ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1677 เจ้าจะไม่กอดข้าหน่อยหรือ (1) / ตอนที่ 1678 เจ้าจะไม่กอดข้าหน่อยหรือ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1677 เจ้าจะไม่กอดข้าหน่อยหรือ (1) / ตอนที่ 1678 เจ้าจะไม่กอดข้าหน่อยหรือ (2)
ตอนที่ 1677 เจ้าจะไม่กอดข้าหน่อยหรือ (1)
ไม่มีใครที่อยู่ในห้องโถงที่แออัดอึกทึกนั่นสังเกตเห็นอสรพิษทมิฬตัวจิ๋วเลย จวินอู๋เสียเห็นเงาของมันหายไปนอกธรณีประตูห้องโถงใหญ่
อสรพิษทมิฬ
นางเคยเห็นมันมาหลายครั้งแล้ว อสรพิษทมิฬแบบนั้นก็มีอยู่ที่เยี่ยซาและเยี่ยกูเหมือนกัน เยี่ยซาและเยี่ยกูไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ พวกเขาปล่อยอสรพิษทมิฬออกมา หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
ความสงสัยวนเวียนอยู่ในใจของจวินอู๋เสีย นางลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ และส่งสายตาให้จื่อจินและเยว่อี้เพื่อบอกว่า ’ใจเย็นๆ ไว้ ไม่ต้องตื่นเต้น’ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องโถงใหญ่อย่างเงียบๆ ท่ามกลางเหล่านางรำที่กำลังร่ายรำอย่างสง่างาม ทุกคนในห้องโถงใหญ่ไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งลุกออกไประหว่างงานเลี้ยง
จวินอู๋เสียเดินออกจากประตูห้องโถงใหญ่ ในความมืดยามค่ำคืน นางเห็นอสรพิษทมิฬตัวจิ๋วนั่น ดูเหมือนมันกำลังรอให้จวินอู๋เสียตามมันไป เลื้อยไปได้ไม่เท่าไรมันก็จะหยุดรอ จนกระทั่งเห็นร่างของจวินอู๋เสีย มันถึงจะเลื้อยต่อไปในความมืด
จวินอู๋เสียเดินตามหลังมันไปอย่างสงบ ศิษย์ที่เฝ้ายามในตำหนักจิงหงส่วนใหญ่ถูกเรียกไปที่ห้องโถง ด้านนอกมีคนอยู่น้อยมาก จวินอู๋เสียแค่หลีกเลี่ยงเล็กน้อยก็หลบศิษย์ที่ลาดตระเวนอยู่ได้แล้ว
นางเดินตามอสรพิษทมิฬไปยังเนินเขาเล็กๆ นอกตำหนักจิงหง
ยิ่งออกห่างตำหนักจิงหงที่อึกทึกคหรือกโครมมากเท่าไร รอบด้านก็ยิ่งเงียบสงบมากขึ้นเท่านั้น อากาศบนเนินเขายามกลางคืนเย็นสบาย นางค่อยๆ ออกห่างจากแสงไฟในตำหนักจิงหง ป่าบนเนินเขาอาบไล้ด้วยแสงจันทร์
อสรพิษทมิฬตัวจิ๋วเลื้อยผ่านป่าอย่างช่ำชอง มันเลื้อยไปไม่ไกลก็หยุดและหันกลับมามองดูตำแหน่งของจวินอู๋เสีย พอเห็นว่าจวินอู๋เสียยังตามมันมา มันก็เลื้อยต่อไป
จริงๆ แล้วอสรพิษทมิฬพวกนี้เป็นอสูรสายพันธุ์อะไร จวินอู๋เสียก็ยังไม่สามารถระบุได้ ตอนที่นางทำงานในโรงพยาบาลสัตว์เมื่อชาติก่อน นางเคยดูแลสัตว์เลือดเย็นมาบ้าง จึงเคยสัมผัสกับอสูรมาหลายชนิด แต่นางไม่เคยเจออสูรที่ฉลาดขนาดนี้มาก่อนเลย
จวินอู๋เสียอยากรู้มากว่าพวกจวินอู๋เย่าใช้วิธีอะไรในการทำให้อสรพิษทมิฬตัวจิ๋วพวกนี้ทำตามที่พวกเขาต้องการได้
และนอกจากการได้เห็นอสรพิษทมิฬในมือของจวินอู๋เย่ากับคนของดินแดนเทพมารทั้งสามคนแล้ว จวินอู๋เสียก็ไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดและน่าอัศจรรย์พวกนี้จากที่อื่นอีกเลย
จวินอู๋เสียเดินลัดเลาะผ่านป่าทึบไปเรื่อยๆ ตอนนี้นางอยู่สูงกว่าตำหนักจิงหงแล้ว เด็กสาวหันหน้ากลับไปอย่างช้าๆ และมองลงไปยังตำหนักจิงหงที่สว่างไสวจากมุมสูง นางไม่ได้ยินเสียงดนตรีอันไพเราะจากในตำหนักจิงหงแล้ว หูของนางได้ยินแต่เสียงลมที่พัดผ่านป่า
ในตอนนี้ จวินอู๋เสียอดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้
เยี่ยซาและเยี่ยกูถูกทิ้งให้อยู่ในตำหนักจิงหงเพื่อแอบตรวจสอบสถานการณ์ภายใน แล้วทำไมอยู่ดีๆ พวกเขาจะวิ่งออกมาที่ป่าบนเนินเขาด้านนอกนี้ได้ ยิ่งกว่านั้นนางก็ออกมาห่างจากตำหนักจิงหงมากพอสมควรแล้ว ถ้าทั้งสองคนมีอะไรอยากบอกนาง พวกเขาก็น่าจะปรากฏตัวออกมาแล้ว
แต่อสรพิษทมิฬก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มันยังคงเลื้อยต่อไปทางยอดเขาและหันกลับมามองเป็นระยะ ราวกับกำลังเร่งให้จวินอู๋เสียตามมันไปเร็วๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะจวินอู๋เสียรู้ว่าคนอื่นไม่สามารถควบคุมอสรพิษทมิฬได้ นางคงคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติและจากไปทันที
ในใจนางเต็มไปด้วยความสับสน ดวงตาของจวินอู๋เสียซ่อนความหวาดระแวงอยู่จางๆ นางไล่ตามความเร็วของอสรพิษทมิฬ เดินลัดเลาะผ่านป่าท่ามกลางแสงจันทร์ รอบด้านเงียบสงัด มีเพียงเสียงของสายลมพัดผ่านป่ายามค่ำคืนเท่านั้น
ตอนที่ 1678 เจ้าจะไม่กอดข้าหน่อยหรือ (2)
แสงจันทร์สาดส่องลอดใบไม้ลงมายังพื้นดิน ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าลงมาประดับที่พื้น ใบไม้แห้งใต้เท้ากองทับถมกันหนา และหิมะได้ทำให้มันเหนียวติดกันเล็กน้อย
จวินอู๋เสียเดินช้าๆ ไปจนถึงยอดเขา และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำให้จวินอู๋เสียตะลึงไปในทันที
บนยอดเขาที่ควรจะเป็นป่าทึบ ไม่รู้ว่ามันถูกแทนที่ด้วยทุ่งดอกไม้ตั้งแต่เมื่อไร สิ่งที่ควรจะเป็นป่าไม่มีอยู่อีกต่อไป พื้นดินตรงหน้าจวินอู๋เสียคือพรมดอกบัวสีขาว ดอกบัวทุกดอกออกดอกตูม กลีบดอกสะท้อนแสงจันทร์เรืองแสงออกมาจางๆ ทะเลสีขาวสว่างไสวบนยอดเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าทึบ ราวกับแสงไฟที่ถูกจุดขึ้นท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด
อสรพิษทมิฬที่พาจวินอู๋เสียมาที่นี่เลื้อยเข้าไปในทุ่งดอกไม้อย่างช่ำชอง แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
แววตาของจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความสับสนงุนงงขณะมองไปยังทุ่งดอกไม้ตรงหน้า
ปกติดอกบัวอยู่ในน้ำ บนยอดเขาไม่มีทะเลสาบ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีทุ่งดอกบัวอยู่
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปในทุ่งดอกไม้ที่แปลกประหลาด แต่พอเท้าของนางก้าวเข้าไป ดอกบัวตูมสีขาวรอบๆ เท้านางก็ผลิบานทันที!
กลีบดอกสีขาวราวหิมะบานออกเผยให้เห็นสีชมพูจางๆ รอบเกสรของมันซึ่งค่อยๆ กระจายออกไปทุกกลีบ สีชมพูเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นสีแดง
ดอกบัวทุกดอกเรืองแสงจางๆ ราวกับมีดวงดาวถูกห่อหุ้มอยู่ตรงกลางดอก
ภาพแปลกประหลาดที่เป็นไปไม่ได้นี้สะท้อนอยู่ภายในดวงตาของจวินอู๋เสีย ดวงตาที่เย็นชามานานฉายแววประหลาดใจขึ้นเล็กน้อย
ทุ่งดอกไม้ตรงหน้ามองเห็นได้อย่างชัดเจนมาก แต่พอจวินอู๋เสียก้าวเข้าไปข้างใน นางกลับไม่รู้สึกถึงสัมผัสของพวกมันเลยแม้แต่น้อย ดอกบัวที่อยู่รอบๆ เท้าของนางราวกับเป็นภาพลวงตา จวินอู๋เสียก้าวเดินต่อไปอีกสองสามก้าว ตรงที่นางเหยียบลงไป ดอกบัวรอบๆ จะบานออกและเปลี่ยนสี
ราวกับแสงระยิบระยับท่ามกลางดวงดาวถูกทำเครื่องหมายตามรอยเท้าของจวินอู๋เสีย ดอกบัวไหวเอนไปตามสายลม กลีบดอกสีชมพูไล่ตามการก้าวเท้าของจวินอู๋เสีย
ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน อาบไล้ด้วยแสงจันทร์ ท่ามกลางทะเลดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ดอกบัวสีเพลิงยาวเป็นแนวอยู่ด้านหลังของจวินอู๋เสียและเรืองแสงออกมาจางๆ
จวินอู๋เสียมองกลีบดอกไม้ที่ปลิวไปตามสายลมซึ่งพัดผ่านตัวนาง แล้วเอื้อมมือออกไปจะสัมผัสมัน แต่กลีบดอกไม้นั้นก็ผ่านทะลุมือของนางไป
พวกมันไม่ใช่ของจริง…
ดวงตาของจวินอู๋เสียฉายแววประหลาดใจ ก่อนที่นางจะคิดหาสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาช้าๆ จากอีกฟากหนึ่งของทุ่งดอกไม้
ทันทีที่สายตาของจวินอู๋เสียพบร่างนั้น อารมณ์ทุกอย่างในดวงตาของนางก็หายไปอย่างไม่เหลือร่องรอยใดๆ นางยืนเหม่ออยู่ตรงนั้น มองดูร่างที่คุ้นเคยใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาเดินมาหานางอย่างช้าๆ นางมองกลีบดอกไม้นับไม่ถ้วนที่หมุนวนอยู่รอบตัวเขา กลีบดอกไม้เรืองแสงจางๆ ราวกับดวงดาวนับไม่ถ้วนกระจายอยู่รอบตัวคนผู้นั้น
ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้านางดูราวกับภาพลวงตา
ทุกย่างก้าวนั้นกำลังก้าวอยู่บนหัวใจของนาง
ตุบตุบ
ดูเหมือนนางจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง