที่สุด
ตามหลักแล้วลิเลียนควรจะขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ใหญ่แอนโตนิโอ แต่ทันทีที่เธอได้รู้เกี่ยวกับสภาพของโรเอล เธอก็ต้องปัดเป่าความคิดนั้นทิ้งไปในทันที
สี่ร้อยปีเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน และมนุษย์เองก็มักจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามสภาพแวดล้อมของพวกเขา ลิเลียนไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่า ‘ผู้พิทักษ์’ แอนโตนิโอจะยังเป็นคนที่น่าเชื่อถืออยู่หรือไม่ นอกจากนี้ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้นจนชราภาพของเขา ย่อมหมายความว่าโอกาสที่จะได้ฟื้นคืนสู่วัยเยาว์ ยิ่งเป็นสิ่งเร้าที่น่าดึงดูดสำหรับเขาด้วยเช่นกัน
ราชาจอมเวทย์พริสเลย์ถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับกรณีนั้น มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถโอนเอนเมื่อต้องเผชิญกับการล่อลวงได้ แน่นอนว่าคงเป็นเรื่องโง่ที่จะมองโลกในแง่ร้ายว่ามนุษย์ทุกคนเป็นเหมือนพริสเลย์ แต่ลิเลียนก็ไม่อยากจะเสี่ยงชีวิตของโรเอลไปกับความเป็นไปได้ที่ไม่แน่นอน
นอกจากนี้ด้วยเหตุผลดังกล่าว ลิเลียนก็ได้ตัดทั้งนอร่าและชาร์ล็อตทิ้งออกจากตัวเลือกไปด้วย
แม้ว่าเด็กสาวทั้งสองคนไม่น่าจะคิดร้ายใด ๆ ต่อโรเอล แต่คนในตระกูลของพวกเขานั้นแตกต่างกันออกไป ปู่ของนอร่า พระสังฆราชจอหน์แห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิทเองก็อยู่ในวัยที่ชราภาพมากแล้ว และตระกูลโซโรฟยาเองก็มีผู้อาวุโสมากมายในตระกูลเช่นกัน
ตามข้อมูลที่ลิเลียนได้รวบรวมเอาไว้ก่อนหน้านี้ เด็กสาวทั้งสองคนต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลของพวกเธอ ถ้าวันหนึ่งผู้อาวุโสในตระกูลของพวกเธอวิงวอนขอ ‘ยืม’ โรเอลเพื่อยืดอายุขัยของพวกเขาแล้วล่ะก็ พวกเธอจะสามารถปฏิเสธพวกเขาได้จริง ๆ งั้นเหรอ ?
ไม่ ! พวกเขาไม่มีทางทำได้แน่ !
ตระกูลแอคเคอร์มันน์เป็นตระกูลเลือดเย็นที่พร้อมจะฆ่ากันเองเพื่ออำนาจ สายสัมพันธ์เครือญาติไม่มีความหมายในหมู่พวกเขา ทำให้ลิเลียนไม่ลังเลที่จะก่อกบฏต่อองค์จักรพรรดิลูคัสผู้เป็นบิดา หากอีกฝ่ายต้องการจะให้เธอมอบโรเอลให้กับเขา
แต่นอร่าและชาร์ล็อตนั้นแตกต่างกัน
เหตุผลเดียวกันนี้ยังสามารถนำไปใช้กับเพื่อนพ้องของโรเอลได้ด้วยเช่นกัน
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว มีเพียงคนเดียวที่ลิเลียนเชื่อใจได้ก็คือตระกูลแอสคาร์ด แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ไกลเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นสถานะผู้เฝ้ามองได้สอนให้เธอรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของตระกูลแอสคาร์ด นั่นก็คือพวกเขามักจะถูกจับตาดูอยู่ตลอดเวลา
หากการคาดเดาของลิเลียนถูกต้องล่ะก็ น่าจะมีกองกำลังมากมายคอยจับตาดูพวกเขาอยู่ตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนนี้
เราควรจะทำอย่างไรดี… ?
ลิเลียนมองดูเด็กชายในอ้อมแขนของเธอด้วยสีหน้ากังวล แม้พวกเขาจะอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ แต่เด็กสาวกลับรู้สึกราวกับว่าไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขาเลย
ห้องเก็บไวน์ถูกปกคลุมด้วยความเงียบ
เธอมองไปที่โรเอลฟังเสียงหายใจของพวกเขาที่สั่นพ้องกัน ก่อนจะสงบสติอารมณ์ของเธอลงอย่างช้า ๆ
สถานการณ์ปัจจุบันนี้สิ้นหวังแล้วงั้นหรือ ?
สำหรับคนอื่น ๆ คงเป็นแบบนั้น
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ลิเลียนได้ก้าวข้ามสถานการณ์อันสิ้นหวังมากกว่านี้มาแล้ว เธอคือคนที่เคยรวบรวมความกล้าเข้ายืนหยัดอย่างไม่เกรงกลัวต่อหน้าราชาจอมเวทย์พริสเลย์
…คิดว่าสภาพในปัจจุบันของพวกเขาจะเทียบกับสถานการณ์นั้นได้งั้นหรือ ?!!
“ถ้าหาจุดหมายที่ปลอดภัยไม่ได้ เราก็แค่เดินทางต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอมันก็พอ” ลิเลียนกล่าวอย่างแน่วแน่ ขณะที่เธอลุกขึ้นยืนพร้อมกับอุ้มโรเอลไว้ในอ้อมแขน
เด็กสาวเขียนข้อความบนผนัง แจ้งสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการพิเศษว่ายังมีศัตรูที่ต้องไล่ตามอยู่ หลังจากนั้นเธอก็อัญเชิญจอมเวทย์ชุดแดงขึ้นมาสิบคน ชี้ไปที่เพดานเหนือหัวพวกเขาแล้วออกคำสั่ง
“ระเบิดมันแล้วเปิดทางให้กับฉัน !”