ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1619 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (6) / ตอนที่ 1620 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (7)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1619 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (6) / ตอนที่ 1620 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (7)
การประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป ทำให้พวกคนชุดดำเพลี่ยงพล้ำอย่างมาก!
พวกเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าภารกิจรายทางที่พวกเขาคิดว่าจะทำได้ง่ายๆ นั้น จะทำให้พวกเขาเจอกับวิกฤตครั้งใหญ่เช่นนี้
“ใครกันแน่ที่โง่เขลา อีกเดี๋ยวพวกเจ้าก็จะรู้” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง ร่างของนางกลายเป็นแสงพุ่งตรงเข้าใส่พวกคนชุดดำ พวกเฉียวฉู่ก็ตามหลังมาติดๆ ตรงเข้าปะทะกับกลุ่มคนชุดดำอย่างเปิดเผย!
ทันใดนั้น พลังวิญญาณขั้นสีม่วงทั้งสิบสองก็ต่อสู้กันตรงทางเดินที่ไม่ได้กว้างมากนัก พลังแสงสีม่วงไขว้กันไปมาและระเบิดกลางอากาศ การระเบิดของพลังวิญญาณทิ้งรอยแตกลึกไว้บนผนังตามทางเดินทั้งสองด้าน เสียงกระแทกจากการระเบิดของพลังวิญญาณส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างรุนแรง!
และสิ่งที่แปลกก็คือการต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดขนาดนี้ แต่ทั้งหอพักกลับไม่มีศิษย์ตกใจตื่นขึ้นมาเลยสักคน การต่อสู้ที่เขย่าพื้นดินสะเทือนภูเขาถึงขนาดนี้ แต่ผู้เยาว์ทุกคนก็ยังคงหลับสนิทอยู่ในห้องโดยไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งสิ้น ขนาดเสียงกระแทกดังสนั่นจนแก้วหูเกือบแตก พวกเขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
ในตอนแรก พวกคนชุดดำอดสงสัยในพลังของจวินอู๋เสียและพรรคพวกของนางไม่ได้ จากมุมมองของพวกเขา มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ในสามโลกชั้นกลางจะมีปีศาจที่ท้าทายสวรรค์มาเกิดในช่วงเวลาเดียวกันมากถึงขนาดนี้
สามารถทะลวงเข้าสู่พลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้ก่อนอายุยี่สิบปี และยังขึ้นถึงขั้นที่สามและสี่แล้ว เรื่องแบบนี้ยังไม่เคยมีให้เห็นในรอบร้อยปี แต่กลับเกิดขึ้นตรงหน้าพวกเขาแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวแทบจะเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์ พวกคนชุดดำรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไป พวกเขาถึงกับคิดว่าทั้งหมดนี้เป็นผลจากการที่ศัตรูของพวกเขาใช้วิธีการพิเศษบางอย่างทำให้พวกเขาแสร้งทำเป็นมีพลังถึงขั้นนี้ได้
แต่เมื่อทั้งสองฝ่ายได้แลกหมัดกันจริงๆ พวกคนชุดดำก็มึนงงไปหมด พวกเฉียวฉู่โจมตีได้อย่างรวดเร็วและน่ากลัวมาก ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกเขาเลย และสิ่งที่ทำให้แย่ลงมากก็คือผู้เยาว์พวกนี้ลงมือได้โหดอย่างไม่น่าเชื่อในทุกๆ การโจมตี การโจมตีของพวกเฉียวฉู่ทั้งรวดเร็วและแม่นยำ ทุกการโจมตีเล็งไปที่จุดตายของคนชุดดำ การโจมตีที่น่ากลัวเหล่านั้นบังคับให้พวกชุดดำต้องทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อป้องกันตัวเอง ถ้าเกิดพลาดและโดนโจมตีเข้าสักครั้ง ถึงไม่ตายก็จะต้องสร้างความเสียหายให้พวกเขาอย่างมากแน่นอน
การโจมตีพวกเขาอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้เป็นสิ่งที่กลุ่มคนชุดดำคิดไม่ถึงจริงๆ
พลังที่ผู้เยาว์พวกนี้แสดงออกมาไม่ใช่สิ่งที่คนในวัยเดียวกับพวกเขาควรมี พวกเขาไม่เพียงใช้พลังวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังโจมตีได้หลากหลายและอันตราย เป็นรูปแบบการต่อสู้ที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยง!
พวกคนชุดดำไม่รู้ว่าพวกเฉียวฉู่เติบโตมาในสถานการณ์ที่ต่างจากเด็กทั่วไป พวกเขาทุกคนถูกเยี่ยนปู้กุยขุดออกมาจากกองซากศพ ทุกวันที่มีชีวิตอยู่ พวกเขาได้พยายามฝึกฝนอย่างสุดกำลัง ความแค้นที่พวกเขาแบกไว้ไม่ยอมให้พวกเขาอู้ได้แม้แต่น้อย
ในสามโลกเบื้องล่าง พวกเขาได้เผชิญกับการต่อสู้เสี่ยงตายมานักต่อนัก หากพ่ายแพ้สักครั้ง พวกเขาก็คงได้เจอกับความตาย
การมีชีวิตอยู่ภายใต้สภาพที่ยากลำบากเช่นนี้บังคับให้พวกเขาต้องแข็งแกร่งทรหด มันเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถจินตนาการได้!
ต้องต่อสู้กับกลุ่มผู้เยาว์ที่ใช้ชีวิตอยู่ระหว่างความเป็นความตายเช่นนี้ พวกชุดดำรู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบ
และสิ่งที่ทำให้คนชุดดำพวกนี้อยากกระอักโลหิตมากที่สุดก็คือคนที่อายุน้อยที่สุด จวินอู๋เสีย!
ตอนที่ 1620 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (7)
คนที่ต่อสู้กับจวินอู๋เสียเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงขั้นสี่เพียงคนเดียวในกลุ่มคนชุดดำ และเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขา
แต่เขากลับพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในกลุ่ม!
การโจมตีของพวกเฉียวฉู่นั้น ไม่ว่าจะพลิกแพลงอย่างไรก็เป็นแค่การโจมตีด้วยพลังวิญญาณของพวกเขา แต่การโจมตีของจวินอู๋เสียทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกประหลาดและไม่สามารถเข้าใจได้เลย
ร่างของจวินอู๋เสียหายวับไปอย่างรวดเร็วราวกับภูติผีปีศาจ ทั้งๆ ที่ดูเหมือนยืนอยู่ตรงหน้าคู่ต่อสู้ แต่พอโจมตีกลับเป็นแค่ภาพเงาที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น ไม่รู้เลยว่านางเคลื่อนไหวตอนไหน แต่นางก็มาโผล่ที่ด้านหลังของคนชุดดำและโจมตีใส่เขาอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ!
คนชุดดำถูกจวินอู๋เสียโจมตีอย่างต่อเนื่องหลายครั้งหลายครา ทำให้ตัวเขาที่ทำใจกล้าในตอนแรกเริ่มร้อนรนขึ้นมาก ยิ่งเขาพยายามเร่งฆ่าจวินอู๋เสีย ก็ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้คู่ต่อสู้ สายตาของจวินอู๋เสียสงบนิ่งอยู่ตลอดเวลา นิ่งเสียจนน่าตกใจ ความแตกต่างทางด้านจิตใจของทั้งสองดูเหมือนจะตัดสินผลของการต่อสู้ที่ดุเดือดนี้แล้ว
การปะทะที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นอย่างต่อเนื่องได้ทำลายความเงียบสงบของหอพัก แสงพลังวิญญาณขั้นสีม่วงอันเจิดจ้าวูบวาบไปมา ทำให้ทางเดินสว่างขึ้น กำแพงทั้งสองด้านแตกร้าวจากผลกระทบของการต่อสู้ ฝุ่นและเศษหินที่แตกกระจายหมุนวนอยู่ในอากาศและปลิวว่อนไปมาด้วยแรงระเบิดของพลังวิญญาณ
เยี่ยซาและเยี่ยกูยังคงซ่อนตัวอยู่ในความมืด เฝ้าสังเกตทุกอย่างที่เกิดขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นจวินอู๋เสียและสหายของนางต่อสู้กับคนที่มีพลังในระเดียวกับพวกเขา และเป็นช่วงเวลาที่ทำให้พวกเขาได้เห็นเหล่าผู้เยาว์กลุ่มนี้ในแง่มุมที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ผู้เยาว์พวกนี้แข็งแกร่งกว่าที่พวกเขาคิด พวกเฉียวฉู่ดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อการต่อสู้ พวกเขาแสดงความสามารถในการผสานพลังวิญญาณเข้ากับประสบการณ์ของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบและนำไปใช้ในการต่อสู้ได้อย่างราบรื่น พรสวรรค์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการฝึกฝน
เมื่อเห็นพวกคนชุดดำพ่ายแพ้ให้กับพวกของจวินอู๋เสีย เยี่ยซาและเยี่ยกูก็เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียจึงไม่ให้พวกเขาออกมาแสดงตัว
เพราะจวินอู๋เสียรู้ว่าคนชุดดำกลุ่มนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนาง
ความมั่นใจที่นางมีนั้นขึ้นอยู่กับพลังที่กล้าแกร่งล้วนๆ!
ตอนนั้นเอง เยี่ยซาและเยี่ยกูก็ไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของจวินอู๋เสียอีกต่อไป แต่กลับเริ่มสงสารกลุ่มคนชุดดำที่เข้ามาบุกที่นี่โดยไม่รู้ตัว
พวกเขาจินตนาการออกเลยว่า คนชุดดำพวกนี้จะตกใจมากแค่ไหนตอนที่เห็นจวินอู๋เสียแสดงพลังของนางออกมา และรู้ว่าพวกเขาจะถูกยำเละเทะขนาดไหนเมื่อเข้าสู่การต่อสู้
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาได้เห็นการพัฒนาของพวกจวินอู๋เสียจากอ่อนแอจนมาแข็งแกร่งเช่นในวันนี้ด้วยตาของตัวเองแล้วละก็ แม้แต่เยี่ยซาและเยี่ยกูก็คงรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อที่ผู้เยาว์พวกนี้จะครอบครองพลังที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
เมื่อเห็นกับตาแล้วว่ากลุ่มคนชุดดำถูกอัดเละอยู่ฝ่ายเดียวจนแทบอาเจียนเป็นโลหิต เยี่ยซากับเยี่ยกูก็จุดเทียนไว้อาลัยให้คนโชคร้ายพวกนั้นอยู่ในใจ
จงโทษตัวเองเถอะที่มาหาเรื่องผิดคน
พวกนี้ไม่ใช่กลุ่มผู้เยาว์ธรรมดาทั่วไป พวกเขาคือกลุ่มผู้เยาว์ที่คลานออกมาจากนรก เป็นปีศาจที่จะกลืนกินทุกชีวิต!
ความสามารถที่น่ากลัวราวปีศาจร้ายของพวกเขานั้นมากเกินพอที่จะบดขยี้ความมั่นใจและความหยิ่งผยองของยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งได้ในทันที!
ในขณะที่กลุ่มคนชุดดำถูกพวกของจวินอู๋เสียทรมานจนเกือบตาย อีกด้านหนึ่งของสำนักธาราเมฆ คนชุดดำมากกว่าสิบคนกำลังวิ่งตรงไปที่หอเก็บสมบัติของสำนักธาราเมฆ
ภายใต้ความมืดมิดยามค่ำคืน พวกเขายืนนิ่งอยู่นอกหอเก็บสมบัติ ดวงตาวาววับจ้องมองไปยังจุดหมายปลายทางของพวกเขา