ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 1757 เริ่มการแสดง (5) / ตอนที่ 1758 โง่จนเกินเยียวยา (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 1757 เริ่มการแสดง (5) / ตอนที่ 1758 โง่จนเกินเยียวยา (1)
ตอนที่ 1757 เริ่มการแสดง (5)
พวกผู้เยาว์จากตำหนักมังกรสวรรค์และตำหนักมารโลหิตทะเลาะกันต่อหน้าทุกคนในห้องโถงใหญ่ ศิษย์ของตำหนักจิงหงเริ่มควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
และผู้เยาว์จากตำหนักอื่นๆ ที่มาเกาะติดสถานการณ์ก็หวังให้เหตุการณ์บานปลายใหญ่โต ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี
สามตำหนักเกิดเรื่องเช่นนี้ ตำหนักอื่นก็ได้ประโยชน์โดยไม่ต้องกระดิกนิ้วด้วยซ้ำไม่ใช่หรือ
จวินอู๋เสียยังคงซ่อนตัวชื่นชมผลงานของตัวเอง ถึงจุดนี้นางก็มั่นใจได้แล้วว่ากู่อิ่งไม่สามารถหลุดจากข้อกล่าวหาฐานฆาตกรรมได้ แผนของนางสำเร็จแล้ว
ภายใต้ความโกลาหลวุ่นวายทั้งหมด ร่างหนึ่งรีบวิ่งไปที่ประตูห้องโถงของตำหนัก
จื่อจินมองความวุ่นวายในห้องโถงอย่างตกตะลึง เมื่อนางเห็นกู่อิ่งซึ่งยืนอยู่กลางฝูงชน ถูกพวกผู้เยาว์จากตำหนักมังกรสวรรค์รุมด่าทอสาปแช่ง หัวใจนางก็พลันเจ็บปวด
เกิดอะไรขึ้นที่นี่
ระหว่างทางมาที่นี่ จื่อจินได้ยินพวกผู้เยาว์จากตำหนักอื่นพูดคุยกันเรื่องนี้แล้ว และรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่ทั้งหมดนั้นไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่นางคิดในตอนแรก
จูเก๋ออินตายแล้ว…
ตายอย่างลึกลับ และทุกคนก็เอาการตายของจูเก๋ออินมากล่าวโทษกู่อิ่ง
วินาทีที่นางเห็นร่างของกู่อิ่ง จื่อจินรู้สึกเหมือนมีคนสูบเอาเรี่ยวแรงในร่างกายนางไปจนหมด ขาของนางอ่อนปวกเปียกอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะล้ม นางก็จับกรอบประตูห้องโถงเพื่อพยุงตัวไว้
จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!
คุณชายกู่ไม่ได้ฆ่าจูเก๋ออิน! นางต้องช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้กู่อิ่ง!
จื่อจินสูดหายใจเข้าลึกๆ และพยายามเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ขณะนั้น ในใจนางคิดอยู่เพียงอย่างเดียวคือช่วยกู่อิ่ง นอกเหนือจากเรื่องนั้น ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้ว!
ต่อให้ต้องเปิดเผยตัวตน นางก็จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กู่อิ่ง
แต่ทว่า จื่อจินเพิ่งก้าวเท้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่ของตำหนักจิงหงได้แค่ก้าวเดียวเท่านั้น ทันใดนั้นก็มีมือที่แข็งแรงข้างหนึ่งเอื้อมมาปิดปากของนางเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้นางส่งเสียงร้องออกมา แขนแข็งแรงอีกข้างก็คว้าเอวนาง บังคับลากออกไปจากประตูห้องโถง
ภายในห้องโถงมีเสียงดังเอะอะวุ่นวาย ไม่มีใครสังเกตเห็นการมาของจื่อจิน และไม่มีใครเห็นนางถูกคนลักพาตัวไป
สายตาของจื่อจินกวาดมองไปทั่วห้องโถงใหญ่อย่างตื่นตระหนก
ทันใดนั้นเอง!
นางก็เห็นจวินอู๋เสียยืนอยู่ที่มุมหนึ่ง
จวินอู๋เสียกำลังมองมาตรงมาที่นาง
ดวงตาใสกระจ่างเย็นชาคู่นั้นทำให้นางตกใจมาก!
นางเห็นจวินอู๋เสียยกมือขึ้น และจรดนิ้วชี้ไว้ที่ริมฝีปากเป็นสัญญาณให้เงียบ
ดวงตาของจื่อจินเบิกกว้าง จ้องมองจวินอู๋เสียที่สงบนิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา แล้วความคิดที่น่ากลัวก็ก่อตัวขึ้นในหัวของนาง!
เป็นเขา! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของจวินอู๋มาตั้งแต่แรก!
จื่อจินไม่อยากจะเชื่อเลย แต่ความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าก็บังคับให้นางรู้ว่าการกระทำของนางทุกอย่างไม่เคยรอดพ้นจากสายตาของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียอาจรู้เรื่องที่นางติดต่อกับกู่อิ่งมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเดาได้ว่านางจะเปิดเผยแผนการให้กู่อิ่งรู้…
จื่อจินเต็มไปด้วยความกลัวและความวิตกกังวลอย่างมาก นางถูกพาตัวออกไปจากห้องโถงใหญ่อย่างเงียบๆ
จวินอู๋เสียหันหน้ากลับไปมองความวุ่นวายในห้องโถงใหญ่ แล้วรอยยิ้มบางๆ ก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปากของนาง
เพื่อทำให้เรื่องวุ่นวายโกลาหลนี้สำเร็จสมบูรณ์ บุคคลสำคัญที่สุดในเรื่องนี้ไม่ใช่นาง แต่เป็นฮวาเหยา
จวินอู๋เสียมองไปทางฮวาเหยาที่ทำตัวไม่สะดุดตาอยู่ท่ามกลางฝูงชน ไม่มีใครคิดเลยว่าจูเก๋ออินที่กู่ซินเยียนเจอนั้น ความจริงแล้วคือฮวาเหยาปลอมตัวมา และเพื่อให้หลุดจากการตรวจสอบของตำหนักจิงหง ก่อนที่ฮวาเหยาจะเคลื่อนไหว จวินอู๋เสียได้ให้ฮวาเหยาต่อสู้ครั้งใหญ่กับเฉียวฉู่ต่อหน้าศิษย์ของทั้งสองตำหนัก!
ตอนที่ 1758 โง่จนเกินเยียวยา (1)
หลังจากนั้น เฉียวฉู่และฮวาเหยาก็ต่อสู้กันซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะรุนแรงโดยยืมเวทีประลองของตำหนักจิงหงมาใช้ พอพ้นสายตาของทุกคน ฮวาเหยาก็ฉวยโอกาสเปลี่ยนร่างและแวบออกไป ทิ้งเฉียวฉู่ให้สร้างเสียงการต่อสู้อยู่ที่เวทีประลองเพียงคนเดียวเพื่อสร้างความสับสนให้กับพวกผู้เยาว์ที่อยู่นอกเวที
เนื่องจากทั้งสองคนเคย ‘ต่อสู้’ กันมาก่อนในช่วงงานชุมนุมเทพยุทธ์ มันจึงไม่ได้ก่อให้เกิดความสงสัยใดๆ เมื่อทำเสียงดังเช่นนี้ขึ้นมา
เบื้องหลังทั้งหมดนี้ล้วนทำขึ้นเพื่อให้แผนการดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้ว่าตำหนักมารโลหิตและตำหนักมังกรสวรรค์จะทำการตรวจสอบ พวกเขาก็จะไม่มีวันได้คำตอบที่ต้องการ เพราะจวินอู๋เสียได้สร้างสถานการณ์ที่เข้ากันไม่ได้นี้ให้กับพวกเขา ไม่มีทางที่พวกเขาจะแก้ไขได้
จวินอู๋เสียรู้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีข้อสรุป หนามจะฝังลึกเข้าไปในหัวใจของตำหนักทั้งสาม
การตายของจ้าวตำหนักน้อยตำหนักมังกรสวรรค์จะไม่ถูกปัดทิ้งและปกปิดไปได้ง่ายๆ
ความโกลาหลวุ่นวายของสิบสองตำหนักจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
จวินอู๋เสียไม่สนใจจะดูต่อ นางหันหลังกลับอย่างเงียบๆ และมองไปที่กู่อิ่งซึ่งยืนนิ่งอยู่กลางห้องโถงใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย
นี่คือการทวงความยุติธรรมแทนฟ่านจัว ความแค้นที่ฆ่าบิดา จะไม่มีวันอยู่ร่วมโลกกันได้!
ในห้องโถงที่กำลังวุ่นวาย ไม่มีใครสังเกตเห็นการจากไปของจวินอู๋เสีย
จื่อจินถูกเยี่ยกูลากตัวกลับเข้ามาในห้อง มือของเยี่ยกูปิดปากนางเอาไว้ตลอดทาง ไม่ว่านางจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถหลุดจากมือของเยี่ยกูได้
หลังจากจวินอู๋เสียออกจากห้องโถงใหญ่ นางก็ตรงไปที่ห้องของจื่อจิน ภายในห้อง จื่อจินทั้งเตะและทุบตีเยี่ยกูไม่หยุด พยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากมือเขา เยี่ยกูเริ่มหน้าเครียด พยายามห้ามตัวเองไม่ให้บดขยี้ชีวิตน้อยๆ ของเด็กสาวที่รนหาที่ตาย เขาตัดสินใจมัดจื่อจินเอาไว้และผูกผ้าเช็ดหน้าไว้ที่ปากของนาง ทำให้นางขยับตัวไม่ได้ ส่งเสียงก็ไม่ได้
จื่อจินถูกมัดติดกับเก้าอี้และถูกปิดปากเอาไว้ ดวงตาของนางแดงก่ำ เมื่อนางเห็นจวินอู๋เสียเดินเข้ามา นางก็ดิ้นรนอีกครั้ง ปากส่งเสียงอู้อี้ไม่หยุด ความรู้สึกในแววตาที่จ้องมองจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปในห้องและปิดประตูตามหลัง จากนั้นก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ดวงตาแดงก่ำของจื่อจินไม่ได้ละสายตาจากร่างของจวินอู๋เสียเลย
“อื้อ! อื้อ!” จื่อจินยังคงทำเสียงอู้อี้ต่อไป ร่างของนางดิ้นรนและโน้มตัวไปข้างหน้า เยี่ยกูที่ยืนอยู่ข้างหลังนางขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไปเพื่อจะกดตัวนางไว้
แต่จวินอู๋เสียก็ยกมือขึ้นห้ามเยี่ยกู พร้อมกับพูดว่า ”แก้มัดนาง”
เยี่ยกูชะงัก แม้แต่คนโง่ก็ยังดูออกว่าจื่อจินไม่ได้แสดงความเป็นมิตรต่อจวินอู๋เสียเลย ถ้าปล่อยนางตอนนี้ละก็…เยี่ยกูลังเล เขามองไปที่จวินอู๋เย่าซึ่งยืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย หลังจากได้รับการพยักหน้าจากจวินอู๋เย่า เยี่ยกูก็เม้มปาก แล้วจัดการปลดพันธนาการของจื่อจินด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
“เจ้าคนแซ่จวิน! เจ้าคนต่ำช้าไร้ยางอาย!” ทันทีที่จื่อจินเป็นอิสระ นางก็ลุกขึ้นยืนและกระโจนเข้าใส่จวินอู๋เสียทันทีพร้อมกับยกมือขึ้น เห็นได้ชัดว่ามือนั้นจะฟาดลงไปยังใบหน้าของจวินอู๋เสีย
แต่ก่อนที่จื่อจินจะได้แตะต้องจวินอู๋เสีย พลังอันรุนแรงก็กระแทกเข้าที่หน้าท้องของจื่อจิน ทำให้ร่างนางกระเด็นออกไป
“ถ้าเจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ข้าช่วยสงเคราะห์ให้เจ้าสมปรารถนาได้” จวินอู๋เย่าพูดยิ้มๆ ขณะยืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย หมอกสีดำหมุนวนอยู่บนฝ่ามือของเขาอย่างน่ากลัว