ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1551 เด็กนี่ไม่เลว (1) / ตอนที่ 1552 เด็กนี่ไม่เลว (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1551 เด็กนี่ไม่เลว (1) / ตอนที่ 1552 เด็กนี่ไม่เลว (2)
“ศิษย์พี่…คำพูดท่าน…” เทียนเจ๋อชินแล้วกับท่าทางรังเกียจของซูหย่าที่มีต่อเขา เขาเกาหัวและพูดอย่างเก้อเขินเล็กน้อย ”ข้าไม่มีพรสวรรค์อย่างศิษย์พี่ ก็ข้ามันโง่มาตั้งแต่เด็กนี่นา ไม่อย่างนั้นท่านจะเป็นศิษย์พี่ข้า แล้วข้าเป็นศิษย์น้องท่านได้อย่างไร”
ซูหย่าทำเสียงหึ ยังคงไม่พอใจ
เมื่อเห็นว่าท่าทีของซูหย่าดีขึ้นเล็กน้อย เทียนเจ๋อก็รีบเข้าไปใกล้ๆ และนำสุราชั้นดีที่เตรียมไว้ออกมาส่งให้ซูหย่า
“นี่เป็นสุราชั้นดีที่ข้าเพิ่งนำมาจากเชิงเขา จิบซักนิดข้าก็ยังไม่กล้า ข้ารู้ว่าศิษย์พี่ชอบดื่ม ก็เลยนำมาให้ท่าน”
ซูหย่าเหลือบมองไหสุรา แล้วยื่นมือออกไปรับ
“ก็ยังมีไหวพริบอยู่บ้างนี่ เอ้า พูดมา! วันนี้เจ้ามาทำอะไรที่หอจันทร์แรมของข้า ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไปเสีย เห็นหน้าจ๋อยๆ ของเจ้าแล้วอารมณ์เสีย! เป็นบุรุษตัวโตเสียเปล่า กระมิดกระเมี้ยนเป็นสตรี ไม่อึดอัดใจบ้างหรืออย่างไร”
เทียนเจ๋อร้องไห้อยู่ในใจ ปกติเขาก็เหมือนบุรุษนะ ในสำนักธาราเมฆ เขาคือคนที่พูดคำไหนคำนั้น ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไม่ไว้หน้าใคร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าซูหย่า ท่าทางของเขาก็อ่อนลงโดยไม่รู้ตัว
“มีธุระสิ! นายท่านสั่งให้ข้ามา”
ซูหย่าพูดว่า ”นายท่านอะไร เรียกอาจารย์ไม่เป็นหรืออย่างไร”
เทียนเจ๋ออยากร้องไห้ มีอาจารย์ประหลาดก็ลำบากใจพอแล้ว ยังมีศิษย์พี่จอมโหดอีก คนปกติธรรมดาอย่างเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับศิษย์อาจารย์คู่นี้อย่างมาก
“อาจารย์ไม่ให้ข้าเรียกแบบนั้นในสำนัก” เทียนเจ๋อตอบอย่างเศร้าใจ
“งี่เง่าทั้งคู่” ซูหย่าพูดพร้อมส่งเสียงหึ
เทียนเจ๋อเพิกเฉยต่อการดูถูกของซูหย่าและเริ่มพูดเรื่องธุระที่มา
“อาจารย์ให้ข้ามาถามและดูว่าเด็กที่ถูกส่งมาให้ศิษย์พี่เป็นอย่างไรบ้าง”
เมื่อซูหย่าได้ยิน นางก็หยุดดื่มและลุกขึ้นนั่งบนโซฟา
“ว่าแล้วว่าคนที่ยัดเจ้าหนูมาที่นี่ต้องเป็นตาแก่นั่นแน่ๆ! เขาทนเห็นข้าอยู่ว่างๆ ไม่ได้หรืออย่างไร ข้าอุตส่าห์มาซ่อนอยู่ในหอจันทร์แรมแล้ว ยังจะยัดเยียดคนมาให้ข้าอีก!”
เทียนเจ๋อพูดอย่างลำบากใจว่า ”อย่ามาโทษข้านะ เป็นความตั้งใจของอาจารย์ ข้าแค่ทำธุระให้เท่านั้น นอกจากนั้น…เจ้าเด็กจวินอู๋ก็ไม่เลวเลย ถึงจะซื่อบื้อไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ก็ซื่อสัตย์ ลักษณะพิเศษของเผ่าจ้าววิญญาณของเขา ไม่มีใครสามารถสอนได้เลย คนที่คุ้นเคยกับพลังจิตวิญญาณกับร่างวิญญาณมากที่สุดก็มีแค่ศิษย์พี่ อย่างไรท่านก็…” เทียนเจ๋อยังพูดไม่จบ ซูหย่าก็จ้องกลับด้วยสายตาเย็นชา คำที่ยังไม่ได้พูดก็ถูกกลืนกลับเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้
ซูหย่าถอนสายตากลับมา
เทียนเจ๋อถามอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก ”ศิษย์พี่ไม่พอใจจวินอู๋หรือ”
ซูหย่าส่งเสียงหึ ”ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กนั่นเชื่อฟังดีละก็ ข้าจับโยนออกไปนานแล้ว ใครเป็นคนส่งเขามาก็ช่าง”
เมื่อเทียนเจ๋อได้ยิน ก็รู้ว่าการแสดงยังดำเนินต่อไปได้!
แม้ว่าซูหย่าจะพูดเหมือนหงุดหงิด แต่เทียนเจ๋อรู้ว่านั่นหมายความว่าซูหย่าตกลงที่จะสอนจวินอู๋แล้ว ต้องรู้ว่าซูหย่าไม่ชี้แนะศิษย์มาหลายปีแล้ว นางไม่อยากอยู่ในสำนักธาราเมฆแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งเด็ดขาดของอาจารย์ที่ให้นางอยู่ที่นี่ นางคงหายตัวไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้แล้ว
ซูหย่ามีพลังสูงมาก นางมีวิธีการเฉพาะตัวในการสอนลูกศิษย์ของนาง ศิษย์ทั่วไปไม่อยู่ในสายตานางเลย ในอดีต คนที่นางเต็มใจสอนก็มีแค่ไม่กี่คน ถ้านางยอมให้จวินอู๋อยู่ที่นี่ นั่นก็หมายความว่านางจับตามองจวินอู๋แล้วและเต็มใจที่จะชี้แนะสั่งสอนเขา ทำให้เทียนเจ๋อถอนหายใจอย่างโล่งอกได้ในที่สุด
อาจกล่าวได้ว่า ทั่วทั้งสำนักธาราเมฆ คนที่แข็งแกร่งกว่าซูหย่ามีเพียงอาจารย์ของพวกเขาสองคนเท่านั้น การที่ทำให้ซูหย่ายอมรับศิษย์ได้นั้นเป็นสิ่งที่หายากจริงๆ
ตอนที่ 1552 เด็กนี่ไม่เลว (2)
“ใช่ๆๆ เจ้าเด็กจวินอู๋นั่นไม่เลวเลย” เทียนเจ๋อรีบเห็นด้วย
ตอนที่ซูหย่าเอ่ยถึงจวินอู๋เสีย น้ำเสียงของนางดีขึ้นเล็กน้อย ตอนแรกนางไม่คิดจะสอนอะไรจริงๆ นางหมดใจจะสอนไปแล้ว ดังนั้นในตอนแรกนางจึงจงใจทำให้จวินอู๋เสียลำบาก และสั่งให้เด็กนั่นทำหลายอย่างที่เขาไม่ควรทำ
ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงหมดความอดทนเพราะความหยิ่งผยองและจากไปนานแล้ว แต่ไม่ว่าความต้องการของซูหย่าจะไร้เหตุผลเพียงใด จวินอู๋เสียก็ปฏิบัติตามคำสั่งของนางอย่างเงียบๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายของซูหย่าจริงๆ
เด็กคนนี้ไม่พูดมาก และยังไม่เคยประจบสอพลอทำท่าอวดเก่ง เป็นแค่เจ้าโง่ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ซูหย่าเฝ้ามองจวินอู๋เสียทรหดอดทนทำงานหนักทุกวัน ใจที่เป็นน้ำแข็งมานานก็ค่อยๆ ละลายอย่างช้าๆ
“เจ้ากลับไปบอกอาจารย์ว่า ข้า ซูหย่า จะรับเด็กคนนี้เอาไว้ หนึ่งปีต่อจากนี้ ข้าจะคืนอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้กลับไปให้ ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่เหนือกว่าศิษย์ทุกคนที่มีพวกหัวทึบเป็นอาจารย์ละก็ อย่ามาเรียกข้าว่าซูหย่า!” ซูหย่าประกาศกร้าวอย่างมั่นใจ
เทียนเจ๋อพยักหน้ารัวๆ ในใจรู้สึกดีใจแทนจวินอู๋เสีย
คำพูดของซูหย่าแรงมากก็จริง แต่ในฐานะศิษย์น้องของซูหย่า เทียนเจ๋อรู้ว่าซูหย่าเป็นเพียงคนเดียวในสำนักธาราเมฆที่สามารถทำคำพูดบ้าๆ นั่นให้กลายเป็นจริงได้
ในช่วงเวลาหนึ่งปี จะทำให้จวินอู๋เสียกลายเป็นอัจฉริยะที่สามารถเอาชนะศิษย์ทุกคนในสำนักธาราเมฆได้ นั่นคือคำสัญญาของซูหย่า!
ซูหย่าไม่ได้ยอมทำอะไรง่ายนัก แต่เมื่อไรที่นางยอมทำแล้วละก็ ไม่มีอะไรที่นางทำไม่ได้
“เอาล่ะ เจ้าไสหัวไปได้แล้ว ข้าเห็นหน้าหงอยๆ ของเจ้าแล้วอารมณ์เสีย ไป ไป ไป๊! ถ้าไม่มีอะไรก็อย่ามาเกะกะข้าที่นี่!” หลังจากซูหย่าให้ความมั่นใจกับเทียนเจ๋อแล้ว นางก็ออกคำสั่งขับไล่เขาอย่างไม่ไยดี
เทียนเจ๋อรีบออกไปโดยไม่กล้าอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว ตอนออกไปก็ปิดประตูให้อย่างดี
ซูหย่านั่งอยู่บนโซฟา มองประตูที่ปิดลง แล้วถอนหายใจเบาๆ นางก้มมองมือทั้งสองข้างของตัวเอง ใบหน้าที่มีร่องรอยความมึนเมาปรากฏความเหงาเศร้าอย่างที่ไม่สมกับเป็นนางในยามปกติ
“ให้ตายสิ รู้สึกเหมือนโดนหลอกอีกแล้ว”
สุดท้ายนางก็ยังทำสิ่งที่นางเคยไม่อยากทำ
หวังว่าครั้งนี้ทุกอย่างจะแตกต่างออกไป
ที่ชั้นใต้ดิน จวินอู๋เสียกำลังเช็ดถังสุรา ตอนแรกนางไม่ชินกับกลิ่นสุราที่รุนแรงในห้องเก็บสุรา สองสามวันแรกต้องดมกลิ่นมากเกินไปจนถึงกับเวียนหัว แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มชิน ตอนนี้เมื่อได้กลิ่นสุรา นางก็รู้สึกว่าเส้นเอ็นและหลอดโลหิตทั่วร่างของนางโล่งสบายมากขึ้น
ในฐานะหมออัจฉริยะ จวินอู๋เสียจึงมีสัมผัสที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของนางเอง
นางอยู่ในห้องเก็บสุราที่ชั้นใต้ดินแค่ครึ่งเดือน แต่เส้นเอ็นและหลอดโลหิตของนางขยายตัวขึ้นไม่น้อย ต้องรู้ว่าเส้นเอ็นและหลอดโลหิตของนางได้รับการบำรุงจากโอสถวิเศษที่นางปรุงขึ้นเอง ทำให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว แต่ความแข็งแกร่งที่เพิ่มเข้ามาในตอนนี้ทำให้จวินอู๋เสียประหลาดใจจริงๆ
ทันใดนั้น ประตูห้องเก็บสุราก็เปิดออก ซูหย่าเดินลงมาสองสามก้าวก่อนจะบังคับตัวเองให้มองไปที่จวินอู๋เสียซึ่งกำลังเช็ดไหสุราอยู่ แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏในแววตาของนาง แต่ก็หายไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางกลับมาดูเฉยเมยอีกครั้ง
“จวินอู๋” ซูหย่าเอ่ยปาก
จวินอู๋เสียลุกขึ้นมองซูหย่าด้วยแววตาสงสัย
“ขึ้นมา” พูดจบนางก็หันกลับและเดินออกไปจากห้องเก็บสุรา จวินอู๋เสียก็เดินตามนางออกไป
เมื่อปิดประตูห้องเก็บสุรา จวินอู๋เสียก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าซูหย่า ไม่รู้ว่าราชินีที่รักสุรายิ่งชีพคนนี้จะทรมานอะไรนางอีก