ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1327 ทรายดูด (3) / ตอนที่ 1328 ทรายดูด (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1327 ทรายดูด (3) / ตอนที่ 1328 ทรายดูด (4)
ตอนที่ 1327 ทรายดูด (3) / ตอนที่ 1328 ทรายดูด (4)
ตอนที่ 1327 ทรายดูด (3)
ตอนที่ 1327 ทรายดูด (3)
ยิ่งใหญ่ แต่ไม่ได้ใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงผู้อ่อนแอ นั่นคือจุดหนึ่งที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากสิบสองตำหนัก
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง ถ้าพวกเขาเดินไปในทะเลทรายด้วยเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ตอนนี้ ไม่ถึงชั่วยามได้เกิดภาวะขาดน้ำแน่
แม้ว่าพลังวิญญาณจะสามารถรักษาอุณหภูมิร่างกายได้ในระดับหนึ่ง แต่นั่นก็แค่ตอนที่อุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไปเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าพลังวิญญาณของพวกเขาจะสามารถลดอุณหภูมิได้ด้วย
เมื่อเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นหลายสิบองศาอย่างกะทันหัน พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากถอดเสื้อผ้าหนาๆ ออกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางต่อไปในชุดที่เบาบางขึ้น
โชคดีที่พวกเขาเตรียมตัวมาดีในการเดินทางครั้งนี้ พวกเขาก็แค่ต้องถอดเสื้อผ้าหนาๆ ชั้นนอกที่ใส่อยู่ออกเท่านั้น
เสื้อผ้าที่พวกเขาถอดออกถูกเก็บไว้ในถุงเอกภพของจวินอู๋เสียเผื่อกรณีที่พวกเขาต้องการใช้อย่างกะทันหันอีกครั้ง
จากป่ากร่อนกระดูกที่หนาวเย็น ก้าวเข้าสู่ทะเลทรายที่ร้อนระอุ ความร้อนเข้าปะทะพวกเขาเหมือนคลื่นยักษ์ ลมพายุที่พัดเข้าใส่พวกเขามีกรวดและทรายอยู่ในนั้นด้วยและมันก็ข่วนใบหน้าของพวกเขา ไม่ต้องพูดถึงการอ้าปากพูดเลย แม้แต่การหายใจก็ทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บจากการที่มีกรวดทรายเข้าไปในโพรงจมูกของพวกเขา
พวกเขาฉีกชายเสื้อผ้าออกและเอามาใช้เป็นผ้าคลุมหน้าปิดปากปิดจมูกของพวกเขาไว้เพื่อป้องกันทรายที่อยู่ในลมพายุ
ทรายสีทองใต้เท้าของพวกเขาร่วนมากจนไม่สามารถใช้แรงได้ เมื่อเหยียบลงไป มันก็จะจมลงเป็นหลุม ทรายที่อยู่รอบๆ ก็จะไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไม่นานเท้าของพวกเขาก็ถูกฝัง
“นี่เป็นทรายดูด” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับรวบรวมพลังวิญญาณไว้ที่ใต้เท้าทันทีเพื่อลดน้ำหนักของร่างกาย
ทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ไม่ใช่ทะเลทรายธรรมดา แต่เป็นพื้นที่ทรายดูดขนาดมหึมา หากประมาทเพียงเล็กน้อย ตกลงไปแล้วละก็ ไม่นานก็จะถูกทรายสีทองกลืนกินเข้าไป
เมื่อไม่มีหมอกหนาปกคลุม ทัศนวิสัยในบริเวณนี้จึงดีขึ้นมาก ถึงไม่มีลูกบอลเพลิงวิญญาณ ก็สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจน
แต่เส้นทางนี้ทำให้คนไม่สามารถเหยียบย่างไปได้เลย
เมื่อก้าวเข้าสู่ทรายดูด ทรายจะดูดเท้าของพวกเขาอย่างแรง ยิ่งดิ้นก็จะยิ่งถูกดูดมากขึ้น มันแตกต่างจากหนองบึงแฉะๆ เนื่องจากในหนองบึงยังสามารถมองหาร่องรอยของบ่อโคลนดูดได้ แต่ทรายดูดนั้นน่ากลัวกว่ามาก เนื่องจากแรงดูดในหนองบึงไม่ได้แรงมากนัก ถ้าพวกเขาก้าวพลาดเข้าไปในโคลนดูด พวกเขาก็ยังสามารถได้รับการช่วยเหลือออกมาได้ ขณะที่ทรายดูดนั้น…โอกาสรอดของพวกเขาต่ำกว่ามาก
ทะเลทรายตรงหน้าทำให้พวกผู้เยาว์สิ้นหวังจนแทบกระอักโลหิต พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าคนที่สิบสองตำหนักส่งมาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับทะเลทรายแห่งนี้หลังจากที่ผ่านความทรมานมาขนาดนั้น
อุปสรรคนับไม่ถ้วนและอันตรายที่ไม่สิ้นสุด เผยออกมาในรูปแบบต่างๆ มากมาย ถ้าพวกเขาไม่ได้เจอเข้ากับตัวเองแล้วละก็ พวกผู้เยาว์ก็คงร้องเพลงเต้นรำยกย่องสติปัญญาและความเฉลียวฉลาดของคนจากดินแดนเทพมารไปแล้ว แต่ในตอนนี้ แม้แต่ยิ้มบางๆ ก็ยังยิ้มไม่ออกเลย
“ดินแดนเทพมารนี่จริงๆ เลย” เฉียวฉู่ร้องอุทานพร้อมกับตบหลังหัวตัวเอง เขาคารวะคนของดินแดนเทพมารจากใจจริงๆ พวกเขาทำทั้งหมดนี้ได้อย่างไร
จวินอู๋เสียไม่ได้รีบร้อนเคลื่อนไหว ทรายดูดไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แค่โลกนี้ นางเคยได้ยินเกี่ยวกับพวกมันก่อนที่จะมาเกิดใหม่แล้ว
เนื่องจากองค์กรเผชิญกับสถานการณ์ทุกรูปแบบ หลายครั้งที่เกิดขึ้นในทะเลทราย ครั้งหนึ่งนางเคยรักษานักฆ่าจากองค์กร เป้าหมายของเขาอยู่ในทะเลทราย เขาติดตามเป้าหมายอยู่สามเดือนก่อนจะเห็นโอกาสโจมตี แต่เขาดันติดกับอยู่ในทะเลทราย ไม่เพียงแต่เป้าหมายจะหลบหนีไปได้ แต่ตัวเขาเองก็เกือบจมลงไปในทรายดูดแล้ว โชคดีที่สหายของเขาอยู่ไม่ห่างจากเขามากนัก พวกเขาจึงช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ทันเวลา
ชายคนนั้นถูกปืนยิงและถูกส่งมาให้จวินอู๋เสีย มีรูขนาดใหญ่ที่ไหล่ของเขา แต่เขาก็ยังคงพูดไม่หยุดเกี่ยวกับประสบการณ์ในทะเลทรายของเขา
ตอนที่ 1328 ทรายดูด (4)
ตอนนั้นจวินอู๋เสียไม่ได้สนใจฟังชายคนนั้นพูดพล่าม แต่สิ่งที่เขาพูดนางได้ยินทั้งหมดและยังจำเนื้อหาส่วนใหญ่ได้
ทรายดูดเกิดจากน้ำผสมกับทรายทำให้ลดแรงเสียดทานระหว่างเม็ดทรายแต่ละเม็ด
ถ้าสามารถระเหยน้ำจากภายในทรายได้ ปรากฏการณ์ทรายดูดก็จะไม่เกิดขึ้น
จวินอู๋เสียมองทะเลทรายที่ทอดยาวไร้ที่สิ้นสุด ทันใดนั้นนางก็หยิบเอาขวดขนาดใหญ่ที่บรรจุของเหลวใสไว้ข้างในออกมาจากถุงเอกภพ เฉียวฉู่แปลกใจและไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียกำลังจะทำอะไร ไม่ใช่ว่าเขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อยู่ในขวด เนื่องจากตอนที่พวกเขาก่อกองไฟระหว่างทาง จวินอู๋เสียได้หยดของเหลวนั้นลงบนไม้สองสามหยดเพื่อทำให้ไฟติดได้ง่ายขึ้น
จวินอู๋เสียสาดของเหลวลงบนทรายที่อยู่ด้านหน้านาง แล้วโบกมือให้สหายถอยหลังไปสองสามก้าว
ในขณะที่ทุกคนพากันสงสัยในการกระทำของจวินอู๋เสีย นางก็หยิบแท่งจุดไฟขึ้นมาขว้างลงไปบนทรายที่เปียกโชกไปด้วยของเหลว
บึ้ม!!!
ทันใดนั้น เปลวไฟก็ลุกพรึ่บขึ้นราวกับมีมังกรไฟพุ่งออกมาจากทะเลทรายอย่างรวดเร็ว!
เปลวเพลิงสีแดงสดลุกโชติช่วงไปตามผืนทรายสีทองราวกับมังกรไฟเลื้อยผ่านทะเลทราย
อุณหภูมิที่ร้อนเหมือนเตาหลอมโอสถอยู่แล้วก็พุ่งสูงขึ้นไปอีก แม้ว่าพวกเขาจะถอยไปหลายก้าวแล้ว แต่พวกเฉียวฉู่ก็ยังรู้สึกว่าคลื่นความร้อนเข้าปะทะพวกเขาราวกับพวกเขากำลังถูกย่างไฟ พวกเขาต้องเรียกพลังวิญญาณออกมาเพื่อป้องกันความร้อนจัดนั้น
“น้องเสีย เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ” เฉียวฉู่ยื่นมือออกไปโบกราวกับพยายามพัดความร้อนออกไปจากตัว เขาเกือบจะกลายเป็นหมูย่างแล้ว ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงอยากจะเพิ่มเชื้อไฟอีก เขาจะสุกอยู่แล้วเนี่ย
จวินอู๋เสียไม่สนใจเสียงบ่นของเฉียวฉู่ นางแค่จ้องมองทรายดูดที่อยู่ในกองเพลิง
นั่นเป็นสารเคมีที่มีจุดเผาไหม้ต่ำที่นางทำขึ้น ตั้งใจว่าจะใช้ตอนที่มีความชื้นในอากาศเพื่อให้ไฟติดได้ง่าย ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะมีประโยชน์แบบนี้ด้วย
ทรายสีทองใช้เป็นเชื้อไฟไม่ได้ หลังจากที่ของเหลวนั่นถูกไฟเผาจนหมด ไฟก็ดับไปอย่างรวดเร็ว คลื่นความร้อนบนทรายพุ่งขึ้นมา เมื่อมองจากระยะไกล ทิวทัศน์จะบิดเบี้ยวอย่างหนักจากคลื่นความร้อน
“เดินทาง!” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็พูดขึ้น แล้วเหยียบลงไปบนผืนทรายเป็นคนแรก
น่าทึ่งที่ครั้งนี้ทรายสีทองไม่ได้จมลงไป แม้ว่ามันจะยังร่วนอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่เหมือนทรายดูดแบบก่อนหน้านี้
ภาพนั้นทำให้เฉียวฉู่ตะลึงงัน พื้นที่บริเวณนี้เป็นทรายดูดที่เหยียบลงไปก็จมทันทีเลยไม่ใช่หรือ ทำไมมันถึงแข็งขึ้นหลังจากโดนจวินอู๋เสียเผาเล่า
ความจริงจวินอู๋เสียแค่ทำให้ความชื้นในทรายดูดระเหยออกไปเพื่อให้ทรายแห้ง และก่อนที่น้ำจากด้านล่างจะพุ่งขึ้นมา ทรายบริเวณนั้นจะแข็งขึ้นชั่วคราว และนี่คือช่วงเวลาที่พวกเขาจะต้องเดินผ่านไป
จวินอู๋เสียไม่ได้หยุดเลยสักนาทีเดียว นางจุดไฟเผาทรายด้านหน้าเพื่อเปิดทางต่อไป ไม่ให้ทรายดูดมีเวลาก่อตัวขึ้นที่ใต้เท้าของพวกเขา
ความร้อนที่โหดร้ายพุ่งเข้าปะทะทุกคนจากทุกทิศทาง ทรายใต้เท้าของพวกเขาร้อนจี๋หลังจากที่เพิ่งโดนไฟเผามา ทำให้รู้สึกเหมือนมีไฟลุกไหม้อยู่ใต้รองเท้า แม้ว่าพลังวิญญาณของพวกเขาจะป้องกันเท้าไม่ให้ไหม้ แต่อุณหภูมิรอบตัวที่ร้อนเหมือนถูกย่างแบบนี้ทำให้พวกของจวินอู๋เสียเหงื่อไหลชุ่มโชกเหมือนฝนตกและหยดลงบนผืนทราย ขณะที่พวกเขาวิ่งไปบนทรายสีทองร้อนระอุที่ส่องประกาย!