ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1667 มาทำให้โกรธ (3) / ตอนที่ 1668 มาทำให้โกรธ (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1667 มาทำให้โกรธ (3) / ตอนที่ 1668 มาทำให้โกรธ (4)
ตอนที่ 1667 มาทำให้โกรธ (3)
แต่ในตอนนั้นเอง…
“ฟู่!”
ละอองน้ำสาดกระเซ็นลงบนร่างของจูเก๋ออิน ทิ้งรอยเปียกเอาไว้บนเสื้อผ้าหรูหราของเขา
สีหน้าของจูเก๋ออินเปลี่ยนไปทันที เขาหันหน้าไปดูว่าใครกันที่กล้าทำเรื่องไร้มารยาทต่อเขาเช่นนี้
สายตาของเขาหันไปเห็นเด็กหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งที่กำลังไอและตบหน้าอกตัวเองอย่างแรง มุมปากของเขาเปียกน้ำอย่างน่าสงสัย และในมือก็ถือแก้วเปล่าเอาไว้
“ขอโทษ ขอโทษ! ข้าสำลักน้ำ! อย่าถือโทษเลยนะ!” เมื่อเห็นสายตาของจูเก๋ออินจ้องมองมาที่เขา เด็กหนุ่มก็ยกมือขึ้นประสานกันเพื่อขอโทษทันที ผู้เยาว์คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่มก็มีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย พร้อมกับมองมาที่จูเก๋ออินด้วยสีหน้าขอโทษเช่นเดียวกัน
จูเก๋ออินรู้สึกโกรธเคืองอยู่บ้าง แต่พอเขาเห็นเครื่องแบบที่ผู้เยาว์เหล่านั้นสวมอยู่ บังเอิญเหลือเกินว่าพวกเขาคือคนของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ
แม้ว่าความแข็งแกร่งของตำหนักมังกรสวรรค์จะอยู่แถวหน้าในสิบสองตำหนัก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถแซงหน้าตำหนักเปลวเพลิงปีศาจและตำหนักมารโลหิตได้ กระทั่งจูเก๋ออินก็ไม่อยากมีเรื่องกับคนของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจในสถานที่เปิดเผยเช่นนี้ นอกจากนั้น พลังของเขาก็ยังไม่สามารถยืนยันระดับพลังของเด็กหนุ่มที่พ่นน้ำใส่เขาได้ เห็นได้ชัดว่าพลังของอีกฝ่ายเหนือกว่าเขา จูเก๋ออินข่มความโกรธในใจเอาไว้และแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ”ไม่เป็นไร ก็แค่น้ำนิดหน่อยเท่านั้น”
“เอ่อ…” เด็กหนุ่มที่พ่นน้ำหัวเราะเก้อๆ ”ขอโทษนะ ตอนที่ข้าดื่มน้ำ ข้ากินอะไรอยู่ด้วย…ก็เลย…”
จูเก๋ออินหน้าเปลี่ยนสี เขาก้มมองเสื้อผ้าตัวเองทันที อนิจจา มีเศษผลไม้ที่เคี้ยวแล้วติดอยู่ที่เสื้อผ้าของเขา ดูน่าขยะแขยงมาก
“คุณชายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าหรือไม่ขอรับ ตำหนักจิงหงจัดที่พักไว้ให้พวกเราแล้ว” ศิษย์คนหนึ่งของตำหนักมังกรสวรรค์เห็นสีหน้าของจูเก๋ออินไม่ค่อยดีนัก จึงรีบก้าวเข้ามาเปลี่ยนเรื่องทันที
มุมปากของจูเก๋ออินกระตุก เขาพยายามระงับความต้องการที่จะบีบคอฝ่ายตรงข้ามลง ก่อนจะพยักหน้าเงียบๆ
“เสี่ยวเยียน ที่เหลือเจ้าจัดการไปนะ” พูดจบ จูเก๋ออินก็ก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว
ให้เขาสวมเสื้อผ้าเช่นนั้นต่อ เขาคงทนไม่ได้
ศิษย์ของตำหนักมังกรสวรรค์ตามมาด้านหลังทันที
เด็กหนุ่มซุ่มซ่ามเมื่อครู่เกาหัวและส่งสายตาเขินอายพร้อมรอยยิ้มโง่เง่าให้เฟยเยียนที่ถูกทิ้งไว้ลำพัง
“ขอโทษ เรื่องนั้น…ข้าตามเจ้าไปขอโทษจ้าวตำหนักน้อยของเจ้าอีกทีดีกว่า” เด็กหนุ่มพูดอย่างอับอายเล็กน้อย
เฟยเยียนมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า
“พวกเจ้ารออยู่ที่นี่แล้วกัน เดี๋ยวข้าขอโทษเสร็จก็จะกลับมา” พูดจบ เด็กหนุ่มก็เดินออกไปกับเฟยเยียนให้พ้นสายตาของคนอื่นๆ
ภายในห้องโถงที่ผู้คนพลุกพล่าน ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าจริงๆ แล้วพวกเขาไปที่ไหน
เมื่อออกห่างจากฝูงชนที่ส่งเสียงดัง เฟยเยียนได้พาเด็กหนุ่มเดินไปยังมุมที่ห่างไกล หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ เฟยเยียนก็หันหน้ากลับมาพร้อมเอามือกอดอก รอยยิ้มและความอ่อนโยนหายไปจากใบหน้าของเขา แทนที่ด้วยสีหน้ารังเกียจ
“เจ้าโง่เฉียว เมื่อสักครู่เห็นอะไรลืมไปเสียให้หมด ไม่อย่างนั้นข้าจะเลาะฟันเจ้าออกสองซี่เลย”
คนที่พ่นน้ำใส่จูเก๋ออินไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเฉียวฉู่ที่เป็นตัวแทนของตำหนักเปลวเพลิงปีศาจที่มาร่วมอวยพรวันเกิดครั้งนี้นั่นเอง
เฟยเยียนพูดยังไม่ทันขาดคำ เฉียวฉู่ที่กลั้นไม่ไหวแล้วก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นพร้อมกับเอามือกุมท้อง
“ฮ่าๆๆ! เสี่ยวเยียน…โอย…ขำจะตายแล้ว…ข้าไม่รู้…ว่าเจ้าเสแสร้งได้ถึงขั้นนั้น…สาบานเลย ขนาดน้องเสียกับเสี่ยวรั่วรวมกัน ยังไม่เป็นสตรีเท่าเจ้าเลย”
ตอนที่ 1668 มาทำให้โกรธ (4)
เฉียวฉู่หัวเราะเสียจนเกือบหายใจไม่ออก เขาคาดไม่ถึงเลยว่าพอมาถึงตำหนักจิงหงปุ๊บ เขาก็ได้เห็นฉากเด็ดเข้าพอดี
มีแค่สวรรค์ที่รู้ ตอนแรกที่เขาเห็นเฟยเยียน ขากรรไกรเขาอ้าค้างจนเกือบถึงพื้นด้วยความตกใจ
ใครมาบอกเขาว่าเจ้าคนป่าเถื่อนที่ไล่ทุบตีเขาทั้งวันสามารถแสร้งทำตัวเป็นสาวน้อยน่ารักได้เหมือนมากขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉียวฉู่รู้จักเฟยเยียนดี ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่มีวันเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
เฉียวฉู่หัวเราะลั่นแบบหยุดไม่ได้ ใบหน้าของเฟยเยียนก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างน่ากลัว เขาพยายามข่มความต้องการที่จะบีบคอเจ้าโง่นี่ให้ตายคามือ
“โอย ไม่ไหวแล้ว หัวเราะจนน้ำตาไหลแล้ว เสี่ยวเยียนเอ๋ยเสี่ยวเยียน…ข้าว่าจ้าวตำหนักน้อยตำหนักมังกรสวรรค์หลงใหลเจ้าแล้ว เจ้าต้องระวังอย่าทำให้คนอื่นกลัวเข้าเล่า ฮ่าๆ…” พอนึกถึงตอนที่เห็นจูเก๋ออินกำลังจะเอาเปรียบเฟยเยียนเมื่อครู่ เขาก็ขำจนหยุดหัวเราะไม่ได้
ถ้านี่เป็นสถานการณ์ปกติ เฟยเยียนคงทักทายเขาด้วยหมัดไปแล้ว แต่ตอนนี้เขายังต้องแสดงละครต่อ จึงแสร้งทำท่าเขินอายออกมา ทำให้เฉียวฉู่ที่รู้นิสัยของเฟยเยียนจ้องจนตาแทบถลน
โชคดีที่เฉียวฉู่ยังมีสำนึกอยู่บ้าง เมื่อเขาเห็นความไม่พอใจที่ซ่อนอยู่ในแววตาของเฟยเยียน เขาก็พ่นคำออกมาได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่กล้าจินตนาการเลยว่าเฟยเยียนจะคลั่งขึ้นมาและไปต่อยจูเก๋ออินจนกลายเป็นมนุษย์หัวหมูหรือเปล่า
“เจ้าหัวเราะพอหรือยัง” เฟยเยียนขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เขาไม่คิดว่าสิ่งที่ตนได้ทำลงไปมีอะไรที่ไม่เหมาะสม แต่เจ้าโง่เฉียวดันมาเห็นเข้าพอดี แล้วก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง ทำให้เขาอยากต่อยคนจริงๆ
“ไม่…อะแฮ่ม พอแล้ว” เฉียวฉู่อยากล้อพื่อนต่อ แต่พอเห็นเฟยเยียนกำหมัดแน่น เขาก็กลืนเสียงหัวเราะกลับลงไปในท้องทันที แล้วพยายามทำหน้านิ่งอย่างเต็มที่
“แต่ว่านะเสี่ยวเยียน ในเมื่อพวกเราก็มาอยู่ที่ตำหนักจิงหงกันแล้ว วันหน้าภาพพวกนี้ก็คงมีให้เห็นอีกบ่อยๆ เจ้าก็ต้องให้ข้าปรับตัวบ้างสิ” เฉียวฉู่พูดยิ้มๆ
มีจุดหนึ่งที่เฉียวฉู่ชื่นชมเฟยเยียนมาก
นั่นคือไม่ว่าจะเป็นคำขอแบบไหน เฟยเยียนก็สามารถแสดงตัวละครนั้นออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่ว่าจะเป็นคุณชายผู้เลิศเลอหรือสาวน้อยผู้น่ารัก เฟยเยียนสามารถเลียนแบบได้เหมือนจริงมาก
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่เฟยเยียนสามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญที่สุดได้จากทุกที่
อย่างน้อยในเรื่องนี้ เฉียวฉู่ก็ไม่สามารถทำได้ ขนาดมาที่ตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ เขาก็ทำได้แค่เล่นเป็นตัวเอง
แต่ไม่โง่นะ
เฟยเยียนขี้เกียจจะสนเฉียวฉู่แล้ว
แต่การปรากฏตัวของเฉียวฉู่ทำให้เฟยเยียนนึกขึ้นได้ว่า แม้ว่าเขาจะไม่สนใจว่าตนเองจะถูกเห็นว่าทำตัวแบบนี้ และไม่สนว่าคนอื่นจะมองอย่างไร แต่ถ้าหรงรั่วมาเห็นเข้าละก็…
เฟยเยียนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที
การที่ให้จูเก๋ออินเข้ามาใกล้ชิดเป็นสิ่งที่เฟยเยียนตั้งใจให้เกิด ถึงอย่างไร การจะจุดไฟสงครามระหว่างตำหนักมังกรสวรรค์กับตำหนักจิงหงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่คนที่เพิ่งเข้าร่วมตำหนักได้ไม่นานอย่างเขาจะสามารถทำได้
การยืมมือของจูเก๋ออินที่เป็นจ้าวตำหนักน้อยนั้นจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
เฟยเยียนแค่ยิ้มให้จูเก๋ออินไม่กี่ครั้งและประจบเขาด้วยคำพูดไม่กี่คำ ก็ทำให้จูเก๋ออินหันมาสนใจนางได้แล้ว สำหรับความคิดทำนองนั้นของจูเก๋ออิน เฟยเยียนมีความมั่นใจระดับหนึ่ง แม้ว่าเมื่อครู่เฉียวฉู่ไม่ได้ทำอะไร เขาก็จะไม่ปล่อยให้จูเก๋ออินทำอะไรตามใจชอบอยู่แล้ว
“แล้วก็ เสี่ยวเยียน มีเรื่องที่…ข้าคิดว่าข้าควรบอกเจ้า” เฉียวฉู่พูดพลางมองไปที่เฟยเยียน
“ว่ามา!”
“ตอนที่ข้าดื่มน้ำเมื่อครู่ ดูเหมือนข้าจะเห็นน้องเสีย…”