ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 343 จะไม่มีใครอยู่ได้อย่างไร (1)
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 343 จะไม่มีใครอยู่ได้อย่างไร (1)
บทที่ 343: จะไม่มีใครอยู่ได้อย่างไร? (1)
ในอดีตชาติของโรเอล มีคำพูดอันโด่งดังประโยคหนึ่งในหมู่ทหาร
ไม่มีปืน ? ไม่มีปืนใหญ่ ? ไม่มีปัญหา ศัตรูของเรากำลังสร้างพวกมันให้เรา !!
โรเอลได้รับแรงบันดาลใจจากความกล้าหาญและการมองโลกในแง่ดีนี้ ทำให้เขาตัดสินใจเรียนรู้จากจิตวิญญาณของมัน แม้ว่าจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย
ไม่มีม้า ? ไม่มีรถม้า ? ไม่มีปัญหา ระบบจะหามาให้เราเอง !!!
โรเอลนั่งบนท่อนซุงหน้ากองไฟ เขามองไปยังกองทัพอัศวินสิงโตที่กำลังลาดตระเวนในบริเวณใกล้เคียง ขณะนี้พวกเขากำลังพักผ่อนจากการเดินทางอยู่ และลิเลียนก็ได้ออกไปล่าหาอาหาร ทำให้เขามีเวลาให้กับตัวเอง
โดยส่วนตัวแล้วเด็กชายคิดว่าเขาอดทนกับระบบมามากแล้ว แม้ว่ามันจะเป็นเหมือนสกิลโกง แต่มันก็มักจะไร้ประโยชน์ เมื่อใดก็ตามที่อยู่ภายในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง นอกจากนี้ยังเรียกเก็บเงินด้วยค่าบริการที่สูงเกินไป อีกทั้งยังมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูงจนธนาคารที่โลภที่สุดยังต้องอับอาย
ถึงกระนั้น โรเอลก็ไม่เคยหรืออย่างน้อยก็แทบจะไม่ได้บ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาตรง ๆ แต่คราวนี้สิ่งต่าง ๆ นั้นแตกต่างไปจากเดิม
“นรกเอ้ย ! คราวนี้แกไม่สามารถตรวจจับผลข้างเคียงของผู้กลืนกินกาลเวลาได้ด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้แกยังจะเหลือประโยชน์อะไรบ้างเนี่ย ?”
โรเอลคำรามใส่ระบบ
เมื่อรับรู้ถึงความโกรธที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของผู้ใช้ ระบบก็เงียบไปครู่หนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะความละอายใจ ก่อนที่จะเสนอคำอธิบายในที่สุด
【การวิเคราะห์ที่ล่าช้า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อต้องรับมือกับปัจจัยที่เกี่ยวกับการละเมิดกฎของกาลอวกาศ หรือผลกรรม ระบบขอความเข้าใจจากผู้ใช้】
ความเข้าใจ ? ฝันไปเถอะ ! ทำไมฉันถึงต้องพยายามเข้าใจแก ในเมื่อฉันวางแผนที่จะโกงแกกลับ ?
เช่นเดียวกับที่นักเล่นเกมที่ไม่พอใจ เมื่อต้องสูญเสียอุปกรณ์หายากอันเนื่องมาจากข้อบกพร่องของเกม และพร้อมจะเรียกร้องค่าชดเชยสำหรับการสูญเสียของตน โรเอลเองก็มุ่งมั่นที่จะทวงคืนค่าชดเชยจากระบบเช่นกัน ทำให้ทัศนคติของเขายิ่งมีพลังมากขึ้น
แกไม่รู้เหรอว่า มันเป็นมารยาทที่จะต้องแสดงความจริงใจ เมื่อขอความเข้าใจจากคนอื่น ?
โรเอลเหลือบมองที่ส่วนลด 50% ที่เสนอโดยเหตุการณ์【สถานะผู้เฝ้ามอง 400 ปีก่อน】และเยาะเย้ยอย่างเย็นชา
“นี่คือทั้งหมดที่แกเสนอให้กับฉัน หลังจากที่แกทำให้ฉันตกต่ำงั้นเหรอ ? นี่มันยังไม่พอหรอก เพิ่มเปอร์เซ็นต์ส่วนลด หรือหาวิธีอื่นเพื่อชดเชยให้ฉันซะ !”
【…】
ทัศนคติที่ครอบงำของโรเอลทำให้ระบบเงียบลงอีกครั้ง มันใช้เวลาสักครู่ก่อนที่จะตอบกลับ
【โลกถูกควบคุมโดยกฎแห่งเหตุและผล รวมถึงหน้าที่ของระบบ ระบบไม่สามารถสร้างแต้มความสนใจจากอากาศบาง ๆ ได้ และเหรียญทองที่ระบบยึดเองก็จะถูกจัดสรรกลับคืนสู่โลกเช่นกัน ระบบไม่สามารถให้ค่าชดเชยแก่ผู้ใช้ในด้านดังกล่าวได้】
【อย่างไรก็ตาม จากความเห็นอกเห็นใจสำหรับสถานการณ์ที่ผู้ใช้กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ระบบทำการเปิดกิจกรรมอื่นให้】
【อนุสรณ์การเดินทางของเจ้าตัวน้อย
ลดราคาสินค้าภายในร้านค้ากิจกรรมทั้งหมด 50% (สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดอื่น ๆ ได้)】
หืม ? ซ้อนทับกันได้ ส่วนลด 50% กับ ส่วนลด 50% หมายความว่าเป็นส่วนลด 75% สำหรับสินค้าในร้านค้ากิจกรรมงั้นสินะ ?
ความโกรธของโรเอลลดลงหลังจากที่ได้เห็นสิ่งที่ระบบเสนอให้
พูดตามตรง โรเอลแค่ลองกลยุทธ์นี้ดู และไม่คิดว่ามันจะได้ผลจริง ๆ เขารู้ว่าระบบนี้ดื้อรั้นมากเพียงใด อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกอันเฉียบแหลมในการเจรจาต่อรองที่ได้รับมาจากประสบการณ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองได้บอกโรเอลว่า เขายังสามารถผลักดันมันต่อเพื่อให้เกิดข้อตกลงที่ดีขึ้นได้ !
หากอีกฝ่ายเต็มใจที่จะทิ้งผลประโยชน์นี้ได้โดยไม่ลังเล ก็หมายความว่ามันยังไปไม่สุด และยังมีที่ว่างให้ต่อรองเหลืออยู่ !
“แค่นี้เองเหรอ ? มีงานกิจกรรมที่มาพร้อมส่วนลด 50% ตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ แกคิดว่าจะสามารถปลอบโยนฉันได้ด้วยส่วนลดเพิ่มขึ้นมาอีกแค่ 25% จริง ๆ งั้นเหรอ ? นั่นคือความจริงใจทั้งหมดที่แกมีงั้นสิ ?”
โรเอลถามอย่างฉงน
เขามองไปยังระบบด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยการดูถูก ราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นเศษขยะ
ระบบพยายามที่จะโต้แย้งโดยบอกว่ามันเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดแล้ว แต่เสียงร้องที่ไม่พอใจของโรเอล และการดูถูกเหยียดหยามนั้นยากเกินกว่าจะเพิกเฉย มันมักจะเบี่ยงเบนข้อเรียกร้องของเขาด้วยการเทศนา แต่มันไม่อยู่ในตำแหน่งที่จะเทศน์แบบนั้นแล้ว เนื่องจากความล้มเหลวของมันในครั้งนี้ ท้ายที่สุดมันจึงยื่นข้อเสนอสุดท้ายอย่างโกรธเคือง
【การตามล่าอันแสนอันตราย
เปลวเทียนในยามราตรี และใบไม้ที่เหี่ยวเฉาร่วงหล่นบนน้ำค้างแข็ง การไล่ตามแห่งความตายได้เริ่มต้นขึ้นภายใต้ความเยือกเย็นนี้ สิ่งเดียวที่จะช่วยปลอบประโลมได้คือเสียงคอของศัตรูที่หักลง ลดราคาสินค้าภายในร้านค้ากิจกรรมทั้งหมด 50% (สามารถใช้ร่วมกับส่วนลดอื่น ๆ ได้)】
“ค่อยดีขึ้นหน่อย อย่างน้อย ๆ ก็ลดได้ 87.5% …เดี๋ยวนะ !”
โรเอลกำลังจะฉลองความสำเร็จในการต่อรอง แต่เมื่อชื่อ ‘การตามล่าอันแสนอันตราย’ จมลงในความคิด เขาก็หดตัวด้วยความสยดสยอง
“การตามล่าอันแสนอันตราย ? นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ? เฮ้ ระบบ? เฮ้ !”
โรเอลเรียกร้องคำอธิบายจากระบบอย่างใจจดใจจ่อ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีก เมื่อเห็นว่าระบบไม่มีทีท่าว่าจะพูดอะไร เขาจึงอ่านคำอธิบายของกิจกรรมอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เพื่อสรุปว่าเกิดอะไรขึ้น
ใบหน้าของเด็กชายค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้น ทั้งชื่อและคำอธิบายของเหตุการณ์บอกเป็นนัยได้ถึงสิ่งหนึ่ง… สิ่งที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น !!
โรเอลไม่เคยคิดว่าการหลบหนีของพวกเขาจะสงบสุข เมื่อพิจารณาจากตัวตนของพวกเขาแล้ว ย่อมต้องมีผู้ที่หวังจะไล่ตามมาแน่ คล้ายกับที่นอร่าและอลิเซียตามล่าเขา หรือก่อนหน้านี้ตอนที่ชาร์ล็อตลักพาตัวเขาไปที่สมาคมพ่อค้าโรซ่า
อย่างไรก็ตามกลุ่มค้นหาเหล่านั้นไม่น่าจะเชื่อมโยงกับคำว่า ‘มรณะ’ ได้ ผู้ไล่ตามที่กล่าวถึงในระบบจึงน่าจะหมายถึงคนอื่น
อาจหมายถึงนักฆ่าที่องค์ชายอีกสองคนของจักรวรรดิออสทีนส่งมาเพื่อกำจัดรุ่นพี่ ในขณะที่เธออยู่คนเดียวรึเปล่า ?
ไม่ นั่นมันก็ฟังดูไม่ถูกต้องเท่าไหร่ อุปกรณ์เวทย์เกี่ยวกับการสื่อสารมีขีดจำกัด และพวกเราก็เพิ่งหายจากสถาบันการศึกษามาแค่วันเดียวเอง มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่องค์ชายทั้งสองจะได้รับข่าวนี้
ถ้าเป็นเช่นนั้น เหตุการณ์นี้อาจหมายถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้รึเปล่า ?
โรเอลครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้นี้พร้อมขมวดคิ้ว แต่เขาก็ปฏิเสธความเป็นไปได้นั้นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ไม่ ! ระบบบอกว่ามันมีปัญหาในการประมวลผลเกี่ยวกับอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับกาลอวกาศ ฉะนั้นมันก็ไม่น่าที่จะมีพลังในการทำนายอนาคตนี่นา
นั่นหมายความว่าอันตรายกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้งั้นเหรอ ?!
…ค่าตอบแทนที่แท้จริงของระบบอาจจะไม่ใช่ส่วนลดเพิ่มเติม 50% แต่เป็นการเปิดเผยข้อมูลว่าใครบางคนกำลังจับตามองพวกเขาอยู่ และได้ส่งนักฆ่าเล็งมาที่ศีรษะของเราแล้วสินะ ?
“…”
โรเอลจ้องไปที่กองไฟข้างหน้าตน ก่อนจะตกอยู่ในห้วงความคิดอันลึกล้ำ เขาเริ่มหวนนึกถึงศัตรูที่เป็นไปได้ทั้งหมด และจำกัดวงผู้ต้องสงสัยที่อาจเป็นไปได้ให้แคบลง จนในที่สุดเด็กชายก็เหลือผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียว
“ภาคีแห่งนักบุญงั้นเหรอ ?”
โรเอลต้องเผชิญกับการลอบสังหารจากกลุ่มลัทธิชั่วร้ายหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่การที่ระบบถึงกับเปิดตัวกิจกรรมเฉพาะเจาะจง แสดงให้เห็นว่าครั้งนี้ระดับมันแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
มันเป็นเรื่องบังเอิญมากเกินไปสำหรับศัตรูของโรเอลที่จะจู่โจมเขาทันทีหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากผลข้างเคียงจากคาถาเวทย์ผู้กลืนกินกาลเวลา เด็กชายจึงเชื่อว่าเหตุที่ศัตรูของเขากำลังติดตามอยู่ในตอนนี้… เป็นเพราะอีกฝ่ายรู้ว่าตนเองอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ
ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว มีเพียงคนกลุ่มเดียวที่รู้ว่าตัวเขานั้นกำลังอยู่ในสภาพที่อ่อนแอ ซึ่งก็คือภาคีแห่งนักบุญ ผู้บูชามารดาแห่งเทพธิดา และหกภัยพิบัติ
นั่นคือกลุ่มคนเสียสติที่โรเอลไม่อยากเผชิญหน้ามากที่สุดในตอนนี้ !!