ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1509 เปิดตาดู (2) / ตอนที่ 1510 เปิดตาดู (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1509 เปิดตาดู (2) / ตอนที่ 1510 เปิดตาดู (3)
ตอนที่ 1509 เปิดตาดู (2) / ตอนที่ 1510 เปิดตาดู (3)
ตอนที่ 1509 เปิดตาดู (2)
ตอนที่ 1509 เปิดตาดู (2)
“อันที่ง่ายที่สุดหรือ เจ้าจะบอกว่า…การเสริมวิญญาณมีมากกว่าสองแบบนี้หรือ” ใบหน้าของเยี่ยกูบิดเบี้ยวด้วยความตกใจ
เยี่ยซาพยักหน้า
“แค่ที่ข้าเคยเห็นมาก่อนก็มากกว่าหนึ่งร้อยแบบแล้ว”
เยี่ยกูอ้าปากค้างทันที
เสียงอึกทึกวุ่นวายที่ดังไปทั่วสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดเงียบกริบลงทันที คนที่สังเกตเห็นแมวดำลอยอยู่กลางอากาศพร้อมมีไฟลุกโชนที่ใต้อุ้งเท้าก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่พวกผู้เยาว์ที่อยู่บนเวทีอื่นก็หยุดการแสดงของตัวเอง แล้วจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างพร้อมกับอ้าปากค้างอยู่ที่เดิม
ทั้งสนามแข่งเกิดความเงียบแปลกๆ แผ่ไปทั่ว
หลังจากนั้นไม่นาน เปลวไฟใต้เท้าเจ้าแมวดำก็ค่อยๆ สลายไป มันเดินอย่างช้าๆ ผ่านอากาศที่ว่างเปล่าลงสู่พื้นและเดินไปนั่งอยู่ข้างเท้าจวินอู๋เสีย
เกิดความเงียบรอบตัวจวินอู๋เสียอย่างเห็นได้ชัด แสงแห่งความพึงพอใจเปล่งประกายอยู่ในดวงตาของนาง
นี่สิ…
ผลลัพธ์ที่นางต้องการ
สิ่งที่จะทำให้สิบสองตำหนักกับเก้าวังตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถเมินนางได้ ไม่สามารถไม่ปรารถนาในสิ่งที่นางครอบครองอยู่ การเสริมวิญญาณ!
ภายในความเงียบงันนั้น จวินอู๋เสียอุ้มแมวดำไว้ในอ้อมแขนและหันหน้าไปมองผู้ตัดสินที่นั่งอยู่ข้างเวที
“เป็นอย่างไร” จวินอู๋เสียถามเบาๆ
เสียงใสเย็นชาดังตัดบรรยากาศที่เงียบกริบในสนามแข่งที่กว้างใหญ่ ฟังชัดเจนเป็นพิเศษ
ผู้ตัดสินพยายามรวบรวมสติกลับมาจากอาการตกตะลึง ความตกใจยังคงปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา เขาอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร ก่อนหน้านี้ไม่ว่าผู้แข่งขันจะเข้ารอบหรือตกรอบ ก่อนที่การแสดงความสามารถจะจบลง ก็จะมีคนส่งข่าวมาถึงเขาแล้ว แต่ตอนนี้หลังจากที่จวินอู๋เสียแสดงความสามารถเสร็จแล้ว ผู้ตัดสินก็ยังไม่ได้รับคำตัดสินใดๆ เลย
“โปรด…โปรดรอสักครู่” ผู้ตัดสินที่ดุมาตลอด ตอนนี้ถึงกับสั่นเล็กน้อย ตอนเผชิญหน้ากับผู้เยาว์คนอื่นๆ เขาแสดงความดูถูกออกมาอย่างเต็มที่ การที่สามารถเป็นผู้ตัดสินในงานชุมนุมเทพยุทธ์ได้ ส่วนใหญ่ก็คือคนที่มีพลังมากพอสมควรและมักจะดูถูกพวกผู้เยาว์ที่มาแข่ง
แต่การปรากฏตัวของจวินอู๋เสียทำให้เรื่องพวกนั้นพลิกผันไปทั้งหมด
แม้แต่ผู้ตัดสินที่เคยเห็นโลกมามากเหล่านี้ก็ไม่เคยเห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ตลอดชีวิตของพวกเขา เขาเข้าใจทันทีว่าผู้เยาว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ ทั้งหมด แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าความสามารถนั้นโผล่ออกมาจากไหน แต่เขาก็มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เยาว์คนนี้จะกลายเป็นรางวัลที่มีค่าที่สุดที่สิบสองตำหนักจะต้องแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งแน่นอน!
ภายในห้องส่วนตัว บุรุษสามคนจากตำหนักเปลวเพลิงปีศาจใช้เวลานานกว่าจะได้สติกลับมา พวกเขาทิ้งตัวลงไปบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“สวรรค์! ข้าเห็นอะไรเนี่ย สามารถเพิ่มพลังลงบนร่างวิญญาณได้ด้วยหรือ” บุรุษคนหนึ่งกุมหัวด้วยความประหลาดใจ ถ้าไม่ใช่เพราะปฏิกิริยาของบุรุษอีกสองคนเหมือนกันกับเขา เขาก็อาจจะคิดว่าตัวเองตาฝาดไปก็ได้
“เด็กนั่น! ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเราจะต้องดึงเขาเข้าตำหนักเปลวเพลิงปีศาจให้ได้!” บุรุษอีกคนประกาศและทุบที่หน้าอกตัวเอง
ความสามารถที่น่าทึ่งนั่นได้พลิกสิ่งที่พวกเขาคิดว่ารู้ไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เด็กคนนั้นมีเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยมีมาก่อน!
“เกรงว่าตำหนักอื่นๆ ก็เห็นเด็กนั่นแล้ว พวกเขาจะต้องคิดเหมือนพวกเราแน่” ปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าทึ่งนี้จะทำให้สามโลกชั้นกลางทั้งหมดสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน คนจากตำหนักอื่นๆ พวกนั้นไม่ใช่คนโง่ ไม่มีใครยอมให้เด็กนั่นหลุดมือไปแน่!
“ฮ่า! พวกมันคิดเหมือนเราแล้วอย่างไร ข้าอยากจะเห็นนักว่าพวกมันจะชนะตำหนักเปลวเพลิงปีศาจได้อย่างไร!”
“ข้าจะนำข่าวเรื่องนี้ไปบอกผู้อาวุโส พวกเจ้าคอยจับตาดูที่นี่ไว้ให้ดี! ถ้าเด็กนั่นออกจากที่นี่ก็ตามเขาไปและติดต่อเขาให้เร็วที่สุด ชวนเขามาเป็นพวกเราเสีย!” หนึ่งในคนพวกนั้นร้อนใจอยากจะวิ่งออกไปทางประตูเต็มทีแล้ว!
ตอนที่ 1510 เปิดตาดู (3)
หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง ผลตัดสินก็ถูกส่งไปยังมือของผู้ตัดสิน
ผลตัดสินให้เข้ารอบเป็นเอกฉันท์!
หลังจากได้รับคำตอบ จวินอู๋เสียก็ได้รับป้ายหมายเลขอันใหม่สำหรับรอบถัดไป จากนั้นก็เดินลงจากเวทีอย่างช้าๆ ตอนที่นางอุ้มแมวดำก้าวไปบนพื้นสนามแข่ง พวกผู้เยาว์ที่มุงอยู่รอบๆ เวทีก็เปิดทางให้นางโดยไม่รู้ตัว ทุกคนเม้มปากจ้องมองไปที่ร่างเล็กๆ ของจวินอู๋เสีย
พวกผู้เยาว์ที่เยาะเย้ยดูถูกจวินอู๋เสียเสียงดังที่สุดเมื่อครู่ ตอนนี้ก็พากันหลบอยู่ด้านหลังฝูงชน ไม่กล้าปรากฏตัวต่อหน้าจวินอู๋เสีย
พวกเขาไม่ได้โง่ ด้วยความสามารถนั้นของจวินอู๋เสีย สิบสองตำหนักทั้งหมดจะต้องแย่งตัวนางกันอย่างดุเดือดแน่ และถ้าเด็กนั่นรู้ว่าเมื่อสักครู่พวกเขาดูถูกเขาละก็…
เด็กพวกนั้นไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ได้แต่พยายามหลบหน้าอย่างเต็มที่ อยากจะเอาหน้ามุดดินไปเลยด้วยซ้ำ จวินอู๋เสียจะได้ไม่เห็นหน้าพวกเขา
แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดมากเกินไป จวินอู๋เสียไม่แม้แต่จะหันไปมองใคร นางแค่มองตรงไปข้างหน้า สายตาสงบนิ่งเหมือนน้ำนิ่ง ขณะเดินไปที่ทางออกของสนามแข่งอย่างใจเย็น
พอจวินอู๋เสียก้าวออกไปนอกประตูสนามแข่ง ด้านในสนามแข่งก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้นทันที
“เมื่อสักครู่มันอะไรกัน”
“เด็กนั่นมาจากไหน”
“ให้ตายสิ! ข้านึกว่าตัวเองตาฝาดไปเสียอีก! เจ้าเห็นนั่นหรือไม่”
“จบแล้ว! จบกันแล้ว! ข้าด่าเขาไปเมื่อสักครู่ด้วย! เขาคงไม่ได้ยินหรอกใช่หรือไม่”
ทั่วทั้งสนามแข่ง ทุกคนต่างไม่มีความคิดอย่างอื่นกันเลย การปรากฏของการเสริมวิญญาณได้เปลี่ยนสิ่งที่ทุกคนรู้ไปอย่างสิ้นเชิง
อย่างนั้นร่างวิญญาณก็สามารถเสริมพลังแบบนั้นได้ด้วยสิ เด็กคนนั้น! เขาทำได้อย่างไร!
ขณะที่ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังสนทนากันอย่างดุเดือด พวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าภายในห้องส่วนตัวบนชั้นสอง เมื่อจวินอู๋เสียจากไป ก็มีเงาหนึ่งหรือสองคนหายวับตามหลังจวินอู๋เสียไปอย่างรวดเร็ว!
จวินอู๋เสียออกจากสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด ทิ้งฝูงชนที่พลุกพล่านวุ่นวายเอาไว้เบื้องหลัง และเดินไปตามถนนที่ค่อนข้างว่างเปล่า
ในขณะนั้นพวกผู้เยาว์ส่วนใหญ่ที่รวมตัวกันบนภูเขาฝูเหยาได้ไปตามสนามแข่งต่างๆ เพื่อรอคอยการตัดสินชะตากรรมของพวกเขา และมีเพียงผู้เยาว์บางคนที่แข่งเสร็จแล้วเท่านั้นถึงมาปรากฏตัวอยู่บนถนน ใบหน้าของพวกเขาถ้าไม่เต็มไปด้วยความภูมิใจที่ได้เข้ารอบ ก็ดูเศร้าโศกจากการตกรอบ
ผู้เยาว์หลายคนที่เพิ่งแข่งเสร็จเดินอย่างร่าเริงอยู่บนถนน เพียงแค่มองรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาก็จะเห็นได้อย่างง่ายดายว่าพวกเขาเป็นคนที่โชคดีกว่าในงานชุมนุมเทพยุทธ์และมีคุณสมบัติที่จะเข้ารอบต่อไป
จวินอู๋เสียเดินผ่านผู้เยาว์พวกนั้น พวกเขามองจวินอู๋เสียที่ดูผอมบางและอ่อนแออย่างดูถูก เมื่อพวกเขาสังเกตเห็นแมวดำตัวน้อยในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย พวกเขาก็อดหัวเราะออกมาดังๆ ไม่ได้
“เจ้าดูภูติวิญญาณนั่นสิ! มันดูเหมือนตัวที่โดนภูติวิญญาณของเจ้าอัดบนเวทีเลยไม่ใช่หรือ” ความดีใจจากการได้เข้ารอบทำให้ผู้เยาว์พวกนั้นฮึกเหิมขึ้นอย่างมาก พวกเขาเพิ่งกลับจากการได้รับชัยชนะจากการแข่งภูติวิญญาณ ความตื่นเต้นและอะดรีนาลีนทำให้พวกเขาเกิดความหยิ่งผยอง พวกเขาจึงพูดพล่อยๆ แบบไม่ยั้งคิด
“น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เห็นตอนเจ้าแข่ง” ผู้เยาว์อีกคนแสร้งทำเป็นเสียใจ
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความยินดี เขาหันไปมองจวินอู๋เสียที่เดินห่างออกไปด้วยแววตามุ่งร้าย
“ไม่ได้เห็นแล้วจะเป็นไรไป ข้าแสดงให้เจ้าดูอีกรอบตอนนี้ก็ได้!”