ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1755 เริ่มการแสดง (3) / ตอนที่ 1756 เริ่มการแสดง (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1755 เริ่มการแสดง (3) / ตอนที่ 1756 เริ่มการแสดง (4)
ตอนที่ 1755 เริ่มการแสดง (3)
คนแรกที่ก้าวเข้าไปในห้องของจูเก๋ออินวันนั้นตกใจกลัวจนสติแทบหายไปหมด!
ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิต ทุกคนไม่สามารถหาร่องรอยของจูเก๋ออินได้ เจอแต่ศพโชกเลือดของคนผู้หนึ่งอยู่ในห้อง และเครื่องประดับบนศพนั้นตรงกับของที่จูเก๋ออินสวมอยู่ ผู้รักษาของตำหนักจิงหงได้ไปตรวจสอบศพ และจากซากโครงกระดูกที่เหลืออยู่ ทั้งอายุและส่วนสูงของเหยื่อก็ตรงกับจูเก๋ออินเช่นกัน
ซากศพที่เสียหายเละเทะปรากฏอยู่ในห้องของจูเก๋ออิน และไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับหรือลักษณะของศพก็ตรงกับจูเก๋ออินพอดิบพอดี นอกจากนั้น จูเก๋ออินก็หายไปจากสายตาของทุกคน ไม่ต้องคิดทุกคนก็รู้ว่ากองเนื้อเน่านั่นต้องเป็นจูเก๋ออินอย่างแน่นอน!
ภาพที่เต็มไปด้วยโลหิตเช่นนี้ทำให้พวกผู้เยาว์จากตำหนักมังกรสวรรค์พากันสติหลุดทันที
จูเก๋ออินคือบุตรชายเพียงคนเดียวของจ้าวตำหนักมังกรสวรรค์เชียวนะ!
เขาเป็นความหวังของตำหนักมังกรสวรรค์ แต่ตอนนี้กลับมาถูกฆ่าตายอย่างไร้เหตุผลในตำหนักจิงหง ขนาดศพยังถูกทำลายจนเละเทะ เมื่อเห็นภาพเช่นนี้กับตาตัวเอง พวกผู้เยาว์จากตำหนักมังกรสวรรค์จะยังสงบสติอารมณ์อยู่ได้อย่างไร
“เมื่อวานข้าไม่ได้เจอจูเก๋ออินเลย” เมื่อได้ยินเรื่องการตายของจูเก๋ออิน เมฆหมอกแห่งความสงสัยในใจของกู่อิ่งก็กระจ่างขึ้นทันทีราวกับถูกสายฟ้าฟาด! ชิ้นส่วนที่หายไปที่เขาได้ลืมไปก็ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำในที่สุด
ก่อนหน้านี้จื่อจินบอกแผนการของจวินอู๋เสียให้เขาฟัง แต่เขามองเห็นช่องโหว่ของแผนการนี้จึงไม่เชื่อมัน แต่บังเอิญที่กู่ซินเยียนถูกจูเก๋ออินชวนออกไปข้างนอก ทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปตรวจสอบจูเก๋ออิน และสุดท้ายก็…
จู่ๆ จูเก๋ออินก็ตายไปอย่างลึกลับ
“พูดมั่วๆ! เห็นชัดๆ ว่าเจ้าเข้าไปในห้องของคุณชายเมื่อวานนี้! พวกเราทุกคนเห็นกันหมด!” ศิษย์ของตำหนักมังกรสวรรค์หลายคนที่เห็นกู่อิ่งเข้าไปในห้องของจูเก๋ออินก็กระโดดออกมาทันที
กู่อิ่งข่มความโกรธในใจลง และพูดนิ่งๆ ว่า ”ข้าไปที่ห้องของเขา แต่ข้าไม่เจอเขาในนั้น”
“กู่อิ่ง! เจ้านี่มันโกหกหน้าตาเฉยเลย! เมื่อวานนี้คุณชายของเราไม่ได้ออกจากห้องเลยสักครั้ง ทั้งหมดนี้พวกเราทุกคนที่นี่เป็นพยานได้! เจ้าเป็นคนนอกเพียงคนเดียวที่ไปที่นั่นเมื่อวานนี้ แล้วคุณชายของเราก็ตายหลังจากที่เจ้ากลับไป! ถ้าเจ้าไม่ได้ทำ แล้วจะเป็นใครได้อีก! ขอถามหน่อยเถอะ ใครที่ไหนจะทำลายศพได้ถึงขนาดนี้ นอกจากคนโหดร้ายบ้าคลั่งอย่างเจ้า! ยังจะมีใครอีก!”
ร่างกายของจูเก๋ออินถูกทิ้งให้อยู่ในสภาพที่น่าสมเพชอย่างยิ่ง แม้แต่ผู้รักษาที่ไปตรวจสอบศพก็แทบจะอาเจียนออกมา
ถ้าถามว่าในบรรดาแขกทุกคนที่มาร่วมงานฉลองวันเกิดที่ตำหนักจิงหง ใครคือคนที่จะลงมือกับคู่ต่อสู้ได้นองโลหิตที่สุด ก็ต้องเป็นกู่อิ่งอย่างไม่ต้องสงสัยเลย! วิธีการนองโลหิตของกู่อิ่งเป็นที่รู้ไปทั่วทั้งสิบสองตำหนัก!
“นั่นไม่จริง!” ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน กู่ซินเยียนที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งเดินออกมายืนตรงหน้าทุกคน ข้างๆ กู่อิ่ง นางมองผู้อาวุโสของตำหนักจิงหงแล้วพูดว่า ”ศิษย์ของตำหนักมังกรสวรรค์บอกว่าเมื่อวานนี้จูเก๋ออินไม่ได้ก้าวออกจากห้องของเขาเลย แต่เมื่อวานข้าได้ไปเดินเล่นกับจูเก๋ออินอยู่นาน ถ้าสิ่งที่ศิษย์ของตำหนักมังกรสวรรค์พูดเป็นความจริง แล้วคนที่ข้าเจอคือใครกัน”
เมื่อได้ฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด กู่ซินเยียนถึงกับเหงื่อแตก แต่จากเวลาที่ศิษย์ตำหนักมังกรสวรรค์พูดนั้น มันเป็นเวลาเดียวกับที่นางเพิ่งแยกทางกับจูเก๋ออิน คำนวณเวลาแล้ว กู่อิ่งย่อมไม่สามารถเจอกับจูเก๋ออินในห้องของเขาได้ แล้วเขาจะฆ่าจูเก๋ออินได้อย่างไร นอกจากนั้น นางยังได้เห็นจูเก๋ออินกับตา ดังนั้น การที่ศิษย์ตำหนักมังกรสวรรค์อ้างว่าจูเก๋ออินไม่ได้ออกจากห้องของเขาเลยสักครั้งย่อมเป็นเรื่องโกหก!
ตอนที่ 1756 เริ่มการแสดง (4)
“กู่ซินเยียน! เจ้าเป็นน้องสาวของกู่อิ่ง คิดว่าจะมีใครเชื่อคำพูดของเจ้าอย่างนั้นเรอะ” ผู้เยาว์จากตำหนักมังกรสวรรค์คนหนึ่งกล่าวหากู่ซินเยียนว่านางพยายามแก้ต่างให้กู่อิ่ง
กู่ซินเยียนพูดโดยไม่สีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิดว่า ”จะเชื่อหรือไม่ เจ้ากับข้าไม่ใช่คนตัดสิน ตอนที่ข้าพบกับจูเก๋ออินเมื่อวาน มีคนเห็นอยู่ไม่น้อย พวกเขาสามารถเป็นพยานในสิ่งที่ข้าพูดได้”
เห็นได้ชัดว่าผู้เยาว์จากตำหนักมังกรสวรรค์คนนั้นไม่เชื่อคำพูดของกู่ซินเยียน แต่ผู้อาวุโสของตำหนักจิงหงได้เดินถามไปรอบๆ และได้รับคำยืนยันจากคนจำนวนมากที่เคยเห็นกู่ซินเยียนกับจูเก๋ออินเดินเล่นอยู่ในสวน
นั่นทำให้เรื่องราวแปลกประหลาดขึ้นมาทันที
ศิษย์ตำหนักมังกรสวรรค์ยืนยันว่าเมื่อวานนี้จูเก๋ออินไม่ได้ออกจากห้องของเขาตลอดทั้งวัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปพบกับกู่ซินเยียน แต่อีกด้านหนึ่ง กู่ซินเยียนก็ดึงเอาพยานที่เห็นนางพบกับจูเก๋ออินออกมาแก้ข้อสงสัยให้กู่อิ่ง
ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอกจนเกือบจะสู้กันในห้องโถงใหญ่อยู่แล้ว
ผู้อาวุโสของตำหนักจิงหงรู้สึกสับสนมาก ถ้าเรื่องนี้เป็นฝีมือของกู่อิ่งโดยที่ไม่มีอะไรมาหักล้างได้ มันก็จะจัดการได้ง่ายขึ้น อย่างน้อยตำหนักมังกรสวรรค์ก็จะพุ่งเป้าไปที่ตำหนักมารโลหิตและกู่อิ่งอย่างเต็มที่ พวกเขาจะทวงความยุติธรรมจากกู่อิ่งอย่างไร มันก็จะเป็นเรื่องระหว่างตำหนักทั้งสองเท่านั้น
แต่ตอนนี้ แค่ประเด็นที่ว่าจูเก๋ออินได้ออกจากห้องของเขาหรือไม่ ก็มีตัวแปรโผล่ออกมามากมายขนาดนี้แล้ว ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะโยนข้อกล่าวหาใส่กู่อิ่ง
หากเรื่องยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ คนที่ต้องเกี่ยวข้องจะไม่ใช่แค่ตำหนักมารโลหิตและตำหนักมังกรสวรรค์ แต่ตำหนักจิงหงของพวกเขาก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
เพราะไม่ว่าอย่างไร จูเก๋ออินก็ถูกฆ่าตายในตำหนักจิงหง สาเหตุการตายก็ไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน ในสถานการณ์เช่นนี้ ตำหนักจิงหงจะต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวจากตำหนักมังกรสวรรค์ และตำหนักมารโลหิตก็จะไม่พอใจที่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และกล่าวโทษตำหนักจิงหงที่จัดการเรื่องได้ไม่ดี
สถานการณ์ที่คลุมเครือกับสองมุมมองที่ขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงได้ลากเอาตำหนักทั้งสามลงสู่โคลนตมอย่างรวดเร็ว
ในห้องโถง ศิษย์ตำหนักมังกรสวรรค์และศิษย์ตำหนักมารโลหิตโต้เถียงกันอย่างดุเดือด กู่อิ่งยืนอยู่ตรงกลางห้องโถงด้วยสีหน้าเย็นชา ความหนาวเย็นเข้าเกาะกุมหัวใจ
เขาเข้าใจแล้ว
ต้นตอของปัญหาอยู่ที่ไหน
เมื่อดูสถานการณ์วุ่นวายตรงหน้า ในที่สุดกู่อิ่งก็เข้าใจเจตนาที่แท้จริงของจวินอู๋เสีย!
เด็กคนนั้นไม่เพียงต้องการให้เขารับโทษจากการฆ่าจูเก๋ออินเท่านั้น แต่ยังปลุกระดมความขัดแย้งระหว่างตำหนักมารโลหิตและตำหนักมังกรสวรรค์ด้วยการสร้างปริศนาที่ไขไม่ได้นี้ขึ้นมา นั่นก็คือจูเก๋ออินได้ออกจากห้องของเขาหรือไม่!
ถ้าเขาเดาไม่ผิด จูเก๋ออินต้องเป็นอย่างที่ศิษย์ตำหนักมังกรสวรรค์พูดไว้ เขาไม่ได้ก้าวออกจากห้องตัวเองเลย ส่วนคนที่ไปพบกับกู่ซินเยียน…ก็คือคนอื่น
แรงจูงใจเบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้คือทำให้การตายของจ้าวตำหนักน้อยแห่งตำหนักมังกรสวรรค์เป็นตัวกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างสามตำหนัก!
ไม่ว่ากู่ซินเยียนจะพูดอะไร คนของตำหนักมังกรสวรรค์ก็ยืนกรานว่านางโกหกและกู่อิ่งคือฆาตกร แต่ด้วยคำกล่าวที่ขัดแย้งกันและข้อสงสัยที่ไม่ได้รับการแก้ไขยังคงอยู่ ตำหนักจิงหงจึงไม่กล้าตัดสินใจใดๆ ได้แต่พยายามไกล่เกลี่ยให้ทุกอย่างราบรื่น
เมื่อเป็นแบบนี้ ตำหนักมารโลหิต ตำหนักมังกรสวรรค์ และตำหนักจิงหงจึงถูกบังคับให้ตกอยู่ในความขัดแย้งและความคับแค้นใจที่ไม่ได้รับการแก้ไขจนต่อสู้และเกิดความแค้นต่อกัน
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความจริงเบื้องหลังการตายของจูเก๋ออินไม่สามารถแก้ไขได้!
เทียบกับการโยนข้อกล่าวหาฐานฆ่าจูเก๋ออินใส่กู่อิ่งแล้ว สิ่งนี้เลวร้ายกว่ามาก!
“จวินเสีย…ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ ถึงได้ตกอยู่ในมือของเจ้าอีกครั้ง…” กู่อิ่งหรี่ตาลง เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเขายังไม่เข้าใจแผนการของจวินอู๋เสีย เขาก็คงโง่จริงๆ!
สถานการณ์ตอนนี้ ต่อให้เขามองแผนการของจวินอู๋เสียออกหมดแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็คงไม่มีใครเชื่อ…