ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1623 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (10) / ตอนที่ 1624 ของขวัญตอบแทน (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1623 อันตรายในค่ำคืนที่มืดมิด (10) / ตอนที่ 1624 ของขวัญตอบแทน (1)
ในหอพักของศิษย์ใหม่ กลิ่นคาวโลหิตลอยตลบอบอวลอยู่ในทางเดิน
คนชุดดำหกคนนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น พวกเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าวันหนึ่งพวกเขาจะพ่ายแพ้ให้กับเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นนี้ สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งเจ็บใจมากขึ้นก็คือ พวกเขาพ่ายแพ้โดยที่ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย
แม้ว่าพวกเฉียวฉู่จะได้บาดแผลเล็กๆ น้อยๆ กันไปบ้าง แต่เมื่อเทียบกับสภาพของคนชุดดำแล้ว พวกเขาอยู่ในสภาพที่ดีกว่ามาก นอกจากนั้น จวินอู๋เสียได้ปรุงโอสถวิเศษสำหรับรักษาบาดแผลให้สหายของนางเอาไว้แล้วด้วย จึงไม่ต้องพูดถึงเลย
“ชิ ข้าก็คิดว่าพวกนี้จะปิดปากเงียบได้นานแค่ไหน โดนไปสองสามทีก็สารภาพออกมาหมดเปลือกแล้วเนี่ยนะ” เฉียวฉู่ลูบคาง สายตาของเขามองไปที่คนชุดดำคนหนึ่ง
คนชุดดำคนนั้นคือผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงขั้นสี่ที่ต่อสู้กับจวินอู๋เสีย พลังวิญญาณขั้นสีม่วงขั้นสี่ในสิบสองตำหนักนั้นคือระดับผู้อาวุโสที่เป็นรองแค่จ้าวตำหนัก แต่ตอนนี้คนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นกลับอยู่ในสภาพที่ผู้คนไม่อาจทนมองได้เลย แขนขาของเขาบิดไปในมุมแปลกๆ ข้อต่อทั้งหมดมีแต่รอยฟกช้ำดำเขียว
ดวงตาของเขาบวมจนดูเหมือนตาปลาทอง บาดแผลบนร่างกายก็มีโลหิตสีดำคล้ำไหลออกมา
คนชุดดำที่บาดเจ็บคนอื่นๆ พากันตัวสั่นงันงกอยู่ทางด้านหนึ่ง พวกเขากลัวมากจริงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ใครจะคิดว่าโอสถวิเศษเพียงเม็ดเดียวจะทำให้ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงขั้นสี่ต้องประสบชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายแบบนี้
พวกเขาได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าจวินอู๋เสียป้อนโอสถวิเศษให้กับบุรุษคนนั้นหนึ่งเม็ด แล้วไม่ได้ทำอะไรอีกเลย จากนั้นข้อต่อของบุรุษคนนั้นก็ส่งเสียงดังกรอบติดต่อกันไม่หยุด คล้ายกับว่ากระดูกข้อต่อของเขาถูกหัก ไม่สามารถควบคุมกระดูกได้ ได้แต่นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้น
ความเจ็บปวดที่ไม่ใช่มนุษย์แบบนั้น แค่มองก็ทำให้พวกเขาขนพองสยองเกล้าแล้ว
พวกเขายอมตายดีกว่าต้องเจอกับความเจ็บปวดทรมานแบบนั้น!
“ที่ควรถามก็ถามไปเกือบหมดแล้ว อย่าเสียเวลาเลย ฟ้าเกือบสว่างแล้ว” ฟ่านจัวมองท้องฟ้านอกหน้าต่างและเห็นว่าขอบฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น คืนนี้พวกเขาสู้กันอยู่นานพอสมควร และได้ข้อมูลที่ต้องการจากคนชุดดำแล้ว ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
“เอาล่ะ ให้ข้าส่งพวกเขาไปที่ชอบๆ ได้หรือยัง” เฉียวฉู่ลงนั่งยองๆ พร้อมหักข้อนิ้วเสียงดังกรอบ แต่เขาไม่ได้ลงมือใดๆ ทั้งสิ้น แต่กลับมองไปที่จวินอู๋เสียเหมือนจะถามความคิดเห็นของนาง
จวินอู๋เสียมองไปที่กลุ่มคนชุดดำที่กลัวจนหัวหด จากปากของหัวหน้ากลุ่ม นางได้รู้ว่ากู่อิ่งเป็นคนส่งคนพวกนี้มาจริงๆ แต่มีจุดหนึ่งที่จวินอู๋เสียสงสัยอย่างมาก ไม่ว่านางจะซักถามถึงที่มาของพวกเขาอย่างหนักขนาดไหนก็ตาม นางก็ไม่ได้คำตอบใดๆ พวกเขาถ้าไม่ขบกรามแน่นไม่ยอมพูด ก็ดูเหมือนจะไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองมาจากไหน สิ่งเดียวที่พวกเขารู้ก็คือเป้าหมายที่มาที่นี่เท่านั้น
เมื่อมองไปที่ท้องฟ้าด้านนอก จวินอู๋เสียก็รู้ว่านางไม่สามารถลากไปได้นานกว่านี้แล้ว ก่อนที่คนชุดดำพวกนี้จะมาถึง นางได้ใช้โอสถวิเศษพิเศษบางอย่างเพื่อทำให้ทุกคนหลับสนิทไม่ตื่น ตอนนี้โอสถวิเศษกำลังจะหมดฤทธิ์แล้ว อีกไม่นานทุกคนก็จะตกใจตื่นจากกลิ่นคาวโลหิตที่รุนแรง
นางไม่อยากให้ตัวตนของนางถูกเปิดเผยในตอนนี้
“อย่าเพิ่งฆ่าพวกเขา ข้ายังอยากใช้ประโยชน์บางอย่าง” ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของจวินอู๋เสีย คนชุดดำกลุ่มนี้ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นางรู้สึกว่าน่าจะมีวิธีที่เหมาะกับการตายของพวกเขามากกว่านี้
ถือเสียว่าเป็น ‘ของขวัญตอบแทน’ ที่นางส่งให้กับคนผู้นั้นก็แล้วกัน
ตอนที่ 1624 ของขวัญตอบแทน (1)
เมื่อแสงแรกของดวงอาทิตย์สาดลงบนพื้น ขับไล่ความเงียบสงัดของยามราตรี นกส่งเสียงร้องอยู่บนกิ่งไม้ และอุณหภูมิก็เริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
เหล่าผู้เยาว์ในสำนักธาราเมฆตื่นขึ้นจากการหลับใหล และรู้สึกต่างจากเช้าวันก่อนๆ เล็กน้อย พวกเขารู้สึกเหมือนหลับสนิทกว่าเดิมก่อนจะลุกออกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวสำหรับการฝึกฝนในวันใหม่ แต่แล้วผู้เยาว์เหล่านั้นก็ได้กลิ่นแปลกๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศจางๆ กลิ่นนั้นเหมือนกับกลิ่นโลหิตไม่ผิดเพี้ยน
ผู้เยาว์หลายคนเปิดประตูออกมาด้วยความกังวล สายตาของพวกเขามองไปรอบๆ เพื่อหาที่มาของกลิ่น
หลินเฮ่าอวี่ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ ความเหนื่อยล้าทรมานที่เขาได้รับในช่วงนี้ ทำให้เขานอนหลับไม่สนิทมานานแล้ว การได้นอนหลับสนิทโดยไม่ฝันและไม่มีอะไรรบกวนจนถึงรุ่งสางช่วยบรรเทาความหดหู่ของเขาได้ไม่น้อย หลินเฮ่าอวี่เก็บเตียงแล้วไปยืนส่องกระจกอยู่ที่หน้ากระจกทองแดง เขารู้สึกพอใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองมาก เด็กหนุ่มดึงชายเสื้อให้ตึง พอคิดว่าตัวเองดูดีแล้ว ก็เดินไปที่ประตูและเอื้อมมือออกไปเพื่อเปิดประตู
แต่ทันทีที่เปิดประตู หลินเฮ่าอวี่ก็ต้องตกตะลึง เขาเห็นผู้คนรุมล้อมอยู่ที่หน้าห้องของเขา สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หลินเฮ่าอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าทำไมคนพวกนี้ถึงพากันมามุงอยู่ที่หน้าห้องของเขาตั้งแต่เช้าตรู่เช่นนี้
ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากไล่คนพวกนั้นออกไป กลิ่นโลหิตก็พุ่งขึ้นจมูกของเขา หลินเฮ่าอวี่ก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว บนพื้นตรงหน้าห้องของเขาที่ทุกคนต่างถอยห่างออกไปนั้น เขาเห็นกองโลหิตเนื้ออยู่กองหนึ่ง!
โลหิตได้แห้งไปแล้วเล็กน้อย มันแห้งติดกับเศษเนื้อที่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร พวกมันกองสุมกันจนเหมือนเป็นเนินเขาลูกย่อมๆ ขวางหน้าประตูห้องของเขา กลิ่นโลหิตที่พุ่งใส่หน้าเขาทำให้หลินเฮ่าอวี่หน้าซีดทันที!
ไม่ใช่แค่พื้น แม้แต่ประตูห้องของเขาก็ถูกสาดด้วยโลหิตจนกลายเป็นสีแดงสด
หลินเฮ่าอวี่ตกใจกลัวมากจนฟันกระทบกัน แม้ว่าช่วงนี้ชีวิตของเขาจะไม่ราบรื่น แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นภาพที่เต็มไปด้วยโลหิตมากมายขนาดนี้มาก่อน!
ภาพโลหิตเนื้อกองใหญ่ทำให้ในหัวของเขามีเสียงดังขึ้นไม่หยุด เขาไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่านั่นคือกองอะไร!
จะมีอะไรน่ากลัวไปกว่าการเห็นกองแบบนี้อยู่ที่หน้าประตูห้องของตัวเองในตอนเช้า
นี่คือการขู่อย่างนั้นหรือ เป็นแค่การข่มขู่ หรือว่าเป็นการเตือน
หลินเฮ่าอวี่เพิ่งตื่นขึ้นมา แต่เขารู้สึกเหมือนติดอยู่ในคืนฤดูหนาวที่มืดจนมองไม่เห็นมือของตัวเอง อุณหภูมิในร่างเขาถูกดูดหายไปจนหมด ทำให้เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง
สีหน้าของพวกผู้เยาว์ที่มุงอยู่หน้าห้องดูน่าเกลียดมาก ต่างรู้สึกขอบคุณอย่างถึงที่สุดที่เจ้ากองนี้ไม่ได้อยู่หน้าห้องของพวกเขา แต่เป็นห้องของหลินเฮ่าอวี่ เห็นได้ชัดว่าคนที่ทิ้งเจ้ากองนี้ไว้ที่นี่เจาะจงเป้าหมายที่หลินเฮ่าอวี่คนเดียว!
ทุกคนอดเดาอยู่ในใจไม่ได้ว่าใครคือคนที่ทำเรื่องนี้
นี่หมายความว่ามีคนต้องการชีวิตของหลินเฮ่าอวี่ใช่หรือไม่
คำถามเดียวกันนี้วนเวียนอยู่ในใจของทุกคนที่นั่น สายตาที่มองหลินเฮ่าอวี่ก็เริ่มแปลกไป แม้แต่ศิษย์ของตำหนักมารโลหิตก็ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ด้วยความเกรงกลัวอยู่ลึกๆ ว่าพวกเขาอาจจะถูกลากให้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
แม้ว่าหลินเฮ่าอวี่จะเป็นหลานชายของผู้อาวุโสแห่งตำหนักมารโลหิต แต่เห็นได้ชัดว่าเขาได้ทำให้คนที่ไม่ธรรมดาบางคนเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ใครจะรู้ว่าศัตรูต้องมีพลังมากแค่ไหนถึงสามารถทำการสังหารโหดในสำนักธาราเมฆได้
อนาคตเป็นสิ่งสำคัญ แต่ชีวิตตัวเองสำคัญกว่า!
พวกผู้เยาว์ที่มักจะเกาะติดอยู่กับหลินเฮ่าอวี่ก็แอบบอกตัวเองอยู่ในใจว่า ตอนนี้พวกเขาต้องขีดเส้นเว้นระยะห่างกับหลินเฮ่าอวี่ให้ชัดเจนเป็นการชั่วคราว