ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 365 การพบพานที่ไม่คาดคิด
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 365 การพบพานที่ไม่คาดคิด
บทที่ 365: การพบพานที่ไม่คาดคิด
ทันทีที่ฟรานซิสลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า และปลดปล่อยการโจมตีครั้งสุดท้ายเพื่อสังหารโรเอล ชาร์ล็อตก็รู้สึกได้ถึงหัวใจของตนที่เต้นแรงด้วยความกระสับกระส่าย เธอรับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าบางอย่างที่เลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
ตระกูลโซโรฟยาเป็นตระกูลที่มีความสัมพันธ์กับโชคชะตามากที่สุด และชาร์ล็อตเองก็ถือเป็นอัจฉริยะในหมู่พวกเขาทั้งหมด ในฐานะผู้สืบทอดพลังสายเลือดเทพีแห่งโชคชะตา เธอมักจะมีลางสังหรณ์เมื่อใดก็ตามที่อันตรายกำลังจะเกิดขึ้น
ชาร์ล็อตรู้สึกได้ถึงพลังทางสายเลือดที่กำลังสั่นอย่างรุนแรง ในตอนที่ฟรานซิสมองลงมาที่โรเอล คำแนะนำแห่งโชคชะตากำลังเตือนเธอถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ไปลงนรกซะโรเอล แอสคาร์ด !”
หลังจากแผดเสียงโหยหวนแห่งความพยาบาท ฟรานซิสก็ได้ปลดปล่อยหมอกวิญญาณร้ายออกมาระเบิดร่างกายของเขาไปพร้อม ๆ กัน
ด้วยที่มีความคุ้นเคยกับคาถาเวทย์ประเภทคำสาป ชาร์ล็อตจึงสามารถคาดเดาความคิดของฟรานซิสได้ในทันที
“ที่รัก !”
ชาร์ล็อตกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
เธอรีบควบคุมโดมจิตวิญญาณทองคำรอบ ๆ โรเอล อย่างรวดเร็ว เด้งตัวเขาออกไปให้ห่างจากจุดระเบิด การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันนี้ทำให้โรเอลจมลงไปในกำแพงของจิตวิญญาณทองคำ
จากนั้นการไล่ล่าระหว่างม่านทรงกลมสีทองกับหมอกสีดำก็เริ่มต้นขึ้น
จิตวิญญาณทองคำของชาร์ล็อตเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว ภายใต้การเติมพลังเวทย์ของเธอ แต่เมื่อมันอยู่นอกขอบเขตที่กำหนด เธอก็ไม่สามารถส่งพลังเวทย์ให้กับมันได้อีก ทำให้มันค่อย ๆ ตกลงกับพื้นและเริ่มกระเด้งไปมา ความเร็วของมันช้าลงเรื่อย ๆ ภายใต้แรงเสียดทานและแรงต้านของอากาศ
วิญญาณสีทองนั้นทั้งหนักและเทอะทะ ทำให้ผลของการไล่ล่าถูกตัดสินไปตั้งแต่เริ่มแล้ว
เพียงไม่กี่วินาที หมอกแห่งวิญญาณร้ายก็เข้ามาถึงตัวโรเอล ทว่าก่อนที่มันจะห่อหุ้มร่างของเขาเพื่อปิดฉาก จู่ ๆ พลังเวทย์อันลึกลับก็กระเพื่อมออกมาจากเสื้อผ้าของเด็กชาย
【ข้าวสาลีศักดิ์สิทธิ์
จำนวนครั้งในการใช้ที่ยังเหลืออยู่ : 1】
“นี่มัน…”
โรเอลตกตะลึงกับการแจ้งเตือนของระบบที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นก็เกิดความปั่นป่วนรุนแรงจนทำให้เขากระแทกไปรอบ ๆ รูปร่างกลม ๆ ของวิญญาณทองคำ
มันเป็นประสบการณ์ที่สับสนจนโรเอลสงสัยว่าวิญญาณนำทางของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า รู้สึกแบบเดียวกันรึเปล่าตอนที่หมุนวนไปมา แม้แต่ในช่วงที่มีการกระแทกอย่างแรง เขาก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะมองไปรอบ ๆ และทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
โรเอลถูกสะท้อนออกจากอาคารหนึ่งไปอีกอาคารหนึ่ง ก่อนจะถูกห้อมล้อมโดยหมอกสีดำอีกครั้ง แต่แล้วเขาก็ชนเข้ากับหน้าต่างและกลิ้งหลุน ๆ เข้าไปในห้องห้องหนึ่ง
ปัง !
รูปร่างทรงกลมของจิตวิญญาณทองคำ กระแทกเข้ากับผนังห้องก่อนที่จะหยุดนิ่งและหมดพลังงานจลน์ ไม่กี่วินาทีต่อมา ทรงกลมก็ละลายกลายเป็นของเหลว ทำให้โรเอลเป็นอิสระ
โรเอลยกแขนขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีครั้งสุดท้ายของฟรานซิส ทว่าหมอกอันน่ากลัวนั้นกลับไม่ได้ตามเขาเข้ามาในห้องด้วย
มันถูกปิดกั้นเอาไว้โดยเกราะพลังเวทย์อยู่นอกหน้าต่าง
ปึง !
เกราะพลังเวทย์สามารถหยุดหมอกสีดำ ซึ่งสูญเสียพลังไปมากหลังจากลอยมาหลายกิโลเมตรได้อย่างง่ายดาย โรเอลจ้องไปยังหน้าต่างที่กำลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ ตรงหน้าเขาอย่างว่างเปล่า พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำความเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
มีเกราะเวทย์ป้องกันที่นี่อยู่ แถมยังเป็นเกราะเวทย์นี้มีพลังในการเบี่ยงเบนการโจมตีของเทพเจ้าได้อีก ! นี่หมายความว่าเรารอดแล้วงั้นเหรอ ?
โรเอลรู้สึกซาบซึ้งมากที่ตนเองรอดมาได้ เขาหันไปทางระบบด้วยดวงตารื้นหยาดน้ำใส
ดูเหมือนว่าฉันจะเข้าใจแกผิดไปสินะระบบ ! ข้าวสาลีศักดิ์สิทธิ์ช่างเป็นอุปกรณ์เวทย์ที่สุดยอดจริง ๆ !
โรเอลขอโทษต่อระบบ พร้อมสาบานว่าจะซื้อสินค้าชิ้นนี้อีกครั้ง เมื่อได้เห็นมันในร้านแลกเปลี่ยนแต้มความสนใจ ต่อให้มันจะไม่ได้ลดราคาอยู่ก็ตาม และแล้วหลังจากผ่านพ้นวิกฤติไปได้ ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ สงบลง
“ที่นี่มัน…”
โรเอล สำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวโดยหวังว่าจะได้รู้ตำแหน่งของตนเอง ทว่ากลับสบตาเข้ากับดวงตาสีชมพูคู่หนึ่งเสียก่อน ทำให้เขาต้องเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
มีใครคนอื่นอยู่ที่นี่งั้นเหรอ ?!
โรเอลรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะมองอย่างระมัดระวังอีกครั้ง
ปัจจุบันเขาอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจง โดยมีโต๊ะน้ำชาอยู่ไม่ไกลนักพร้อมเด็กสาวผมสีชมพูที่ถือกาน้ำชาอยู่ในมือ เธอมีการแต่งกายและการเคลื่อนไหวที่สง่างามแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่คนธรรมดา ๆ สามัญทั่ว ๆ ไป
นอกจากนี้ยังมีอัศวินหุ้มเกราะเต็มตัวยืนอยู่ข้างหลังเธออย่างเงียบ ๆ
…
“…”
“…”
โรเอลจ้องไปที่คู่หูตรงหน้าโดยไม่พูดอะไร เขาไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริง ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
การปรากฏตัวของคู่หูที่ด้านหน้าของโรเอลนั้นแปลกประหลาดเกินไป ไม่ว่าจะเป็นอัศวินที่สวมเกราะเต็มตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าแม้จะอยู่ในห้อง หรือเด็กสาวที่มีสีผมผิดปกติ
มีคนมากมายหลากหลายเชื้อชาติบนทวีปเซีย ส่งผลให้มีสีผมหลากหลาย เด็กสาวทั้งสี่คนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโรเอลเองก็มีสีผมแตกต่างกันไป แต่ถึงกระนั้นผมสีชมพูก็ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไม่ปกติ
สีผมของมนุษย์โดยดั้งเดิมที่สุดน่าจะเป็นสีดำ หรืออย่างน้อยนั่นก็คือสิ่งที่ตระกูลแอคเคอร์มันน์ อดีตผู้ปกครองของมนุษยชาติกล่าวอ้าง สีผมและม่านตาที่สดใสมักแสดงถึงพลังทางสายเลือดพิเศษบางอย่างหรือการกลายพันธุ์เหนือธรรมชาติที่ผิดปกติ ยกตัวอย่างเช่น ชาร์ล็อต สายเลือดไฮเอลฟ์ของเธอทำให้สีผมของเธอมีเฉดสีน้ำตาลแดงเป็นมัน
แค่เด็กสาวผมสีชมพูก็เป็นเรื่องประหลาดมากแล้ว แต่ร่างในชุดเกราะที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอยิ่งทำให้โรเอลตกใจมากขึ้นไปอีก เหตุผลนั้นง่ายมากเขารู้จักอีกฝ่ายนั่นเอง
นั่นมัน วิลเลียมหนึ่งในเพื่อนร่วมกลุ่มของตัวเอกในเกมไม่ใช่เหรอ ?
โรเอลขุดค้นความทรงจำของตนอย่างรวดเร็ว เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับร่างในชุดเกราะจากเกมอายออฟโครนิเคิล
วิลเลียม แคมบอนไนต์ เกิดในอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์ เป็นบุตรบุญธรรมของราชวงศ์แคมบอนไนต์ แห่งเพนเดอร์ ในเกมอายออฟโครนิเคิล หมอนั่นย้ายมาที่สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่า ในช่วงชั้นปีที่สอง ดูเข้ากันได้ดีกับตัวเอกพอล แอคเคอร์มันน์ และเป็นสมาชิกของชมรมรับจ้างสารพัดด้วยเช่นกัน
เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้กัน ? อ่า เดี๋ยวก่อนนะ…
โรเอลมองไปที่วิลเลียมในชุดเกราะเต็มตัว ตามด้วยเด็กหญิงผมสีชมพู ทันทีที่แสงออโรร่าสีชมพูปรากฏขึ้นนอกหน้าต่าง เขาก็กระแทกกำปั้นลงบนฝ่ามืออย่างเข้าใจ
อา วิลเลียมคงจะมาที่นี่เพื่อดูแสงออโรร่ากับแฟนสาวของเขาสินะ อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ ถึงมันจะค่อนข้างน่าแปลกใจที่พวกเราบังเอิญมาเจอกันที่นี่ก็เถอะ…
เมื่อรู้ว่าคู่หูตรงหน้าไม่น่าจะเป็นศัตรู โรเอลก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากำลังจะขอโทษแล้วเดินออกไป ทว่าจู่ ๆ เสียงก็ดังก้องออกมาจากร่างในชุดเกราะ
“ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ โรเอล แอสคาร์ด ไม่เคยคิดเลยว่าพวกเราจะได้พบกันในโอกาสเช่นนี้ นี่เป็นเจตจำนงของสวรรค์งั้นหรือ ?”
“!”
ประโยคนั้นทำให้ร่างกายของโรเอลนิ่งงันไปในทันใด