ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1733 น่าสงสัย (3) / ตอนที่ 1734 น่าสงสัย (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1733 น่าสงสัย (3) / ตอนที่ 1734 น่าสงสัย (4)
ตอนที่ 1733 น่าสงสัย (3)
คืนนั้น เฟยเยียนรอจนกระทั่งทุกคนหลับกันหมดแล้ว เขาก็แอบออกไปข้างนอกอย่างเงียบๆ ตรงไปยังห้องของจวินอู๋เสีย
ภายใต้ความมืดยามค่ำคืน เฟยเยียนเปิดหน้าต่างออกอย่างเงียบๆ โดยไม่ทำให้เกิดเสียงเลยแม้แต่น้อย แต่ทันทีที่หน้าต่างเปิดออก แสงจันทร์ก็ส่องเข้าไปในห้องที่มืดสนิท เมื่อเฟยเยียนเงยหน้าขึ้นมองเข้าไปข้างใน เขาก็เกือบจะตกจากขอบตึกนอกหน้าต่าง
“พี่…พี่ใหญ่อู๋เย่า…”
ภายในห้อง จวินอู๋เย่ายืนอยู่ข้างหน้าต่างอย่างเงียบๆ แสงจันทร์ส่องร่างของเขาทำให้เกิดรัศมีจางๆ ดวงตาคมกริบคู่นั้นราวกับฝังด้วยเพชรสีดำ
หัวใจของเฟยเยียนแทบกระดอนออกจากอกด้วยความตกใจ เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจวินอู๋เย่าจะมาจริงๆ!
ตอนนั้นเอง เขาก็อดนึกไปถึงวันที่เกิดเรื่องบนเวทีประลองไม่ได้ ตอนที่จวินอู๋เสียเข้ามา บุรุษที่ยืนอยู่ข้างๆ นางแตกต่างจากที่พวกเขาเห็นในห้องโถงใหญ่ครั้งแรก แม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่บุคลิกลักษณะต่างกันคนละโลก แต่ตอนนั้นความสนใจของเขาจดจ่ออยู่ที่เวทีประลอง จึงไม่ได้คิดอะไรมาก
“หืม” จวินอู๋เย่าสวมเพียงเสื้อคลุมชั้นในตัวบาง สายลมกลางคืนที่พัดผ่านมาทำให้ปกเสื้อคลุมเปิดออก เผยให้เห็นหน้าอกกว้างกำยำ
เฟยเยียนกลั้นหายใจ ไม่กล้าแม้แต่จะมอง ในใจรู้สึกขื่นขม
พี่ใหญ่อู๋เย่าเป็นยอดบุรุษในหมู่บุรุษจริงๆ เขาเอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสหน้าอกของตัวเองโดยไม่รู้ตัว แม้ว่ามันจะค่อนข้างแข็งอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับจวินอู๋เย่าแล้ว…
“ข้า…ข้ามาหาอู๋เสีย” เฟยเยียนกล่าวอย่างระมัดระวัง
จวินอู๋เย่าเลิกคิ้วขึ้น แล้วดึงหน้าต่างปิดทันทีโดยไม่รอให้เฟยเยียนปีนเข้ามา เล่นเอานิ้วของเฟยเยียนเกือบถูกทับแบน
เฟยเยียนได้แต่จ้องมองตาโตไปที่หน้าต่างซึ่งถูกปิดลงโดยไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่กล้าแม้แต่จะเคาะหน้าต่าง
หลังจากนั้นไม่นาน หน้าต่างก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ใบหน้าของจวินอู๋เสียที่ยังคงงัวเงียอยู่ก็โผล่มา ดวงตากลมโตของนางเป็นประกายจากน้ำตาที่เกิดจากความง่วงนอน
“เข้ามาสิ” จวินอู๋เสียเพิ่งโดนจวินอู๋เย่าปลุกขึ้นมา นางไม่รู้ว่าจวินอู๋เย่าเอาเสื้อคลุมตัวนอกของเขามาพันรอบตัวนางเมื่อไร
จวินอู๋เย่ามีรูปร่างสูงใหญ่ เสื้อคลุมตัวนอกของเขาที่อยู่บนตัวของจวินอู๋เสียจึงหลวมมากจนนางดูเหมือนเด็กที่สวมเสื้อผ้าของผู้ใหญ่ มือทั้งสองข้างของจวินอู๋เสียถูกคลุมมิดอยู่ในแขนเสื้อที่ยาวเกินไป และนางกำลังก้มหน้าม้วนแขนเสื้อขึ้น
เฟยเยียนเข้าไปในห้องอย่างเชื่อฟังและเห็นจวินอู๋เย่านั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้ บนโต๊ะข้างๆ เขามีหน้ากากแปลงโฉมของเขาวางอยู่ ซึ่งเป็น ‘ใบหน้า’ เดียวกับที่เฟยเยียนเคยเห็นที่เวทีประลอง
“เจ้าคือคนที่ส่งข้อความมาหรือ” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นถามขณะยังคงม้วนแขนเสื้ออยู่
ข้อความเพิ่งได้รับเมื่อบ่ายวันนี้ และเฟยเยียนก็วิ่งมาหาถึงห้องในคืนเดียวกัน มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเฟยเยียนต้องเป็นคนส่งข้อความแน่
“ใช่” เฟยเยียนพยักหน้า
“นั่งสิ” จวินอู๋เสียชี้ไปที่เก้าอี้ด้านข้าง เฟยเยียนเดินไปนั่งทันที เขาไม่กล้ามองไปที่ด้านข้างของจวินอู๋เย่าเลยด้วยซ้ำ
“เจ้าพบอะไร” จวินอู๋เสียนั่งลง แมวดำตัวน้อยที่ถูกทิ้งไว้บนเตียงก็ยืดตัวแล้วกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของจวินอู๋เสียเพื่อขอให้ลูบ
“จื่อจินนั่นเป็นคนที่เจ้าพามาจากตำหนักหยกวิญญาณหรือ” เฟยเยียนตรงเข้าประเด็นทันทีโดยไม่อ้อมค้อม
“อืม” จวินอู๋เสียพยักหน้า ตอนที่เห็นตัวอักษร ‘จิน’ นางก็เดาได้ทันทีว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจื่อจิน
“นางเป็นคนอย่างไร” เฟยเยียนถามต่อ
“โง่” จวินอู๋เสียโยนคำนั้นออกไปอย่างเฉื่อยชา
เฟยเยียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ”นางโง่จริงๆ นั่นแหละ”
ตอนที่ 1734 น่าสงสัย (4)
เฟยเยียนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ”นางโง่จริงๆ นั่นแหละ”
“วันก่อน ศิษย์ตำหนักมังกรสวรรค์นำข่าวมาบอกจูเก๋ออิน และข้าบังเอิญอยู่ที่นั่นด้วย ได้ยินว่าจื่อจินกับกู่อิ่งดูเหมือนจะสนิทกัน ทั้งสองคนถูกพบว่าไปเดินเล่นด้วยกันบ่อยๆ เจ้ารู้เรื่องนี้หรือเปล่า” เฟยเยียนมองจวินอู๋เสียอย่างระมัดระวัง เขาก็เข้าใจว่าบางครั้งสตรีกับบุรุษก็เข้ากันได้ แต่สถานะของทั้งสองฝ่ายนั้นค่อนข้างผิดปกติ ยิ่งกว่านั้นจื่อจินก็เป็นศิษย์ของตำหนักหยกวิญญาณ ตามหลักเหตุผลแล้วนางน่าจะมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับคนของสิบสองตำหนัก
แค่มองไปที่ตัวตนของเด็กหนุ่มก็มากพอจะทำให้เฟยเยียนตกใจจนเหงื่อแตกได้แล้ว
ก็นั่นคือกู่อิ่งที่ฆ่าคนโดยไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย!
เขายังจำได้ว่ากู่อิ่งทำให้เกิดการนองโลหิตมากแค่ไหนในสำนักศึกษาเฟิงหัว ตอนที่พวกเขาอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัว กู่อิ่งได้ฆ่าศิษย์ในสำนักที่บริสุทธิ์เหล่านั้นอย่างไร้เหตุผลเพื่อสนองความกระหายเลือดของเขา เขาเป็นเหมือนปีศาจที่คลานออกมาจากขุมนรก ทุกที่ที่เขาอยู่จะปกคลุมด้วยเงาแห่งความตายเสมอ
ปีศาจกระหายเลือดเช่นนี้จะไปชอบพอกับเด็กสาวธรรมดาได้อย่างไร แถมยังเป็นเด็กสาวที่โง่เขลาไร้สมอง นี่มันผิดปกติชัดๆ
ถ้าเป้าหมายของกู่อิ่งเป็นคนอื่น เฟยเยียนก็ไม่อยากจะใส่ใจนักหรอก เขาหวังว่ากู่อิ่งจะก่อเรื่อง เรื่องยิ่งใหญ่ยิ่งดี จะได้ทำให้ตำหนักอื่นๆ โกรธแค้นเขา แต่สถานะของจื่อจินนั้นไม่เหมือนใคร แม้ว่านางจะใช้ฐานะว่าเป็นสมาชิกของตำหนักเงาจันทรา แต่ความจริงนางคือศิษย์ของตำหนักหยกวิญญาณที่ติดตามจวินอู๋เสียมาที่ตำหนักจิงหง ถ้าจื่อจินไม่ระวังคำพูด ก็จะไม่ใช่แค่นางคนเดียวที่เดือดร้อน
แม้แต่จวินอู๋เสียก็ไม่รอด!
ผลกระทบของเรื่องนี้ร้ายแรงมาก เฟยเยียนจึงจำเป็นต้องเสี่ยงเพื่อมาบอกเรื่องนี้กับจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า ”ข้ารู้”
“อะไรนะ” เฟยเยียนประหลาดใจ นางรู้หรือ
“เจ้ารู้แล้วยังปล่อยให้จื่อจินทำเรื่องยุ่งเนี่ยนะ ข้าไม่คิดว่ายัยเด็กจื่อจินนั่นจะเล่นงานกู่อิ่งได้” เฟยเยียนรู้สึกกังวล กู่อิ่งไม่ใช่คนธรรมดา และไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ
เมื่อเห็นว่าเฟยเยียนดูกังวลมาก จวินอู๋เสียจึงรินน้ำให้เขาหนึ่งถ้วยและพูดช้าๆ ว่า ”ทำไมจะไม่เล่า”
“…” เฟยเยียนแทบอยากจะคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เสีย ในสมองของคุณหนูใหญ่คนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ เขาล่ะไม่เข้าใจจริงๆ
เมื่อเห็นสหายจมอยู่กับความวิตกกังวล จวินอู๋เสียก็พูดอย่างเฉยเมยว่า ”ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง เจ้าวางใจเถอะ”
“อย่างน้อยก็ใบ้ให้ข้ารู้สักนิดสิ เราจะได้รู้ว่าควรทำอะไรต่อจากนี้” เฟยเยียนยืนกรานในเรื่องนี้จริงๆ อย่างน้อยเขาต้องรู้ว่าตนจะร่วมมือกับจวินอู๋เสียอย่างไร จะได้ไม่ไปทำลายแผนการของจวินอู๋เสียโดยไม่ได้ตั้งใจ
จวินอู๋เสียมองเฟยเยียน แล้วถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะกวักมือเรียกเขาเข้ามา
เฟยเยียนเอียงหูเข้าไปใกล้เพื่อฟังเสียงกระซิบเบาๆ ของจวินอู๋เสีย ความกังวลในแววตาของเขาเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจในทันที จนกระทั่งจวินอู๋เสียบอกทุกอย่างให้เขาฟังจนเสร็จ สีหน้าประหลาดใจของเขาก็ไม่ได้จางหายไปแม้แต่น้อย
“…เจ้า…เจ้าวางแผนไว้หมดแล้วหรือ” เฟยเยียนมองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
จวินอู๋เสียพยักหน้า แม้ว่านางจะไม่ได้ก้าวออกไปนอกห้องมากนัก แต่ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักจิงหงไม่รอดพ้นสายตาของเยี่ยซา เยี่ยเม่ย และเยี่ยกู แม้ว่าจะนั่งอยู่แต่ในห้อง นางก็สามารถรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกได้
พฤติกรรมที่ผิดปกติของจื่อจินในช่วงนี้ นางเคยได้ยินพวกเยี่ยซาพูดถึงมาก่อน ดังนั้นนางจึงรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้หมดแล้ว