ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1205 คำพูดของเวินอวี่ (2) / ตอนที่ 1206 คำพูดของเวินอวี่ (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1205 คำพูดของเวินอวี่ (2) / ตอนที่ 1206 คำพูดของเวินอวี่ (3)
ตอนที่ 1205 คำพูดของเวินอวี่ (2) / ตอนที่ 1206 คำพูดของเวินอวี่ (3)
ตอนที่ 1205 คำพูดของเวินอวี่ (2)
ตอนที่ 1205 คำพูดของเวินอวี่ (2)
“ข้าทำให้รัฐชีต้องเดือดร้อนจริงๆ” เวินอวี่พูดเบาๆ
จวินอู๋เสียใจเต้นขึ้นมาทันที!
เวินอวี่เงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสีย แววตายิ้มๆ ของเขาหายไปจนหมดสิ้นเหลือเพียงความรู้สึกอับจนหนทางเท่านั้น
“ฝ่าบาทเรียกกระหม่อมมาที่นี่และเล่าเรื่องทั้งหมดให้กระหม่อมฟัง กระหม่อมเชื่อว่าฝ่าบาทคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว และเชื่อว่าคำถามที่เหลืออยู่ก็คือหยกนั่นกระหม่อมเป็นคนมอบให้จริงหรือไม่ ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
คำพูดของเวินอวี่ตรงไปตรงมาชัดเจนไม่มีหลบเลี่ยงกลบเกลื่อนเลยแม้แต่น้อย เขารู้ว่าด้วยความฉลาดของจวินเสียแล้ว หากไม่มั่นใจจวินเสียจะไม่ถามเขาเช่นนี้ ถึงจะแค่ถามแต่จวินเสียก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้วและแค่รอฟังเขายอมรับมันด้วยตัวเองเท่านั้น
“ใช่” จวินอู๋เสียยอมรับ
เวินอวี่พูดพร้อมยิ้มอย่างยอมจำนน “เป็นกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ”
“หยกวิญญาณชิ้นนั้นท่านได้มาอย่างไรอย่างนั้นหรือ หรือข้าควรพูดว่า…หยกสงบวิญญาณ” จวินอู๋เสียถามอย่างระมัดระวัง
เวินอวี่มีสีหน้าประหลาดใจทันที เขามองจวินเสียอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจวินเสียจะรู้จัก ‘หยกสงบวิญญาณ’ ด้วย!
ตอนที่เขามอบหยกสงบวิญญาณให้จวินเสี่ยนกับคนอื่นๆ เขาบอกพวกนั้นแค่ว่ามันคือ ‘หยกวิญญาณ’ ไม่เคยพูดว่ามันคือหยกสงบวิญญาณเลย!
แล้วจวินเสียรู้เรื่องนั้นได้อย่างไร
จวินอู๋เสียสังเกตปฏิกิริยาบนใบหน้าของเวินอวี่ ข้อสงสัยในใจนางได้รับคำตอบทีละนิด เวินอวี่ต้องรู้ถึงที่มาของหยกสงบวิญญาณแน่!
“ท่านราชครูดูจะแปลกใจมาก ที่ท่านมีปฏิกิริยาเช่นนี้เป็นเพราะข้ารู้ว่าหยกนั่นเรียกว่าหยกสงบวิญญาณ หรือเพราะว่า…หยกนั่นมาจากโลกภูติวิญญาณกันเล่า” จวินอู๋เสียถาม จงใจกวนน้ำต่อไปเพื่อดูว่าผิวน้ำจะเป็นอย่างไร
สีหน้าของเวินอวี่บิดเบี้ยว สิ่งที่จวินเสียรู้เกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก!
“ฝ่าบาทรู้”
สายตาของเวินอวี่ทั้งแปลกใจและสงสัย
จวินอู๋เสียพยักหน้า “ข้ารู้ด้วยว่าหยกสงบวิญญาณเป็นสมบัติวิเศษที่ถูกฝังอยู่ในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ”
คำพูดนั้นทำให้เวินอวี่สะดุ้งตกใจมากขึ้นอีก เขามองจวินเสียเขม็ง พยายามค้นหาบางอย่างบนใบหน้าเล็กๆ นั้น
“ข้าแค่อยากรู้ว่าทำไมของที่น่าจะถูกฝังอยู่ในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิถึงมาอยู่ในมือของท่านราชครูได้ และทำไมท่านถึงมอบมันให้แก่คนแปลกหน้าที่เป็นเพียงคนรู้จักอย่างรัฐชี” จวินอู๋เสียถามต่อโดยไม่ยอมให้เวินอวี่มีโอกาสหลบเลี่ยง
เวินอวี่เม้มปากแน่น เขาเบนสายตาออกไปโดยไม่สามารถมองสบดวงตาเฉียบคมเย็นชาของจวินเสียได้
ท้องพระโรงเงียบกริบ คำถามของจวินอู๋เสียทำให้เวินอวี่ตกอยู่ในความเงียบ
ในตอนที่จวินอู๋เสียตั้งใจจะพูดต่อ เวินอวี่ก็ก้มหัวลงและพูดว่า “ในเมื่อฝ่าบาทรู้เรื่องโลกภูติวิญญาณและรู้ถึงการมีอยู่ของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ แสดงว่าฝ่าบาทไม่ได้รู้แค่เรื่องของสามโลกเบื้องล่างเท่านั้น ในเมื่อฝ่าบาทรู้ว่าที่มาของเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแต่ไม่ธรรมดา แล้วทำไมฝ่าบาทยังสืบสาวเรื่องพวกนี้อีก ฝ่าบาทรู้หรือไม่ว่าคนที่ไปยุ่งกับสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิพบจุดจบไม่ดีสักคน ฝ่าบาทคือฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนและกระหม่อมคือราชครูแห่งรัฐเหยียน กระหม่อมไม่อยากเห็นฝ่าบาทเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ กระหม่อมอยากวิงวอนให้ฝ่าบาทยกเลิกความอยากรู้อยากเห็นแล้วทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”
“ถ้าข้าทำไม่ได้เล่า” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง คำตอบของเวินอวี่เป็นอย่างที่นางเดาเอาไว้ เขารู้เรื่องหยกสงบวิญญาณ รู้เรื่องสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ และรู้เรื่องของสามโลกชั้นกลาง เขาไม่ใช่แค่ราชครูธรรมดาอย่างที่เขาแสดงให้เห็นแน่
เวินอวี่ยิ้มอย่างขมขื่น เขาเงยหน้าขึ้นทันทีพร้อมกับเอามือข้างหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ
บอลไฟสีม่วงลุกโชนอยู่ในฝ่ามือของเขา!
ตอนที่ 1206 คำพูดของเวินอวี่ (3)
บอลไฟที่ลุกโชนด้วยพลังวิญญาณขั้นสีม่วงนั้นบริสุทธิ์มาก ไม่มีสิ่งเจือปนเลยแม้แต่น้อย
นั่นเป็นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่บริสุทธิ์ที่สุดที่จวินอู๋เสียเคยเห็น และนางยังสังเกตเห็นว่าตอนที่เวินอวี่ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงของเขานั้น นางสัมผัสพลังวิญญาณจากร่างของเวินอวี่ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ยกเว้นจากบอลไฟสีม่วงที่ยังลุกไหม้อยู่บนมือของเขา
พลังวิญญาณสามารถถูกปล่อยออกมาห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดได้ หรือควบคุมให้ไปรวมอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งได้ แต่จวินอู๋เสียไม่รู้ว่าจะสามารถเรียกพลังวิญญาณขั้นสีม่วงให้ออกมาอยู่ในรูปไฟที่ลุกไหม้อยู่บนฝ่ามือได้!
“พลังวิญญาณขั้นสีม่วงในสามโลกเบื้องล่างอาจจะเป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ในสามโลกชั้นกลางถือว่าเป็นแค่พลังธรรมดาทั่วไป ฝ่าบาทดูบอลไฟพลังวิญญาณของกระหม่อมสิพ่ะย่ะค่ะ ถึงฝ่าบาทจะคิดว่ามันบริสุทธิ์แต่รู้หรือไม่ว่าคนที่มีพลังสูงกว่ากระหม่อมมีอยู่ทั่วสามโลกชั้นกลาง สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเป็นสมบัติที่มีค่ามากที่สุดที่กลุ่มอำนาจใหญ่ๆ ในสามโลกชั้นกลางต่างใฝ่ฝันจะได้ครอบครอง หลังจากเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิตายไป ไม่ว่าพวกเขาจะมีเบาะแสอะไรในมือหรือไม่ พวกเขาก็ไม่เคยล้มเลิกการค้นหาที่ตั้งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเลย ทุกคนต่างอยากได้สมบัติวิเศษทั้งหมดที่เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิปล้นมาตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่” เวินอวี่พูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น เขาพลิกฝ่ามืออย่างรวดเร็ว แล้วบอลไฟสีม่วงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ความสามารถในการควบคุมพลังวิญญาณที่แม่นยำและสะกดกลิ่นไอของพลังวิญญาณเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นนี้ จวินอู๋เสียแน่ใจว่าเวินอวี่แข็งแกร่งกว่าผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่เขาเคยเจอมาอย่างแน่นอน ยกเว้นบุรุษชุดเทาที่พ่ายแพ้เยี่ยซาในเทือกเขาเมฆาที่อาจจะเทียบเคียงได้!
เวินอวี่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ทำไมเขาถึงเลือกอยู่ในสามโลกเบื้องล่างเล่า จากคำพูดของเขาก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าเดิมทีเขาเป็นคนที่มาจากสามโลกชั้นกลาง
“กลุ่มอำนาจใหญ่ต่างๆ ได้ลงทุนลงแรงไปมากมายมหาศาลเพื่อค้นหาที่ตั้งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ พวกเขาได้ส่งคนออกไปนับไม่ถ้วน ที่ฝ่าบาทเดาไว้นั้นถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ หยกสงบวิญญาณเคยอยู่ที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ” เวินอวี่พูดพลางมองจวินอู๋เสีย ดวงตาของเขาเหมือนซ่อนประสบการณ์ความยากลำบากเอาไว้มากมาย
“กระหม่อมเคยไปที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ หยกสงบวิญญาณชิ้นนั้นกระหม่อมเป็นคนนำออกมาจากสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเองพ่ะย่ะค่ะ”
จวินอู๋เสียกลั้นหายใจไปช่วงหนึ่ง แม้ว่านางจะเดาเอาไว้อยู่แล้ว แต่ได้รับการยืนยันแบบนี้ก็ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี!
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเวินอวี่ไม่ได้มีความภาคภูมิใจเลยสักนิด กลับมีเพียงความขมขื่นอยู่เท่านั้น
“ตอนนั้นเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้รวมสามโลกชั้นกลางทั้งหมดเข้าเป็นหนึ่งเดียว และได้รวบรวมสมบัติวิเศษทั้งหมดในสามโลกชั้นกลางเอาไว้ให้ตัวเอง ความยิ่งใหญ่ของดินแดนเทพมารเหนือกว่ากลุ่มอำนาจอื่นทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสี่โลก เก้าวัง หรือสิบสองตำหนัก ไม่มีใครสู้พวกเขาได้เลย ต่อให้รวมกำลังกันก็ไม่อาจเทียบเคียงกับเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเพียงคนเดียวได้ แต่จู่ๆ เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิก็เสียชีวิตทำให้โครงสร้างของอำนาจในสามโลกชั้นกลางวุ่นวายไปหมด แม้ว่าเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิไม่อยู่แล้ว แต่ความยิ่งใหญ่ของดินแดนเทพมารยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรวมสามโลกชั้นกลางให้เป็นหนึ่งได้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีกลุ่มอำนาจใดกล้าล่วงเกินพวกเขา”
“เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเสียชีวิตไปหลายปีแต่ดินแดนเทพมารไม่มีผู้นำคนใหม่ปรากฏขึ้นเลย ทั้งภูมิยังคงยกให้เทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเป็นประมุขสูงสุดจนถึงวันนี้ สำหรับกลุ่มอำนาจอื่นที่เล็งสมบัติวิเศษในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิย่อมถูกมองว่าเป็นการหมิ่นเกียรติของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าดินแดนเทพมารรู้เข้า พวกเขาจะทำทุกอย่างเพื่อกำจัดคนพวกนั้นแน่” เวินอวี่พูดด้วยรอยยิ้มขมขื่นพร้อมกับส่ายหัว และพูดต่อว่า
“แต่ของวิเศษจำนวนมหาศาลพวกนั้นมันดึงดูดทุกคนจนไม่อาจต้านทานได้ ถึงรู้ว่าจะเป็นการล่วงเกินดินแดนเทพมาร แต่พวกเขาก็ไม่อยากล้มเลิก ถ้าไม่สามารถไปเอามาได้แบบเปิดเผย พวกเขาก็ส่งคนไปค้นหามันแบบลับๆ ด้วยคิดว่าจะเจอมันก่อนที่ดินแดนเทพมารรู้เข้า”
เวินอวี่เงยหน้าขึ้นมองท้องพระโรงที่สร้างอย่างงดงามหรูหรา