ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1735 น่าสงสัย (5) / ตอนที่ 1736 นี่คือการแก้แค้น (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1735 น่าสงสัย (5) / ตอนที่ 1736 นี่คือการแก้แค้น (1)
ตอนที่ 1735 น่าสงสัย (5)
“เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากทำเช่นนี้” เฟยเยียนต้องใช้เวลาสักพักในการทำความเข้าใจคำพูดของจวินอู๋เสีย เขาลูบคางตัวเอง ในใจยังคงครุ่นคิดถึงความหมายและนัยยะที่อยู่เบื้องหลังคำพูดที่จวินอู๋เสียเพิ่งบอกเขา
“ข้าแค่ให้ทางเลือก ส่วนจะเลือกอย่างไรนั้น ไม่ใช่ปัญหาที่ข้าต้องกังวล” จวินอู๋เสียกล่าวพร้อมกับยักไหล่
“เอาล่ะ ดูเหมือนข้าจะกังวลไปเปล่าๆ สมองของเจ้าเป็นอะไรที่คนธรรมดาอย่าหวังจะเทียบได้เลย ข้าว่าข้าควรจะอยู่เงียบๆ ในตำหนักมังกรสวรรค์ดีกว่า” เฟยเยียนกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ หัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวลก็สงบลง
“หลังจากนี้ เจ้าต้องรับผิดชอบจัดการเรื่องของตำหนักมังกรสวรรค์” จวินอู๋เสียพูด
เฟยเยียนตอบกลับด้วยการทุบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ
“เจ้าวางใจได้ เรื่องความคิดวางแผน ข้าอาจเทียบกับเจ้าไม่ได้ แต่เรื่องจัดการอะไรพวกนี้ ข้ารับประกันว่าจะไม่ทำให้เจ้าเกิดปัญหาแน่นอน”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
จากนั้นเฟยเยียนก็ตัดสินใจว่าเขาอยู่ที่นั่นนานพอแล้ว ไม่ใช่ด้วยเหตุผลอื่นใด แต่การมีจวินอู๋เย่านั่งอยู่ข้างๆ แบบนี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนหมุด แม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะยิ้มแย้ม แต่กลับทำให้เฟยเยียนรู้สึกว่าเขาต้องไม่อยู่ที่นั่นนานไปกว่านี้
เฟยเยียนกล่าวคำอำลากับจวินอู๋เสียและจวินอู๋เย่าอย่างรวดเร็ว แล้วรีบพุ่งตัวออกจากห้องของจวินอู๋เสีย ขณะที่กำลังจะไป เขาก็นึกได้ว่าต้องปิดหน้าต่างให้สนิทก่อน
จนกระทั่งหน้าต่างปิดลงอีกครั้ง เฟยเยียนก็มีสีหน้าตื่นตกใจทันที
เดี๋ยวนะ!
เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า
ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมพี่ใหญ่อู๋เย่าถึงอยู่ในห้องของน้องเสีย
ดูจากการแต่งตัวของพวกเขา ดูเหมือนว่าก่อนที่เขาจะมา พวกเขาหลับไปแล้ว…
เฟยเยียนกลืนน้ำลาย ขณะจ้องมองไปบนท้องฟ้ายามราตรี ถ้าเขาจำไม่ผิด ดูเหมือนในห้องของจวินอู๋เสีย…มีเตียงอยู่แค่เตียงเดียวใช่หรือไม่
ในที่สุดเฟยเยียนก็เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เย่าถึงจ้องเขาด้วยสายตา ‘เป็นมิตร’ ขนาดนั้น
เมื่อตระหนักถึงสิ่งที่เพิ่งค้นพบ เฟยเยียนก็ไม่กล้ารีรออยู่ที่นั่นอีกแม้แต่วินาทีเดียว ร่างของเขาพุ่งห่างออกไปอย่างรวดเร็วภายใต้ราตรีที่มืดมิด
แต่สิ่งที่ผุดขึ้นในใจของเขา นอกจากความตกใจสุดขีดแล้ว ยังมี…ความอิจฉาเล็กๆ อยู่ด้วย
เขาเองก็ปรารถนาจะได้ร่วมหลับนอนกับเสี่ยวรั่วเช่นกัน…
…
เมื่อแสงแรกยามอรุณรุ่งสาดส่องลงมาที่พื้นดิน เหล่าผู้เยาว์ที่หลับสนิทก็ค่อยๆ ตื่นขึ้น
จวินอู๋เสียเดินไปที่ห้องของเยว่อี้เพื่อตรวจอาการของเยว่อี้ตามปกติ เนื่องจากความคิดที่เปลี่ยนไป ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเยว่อี้ฟื้นตัวได้รวดเร็วขึ้นมาก เขาให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่เศร้าหมองหดหู่อีกต่อไป แต่มีความรู้สึกโหยหาอยากมีชีวิตต่อไป
ตอนที่จวินอู๋เสียเข้ามาในห้องของเยว่อี้ จื่อจินกำลังป้อนอาหารยาให้เยว่อี้อยู่ อาหารยานั้นเยี่ยเม่ยกับเยี่ยซาผลัดกันทำ และเยี่ยกูเป็นคนเอาไปส่งในตอนเช้า ก่อนที่จื่อจินจะป้อนให้เยว่อี้ด้วยตัวเอง งานนี้จริงๆ แล้วเป็นของเยี่ยกู แต่เนื่องจากเหตุการณ์ที่ทำให้เยว่อี้บาดเจ็บนี้ทำให้จื่อจินรู้สึกผิดอย่างมาก นางจึงรับงานส่วนนี้ไว้เอง
เยี่ยกูไม่อาจดีใจมากกว่านี้ได้อีกแล้วที่มีคนเต็มใจดูแลเยว่อี้ เขาจะได้ไม่ต้องทำ ดังนั้นเขาจึงเห็นด้วยอย่างเต็มใจที่สุด
เมื่อจวินอู๋เสียเดินเข้าไปในห้อง การกระทำของจื่อจินก็แข็งทื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่วันที่จวินอู๋เสียว่ากล่าวนางอย่างจริงจัง จื่อจินก็เกิดความกลัวจวินอู๋เสียขึ้นมา นางก้มหน้า แล้วพยักหน้าให้จวินอู๋เสียพอเป็นพิธีโดยไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมอง นางพยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับจวินอู๋เสียขณะป้อนอาหารให้เยว่อี้ต่อ
เยว่อี้มองสีหน้าอึดอัดของจื่อจินแล้วอดถอนหายใจเบาๆ ไม่ได้ แม้ว่าจื่อจินจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่นางซื่อเหลือเกิน การกระทำของนางทำให้เยว่อี้นึกถึงน้องสาวตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องทางโลกของเขา
ตอนที่ 1736 นี่คือการแก้แค้น (1)
เยว่อี้มองสีหน้าอึดอัดของจื่อจินแล้วอดถอนหายใจเบาๆ ไม่ได้ แม้ว่าจื่อจินจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา แต่นางซื่อเหลือเกิน การกระทำของนางทำให้เยว่อี้นึกถึงน้องสาวตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องทางโลกของเขา
“เป็นอย่างไรบ้าง” สายตาของจวินอู๋เสียกวาดมองด้านหลังที่แข็งทื่อของจื่อจิน แล้วโน้มตัวลงไปหาเยว่อี้
ใบหน้าหล่อเหลาของเยว่อี้เจือด้วยรอยยิ้ม วิธีคิดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ทำให้บุคลิกของเขาเปลี่ยนไปด้วย ความสดใสมีชีวิตชีวาอย่างที่เด็กหนุ่มควรมีได้กลับคืนสู่ตัวเขา เยว่อี้หน้าตาดีมาก ใบหน้าที่มืดมนอยู่ตลอดเวลาของเขาและท่าทางที่ยากจะเข้าถึงทำให้ผู้คนถอยห่างจากเขาโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้ปมในใจของเขาได้คลี่คลายลงแล้ว รอยยิ้มสดใสที่มองเห็นได้ในตอนนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกตาพร่าเลยทีเดียว
แต่…
จวินอู๋เสียมีภูมิต้านทานต่อหนุ่มหล่อมานานแล้ว เนื่องจากใบหน้าของจวินอู๋เย่าได้ทำให้การชื่นชมความงามของนางสูงขึ้นถึงระดับที่เป็นไปไม่ได้
“ข้าดีขึ้นมากแล้ว เมื่อวานนี้ก็ลุกจากเตียงไปเดินได้บ้างเล็กน้อย ถึงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนลูกธนูที่ถูกยิงออกไปในก้าวเดียวเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ฟื้นตัวได้ไม่น้อย เชื่อว่าอีกไม่นานข้าจะสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ” เยว่อี้พูดด้วยรอยยิ้ม
จวินอู๋เสียพยักหน้า ในตอนแรกที่เยว่อี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในสายตาของคนอื่นแม้ว่าจะรักษาหายแล้วเขาก็จะต้องพิการอยู่ดี แต่คนผู้นี้ได้รับการช่วยเหลือจากจวินอู๋เสีย ถ้าเขาไม่ฟื้นตัวด้วยความเร็วขนาดนี้ นางคงคิดว่ามันแปลกแล้ว
“ในเมื่อเจ้าเกือบจะหายแล้ว เช่นนั้น…ก็น่าจะถึงเวลาที่เราจะคิดบัญชีกับจูเก๋ออินแล้ว” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็พูดขึ้น
รอยยิ้มบนใบหน้าของเยว่อี้แข็งไปเล็กน้อย เขามองจวินอู๋เสียอย่างประหลาดใจ
คิดบัญชี
กับจูเก๋ออิน
ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ สำหรับเยว่อี้ นี่ของของขวัญที่สวรรค์มอบให้เขาแล้ว เขาไม่เคยคิดจะเอาคืนจูเก๋ออินเลยสักครั้ง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพลังของจูเก๋ออินเหนือกว่าเขามาก แค่เรื่องที่ตำหนักมังกรสวรรค์อยู่เบื้องหลังจูเก๋ออินก็เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถไปหาเรื่องได้แล้ว เยว่อี้จึงตัดสินใจที่จะลืมเรื่องทั้งหมดไปตั้งแต่แรกแล้ว
ความคิดนี้ของเยว่อี้ไม่ใช่เพราะเขาอ่อนแอ แต่เพราะเขาได้เห็นความร้ายกาจของโลกใบนี้มากเกินไป ขนาดผู้อาวุโสเยว่แห่งตำหนักเงาจันทราเขายังสู้ไม่ได้ นับประสาอะไรจะหวังไปสู้กับจ้าวตำหนักน้อยแห่งตำหนักมังกรสวรรค์
แต่วันนี้จวินอู๋เสียกำลังจะให้เขาล้มเลิกการตัดสินใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
เมื่อเห็นสีหน้าตกใจของเยว่อี้ ดวงตาของจวินอู๋เสียก็ฉายแววเข้าใจ สิบสองตำหนักมีความแตกต่างทางด้านอำนาจมากเกินไป ความคิดนั้นได้ฝังรากลึกในหัวใจของเยว่อี้ ทำให้เขาไม่สามารถวางตัวเองให้มีสถานะเท่าเทียมกับจูเก๋ออินและแก้แค้นให้ตัวเองได้
แต่…
นางทำได้
“ไม่ต้องแปลกใจขนาดนั้น ข้าไม่เคยคิดจะปล่อยจูเก๋ออินไปง่ายๆ อยู่แล้ว เหตุผลที่ข้าไม่ได้เคลื่อนไหวมานานก็เพราะข้าอยากให้เจ้าได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าจูเก๋ออินจะมีจุดจบเช่นไร”
“คุณชายจวิน…ไม่ต้องหรอก จริงๆ แล้ว…ที่…ที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าก็ขอบคุณเจ้ามากแล้ว ข้าไม่ได้อยากแก้แค้น ไม่จำเป็นต้องไปเอาคืนจูเก๋ออินเลย ข้ารู้ว่าคุณชายจวินไม่ใช่คนธรรมดา แต่สถานะของจูเก๋ออินนั้นพิเศษมาก ตัวเขาเองก็มีพลังที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แล้วยังมีตำหนักมังกรสวรรค์คอยหนุนหลังอยู่อีก พวกเรา…ไม่จำเป็นต้องไปปะทะกับเขาหรอก” เยว่อี้กล่าวอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง แต่เป็นห่วงความปลอดภัยของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียได้ช่วยชีวิตเขา มอบความหวังใหม่ให้กับเขา เขามองจวินอู๋เสียเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของเขา การหาทางแก้แค้นจูเก๋ออินนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายเกินไป เยว่อี้จึงไม่ปรารถนาจะให้จวินอู๋เสียเป็นศัตรูกับเจ้าปีศาจร้ายนั่นเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับเขา