ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1201 ลมกระโชก (2) / ตอนที่ 1202 ฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1201 ลมกระโชก (2) / ตอนที่ 1202 ฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน (1)
ในเวลาเดียวกับที่กองทัพของรัฐเหยียนออกเดินทาง เฉียวฉู่กับสหายของเขาก็อยู่ในระหว่างเดินทางไปที่รัฐจิ้วแล้ว
คนที่เฝ้ามองกองทัพของรัฐเหยียนออกเดินทางไม่ได้มีเพียงมั่วเฉี่ยนยวนกับคนของสกุลจวินเท่านั้น ยังมีชายร่างสูงคนหนึ่งยืนเศร้าอยู่นอกกำแพงเมืองขณะที่มองด้านหลังของคนตัวเล็กที่อยู่บนหลังม้าสูงข้างหน้ากองทัพของรัฐเหยียน
นายท่าน เยี่ยเม่ยเรียกขณะยืนมองสายตาที่มองไกลออกไปของจวินอู๋เย่า
หืม
ทำไมนายท่านไม่บอกคุณหนูใหญ่เรื่องนั้นเล่าขอรับ ตอนนี้ก็รู้แล้วว่ารัฐจิ้วมีแผนที่อยู่อีกส่วน ก็เหลือที่ต้องหาอีกแค่ชิ้นส่วนเดียวเท่านั้น เยี่ยเม่ยถาม รู้สึกงงเล็กน้อย ก็เห็นชัดๆ ว่านายท่านของเขาอยากไปกับคุณหนูใหญ่มาก แต่ทำไมเขาถึงเลือกจากมาเพื่อหลบเลี่ยงนางอยู่เสมอ
มุมปากของจวินอู๋เย่ายกขึ้นเล็กน้อย เขามองตามร่างเล็กๆ ที่กำลังโตด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยเม่ย
ขอรับนายท่าน
เจ้ารู้สึกว่าตัวข้าในตอนนี้มีคุณสมบัติที่จะคิดพัฒนาความสัมพันธ์กับนางแล้วหรือ จวินอู๋เย่าพูดด้วยน้ำเสียงเมินเฉยปนเซื่องซึม
เยี่ยเม่ยใจเต้นแรงทันที
เขาเข้าใจความกังวลของจวินอู๋เย่า
ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อกำจัดคนพวกนั้นให้สิ้นซากขอรับ! เยี่ยเม่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาเต็มไปด้วยความต้องการฆ่า
จวินอู๋เย่าพูดพร้อมหัวเราะ ถ้าพวกนั้นกำจัดได้ง่ายๆ แบบนั้นข้าจะอยู่ในสภาพนี้อย่างนั้นหรือ แต่ไม่เป็นไร…ตอนที่เด็กน้อยบุกไปที่สามโลกชั้นกลาง จะเป็นเวลาที่ข้าคิดบัญชีกับสหายเก่า เอาเถอะ ปล่อยพวกมันชะล่าใจไปก่อนสักพัก รสชาติของการทำให้พวกมันตกจากสวรรค์จะยิ่งหอมหวาน ใช่หรือไม่เล่า จวินอู๋เย่าพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงต่ำ แต่ไม่รู้สึกถึงความรื่นเริงเลยสักนิด
ใช่ขอรับ! เยี่ยเม่ยตอบอย่างมั่นใจที่สุด
เสี่ยวเสียเอ๋อร์เป็นคนที่น่าสนใจที่สุดที่ข้าเคยเจอ ข้าอยากรู้จริงๆ ว่านางจะไปได้ไกลแค่ไหน ต่อให้ข้าไม่สามารถเห็นนางเดินไปจนสุดทางด้วยตาของตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ให้ข้าได้เห็นนางเติบโตในช่วงนี้ จวินอู๋เย่าพูดพร้อมหัวเราะ
ในตอนแรกแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่เริ่มต้นจากการล้อเล่นจะจบลงที่ความหวั่นไหวในหัวใจของเขา
และเมื่อเขายกหัวใจของเขาให้นางไป ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอามันกลับมา และเขาก็ไม่อยากจะเอากลับด้วย
เหมือนผีเสื้อกับไฟ รู้ดีว่าไม่ควรเข้าใกล้ แต่ก็อดไม่ได้ เขายังอยากเข้าใกล้มากขึ้นไปอีกอยู่ดี
เขายอมให้แผนการของตัวเองล่าช้าเพียงเพื่อได้ใช้เวลากับจวินอู๋เสียมากขึ้นอีกนิด เขายังเห็นหน้านางไม่พอ ยังได้ยินเสียงไม่พอ แล้วเขาจะเต็มใจจากไปได้อย่างไร
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่อยากจากไปมากขนาดนี้ ความรู้สึกนี้ทำให้เขายอมวางความเกลียดชังในใจลงเพื่อปกป้องนางในขณะที่นางค่อยๆ เติบโตขึ้น
จวินอู๋เย่าไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของจวินอู๋เสียมากเกินจำเป็น แม้ว่าเขาจะมีพลังที่ทำได้ แต่เขาไม่เคยอยากทำเช่นนั้น เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่จวินอู๋เสียต้องการไม่ใช่คนหนุนหลังที่แข็งแกร่ง แต่เป็นการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น
มีเพียงการทำให้ตัวนางแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นถึงจะเป็นหลักประกันให้นางได้มากที่สุด!
คุณหนูใหญ่เป็นคนที่พิเศษมากจริงๆ เรื่องนี้เยี่ยเม่ยมั่นใจมาก อย่างน้อยในเวลาที่เขากับเยี่ยซาเผชิญหน้ากับจวินอู๋เสียก็จะรู้สึกเกรงจวินอู๋เสียโดยไม่รู้ตัว
แม้ว่าจวินอู๋เสียยังไม่แข็งแกร่งมากพอ แต่นางมีศักยภาพที่สูงมากซึ่งพวกเขาสัมผัสได้
จวินอู๋เย่าหัวเราะ คำยกย่องนั้นไม่ว่าจะกล่าวเกินจริงหรือไม่ สำหรับเขาแล้วรู้สึกราวกับถูกชมไปด้วย
เสี่ยวเสียเอ๋อร์ของข้าแตกต่างจากคนธรรมดาพวกนั้นอยู่แล้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงภูมิใจ
จวินอู๋เย่ามองกองทัพที่ค่อยๆ ลับตาไปเป็นครั้งสุดท้าย ร่างของเขาเปล่งแสงวูบแล้วหายไปพร้อมกับเยี่ยเม่ย
…..
นายท่าน: เย่เป่ย! เจ้าไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้! ข้าถอดเสื้อแล้ว แล้วเจ้าจะเอาข้ากลับไปขังอยู่ในห้องมืดๆ อีกเรอะ!
ผู้แต่งเป่ย: [แกล้งตาย…]
ตอนที่ 1202 ฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน (1)
กองทัพของรัฐเหยียนกลับไปพร้อมชัยชนะ ทั่วทั้งรัฐต่างเฉลิมฉลอง เห็นกองทหารเดินเข้าเมืองมาอย่างยิ่งใหญ่ ประชาชนของรัฐเหยียนไม่จำเป็นต้องเดาก็รู้ว่าพวกเขาชนะอีกครั้งแล้ว
อีกครั้ง…
ชัยชนะสำหรับรัฐเหยียนนั้นเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนการดื่มน้ำ คนในรัฐไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่ารสชาติของความพ่ายแพ้เป็นอย่างไร
กองทัพของรัฐเหยียนชนะสงครามสองครั้งติดต่อกัน กำจัดข้าศึกไปทั้งสิ้นสี่ล้านคนซึ่งเป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์การรบของรัฐเหยียน ทำให้ประชาชนของรัฐเหยียนเต้นรำกันอย่างยินดี นี่เป็นสงครามครั้งแรกหลังจากฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ และพวกเขาก็ชนะอย่างสวยงาม ทำให้ประชาชนของรัฐเหยียนรู้ถึงความสามารถของฮ่องเต้น้อยของพวกเขา เพลงถูกขับขาน เจ้าหน้าที่อาลักษณ์สะบัดพู่กันบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ โคลงที่ไพเราะที่สุดถูกแต่งขึ้น บันทึกชัยชนะครั้งใหม่ของรัฐเหยียนลงในพงศาวดาร
อย่างไรก็ตาม…
บรรดาทหารของรัฐเหยียนต่างสงบเสงี่ยมกันมาก การถูกยกย่องชมเชยอย่างมากมายทำให้พวกเขารู้สึกละอายและคิดว่าตัวเองไม่สมควรได้รับมัน
สงครามครั้งนี้ข้าศึกถูกสังหารมากที่สุด แต่เกินครึ่งเป็นฝีมือของชายหนุ่มที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้เพียงคนเดียวเท่านั้น
จำนวนข้าศึกที่ทั้งกองทัพสังหารได้ยังเทียบกับคนเพียงคนเดียวที่อยู่ข้างๆ จวินเสียไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้ทหารทั้งกองทัพรู้สึกหน้าร้อนผ่าวและตอบคำของผู้คนด้วยท่าทางละอายใจ หน้าและหูของพวกเขากลายเป็นสีแดงขณะกลับไปยังค่ายทหาร
พวกเขาทุกคนยกให้จวินอู๋เย่าเป็นวีรบุรุษของพวกเขาที่พวกเขาจะไล่ตามไปชั่วชีวิต!
การแสดงพลังของจวินอู๋เสียทำให้พวกเขาเจียมเนื้อเจียมตัวกันหมด
ใครที่บังอาจดูถูกฮ่องเต้น้อยของพวกเขาว่ายังเด็กเกินไป พวกเขาจะเอาขี้ป้ายหน้ามันผู้นั้น!
มีใครเคยเห็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่อายุสิบห้าปีหรือไม่เล่า
ถ้าบอกไปรับรองว่ากลัวกันขี้หดตดหายแน่!
เหลยเชินกลับไปที่เมืองหลวงของรัฐเหยียน หลังจากคุ้มกันจวินเสียไปที่วังหลวงแล้ว เขากับเหลยชิวก็กลับไปที่วังของตัวเอง
หลังจากจวินอู๋เสียกลายเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของรัฐเหยียนแล้ว พวกองค์ชายทั้งหลายก็กลายเป็นท่านอ๋อง เหลยเชินอยู่ฝ่ายที่สนับสนุนจวินเสียอย่างมาก และเหลยชิวก็ทำตามเหลยเชินไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม เหลยหยวนที่ไม่ได้เก่งกาจอะไรก็กล่าวอย่างชัดเจนว่าตราบใดที่เขายังกินดีอยู่ดีมีชีวิตที่สุขสบายหรูหรา เขาก็ไม่สนหรอกว่าใครจะเป็นฮ่องเต้
แต่…คนที่ติดตามจวินเสียเข้าวังมาอีกคน ชวีหลิงเย่ว์
หลังงานแต่งงานที่เมืองพันอสูร ชวีหลิงเย่ว์ก็ติดตามอยู่เคียงข้างจวินอู๋เสีย แต่นิสัยของนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตลอดสงครามในรัฐชีนางไม่เคยเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดกับจวินอู๋เสียก่อนเลย ไม่เคยแม้แต่คำเดียว
เด็กสาวที่เคยหน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึงทันทีที่เจอจวินอู๋เสียและลุกลี้ลุกลนเป็นอย่างมากได้กลายเป็นคนใหม่แล้ว ดวงตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์ของเด็กสาวได้หายไป ตอนนี้นางเข้าใจยากมาก เงียบและอดทนอดกลั้น
กระทั่งตอนที่รบกัน นางก็ไม่ได้แสดงท่าทางอึดอัดอยู่ไม่สุขอย่างที่เคยเป็นในอดีตเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเงียบขรึมและชักดาบออกมาพุ่งเข้าสู่สนามรบสังหารข้าศึกพร้อมกับเหล่าทหารของกองทัพรัฐเหยียน
ในตอนนี้ชวีหลิงเย่ว์เดินตามจวินอู๋เสียเข้าไปในเขตวังหลวงอย่างเงียบๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงฝีเท้าของนาง จวินอู๋เสียอาจจะคิดว่าไม่มีใครอยู่เลยก็ได้
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่ พวกขันทีกับเหล่านางในคารวะคนทั้งสองแล้วทิ้งจวินอู๋เสียกับชวีหลิงเย่ว์เอาไว้ในห้องสองคน
จวินอู๋เสียหันไปมองเด็กสาวที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้วพูดเบาๆ ว่า
วันหน้าข้าจะไม่อยู่ในรัฐเหยียนและจะไม่อยู่ในรัฐชีด้วย ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว ข้าก็จะรับผิดชอบตัวเจ้า ถ้าเจ้าต้องการเจ้าสามารถเลือกได้ว่าจะอยู่ที่ไหน
ชวีหลิงเย่ว์ชะงักไปเล็กน้อย นางก้มหน้าลงก่อนจะพูดว่า ข้าอยากอยู่ที่รัฐเหยียน
ได้ จวินอู๋เสียตกลงและพูดว่า ข้าอยากให้เจ้าเป็นฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน และวังหลังของรัฐเหยียนจะมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น