ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 195 เปิดโลงศพ (2) ตอนที่ 196 เปิดโลงศพ (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 195 เปิดโลงศพ (2) ตอนที่ 196 เปิดโลงศพ (3)
ตอนที่ 195 เปิดโลงศพ (2)
จวินอู๋เสียลงมาจากหลังของสัตว์ร้ายสีดำและมองจวินชิงที่มีสีหน้าตึงเครียดแล้วกล่าวว่า “ท่านอาเล็ก ข้าจะไม่มอบหยกวิญญาณให้พวกเขา อย่าเปิดโลงศพเลยนะเจ้าคะ”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ” จวินชิงหยุดชะงักเล็กน้อย
ทันใดนั้นหลงฉีก็ตะโกนร้องออกมาเสียงดัง
“ท่านอ๋อง พวกท่านรีบมาดูนี่สิขอรับ”
โลงศพของจวินกู้ถูกเปิดออกแล้ว และสีหน้าของหลงฉีก็เต็มไปด้วยความตกใจ
สกุลจวินทั้งสามคนรีบไปที่นั่นทันที
เมื่อจวินอู๋เสียและทุกคนได้เห็นสภาพภายในโลงศพ ก็ต่างตกตะลึงแทบไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้า
“นี่…เป็นไปได้อย่างไร…” ใบหน้าของจวินเสี่ยนเต็มไปด้วยความตกใจ และร่างกายของเขาก็สั่นเทิ้มไม่หยุด
บุรุษหนุ่มรูปงามนอนอยู่ในโลงศพอย่างเงียบเชียบ ทันทีที่กองทัพรุ่ยหลินทุกคนเห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้น เข่าของพวกเขาก็แทบทรุด
สิบปี!
สิบปีแล้ว!
เป็นเวลาเกือบสิบปีแล้วที่พวกเขาไม่ได้เห็นใบหน้านี้
เมื่อสิบปีที่แล้ววันที่ร่างของจวินกู้ถูกยกใส่โลงศพ พวกเขาทุกคนคิดว่านั่นจะเป็นภาพความทรงจำสุดท้ายในชีวิตของพวกเขา
แต่ใครจะคิดว่าสิบปีต่อมา หลังจากโลงศพของจวินกู้ถูกเปิดออก เขาที่นอนอยู่ในนั้นจะเหมือนกับยังมีชีวิตอยู่แต่เพียงแค่หลับไปเท่านั้น
หากที่นี่ไม่ใช่สุสานและจวินกู้ไม่ได้นอนอยู่ในโลงศพ ก็คงไม่มีใครนำเขากับคนที่ตายไปแล้วสิบปีมาเชื่อมโยงกันได้
ในช่วงเวลาสิบปีที่ผ่านมา แม้แต่ใบหน้าของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนตายที่ฝังลึกอยู่ใต้ดินเลย
แต่จวินกู้ที่นอนอยู่ในโลงศพกลับไม่ได้แตกต่างไปจากตอนที่เขาถูกฝังลงไปเมื่อสิบปีก่อน ผิวสีแทนของเขาอิ่มน้ำและเต็มไปด้วยความยืดหยุ่น เส้นผมสีดำขลับยังสยายอยู่บนตัวของเขา ดวงตาของเขาปิดแน่น คิ้วที่แหลมคมคู่หนึ่งและริมฝีปากที่เผยอออกเล็กน้อยใต้จมูกที่โด่งนั้นมีหยกสวยงามครึ่งชิ้นวางอยู่ด้านใน เขาประสานมือไว้ที่หน้าท้องและดาบแหลมคมที่เคียงคู่เขาไปทุกสนามรบก็วางอยู่ในมือของเขา
ดาบแหลมคมนั้นฉายแสงอยู่ใต้แสงจันทร์ และแม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกใช้งานมานานกว่าสิบปีแล้ว แต่มันก็ยังคงแหลมคมเช่นเคย
ดวงตาของจวินเสี่ยนและจวินชิงแดงเรื่อขึ้นมาทันที
ในช่วงเวลาสิบปีนี้ไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดไว้บนร่างกายของจวินกู้เลย และถ้าเทียบกับจวินชิงที่อายุน้อยกว่าเขาสองสามปีแล้ว เขายังดูหนุ่มแน่นกว่าด้วยซ้ำ
“จวินกู้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร ผ่านไปสิบปีแล้ว…เหตุใดร่างกายของเขายังถูกรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นนี้” เสียงของจวินเสี่ยนแหบแห้งเล็กน้อย จวินกู้ที่นอนอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนดึงเขากลับไปในวันที่ฝังศพเมื่อสิบปีที่แล้ว
พวกเขาผ่านมาสิบปี แต่จวินกู้ที่อยู่ในโลงศพกลับเหมือนผ่านไปเพียงชั่วพริบตา
เป็นเวลาสิบปีที่ศพไม่เน่าเปื่อยหรือเสียหาย พวกเขาแทบจะไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน ถ้าจะมีเรื่องแบบนี้ ก็คือต้องเก็บศพไว้ในที่ที่เย็นหรือใต้หิมะเยือกแข็งตั้งแต่วันที่เสียชีวิต
แต่ศพของจวินกู้ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น
ความหดหู่จากการเปิดโลงศพเพื่อนำหยกออกมาได้สลายหายไปแทนที่ด้วยความตื่นตะลึงและสงสัย เมื่อมองจวินกู้ที่เหมือนกับว่ากำลังนอนหลับอยู่อย่างเงียบๆ สองพ่อลูกสกุลจวินและกองทัพรุ่ยหลินที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างก็ลอบเช็ดน้ำตาของพวกเขาอย่างเงียบๆ
แม้ว่าตัวคนจะจากไปสิบปีแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยจากไปจากใจของพวกเขาเลย
จวินอู๋เสียมองจวินกู้ที่นอนอยู่ในโลงศพด้วยแววตาที่ซับซ้อน
ใบหน้าของจวินกู้นั้นคล้ายกับจวินชิง แต่ดูดีกว่าจวินชิง หากใบหน้าของจวินชิงสืบทอดมาจากจวินเสี่ยน แสดงว่าใบหน้าของจวินกู้ก็น่าจะสืบทอดมาจากท่านย่าหรือก็คือมารดาของเขามากกว่า
ใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติไม่มีผู้ใดเทียบได้
ใบหน้าของจวินอู๋เสียนั้นสืบทอดมาจากจวินกู้ งดงามไร้ที่ติเช่นกัน
ตอนที่จวินกู้เสียชีวิต เขาอายุเพียงแค่ยี่สิบแปดปีเท่านั้นยังเด็กมาก
เมื่อสิบปีที่แล้ว จวินชิงอายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจวินชิงจะอายุมากกว่าจวินกู้เล็กน้อย
ตอนที่ 196 เปิดโลงศพ (3)
นี่เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียได้เห็น ‘บิดา’ ของตัวเอง นางจึงรู้สึกสับสนมาก
ถ้าจวินกู้กลายเป็นกองกระดูก นางอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อมองดูใบหน้าที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับของตัวเอง มันเป็นเรื่องยากสำหรับจวินอู๋เสียที่จะถือว่าอีกฝ่ายเป็นอดีตที่ไม่เกี่ยวข้องกันอีก
“ขอข้าดูหน่อย” จวินอู๋เสียมองใบหน้าของจวินกู้และขับไล่อารมณ์สับสนในใจออกไป ยุคนี้ไม่มีวิธีอะไรในการป้องกันการเน่าเปื่อย จวินกู้ได้เสียชีวิตไปแล้วสิบปีและยังถูกฝังลงดิน ตามปกติแล้วมันควรจะกลายเป็นกระดูกไปนานแล้ว แต่สภาพตอนนี้ของเขานั้นเหมือนกับว่าเขาเพิ่งเสียชีวิตไป
จวินชิงรีบหลบทางให้จวินอู๋เสียทันที และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาเชื่อฟังคำพูดของจวินอู๋เสียทุกอย่างอย่างไม่มีเหตุผล
จวินอู๋เสียตรวจสอบร่างกายของจวินกู้อย่างละเอียด จวินกู้ไม่มีการเต้นของชีพจรและหัวใจแล้ว และร่างกายของเขาก็เย็นเฉียบ เขาตายไปแล้วจริงๆ แต่จวินอู๋เสียก็พบปัญหาที่ผิดปกติบางอย่าง
ผิวหนังของจวินกู้นุ่มมากและแขนขาของเขาก็ไม่แข็งทื่อ ซึ่งไม่สอดคล้องกับเวลาที่เขาเสียชีวิต สภาพปัจจุบันของจวินกู้นั้นเหมือนกับว่าเขาเพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นาน
เป็นเวลาสิบปีที่ร่างกายไม่เน่าเปื่อยและแขนขาไม่แข็งทื่อ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจจริงๆ
ร่างกายของจวินกู้ไม่มีความผิดปกติ ดังนั้น…
สายตาของจวินอู๋เสียมองไปที่หยกสวยงามในปากของจวินกู้โดยไม่รู้ตัว หากมีอะไรที่ผิดแผกออกไป สิ่งนั้นก็น่าจะเป็นหยกวิญญาณ
สิ่งที่ทำให้สำนักชิงอวิ๋นต้องใช้คนมากมายเดินทางมารับด้วยตัวเอง จะต้องไม่ใช่สิ่งของธรรมดาอย่างแน่นอน
หรือว่าสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของจวินกู้ไม่เน่าเปื่อยนั้นเป็นเพราะหยกวิญญาณชิ้นนี้
มือของจวินอู๋เสียค่อยๆ ยื่นมือออกไปสัมผัสหยกวิญญาณชิ้นนั้น
เมื่อหยกวิญญาณที่ทั้งเย็นและเรียบเลื่อนสัมผัสโดนปลายนิ้ว ทันใดนั้นพลังแปลกประหลาดก็แล่นผ่านปลายนิ้วพุ่งเข้าใส่หัวของจวินอู๋เสียโดยตรง
เสียงระเบิดดังตู้มคล้ายกับจะก้องไปทั้งหัวของนาง และแล้วความคิดทั้งหมดของจวินอู๋เสียก็หยุดชะงักลงโดยพลัน
แรงดึงที่มหาศาลกำลังฉีกกระชากจิตวิญญาณของนางไม่หยุด และดูเหมือนว่าจะมีกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ในร่างกายของนางที่พยายามดูดซับจิตวิญญาณของนางอย่างต่อเนื่อง
เมี๊ยววว เสียงกรีดร้องของสัตว์ร้ายสีดำดังทะลุแก้วหู
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
“อู๋เสีย!” จวินชิงที่อยู่ด้านข้างร้องเมื่อเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของผู้เป็นหลานสาว ร่างของเด็กสาวล้มตัวไปข้างหลังทันทีราวกับว่านางไร้เรี่ยวแรง
จวินชิงรีบเอื้อมมือออกไปประคองจวินอู๋เสียไว้ในอ้อมแขนของเขา
วินาทีที่ปลายนิ้วเรียวแยกจากหยกวิญญาณ แรงดึงเหล่านั้นก็หายไปในทันที จวินอู๋เสียนอนอยู่ในอ้อมแขนของจวินชิง สูดอากาศเข้าปอดลึกๆ หลายรอบ ดวงตาของนางเพ่งมองเล็กน้อย ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำให้นางกลัวไม่หาย
ความรู้สึกที่จิตวิญญาณควบคุมไม่ได้ ความเจ็บปวดที่ราวกับว่าจิตวิญญาณของตัวเองจะถูกฉีกกระชากและดึงออกมาในวินาทีต่อมา นี่เป็นสิ่งที่จวินอู๋เสียไม่เคยสัมผัสมาก่อน
แม้ว่าจะเป็นเพียงการสัมผัสในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้จวินอู๋เสียไร้เรี่ยวแรงไปทั้งตัว เหงื่อที่ไหลโชกทำให้อาภรณ์ของนางเปียกชุ่ม และใบหน้าเล็กๆ ที่งดงามก็ซีดเผือดไปทั้งดวง
ท่าทางของจวินอู๋เสียทำให้จวินเสี่ยนและจวินชิงตกใจเป็นอย่างมาก
“อู๋เสีย เจ้าเป็นอะไรไป” หัวใจของจวินเสี่ยนบีบรัดแน่น คนที่ไม่เป็นอะไร เมื่อครู่กลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน จวินเสี่ยนนึกถึงการกระทำของจวินอู๋เสียเมื่อสักครู่ เขามองไปที่โลงศพและดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่หยกวิญญาณในปากของจวินกู้
อู๋เสียเป็นแบบนี้หลังจากสัมผัสกับหยกวิญญาณชิ้นนั้น หรือว่าหยกวิญญาณนั้นจะมีพลังพิเศษจริงๆ
จวินเสี่ยนมองไปที่ใบหน้าซีดขาวของหลานสาว จากนั้นก็มองไปที่ศพที่เหมือนยังมีชีวิตอยู่ของลูกชายในโลงศพ เขายื่นมือออกไปหมายจะสัมผัสกับหยกวิญญาณชิ้นนั้น
“ท่านปู่ อย่า!” จวินอู๋เสียกุมหน้าอกไว้แน่นแล้วร้องออกมาด้วยความตกใจ
……