ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局 - บทที่ 386 เธอคนนี้พอจะสื่อสารได้
- Home
- ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END 恶役少爷不想要破灭结局
- บทที่ 386 เธอคนนี้พอจะสื่อสารได้
บทที่ 386: เธอคนนี้พอจะสื่อสารได้
โรเอลค่อย ๆ เดินออกจากสำนักธุรการพร้อมกับไม้เท้าอสรพิษเก้าหัวในมือ เขานึกถึงสายตาที่อธิบายไม่ถูกของแอนโตนิโอก่อนหน้านี้ มันทำให้เขาอดที่จะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่ได้
แม้ว่าจะเป็นเพียงการคาดเดา แต่โรเอลก็รู้สึกว่าแอนโตนิโอกำลังปิดบังความจริงบางอย่าง อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะไม่คิดเกี่ยวกับมันต่อ
ไม่มีทางที่โรเอลจะหวังให้แอนโตนิโอซื่อสัตย์ด้วย เนื่องจากทั้งคู่ยังขาดความไว้วางใจต่อกันอยู่
ถึงอย่างนั้นโรเอลก็ยังถือว่าการพบกันครั้งแรกระหว่างพวกเขานั้นประสบความสำเร็จ การที่เขาได้รับความปรารถนาดีจากแอนโตนิโอ และข้อมูลต่าง ๆ ถือเป็นโบนัสที่คาดไม่ถึง นอกจากนี้มันคงจะโลภเกินไปที่จะคาดหวังไปมากกว่านี้
หลังจากเดินออกจากอาคารสำนักธุรการ โรเอลก็ได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมมาจากถนนย่านการค้าที่อยู่ใกล้เคียง เขาจึงเลือกที่จะเดินไปในทางตรงกันข้าม ซึ่งมีป้ายรถม้าสำหรับเดินทางไปยังคฤหาสน์สีกรมท่า อย่างไรก็ตามฝีเท้าของเด็กหนุ่มก็ต้องหยุดลงด้วยเสียงแจ้งเตือนอันคุ้นเคยจากระบบ
【กริ๊ง!】
【คำแนะนำของเทพธิดาแห่งโชคชะตา
ไปที่ถนนการค้า และซื้อน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว】
“ซื้อน้ำผลไม้สักแก้วงั้นเหรอ?”
การแจ้งเตือนแบบปุบปับนี้ทำให้โรเอลไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มเผลอเอามือลูบคอโดยไม่รู้ตัว แล้วตระหนักได้ว่าตนรู้สึกกระหายน้ำนิด ๆ
ก็จริงที่ก่อนหน้านี้โรเอลพูดคุยกับแอนโตนิโอ แต่ทั้งสองคนไม่ได้สนิทกันมากพอจะคุยกันและจิบน้ำชาไปพลาง นอกจากนั้นด้วยเนื้อหาทั้งหมดที่พวกเขาคุยกัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะคอแห้งอยู่ในที และแน่นอนว่าแอลกอฮอล์กับเนื้อแห้งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรทั้งสิ้น
โรเอลจะทนไปก่อน แล้วค่อยไปหาอะไรดื่มที่คฤหาสน์สีกรมท่าก็ได้ เพื่อที่จะได้พักผ่อนอย่างสบาย ๆ แต่การเดินเข้าไปในถนนการค้าและซื้อน้ำผลไม้เองก็ไม่ได้ยากอะไร…
เทพธิดาแห่งโชคชะตาคงไม่ได้แค่กังวลเกี่ยวกับร่างกายของเราใช่ไหมเนี่ย? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไปเข้าซื้อน้ำผลไม้ที่นั่น?
เด็กหนุ่มตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทาง ก่อนจะเดินตามฝูงชนเข้าสู่ถนนสายการค้า ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้คนแออัด
ความร้อนระอุในฤดูร้อนบรรเทาลงเพียงเล็กน้อยในตอนกลางคืน ประกอบกับนี่เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนมาเพื่อปล่อยวางจากความเหน็ดเหนื่อยในห้องเรียน คู่รักและกลุ่มเพื่อนร่วมชั้นต่างมารับประทานอาหารเย็น เดินชมร้านค้าเพื่อซื้อของที่ตนสนใจ ทำให้ร้านค้าบางแห่งใช้โอกาสนี้ในการตั้งแผงขายอาหารหน้าร้านดึงดูดฝูงชนที่ผ่านไปมา
“โอ้! มีคนเยอะกว่าที่คิดแฮะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่โรเอลประสบกับความพลุกพล่านยามราตรีของถนนการค้าช่วงฤดูร้อน ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างตื่นตาตื่นใจกับฝูงชนจำนวนมาก เด็กหนุ่มมองไปรอบ ๆ และพบกับแผงขายน้ำผลไม้ที่ตามหาอย่างรวดเร็ว น้ำผลไม้ที่จำหน่ายนั้นดูแปลกตาเป็นพิเศษ มันแยกชั้นด้วยสีที่แตกต่างกันถึงเจ็ดชั้น ทำให้มองแล้วค่อนข้างคล้ายกับค็อกเทลทาวเวอร์สีรุ้ง
มีนักเรียนหญิงกลุ่มใหญ่อยู่รอบ ๆ ร้านขายน้ำผลไม้
แม้แต่น้ำผลไม้ก็ยังมีความหรูหราในถนนย่านการค้าชั้นสูงเส้นนี้…
ขณะที่โรเอลสงสัยว่าทำไมเทพธิดาแห่งโชคชะตานำทางเขามาที่นี่ เขาก็สังเกตเห็นร่างของเด็กสาวผมสีชมพูที่คุ้นเคยยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน องค์หญิงวาจาคาถาเทเรซา
เทเรซาจ้องมองเครื่องดื่มเจ็ดสีอันสวยงามด้วยดวงตาเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าเธออยากซื้อสินค้าชิ้นนั้นมาก ๆ แต่ด้วยจำนวนฝูงชนจำนวนมากรอบ ๆ แผงน้ำผลไม้ที่บังสมุดบันทึกในมือของเจ้าตัว เลยทำให้เด็กสาวต้องถอนหายใจอย่างผิดหวัง
การที่เทเรซ่ามีอุปสรรคทางการพูดนั้น ทำให้เธอเดินเที่ยวย่านการค้าที่คึกคักในช่วงกลางคืนได้อย่างยากลำบาก ประกอบกับที่เธอไม่เต็มใจจะใช้สมุดบันทึกสักเท่าไหร่ เพราะมันอาจจะกลายเป็นการเรียกความสนใจโดยไม่จำเป็นได้ อีกทั้งเนื่องจากความขัดแย้งที่กลุ่มพวกตนมีกับโรเอลก่อนหน้านี้ นักศึกษาจากต่างอาณาจักรจึงไม่ได้มีชื่อเสียงที่ดีเท่าไหร่
เทเรซาจ้องไปที่น้ำผลไม้อย่างโหยหา แต่ก็พยายามทำใจแข็งและเดินจากไป ทว่าก่อนที่จะได้เคลื่อนไหว เธอก็ได้ยินเสียงคำถามสบาย ๆ ดังมาจากข้าง ๆ
“เป็นน้ำผลไม้ที่สวยดีนะ อยากลองมั้ย?”
เทเรซาพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
“!”
ตอนนั้นเองที่เทเรซาหลุดจากภวังค์ เธอหันหน้าขวับไปยังทิศต้นเสียง ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“สวัสดียามดึกเทเรซา บังเอิญจังนะที่เรามาเจอกันที่นี่ ช่วยรอสักพักนะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาน้ำผลไม้นั้นมาให้เอง ”
‘สวัสดี โรเอล’
‘คุณไม่จำเป็นต้องลำบากหรอก พรุ่งนี้ฉันค่อยมาที่นี่อีกครั้งก็ได้’
เทเรซาหน้าแดงด้วยความลนลานขณะที่เขียนสองประโยคนี้ขึ้นมา ก่อนจะยกสมุดจดขึ้นให้อีกฝ่ายดู โรเอลเหลือบมองที่ป้ายที่วางอยู่ข้างแผงขายน้ำผลไม้ยอดนิยมแล้วจึงพูดต่อ
“ดูเหมือนว่าน้ำผลไม้พิเศษข้างหน้าจะเป็นเมนูเฉพาะฤดูร้อนนี้ ก็เลยขายดีทุก ๆ วัน ฉันเองก็ว่าจะหาอะไรแก้คอแห้งเหมือนกัน แน่ใจนะว่าไม่อยากลองสักหน่อย?”
“…”
เทเรซามองดูฝูงชนจำนวนมากรอบ ๆ ร้านขายน้ำผลไม้ ก่อนจะตัดสินใจจรดมือลงสมุด ทว่าเขียนได้เพียงคำสองคำก็ลบทิ้ง เธอสับสนกับสถานการณ์อยู่พักใหญ่ ๆ แต่ในท้ายที่สุดด้วยสายตาอันอ่อนโยนของโรเอล เด็กสาวก็พยักหน้าตัดสินใจอย่างอาย ๆ พร้อมกับแก้มที่แดงขึ้น
โรเอลหัวเราะกับปฏิกิริยาของเทเรซาก่อนจะเบียดตัวเดินผ่านฝูงชนเข้าไป
เด็กหนุ่มใช้เวลาสั่งอยู่สักพักหนึ่ง ถึงจะเดินกลับมาพร้อมน้ำผลไม้เจ็ดสีสองแก้ว ทั้งสองนั่งที่โต๊ะยาวตัวหนึ่งข้างถนนก่อนจะลองดื่มมันดู
อย่างที่คิดไว้ของดังตามถนนการค้าไม่เคยทำให้ผิดหวัง รสชาติดีเลิศสมกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่ละชั้นของเครื่องดื่มแช่เย็นหวานนิด ๆ ปะปนกับรสชาติที่แตกต่างอื่น ๆ ที่ค่อย ๆ ผสมผสานกันอย่างช้า ๆ เพื่อให้เกิดความสดชื่น ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะเรียกมันว่าเครื่องดื่มที่แสนสมบูรณ์แบบสำหรับฤดูร้อน
“เทเรซา เธอคอแห้งง่ายรึเปล่า?”
‘ค่ะ เพราะฉันพูดอะไรไม่ได้’
“ขอโทษด้วย”
‘ไม่เป็นไร ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะ’
เทเรซาโบกมือให้กับคำขอโทษของอีกฝ่ายอย่างลนลาน ความเขินอายฉายชัดอยู่บนใบหน้า ทำให้โรเอลหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อ
“ฉันไม่ได้แค่ขอโทษเรื่องนั้น แต่ฉันอยากหาโอกาสขอโทษเธอเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในห้องประชุมด้วย พวกเธอช่วยฉันไว้ที่แดนเหนือ แต่ฉันกลับปฏิบัติต่อพวกเธอแบบนั้น ฉันทำให้เธอกลัวรึเปล่า?”
โรเอลถามอย่างอ่อนโยน
เทเรซาโบกมือเป็นพัลวัน แต่แล้วเมื่อนึกถึงบรรยากาศที่แผ่ออกมาจากโรเอลในตอนนั้น การเคลื่อนไหวของเธอก็ดูจะชะงักช้าแล้วหยุดลง หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เด็กสาวก็ตัดสินใจบอกออกมาตามตรง
‘ก็กลัวอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่ความผิดของคุณนี่ วิลเลียมต่างหากที่ทำเกินไป!’
“หืม… เธอคิดอย่างนั้นหรอกเหรอ?”
‘ที่การเผชิญหน้าเกิดขึ้น ก็เพราะว่าเขายั่วยุ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ฉันหยุดเขาไว้ไม่ได้’
“ไม่ ๆ ทางพวกฉันเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกัน”
โรเอลรู้สึกตลกนิด ๆ กับปฏิสัมพันธ์ของเขากับอีกฝ่าย ที่สุดท้ายได้กลายเป็นวงกลมขอโทษเล็ก ๆ ระหว่างคนสองคน แต่ก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขาแปลกใจ
เขาคิดว่าวิลเลียมกับเทเรซาน่าจะมีความคิดเห็นตรงกัน ด้วยที่พวกเขาอยู่ด้วยกันบ่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่าทั้งสองคนนั้นจะมีจุดยืนที่แตกต่างกัน เทเรซาไม่ได้ดื้อรั้นเหมือนวิลเลียม หมายความว่ายังเป็นไปได้หากฝ่ายเด็กหนุ่มจะพูดคุยกับเธอ
โรเอลใช้เวลาสองสามวินาทีในการคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วก็คิดว่ามันคงจะดีไม่น้อย หากสามารถแบ่งปันความคิดของเขากับเทเรซาได้
“เทเรซา ฉันพอจะเคยได้ยินเรื่องอุดมการณ์ของอาณาจักรแห่งภาคีอัศวินมาบ้าง ซึ่งทำให้ฉันเข้าใจแนวคิดขององค์ชายวิลเลียม แต่ฉันเกรงว่า ฉันคงไม่สามารถละทิ้งสิ่งที่ฉันมีอยู่ได้ ดังนั้น…”
เสียงของโรเอลหายไปเมื่อถึงจุดนี้
เทเรซาดูไม่แปลกใจกับคำตอบของเขาเท่าไหร่
การที่คนคนหนึ่งต้องละทิ้งสภาพแวดล้อมอันคุ้นเคย ตัดสายสัมพันธ์กับสังคมทั้งหมด และอุทิศตนเพื่อปกป้องมนุษยชาติจากเงามืด นั่นมันเป็นการกระทำที่เทียบได้กับคนเสียสติ
เทเรซาเองก็คิดว่าวิลเลียมทำเกินไปที่จะพยายามยัดเยียดวิถีชีวิตค่านิยมสุดโต่งของตนให้คนอื่น และเธอคงจะหยุดเขาไปแล้วถ้าเป็นคนอื่น แต่เนื่องจากเป็นวิลเลียม มันจึงลงเอยด้วยเหตุนี้
เด็กกสาวไม่มีทางหยุดเขาได้ และไม่มีสิทธิ์ที่จะทำแบบนั้นด้วยเช่นกัน
‘ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณดีค่ะ โปรดยกโทษให้กับการกระทำของวิลเลียมด้วย’
“ไม่ใช่แบบนั้น ฉันไม่ได้อยากจะโทษวิลเลียมเรื่องจุดยืนกับแนวคิดของเขาหรอก ก็แค่… ฉันสงสัยว่าพอจะมีวิธีที่ทำให้เขายอมแพ้ โดยไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของเรามัวหมองไหม?”
‘ฉันไม่คิดว่าจะเป็นไปได้นะ’
“หืม?”
โรเอลประหลาดใจกับการตอบสนองอย่างรวดเร็วของเทเรซา เด็กสาวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเขียนคำสองสามคำลงบนสมุดอย่างช้า ๆ
‘เขารอคุณมาโดยตลอด’