ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 345 ฉันเริ่มเสียใจแล้ว
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 345 ฉันเริ่มเสียใจแล้ว
บทที่ 345: ฉันเริ่มเสียใจแล้ว
สามวันต่อมา ณ สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า เด็กสาวสองคนได้มานั่งอยู่ใต้ต้นไม้เขียวชอุ่มพร้อม ๆ กัน โดยแต่ละคนถือจดหมายที่มีลายมือเหมือนกันเอาไว้ในมือ ทั้ง ๆ ที่วันนี้นั้นเป็นวันที่มีแดดจ้ามาก แต่ทั้งสองคนกลับตัวสั่นด้วยใบหน้าอันซีดเซียว
“ถึงฝ่าบาทนอร่า ด้วยความเคารพ ฉันกำลังเขียนจดหมายฉบับนี้เพื่อแจ้งให้ท่านทราบว่า โรเอล แอสคาร์ด ได้ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลือของเขากับลิเลียน แอคเคอร์มันน์ องค์หญิงของจักรวรรดิออสทีน ที่กำลังตั้งท้องอยู่…”
ที่ด้านหนึ่งของโต๊ะน้ำชา นอร่าอ่านจดหมายนิรนามที่ส่งมาถึงเธอในตอนเช้าด้วยเสียงอันเยือกเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพูดคำว่า ‘กำลังตั้งท้องอยู่’ เพื่อตอบสนองต่ออารมณ์อันรุนแรงของเธอ แสงสีทองอันเจิดจ้าจากพลังเวทย์เริ่มแผ่ออกมาเริ่มปกคลุมร่างกาย
นอร่าไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนมัน แต่ความตั้งใจของอีกฝ่ายนั้นชัดเจน ผู้เขียนกำลังบอกเธอว่าโรเอลหนีตามกันไปกับลิเลียน ด้วยความหวังที่จะโน้มน้าวให้เธอละทิ้งความรู้สึกที่มีต่อเขา การกระทำดังกล่าวทำให้นอร่าขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก
แต่ถึงแม้ว่าเด็กสาวจะดูเหมือนโกรธจัด แต่ความโกรธนั้นไม่ใช่อารมณ์เดียวที่เธอรู้สึก ลึก ๆ ลงไปแล้ว นอร่าก็รู้สึกวิตกและหวาดกลัวด้วยเช่นกัน
แม้ว่านอร่าจะเชื่ออย่างแรงกล้าว่าเนื้อหาของจดหมายนี้เป็นเรื่องโกหก แต่ผู้เขียนก็ดูมั่นใจไม่แพ้กัน ยิ่งไปกว่านั้นการที่โรเอลและลิเลียนไม่อยู่มาเป็นเวลาสามวันแล้ว ก็ยิ่งทำให้คำกล่าวอ้างของผู้เขียนน่าเชื่อถือขึ้น ความคิดที่ว่าเธอจะต้องสูญเสียบางสิ่งที่ครอบครองอยู่ทำให้เด็กสาวสั่นสะท้าน
ไม่นานมานี้ พวกเขาได้ยินจากคริส ไวลด์ อาจารย์ของโรเอลว่าเธอได้รับจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของลิเลียน เพื่อแจ้งให้ทราบว่าพวกเขากำจัดพวกลัทธิชั่วร้ายได้สำเร็จแล้ว แต่พวกเขากำลังออกเดินทางเพื่อทำภารกิจก่อนจะกลับไปที่สถาบันการศึกษา
ทั้งสองคนคิดว่ามีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โรเอลนั้นมีเรื่องยุ่งมากมายอยู่แล้ว จนยากที่จะจินตนาการว่าเขาจะไปรับภาระผูกพันอะไรเพิ่มเติม แต่พวกเธอก็ไม่ได้กังวลเพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
จนกระทั่งเมื่อจดหมายนี้ถูกส่งมาถึงมือพวกเธอ ทำให้ความกลัวของทั้งสองปะทุขึ้นอย่างแท้จริง
โรเอลและลิเลียนกำลังหนีไปด้วยกัน ?
ไม่มีทางที่นอร่าจะเชื่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว ในฐานะคนที่โตมาด้วยกันกับโรเอล เธอรู้จักเขาเป็นอย่างดี เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาห่วงใยเพื่อความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยังมีอลิเซียรออยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด
แม้นอร่าเกลียดที่จะยอมรับมัน แต่โรเอลเป็นพวกเสพติดน้องสาวขนานหนัก มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะละทิ้งน้องสาวตัวน้อยที่รักอย่างสุดซึ้ง เพื่อผู้หญิงที่เขาเพิ่งได้พบเมื่อสองเดือนก่อน
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง นอร่าคงชนะใจเขาไปนานแล้ว
…แต่ทว่าต้องไปลืมว่าโรเอลยังเป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูลแอสคาร์ด และเขาก็รักพ่อของเขามาก ซึ่งตระกูลแอสคาร์ดได้รับความทุกข์ทรมานจากการขาดแคลนลูกหลานอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน จึงอาจทำให้พวกเขาพร้อมที่จะผลัดดันให้มีการรวมตัวระหว่างโรเอลกับลิเลียนก็เป็นได้ !
ถ้าลิเลียนอยู่ในการคำนวณของพวกเขาล่ะก็นะ …
“เจ้าคิดว่าข้าจะหวั่นไหวกับข่าวลือพรรค์นี้งั้นหรือ ? ประเมินข้าต่ำเกินไปแล้วลิเลียน แอคเคอร์มันน์ ! พวกเราต้องเคลื่อนไหวเดี๋ยวนี้ ชาร์ล็อต ! ข้าต้องการคาถาเวทย์ทำนายของเจ้า… ชาร์ล็อต ?”
นอร่าลุกขึ้นยืนและเสนอความร่วมมือให้กับเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายกำลังตกอยู่ในอาการงุนงง
ใบหน้าของชาร์ล็อตซีดราวกับกระดาษขาว ร่างกายของเธอสั่นเทิ่มไปมา ต่างจากนอร่าปฏิกิริยาของเธอไม่ได้เกิดจากความโกรธเกรี้ยว แต่เป็นบาดแผลในใจ
มันเป็นการบอบช้ำที่เกิดจากการได้เห็นการแต่งงานอันอับโชคของหญิงสาวตระกูลโซโรฟยานับครั้งไม่ถ้วน
คุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดความภักดีของตระกูลโซโรฟยา ทำให้ลูกหลานของพวกเขาต้องอุทิศตนให้กับคู่สมรสอย่างเต็มที่ หากพวกเขาไม่สามารถได้รับความรักจากคนที่ตนได้อุทิศตนให้ พวกเขาจะต้องตกสู่ความทุกข์ไปตลอดชีวิต ชาร์ล็อตได้เห็นเหล่าป้า ๆ ของเธอทุกข์ทรมานด้วยความทุกข์ระทมมามากเกินไปจนฝังใจ แม้ว่าเธอต้องการที่จะมีครอบครัว เธอก็กลัวมันมากเช่นกัน
มุมมองของชาร์ล็อตที่มีต่อการแต่งงานเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากได้พบกับโรเอล
ชาร์ล็อตอาจดูเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและสงบสุขมากที่สุดในหมู่เด็กสาวที่โรเอลเข้าไปพัวพัน แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนที่ขาดความรู้สึกปลอดภัยมากที่สุด เด็กสาวรู้ดีตามหลักเหตุผลว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่โรเอลจะหันหลังให้กับเธอในทันทีทันใด แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงความเป็นไปได้ที่แย่ที่สุด
มีตัวอย่างมากมายรอบตัว จนเธอสามารถจินตนาการได้อย่างง่ายดายว่าจะเกิดอะไรขึ้น …หากเนื้อหาของจดหมายนั้นเป็นความจริง
“ชาร์ล็อต ? ทำไมเจ้ายังเสียเวลามองไปที่สิ่งนั้นอีก ? เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่ามันเป็นเรื่องโกหก !”
นอร่าอุทานพร้อมขมวดคิ้ว
“เนื้อหาของจดหมายอาจเป็นเรื่องโกหกก็จริง แต่คุณไม่คิดว่ามันแปลกงั้นเหรอคะ ? ทำไมที่รักถึงจากไปกับผู้หญิงคนนั้นโดยไม่บอกอะไรกับพวกเราเลยล่ะ ? นอกจากนี้เขาเลือกที่จะเข้าหาเธอคนนั้นเพื่อโจมตีพวกลัทธิชั่วร้ายอีกด้วย ความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้ชิดแบบที่พวกเราคิดงั้นเหรอ ?”
ชาร์ล็อตตอบด้วยเสียงที่แหบแห้ง
“… เจ้ากำลังพยายามจะสื่ออะไร ?”
“ม… มันก็ผ่านมาสองสามวันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นอาจจะทำสำเร็จแล้ว บางทีสิ่งที่เธอต้องการอาจจะเป็น… เราอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้”
“เจ้าจะบอกว่าเราไม่ควรทำอะไรเลยงั้นเหรอ ?”
“…”
เมื่อเห็นการยืนยันแบบเงียบ ๆ จากชาร์ล็อต นัยน์ตาสีไพลินของนอร่าพลันเบิกกว้างอย่างเจิดจ้า เธอเหม่อออกไป คว้าปกเสื้อของชาร์ล็อตไว้และดึงตัวอีกฝ่ายขึ้นอย่างแรง
“รู้ตัวไหมว่าเจ้าพูดอะไรออกมา ! ไม่นึกเลยว่าข้าจะนับคนอ่อนแออย่างเจ้าเป็นคู่แข่ง !”
“สายเกินไป ? เจ้าจะรอคอยในหอคอยงาช้าง เพื่อให้เจ้าชายขี่ม้าขาวมาหารึไง ? ไร้สาระสิ้นดี ทั้งหมดที่เจ้ากำลังพ่นออกมาก็แค่ข้อแก้ตัว เจ้าแค่กลัวที่จะพบกับผู้หญิงคนนั้น กลัวที่จะแพ้ให้กับเธอ !”
“เมื่อหลายร้อยปีก่อน บรรพบุรุษของเจ้าแล่เนื้อของตัวเองในเมืองโรซ่าเพื่อเป็นอาหารให้แก่ทหารของพวกเขา แต่เจ้าลองมองดูความขี้ขลาดของตัวเองสิ เจ้าไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับเด็กสาวคนหนึ่งด้วยซ้ำ บรรพบุรุษของเจ้าคงจะเดือดดาลอยู่ในหลุมศพของพวกเขาแน่ ๆ!
“ถ้าอยากเล่นบทเป็นเด็กสาวผู้ทนทุกข์ก็ตามใจ อย่าหวังว่าข้าจะเล่นบทนนั้นร่วมกับเจ้าเลย… ข้าเดาว่าความรู้สึกทั้งหมดของเจ้าก็คงมีแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าเจ้าตั้งใจจะยอมแพ้ง่าย ๆ เท่านี้”
“!”
คำพูดเยาะเย้ยของนอร่าส่งเสียงสั่นสะเทือนไปทั่วร่างของชาร์ล็อต เมื่อมองไปที่นอร่า ดวงตาสีมรกตของเธอก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนความชัดเจนกลับมาตามปกติ ส่วนนอร่าก็ปล่อยมือที่ปกเสื้อของชาร์ล็อตแล้วจึงถอยออกไปหนึ่งก้าว
“ลาก่อน ชาร์ล็อต”
องค์หญิงแห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิทกล่าวอำลาผู้ท้าชิงคนแรกที่ตกรอบในการต่อสู้เพื่อความรักครั้งนี้ หันหลังกลับเพื่อลาจากอีกฝ่าย ทว่าหลังจากที่เธอเดินออกไปไม่กี่ก้าว เด็กสาวก็รู้สึกได้ถึงพลังเวทย์อันรุนแรงที่ปะทุออกมาจากด้านหลัง
“!”
นอร่าที่กำลังประหลาดใจที่หันศีรษะกลับไปรอบ ก่อนจะพบกับกลุ่มดาวอันเจิดจ้า มันคือเทพีแห่งโชคชะตา ตราชั่งที่เทพธิดาถืออยู่ในมือของเธอเอียงไปข้างหนึ่งอย่างท่วมท้น เนื่องจากเหรียญที่ถูกขว้างออกไป
ชาร์ล็อตฟื้นคืนสติได้หลังจากการตำหนิของนอร่า เธอจึงตัดสินใจที่จะเดิมพันทุกอย่างเพื่อร่ายคาถาเวทย์ทำนายระดับสูงสุด
เมื่อสมดุลแห่งโชคชะตาเปล่งประกายด้วยความเจิดจ้าที่เพิ่มขึ้น ภาพต่าง ๆ ก็เริ่มกะพริบในดวงตาของชาร์ล็อต
“เมืองทางเหนือ ตรานี้ ไม่ผิดแน่ มันคือ เขตการปกครองของดยุกเอิร์ลโบรวล์ !”
“อะไรนะ ?”
“พวกเขากำลังไปที่เขตการปกครองของดยุกเอิร์ลโบรวล์ !”
ชาร์ล็อตมองดูชะตากรรมของโรเอลและทำนายจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ เธอกำหมัดแน่นด้วยความปั่นป่วนในใจ และเดินเข้าไปหานอร่า
“คุณพูดถูกนอร่า มันมีบางอย่างผิดปกติ ที่รักกำลังเผชิญกับปัญหาบางอย่าง ! ในตอนที่พยายามมองดูชะตากรรมของเขา ดิฉันไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของเหล่าทวยเทพโบราณเลย นี่หมายความว่าหน้าต่างแห่งการเชื่อมต่อกับกรันด้าและเปตราถูกตัดขาด !”
“หน้าต่างเชื่อมต่อกับเทพเจ้าโบราณถูกตัดขาด ? นี่มัน… เดี๋ยวก่อนนะ ผลข้างเคียงของสถานะผู้เฝ้ามองอย่างนั้นเหรอ !”
“ใช่แล้วค่ะ ที่รักต้องถูกลักพาตัวไปแน่ องค์หญิงออสทีนที่ป่าเถื่อนคนนั้นต้องลักพาตัวเขาไปแน่ ๆ!”
“…”
เดี๋ยวก่อนนะ ชาร์ล็อต เจ้าเองก็เคยทำแบบเดียวกันมาแล้วครั้งนึงไม่ใช่รึไง ?
เปลือกตาของนอร่าเบิกกว้าง ประทับใจกับการที่ชาร์ล็อตฟื้นคืนสติกลับมาได้ จนไม่ได้รู้สึกตัวถึงคำพูดที่ย้อนแย้งกับการกระทำในอดีตของตัวเธอเองเลยสักนิด อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงสภาพที่โรเอลเป็นอยู่ในขณะนี้ เธอก็ตกอยู่ในห้วงความคิดลึก ๆ อย่างรวดเร็ว
“แบบนี้ คงจะเป็นการดีที่สุดถ้าพวกเราจะเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ โรเอลมีศัตรูมากมายเกินไป เราไม่สามารถบอกให้พวกเขารู้ได้ว่าเขากำลังอ่อนแอ”
นอร่ากล่าว
“ใช่แล้ว คุณพูดถูกค่ะ พวกเราจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด พาเฉพาะคนที่คุณไว้ใจได้ไปเท่านั้น”
ชาร์ล็อตตอบ
ด้วยการพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม นอร่ารีบออกจากร้านกาแฟกลางแจ้งอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวก่อน คุณนอร่า”
“หืม ?”
นอร่าหันกลับมาทางชาร์ล็อตที่กำลังลังเลด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ
“ที่คุณพูดออกมาก่อนหน้านี้ ขอบคุณมากค่ะ”
“…”
ดวงตาสีไพลินของนอร่าเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เธอนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบอย่างเชื่องช้า
“ข้าแค่พูดในสิ่งที่อยากจะพูดเท่านั้น การที่เจ้าจะตั้งสติกลับมาได้ไหม มันก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นอกจากนี้…”
นอร่าหันหลังให้ชาร์ล็อตก่อนจะพึมพำพร้อมกับถอนหายใจ
“… ข้าชักจะเริ่มเสียใจขึ้นมาแล้วสิ”