ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1659 ยืมใช้ (2) / ตอนที่ 1660 ยืมใช้ (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1659 ยืมใช้ (2) / ตอนที่ 1660 ยืมใช้ (3)
“จวิน…จวินอู๋…” ผู้เยาว์คนหนึ่งจำคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาได้ทันที!
ผู้เยาว์ตัวเล็กที่กำลังปลอบโยนม้าอยู่นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นจวินอู๋ที่เข้าฝึกในสำนักธาราเมฆเหมือนพวกเขานั่นเอง!
ผู้เยาว์หลายคนที่นั่นบังเอิญเป็นศิษย์ที่เพิ่งถูกปล่อยตัวจากสำนักธาราเมฆและอยู่ในตำหนักเงาจันทรามาได้ไม่นานนัก ดังนั้นพวกเขาย่อมจำจวินอู๋ผู้มี ‘ชื่อเสียงโด่งดัง’ ได้!
“จวินอู๋…ทำไมเจ้าอยู่ที่นี่” ผู้เยาว์พวกนั้นตกตะลึงที่จู่ๆ ก็เจอกับจวินอู๋เสีย สายตาของพวกเขามองไปรอบๆ อย่างร้อนรนเพื่อดูว่ามีคนอื่นแอบซุ่มอยู่อีกหรือไม่ แต่เมื่อดูรอบตัวแล้ว พวกเขาก็ไม่พบใครอีก
ทำให้ผู้เยาว์พวกนั้นรู้สึกโล่งอกขึ้นมา
พวกเขาย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าจวินอู๋ได้เข้าสำนักธาราเมฆเพราะอะไร พวกเขารู้ว่าจวินอู๋มีพลังวิญญาณธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น ดังนั้นจวินอู๋สู้พวกเขาไม่ได้อยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋ถึงปรากฏตัวที่นี่ และสหายของพวกเขาตายได้อย่างไร
ทุกคนไม่คิดว่าพลังอันน้อยนิดของจวินอู๋จะสามารถฆ่าสหายของพวกเขาได้
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นช้าๆ และมองไปที่ผู้เยาว์พวกนั้น สายตาของนางสงบนิ่งและเยือกเย็นราวกับทะเลสาบน้ำแข็ง
“เขาตายได้อย่างไร” ผู้เยาว์คนหนึ่งขมวดคิ้วถามจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเหลือบมองร่างที่อยู่บนพื้นแต่ไม่พูดอะไร
“ข้าถามเจ้าอยู่นะ!” ผู้เยาว์คนนั้นเริ่มหงุดหงิดเมื่อไม่ได้รับคำตอบ แต่เขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม ใครจะรู้ว่ามีกับดักอื่นๆ อยู่อีกหรือไม่
“ข้าว่าเจ้าหมอนี่มันผิดปกติ เราไปกันก่อนเถอะ” ผู้เยาว์ที่ค่อนข้างขี้ขลาดพูดขึ้นอย่างกระสับกระส่าย
ถ้ามีเพียงจวินอู๋อยู่ที่นี่คนเดียว พวกเขาย่อมไม่กลัวอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่คิดว่าจวินอู๋มีความสามารถที่จะฆ่าสหายของพวกเขาได้
จวินอู๋เป็นคนของตำหนักหยกวิญญาณ ด้วยความที่ตำหนักหยกวิญญาณถูกสิบสองตำหนักกดขี่ข่มเหงอยู่หลายปี ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรบ้าง เป็นไปได้ว่าคนของตำหนักหยกวิญญาณซ่อนตัวอยู่ในที่ที่พวกเขามองไม่เห็น รอคอยโอกาสเหมาะที่จะเข้าโจมตี
ผู้เยาว์เหล่านั้นรู้สึกหนาวเยือกอยู่ในใจและไม่กล้าอยู่ที่นั่นต่ออีก ต่างลุกลี้ลุกลนจะปีนขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางต่อไป
แต่ทันใดนั้นเอง เสียงของจวินอู๋เสียก็ดังขึ้น
“เดี๋ยว”
พวกผู้เยาว์ตัวแข็งทื่อและพากันหันหน้าไปมองจวินอู๋เสีย พวกเขามองไปรอบๆ ด้วยสายตาระแวงอย่างมาก กลัวว่าจะมีคนกระโดดออกมาลอบโจมตี
“ข้าบอกให้พวกเจ้าไปได้หรือไง” เสียงเย็นชาของจวินอู๋เสียดังขึ้นกลางถนนกว้าง
“จวินอู๋! เจ้าหมายความว่าอย่างไร!” ในใจของพวกผู้เยาว์เย็นวาบ พวกเขามองไปรอบๆ อย่างประหม่า มีความรู้สึกว่าคนของตำหนักหยกวิญญาณที่กำลังแอบซุ่มอยู่จะกระโจนออกมาเพื่อคร่าชีวิตพวกเขาได้ทุกเมื่อ
“จวินอู๋ พวกเราไม่มีความแค้นต่อกัน ตอนอยู่ในสำนักธาราเมฆ พวกเราก็ไม่เคยหาเรื่องเจ้าเลย ทำไมเจ้าต้องทำเช่นนี้”
ผู้เยาว์พวกนั้นล้วนมีสีหน้าน่าเกลียด ใครจะรู้ว่าใครเป็นคนฆ่าสหายของพวกเขา แต่ตอนนั้นพวกเขารู้สึกได้แต่ความหวาดกลัว
“ลงมา” จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา
เหล่าผู้เยาว์รู้สึกอยากร้องไห้ แต่พวกเขาไม่กล้าขัดขืนคำพูดของจวินอู๋เสีย ทำได้เพียงปีนลงมาจากรถม้าอย่างเชื่อฟัง แต่ไม่กล้าอยู่ห่างจากรถม้า พวกเขาเอาหลังแนบติดกับด้านข้างรถม้ากันทีละคน
”จวินอู๋ อย่างน้อยที่สุดพวกเราก็เข้าฝึกในสำนักธาราเมฆพร้อมกันนะ เจ้าจะ…จะเห็นแก่ความเป็นศิษย์ร่วมสำนัก ปล่อยพวกเราไปได้หรือไม่” ผู้เยาว์คนหนึ่งอ้อนวอนขอความเมตตา ขาทั้งสองข้างสั่นระริก
ตอนที่ 1660 ยืมใช้ (3)
จวินอู๋เสียมองกลุ่มผู้เยาว์ที่เกือบจะร้องไห้อยู่รอมร่อด้วยสายตาเย็นชา แล้วโยนขวดบรรจุโอสถวิเศษไปตรงเท้าของพวกเขา
“คนละหนึ่งเม็ด”
เหล่าผู้เยาว์ร้องคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา
ตำหนักเงาจันทราตั้งใจจะไม่ไว้หน้าตำหนักจิงหงเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นพวกเขาจึงส่งกลุ่มผู้เยาว์ที่พลังไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนักและเพิ่งเข้าตำหนักมาเมื่อเร็วๆ นี้ไป ทุกคนเป็นเพียงวัยรุ่นและกำลังหวาดกลัวอย่างหนักจากฉากนองโลหิตตรงหน้า พวกเขาจะสามารถตั้งสติคิดได้อย่างไร เมื่อเห็นขวดยากลิ้งอยู่ที่เท้า พวกเขาก็คิดว่ามันเป็นโอสถพิษทันที จึงพากันร้องคร่ำครวญถึงสวรรค์ คิดว่าตัวเองต้องตายแน่แล้วคราวนี้
จวินอู๋เสียรู้สึกปวดหัวจากเสียงดังนั้น จึงขมวดคิ้วทันที
ทันใดนั้นเงาดำสองร่างก็กระโจนออกจากเงามืดและจัดการพวกผู้เยาว์ที่หมอบอยู่กับพื้นพลางร้องคร่ำครวญเสียงดังให้สลบทีละคน
เสียงโหวกเหวกโวยวายเงียบลงทันที
“ให้พวกเขากลืนโอสถวิเศษ” จวินอู๋เสียพูด
เยี่ยซาและเยี่ยกูหยิบขวดบรรจุโอสถวิเศษขึ้นมาและป้อนโอสถวิเศษใส่ปากผู้เยาว์คนละหนึ่งเม็ดทันที
นี่ไม่ใช่โอสถพิษ แต่เป็นสิ่งที่จวินอู๋เสียปรุงขึ้นซึ่งจะทำให้ความทรงจำสับสนในช่วงเวลาสั้นๆ นางแค่ตั้งใจจะ ‘ยืม’ รถม้าและของขวัญวันเกิดของตำหนักเงาจันทรามาใช้เท่านั้น ไม่ได้อยากทำอะไรคนพวกนี้
แต่คนที่ลงมาจากรถม้าคนแรกนั้นทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยามเมื่อเห็นจวินอู๋เสีย เขาใช้คำพูดทิ่มแทงจวินอู๋เสียอย่างก้าวร้าว เยี่ยกูจึงจัดการเชือดคอเขาทันทีโดยไม่รอให้จวินอู๋เสียพูดอะไรสักคำ
สุดท้ายมันก็ทำให้พวกผู้เยาว์ที่ลงมาทีหลังกลัวจนขี้ขึ้นสมอง
หลังจากที่จัดการผู้เยาว์พวกนั้นเรียบร้อยแล้ว ก็โยนพวกเขาไว้ในพุ่มไม้ข้างทาง จวินอู๋เสียที่ยืนอยู่หน้ารถม้าจ้องมองไปยังประตูที่ปิดสนิท
“เจ้าจะออกมาเอง หรือจะให้ข้าลากตัวเจ้าออกมา” เสียงของจวินอู๋เสียเย็นชาเล็กน้อย นางสัมผัสได้ว่ามีคนอยู่ในรถม้าอีกหนึ่งคน
ครู่ต่อมา เด็กหนุ่มหน้าขาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากรถม้าอย่างช้าๆ เขามีดวงตาที่ต่างจากคนปกติเล็กน้อย มันเป็นสีอำพันที่อ่อนมากและดูมีเสน่ห์มาก แต่ในดวงตากระจ่างใสคู่นั้นกลับไม่มีชีวิตชีวาเลย
สายตาของเด็กหนุ่มกวาดมองแอ่งโลหิตบนพื้นอย่างเฉยเมย ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่จวินอู๋เสีย
“เจ้าอยากฆ่าคนจากตำหนักเงาจันทราอย่างนั้นหรือ” เด็กหนุ่มเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ได้มาจากสำนักธาราเมฆ ลมปราณของเขาแปลกประหลาดมาก ดูเหมือนอ่อนแอแต่แท้จริงแล้วแข็งแกร่งมาก ลมปราณที่สับสนเช่นนั้นทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าแปลกที่ตรงไหน
“อย่างนั้นเจ้าจะฆ่าข้าได้หรือไม่”
“…” จวินอู๋เสียเบิกตากว้างเล็กน้อย นางจ้องมองเด็กหนุ่มที่เอ่ยคำพูดน่าตกใจออกมา
เขาบอกว่า…ให้ฆ่าเขาอย่างนั้นหรือ
จวินอู๋เสียเคยเห็นคนบ้ามาไม่น้อย แต่ไม่เคยเห็นคนบ้าแบบนี้ คนที่ไม่ขัดขืนหรือดิ้นรน แต่กลับร้องขอความตาย
“ถ้าเจ้าเป็นศัตรูของตำหนักเงาจันทราก็ฆ่าข้าเสีย ถ้าเจ้าไม่ฆ่าข้า วันหน้าข้าจะต้องตามฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสงบไม่รีบร้อนราวกับกำลังพูดถึงสิ่งที่ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย
พอสิ้นเสียงของเด็กหนุ่ม ร่างเยี่ยกูก็ปรากฏตัวที่ด้านหลังของเด็กหนุ่มอย่างเงียบเชียบ มีดสั้นในมือของเขากดลงที่ท้ายทอยของเด็กหนุ่ม
เด็กหนุ่มรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่หลังคอของเขา เขาหลับตาลงอย่างสงบราวกับกำลังรอคอยความตาย
เขาจะไม่ขัดขืนจริงๆ หรือ
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงเล็กน้อยขณะมองดูเด็กหนุ่ม ความรู้สึกแปลกๆ ผุดขึ้นในใจ ทันใดนั้นก็เกิดความคาดเดาบางอย่างขึ้นมา