ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1727 ไม่ไว้ใจ (3) / ตอนที่ 1728 ไม่ไว้ใจ (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1727 ไม่ไว้ใจ (3) / ตอนที่ 1728 ไม่ไว้ใจ (4)
ตอนที่ 1727 ไม่ไว้ใจ (3)
บรรยากาศในห้องอึดอัดเล็กน้อย จื่อจินยืนทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าขยับและไม่กล้าพูดอะไร เอาแต่ก้มหน้า ใบหน้าแดงก่ำ
จวินอู๋เสียมองสภาพของจื่อจิน แล้วยกชาขึ้นจิบช้าๆ ก่อนจะพูดว่า ”จื่อจิน เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าเจ้าตามข้ามาที่ตำหนักจิงหงทำไม”
เสียงของจวินอู๋เสียเย็นชามาก เมื่อจื่อจินได้ยินจึงอดตัวสั่นไม่ได้ จื่อจินไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ได้แต่พยักหน้าเล็กน้อย
“ถ้าเจ้ายังจำได้ เจ้าก็น่าจะรู้ว่าฐานะของเจ้าคืออะไร เจ้าเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ เหตุผลเดียวที่ข้าให้เจ้ามาที่นี่ก็เพื่อให้เจ้ากลับไปบอกทุกอย่างที่เจ้าเห็นที่นี่ให้กับคนที่ควรรู้ ถ้าเจ้ายังไม่รู้เรื่องนี้ ข้าสามารถส่งเจ้ากลับไปตอนนี้ได้เลยและเปลี่ยนเอาคนอื่นที่เหมาะสมกว่ามาแทน” จวินอู๋เสียไม่สนใจว่าพันธมิตรของนางจะเข้าใจหรือไม่ นางไม่คุ้นเคยกับการอธิบายการกระทำของนางให้คนอื่นฟัง และรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้น
ในการเป็นพันธมิตรนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดนอกจากผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายก็คือความไว้วางใจ นางไม่สนว่าจื่อจินจะมองนางอย่างไร ตราบใดที่เด็กสาวไม่ขัดขวางการกระทำของนาง แม้ว่าลึกๆ ในใจจื่อจินจะไม่ชอบนาง จวินอู๋เสียก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรที่ต้องไม่พอใจ
แต่ตอนนี้ความรู้สึกของจื่อจินส่งผลโดยตรงต่อการกระทำของนาง จนถึงขั้นเริ่มสงสัยในการเจตนาของจวินอู๋เสีย นี่ไม่ใช่พันธมิตรแบบที่จวินอู๋เสียต้องการ
คนที่สงสัยนาง ไม่ไว้ใจนาง จนถึงขั้นสอบถามและแทรกแซงการกระทำของนาง เป็นคนที่นางไม่ต้องการเก็บไว้ข้างกายอีกต่อไป
ใบหน้าของจื่อจินซีดขาวปราศจากสีโลหิตทันที นางเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียอย่างตื่นตระหนก นางไม่คิดว่าความหุนหันพลันแล่นเพียงครั้งเดียวของนางจะทำให้จวินอู๋เสียตัดสินนางอย่างเข้มงวดรุนแรงเช่นนี้
ปกติจวินอู๋เสียไม่ค่อยพูด นิสัยนางก็เย็นชาและเฉยเมยจนทำให้ลืมไปได้ง่ายๆ ว่านางก็มีอารมณ์ความรู้สึก ท่าทางสงบนิ่งใจเย็นและมีเหตุผลมากเกินไปของนางทำให้คนอื่นขาดความยับยั้งชั่งใจได้ ดังนั้นจื่อจินจึงเริ่มไม่เกรงใจมากขึ้นเรื่อยๆ
คิดไม่ถึงว่าจวินอู๋เสียไม่คิดจะให้นางได้มีโอกาสชี้แจงความจริง
“ไม่! คุณชายจวิน! ข้าผิดไปแล้ว! ให้โอกาสข้าอีกครั้งเถอะ! ข้าไม่กล้าพูดพล่อยๆ อีกแล้ว” จื่อจินอ้อนวอนขณะมองจวินอู๋เสียด้วยใบหน้าซีดเผือด นางเป็นคนสัญญากับจ้าวตำหนักเองว่าจะมาที่ตำหนักจิงหงกับจวินอู๋เสีย แต่หากผ่านไปไม่กี่วันนางก็ถูกจวินอู๋เสียส่งกลับไปแบบนี้ นางจะอธิบายกับจ้าวตำหนักว่าอย่างไร
จวินอู๋เสียมองจื่อจินอย่างเย็นชา ใบหน้านิ่ง
“เจ้าไม่ไว้ใจข้า”
จื่อจินตัวแข็งทื่อ นางคิดจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้แม้แต่คำเดียว
เป็นความจริง นางไม่ไว้ใจจวินอู๋
ตั้งแต่วันนั้นที่เวทีประลอง ความคิดของนางเกี่ยวกับจวินอู๋เสียก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง นางไม่สามารถปฏิบัติกับจวินอู๋เสียเช่นพันธมิตรที่เชื่อถือได้อีกต่อไป การกระทำของจวินอู๋เสียทำให้นางหวาดกลัว ทำให้นางเห็นว่าจวินอู๋เสียไร้หัวใจเพียงใด พวกเขาเป็นเพียงพันธมิตรที่ใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันเพียงเพื่อผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายเท่านั้น
ไม่ใช่สหาย
“เรื่องที่เจ้าไม่ไว้ใจข้า ข้าไม่สน ข้าไม่ต้องการให้เจ้าไว้ใจข้า แต่ข้าจะไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับการกระทำของข้า เจ้าเข้าใจหรือไม่” จวินอู๋เสียมองจื่อจินอย่างเย็นชา น้ำเสียงของนางก็เย็นเยียบจนแทบจะเป็นน้ำแข็ง
จื่อจินยิ่งหน้าซีด นางพยักหน้าด้วยความสั่นเทา ดวงตามีน้ำตาคลอ ในที่สุดนางก็ตระหนักได้ว่าศิษย์ของตำหนักหยกวิญญาณมีมากมายแค่ไหน! จวินอู๋เสียแค่ต้องการใครสักคนจากตำหนักหยกวิญญาณ ใครก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นนาง
นางเป็นคนอาสาทำเรื่องนี้เอง นางจึงไม่มีทางถอยออกมาได้
ตอนที่ 1728 ไม่ไว้ใจ (4)
ไม่สามารถตอบจ้าวตำหนักได้ และไม่สามารถเผชิญหน้ากับพี่สาวน้องสาวที่อยู่ในตำหนักได้ นางเป็นคนอาสาทำเรื่องนี้เองก่อนที่จะมีใครรู้ด้วยซ้ำ แล้วนางจะกลับไปตอนนี้ได้อย่างไร
จื่อจินกำกระโปรงแน่น น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆ
แววตาของจวินอู๋เสียไม่มีความเห็นอกเห็นใจอยู่เลย หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็พูดขึ้นว่า ”นี่เป็นครั้งแรก จะไม่มีครั้งที่สอง”
จื่อจินพยักหน้า ในใจรู้ว่าจวินอู๋เสียยอมอ่อนข้อให้แล้ว
“ไปได้แล้ว” จวินอู๋เสียพูด
จื่อจินตัวสั่นขณะลุกขึ้นยืนและถอยออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
“จื่อจิน นาง…” เยว่อี้ที่นอนอยู่บนเตียงพูดขึ้นอย่างลังเล เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจื่อจินถึงไม่ไว้ใจจวินอู๋เสีย ในเมื่อจื่อจินรู้จักจวินอู๋ก่อนเขา แม้แต่เขายังเห็นได้อย่างชัดเจนเลย แล้วทำไมนางถึงไม่เข้าใจ
“เจ้าไม่ต้องใส่ใจหรอก สนใจแค่รักษาตัวของเจ้าให้หายเถอะ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับมองเยว่อี้
เยว่อี้ไม่ได้พูดอะไรต่อ เนื่องจากการร่วมมือครั้งนี้เป็นการตกลงกับจวินอู๋เสียเพียงคนเดียว ความสัมพันธ์ของเขากับจื่อจินยิ่งห่างไปอีกขั้น เนื่องจากนั่นเป็นคนของจวินอู๋เสีย เขาจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรได้
จวินอู๋เสียลุกขึ้นยืนและดึงจวินอู๋เย่าที่นั่งอยู่ข้างๆ นางออกไปจากห้องของเยว่อี้พร้อมกัน หลังออกจากห้องของเยว่อี้ จวินอู๋เสียก็พาจวินอู๋เย่ากลับไปที่ห้องของนางและปิดประตูตามหลัง
“ท่านคิดจะฆ่านางหรือ” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นมองสบดวงตาดำสนิทของจวินอู๋เย่า ตอนที่จื่อจินสงสัยนางเมื่อครู่ จวินอู๋เสียรู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันอย่างรุนแรงที่ปล่อยออกมาจากจวินอู๋เย่า แม้ว่าสิ่งที่เขาขยี้ไปเมื่อครู่จะเป็นเพียงช้อน จวินอู๋เสียก็รู้ดีว่าในตอนนั้นเขาอยากขยี้จื่อจินมากกว่า
จวินอู๋เย่ายื่นมือออกไปโอบจวินอู๋เสียเอาไว้ในอ้อมกอด และพูดเบาๆ ว่า ”ใช่แล้ว”
เด็กสาวโง่เขลาเช่นนั้น มีคุณสมบัติอะไรมามีชีวิตอยู่ต่อหน้าจวินอู๋เสีย
“ข้าอยากฆ่า แต่เจ้าไม่ยอมให้ข้าทำ เสี่ยวเสียเอ๋อร์ ที่เจ้าว่ากล่าวตักเตือนและไล่นางออกไปเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าเจ้ากลัวข้าจะลงมือฆ่านังเด็กโง่นั่นก่อนหรอกหรือ” จวินอู๋เย่าใช้นิ้วม้วนผมของจวินอู๋เสียเล่น ดวงตาสีดำสนิทของเขาทอประกายแสงสีม่วงแวบหนึ่ง
เขาเคยชินกับการใช้อำนาจเผด็จการ ใครที่ขัดหูขัดตาก็ฆ่าเสีย ยกเว้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจวินอู๋เสียเท่านั้นที่เขาจะแสดงความอดทนขั้นสูงออกมา ถ้าวันนี้จื่อจินไม่ได้เกี่ยวข้องกับจวินอู๋เสีย ตอนที่จื่อจินอ้าปากพูด คอนางก็ถูกเชือดแล้ว
จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อสักครู่ที่นางตำหนิจื่อจินอย่างรุนแรงก็เพื่อแสดงจุดยืนของนางในเรื่องนี้ให้จวินอู๋เย่าเห็นอย่างชัดเจน
“นางเป็นศิษย์ของตำหนักหยกวิญญาณ ข้อตกลงระหว่างข้ากับจ้าวตำหนักหยกวิญญาณในการร่วมมือกันยังอยู่ จื่อจินตามข้ามาที่นี่ ถ้าข้าปล่อยให้ท่านฆ่านางได้ตามใจชอบ ข้าคงไม่สามารถอธิบายเรื่องนี้กับจ้าวตำหนักหยกวิญญาณได้”
“อย่างนั้นก็ฆ่าเขาด้วยเสียเลย เจ้าก็ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว” จวินอู๋เย่าหัวเราะเบาๆ ในสายตาเขา สิ่งที่เรียกว่าตำหนักหยกวิญญาณก็เป็นแค่แมลงที่เขาสามารถบดขยี้ให้ตายได้อย่างง่ายดาย
จวินอู๋เสียกลับส่ายหน้า
“ศัตรูฆ่าได้ พันธมิตรไม่ได้”
จวินอู๋เสียมีหลักการของตัวเองอยู่ เมื่อนางร่วมมือกับใคร หากอีกฝ่ายไม่ได้ทำอะไรผิด นางจะไม่ตัดสินใจฉีกสัญญาเพียงฝ่ายเดียว นี่เป็นเรื่องของความซื่อสัตย์จริงใจ
ถ้าวันนี้นางฆ่าพันธมิตรของตนได้ วันหน้านางจะหาพันธมิตรได้อย่างไร
“ตามใจเจ้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้า แต่…” คำพูดของจวินอู๋เย่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน