ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 283 ตบหน้าครั้งที่ห้า (5) ตอนที่ 284 ตบหน้าครั้งที่ห้า (6)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 283 ตบหน้าครั้งที่ห้า (5) ตอนที่ 284 ตบหน้าครั้งที่ห้า (6)
ตอนที่ 283 ตบหน้าครั้งที่ห้า (5)
จวินอู๋เสียที่เดิมรับเข้ามาเพื่อต้องการกดหัวมู่เฉินให้ต่ำลง เวลานี้กลับทำให้เคอฉังจวีตกใจเข้าแล้วจริงๆ
ฝีมือการซัดเข็มของเจ้าหนูนี่…ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลย!
เป็นไปได้อย่างไรกัน!
สิ่งที่เคอฉังจวีถนัดมากที่สุดนอกจากการใช้พิษ ก็คือการซัดเข็มพิษนี่แหละที่เขารู้สึกภาคภูมิใจ แต่เด็กหนุ่มตรงหน้า เพิ่งจะมีอายุเพียงสิบกว่าปีเท่านั้นกระมัง ต่อให้ฝึกปรือฝีมือมาตั้งแต่อยู่ในท้องมารดา ก็ไม่น่าจะเก่งกาจถึงขนาดรับมือกับเขาภายใต้สถานการณ์ถูกลอบโจมตีได้ใช่หรือไม่
แต่จวินอู๋เสียผู้นี้กลับทำได้!
“เจ้านี่มัน ทำให้ข้าขยะแขยงมากจริงๆ” จวินอู๋เสียผู้ซึ่งนิ่งเงียบมาโดยตลอดในที่สุดก็ยอมเปิดปากพูดประโยคแรกออกมา นางขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเคอฉังจวีที่ยืนอยู่ตรงหน้าซ้อนทับกับร่างของชายชราผู้หนึ่งที่นางคุ้นเคย เจ้าปีศาจร้ายคนนั้นในชาติก่อน ก็เป็นเหมือนคนตรงหน้าที่ชอบใช้มนุษย์มาทำการทดลองอย่างไร้ศีลธรรม เป็นประเภทที่สมควรตาย ไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป!
เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นเยียบแบบนั้น เคอฉังจวีพลันก็รู้สึกหนาวขึ้นมาจากปลายเท้าของเขาอย่างห้ามไม่อยู่
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! เขากลับถูกไอ้หนูปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนหนึ่งดูถูกมากขนาดนี้!
“ไอ้หนู ล้างปากของเจ้าให้สะอาดหน่อย! ข้าไม่สนใจหรอกนะว่าเจ้าจะเป็นใครมาจากที่ไหน ตราบเท่าที่เข้ามาในยอดเขาเร้นเมฆาถิ่นของข้าแล้ว พวกเจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้มีชีวิตรอดกลับไป!” เคอฉังจวียิ้มเย็น เขาไม่เชื่อหรอกว่า เพียงเด็กหนุ่มสองคนตรงหน้าจะสามารถสร้างคลื่นพายุใหญ่โตอะไรได้!
ยอดเขาเร้นเมฆาเป็นถิ่นของเขา!
“เช่นนั้นก็ต้องดูแล้วว่าเจ้ามีปัญญาทำแบบนั้นหรือเปล่า” จวินอู๋เสียเชิดคางขึ้นเล็กน้อย แสยะยิ้มมุมปากมองกลับไปอย่างท้าทาย
ใบหน้าที่ดูธรรมดาไม่สะดุดตานั้น ไม่รู้เพราะเหตุใดภายใต้รอยยิ้มนี้จู่ๆ ก็งดงามจับตามากถึงเพียงนี้!
“ลองดูก็รู้แล้วมิใช่หรือ! พวกเจ้าวางใจเถอะ ข้าจะให้พวกเจ้าเป็นเหมือนกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย” เคอฉังจวียิ้มร้าย มองไปที่ใบหน้าของจวินอู๋เสียที่จู่ๆ ก็งดงามขึ้นมาเพราะรอยยิ้ม หัวใจของเขาก็ถูกปลุกเร้าด้วยความบ้าคลั่ง
สิ่งที่งดงามทั้งหมด จะต้องถูกทำลายและบดขยี้ภายใต้ฝ่าเท้าของเขา!
เขาจะลบมันออกไปให้สิ้น!
เฉียวฉู่ขมวดคิ้วมุ่น กำลังคิดจะก้าวขึ้นมาเพื่อสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าตัวอัปลักษณ์ที่ชั่วร้ายนี้
แต่จู่ๆ จวินอู๋เสียก็ยกมือขึ้น หยุดการเคลื่อนไหวของเฉียวฉู่เอาไว้ก่อน
“ถอยไป” จวินอู๋เสียสั่งพร้อมหรี่ตาลง รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่มักนิ่งเฉยเป็นปกติ
เฉียวฉู่ชะงักไปเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าตอนนี้จวินอู๋เสียแตกต่างไปจากเมื่อก่อนเล็กน้อย เขายิ้มเก่งขึ้น ดูจะแสดงสีหน้าอารมณ์ได้มากขึ้น แต่ระดับความขนลุกกับบรรยากาศอันตรายรอบตัวกลับพุ่งทะยานเสียจนพันธมิตรอย่างเขายังรู้สึกสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว จิตใต้สำนึกของเฉียวฉู่ สั่งให้เขาก้าวถอยหลังออกไปตามคำสั่งของจวินอู๋เสีย
“ไอ้หนู เจ้ากำลังรนหาที่ตาย” เคอฉังจวีไม่ได้เห็นจวินอู๋เสียอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย กะอีแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ต่อให้มันมีความสามารถถึงขนาดพลิกผืนฟ้าแล้วจะอย่างไรเล่า สิ่งที่เขาถนัดที่สุดไม่ใช่การต่อสู้ตัวต่อตัว แต่มันคือการใช้พิษ!
พิษที่สามารถฆ่าคนได้โดยปราศจากรูปลักษณ์!
ใต้ผืนฟ้านี้ ไม่มีใครคุ้นเคยกับวิธีการฆ่าเช่นนี้มากไปกว่าเขาอีกแล้ว ตราบเท่าที่เขาเต็มใจ เขาก็สามารถส่งใครไปลงนรกก็ได้ทุกที่ทุกเวลาเพียงแค่เขาพอใจ!
“อย่าว่าแต่ไอ้หนูที่ยังไม่หย่านมสองคนเช่นพวกเจ้าเลย แม้แต่ทหารทั้งกองทัพก็ยังล้มข้าไม่ได้ เข้ามาอยู่ในยอดเขาเร้นเมฆาของข้า มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่รอพวกเจ้าอยู่ อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะได้สัมผัสว่าอะไรคือความเจ็บปวดที่แท้จริง!” รอยยิ้มบนใบหน้าของเคอฉังจวีขยายกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เพราะรอยยิ้มบิดเบี้ยวนั้นมันอยู่บนใบหน้าอัปลักษณ์ของเขา จึงทำให้ใบหน้าที่น่าเกลียดแต่เดิม ยามนี้ราวกับผีร้ายที่ปืนขึ้นมาจากขุมนรกก็ไม่ปาน!
เสียงกระดิ่งทองแดงดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ทันใดนั้นกลุ่มควันสีเขียวก็พวยพุ่งออกมาจากรอยแตกของกระดิ่งนั้นแล้วกระจายไปทั่วทางเดินแคบๆ ในห้องใต้ดิน
ในขณะที่ควันสีเขียวแพร่กระจายออกไป ความตกใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮวาเหยาที่ถูกแขวนอยู่กลางอากาศ ความสงบในตอนแรกเริ่ม พังทลายไปหมดแล้วในขณะนั้น เขาก็คำรามออกไปทันทีว่า “รีบไป! นี่คือพิษควันเดียวดาย!”
เคอฉังจวีหัวเราะร่วน เสียงหัวเราะของเขาบ้าคลั่งอย่างถึงที่สุดแล้วในขณะนี้ เขามองไปที่จวินอู๋เสียและเฉียวฉู่ด้วยสายตาสมเพช
“ขยะจากสามโลกเบื้องล่างเอ๋ย เป็นเกียรติสำหรับเจ้าแล้วที่จะได้ตายด้วยพิษควันเดียวดายนี้!”
ตอนที่ 284 ตบหน้าครั้งที่ห้า (6)
เคอฉังจวีมองไปที่จวินอู๋เสียและเฉียวฉู่ราวกับว่ามองศพที่ตายไปแล้วสองคน พิษควันเดียวดายนี้ ไม่มีใครรู้จักพลังของมันดีไปกว่าเขาอีกแล้ว พิษนี้จะปรากฏขึ้นในรูปแบบของควัน และถึงแม้ว่าบุคคลนั้นจะกลั้นหายใจก็ตาม ตราบเท่าที่มันสัมผัสกับผิวหนังเพียงน้อยนิด คนผู้นั้นก็จะติดพิษและไม่สามารถหลีกหนีชะตากรรมอันโหดร้ายไปไหนได้อีก
พื้นที่ภายในห้องใต้ดินแห่งนี้ค่อนข้างปิดทึบ แม้ว่าเจ้าเด็กสองคนนี้จะพยายามหนีออกไป แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!
พิษควันเดียวดายค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วทุกซอกมุมของห้องใต้ดินแห่งนี้ ไม่ต้องพูดถึงเด็กหนุ่มสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา ต่อให้มีคนเป็นกองทัพยืนอยู่ข้างหน้าในเวลานี้ ก็อย่าหวังว่าจะมีใครรอดไปแม้แต่คนเดียว
ค่อยๆ ลิ้มรสมันไปเถอะ! ความรู้สึกของความหวาดกลัวที่ค่อยๆ กินจิตใจจนกระทั่งนำไปสู่ความตาย!
รอยยิ้มบนใบหน้าของเคอฉังจวีนั้นบิดเบี้ยวมากขึ้นทุกที เขาตั้งตารอที่จะได้เห็นการแสดงออกที่แสนเศร้าและน่าอัปยศของคนหนุ่ม เฝ้ารอดูพวกมันคลานมาที่แทบเท้าเขาแล้วร้องขอชีวิต
เฉียวฉู่คว้าแขนของจวินอู๋เสียเกือบจะในทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘พิษควันเดียวดาย’ สี่คำนี้ ร่างกายของเขาเวลานี้ขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว
“รีบไปเร็วเข้า! พิษนี้จะให้สัมผัสโดนตัวไม่ได้เป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นเจ้าก็มีแต่ต้องตายสถานเดียว!” เฉียวฉู่พยายามดึงจวินอู๋เสียให้ออกไปจากที่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่มืดครึ้มอย่างถึงที่สุด
เขาไม่คิดเลยว่าเคอฉังจวี จะมีบางสิ่งที่ร้ายกาจอย่างพิษควันเดียวดายนี้ซุกซ่อนเอาได้ด้วย
แต่แม้เฉียวฉู่จะพยายามฉุดจวินอู๋เสียเป็นเวลานาน เขาก็ไม่สามารถทำให้นางขยับออกจากตรงนั้นได้แม้เพียงครึ่งนิ้ว เขาหันศีรษะกลับไปมองด้วยความประหลาดใจมาก และได้พบว่าสีหน้าของนางยามนี้ไม่ได้ตื่นกลัวพิษของเคอฉังจวีเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามสายตาที่นางมองไปยังเคอฉังจวีเย็นเยียบมากยิ่งขึ้น รอยยิ้มที่มุมปากนั้นดูจะกดลึกมากขึ้นกว่าเดิมหลายส่วน
“น้องเสีย? รีบไปกันเถอะ” เฉียวฉู่มองจวินอู๋เสียอย่างกังวล ถ้าทำได้เขาคงแบกเด็กคนนี้ขึ้นอุ้มแล้ววิ่งออกจากตรงนี้ไปแล้ว
“นี่ก็คือพิษควันเดียวดายหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากที่ยิ้มแย้มของนางขยายกว้าง ร่างเล็กหรี่ตาลงแล้วมองตอบเคอฉังจวีด้วยสายตาเย้ยหยัน ราวกับว่าพิษควันเดียวดายนี้ในสายตาของนาง ไม่ต่างอะไรไปจากควันไฟที่พุ่งขึ้นมาจากฟืนธรรมดาๆ นางไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเลย
เฉียวฉู่ตกตะลึง เขามองไปที่จวินอู๋เสียและสงสัยว่าเจ้าเด็กนี่หัวสมองของเขามีส่วนใดผิดปกติหรือไม่ คนธรรมดาๆ หากได้ยินคำว่าพิษ ไม่วิ่งหางจุกตูดอย่างน้อยก็ต้องเคลื่อนไหวอะไรบ้างไม่ใช่หรือ แต่นี่…กลับยืนเอ้อระเหยลอยชายรอให้พิษค่อยๆ ลอยเข้ามาสัมผัสโดนตัว เขาจะลาก…หรือพาหนีอย่างไรก็ไม่ขยับ!
รอยยิ้มอันน่าสยดสยองบนใบหน้าของเคอฉังจวีแข็งค้าง “ไอ้หนู คนในสามโลกเบื้องล่างที่ตายเพราะพิษควันเดียวดายนี้มีน้อยจนแทบจะนับด้วยนิ้วมือข้างเดียวได้ จงรู้สึกภาคภูมิใจเสียเถอะ ด้วยพิษอันล้ำค่านี้ข้าจะส่งเจ้าออกเดินทางเอง พวกเจ้าควรจะรู้สึกมีความสุขถึงจะถูก”
หากไม่ใช่เพราะรอยยิ้มของเด็กคนนี้มันบาดตามากจนเกินไป เขาก็คงไม่ใช้พิษที่ล้ำค่าขนาดนี้จัดการกับพวกเขา แต่มันก็คุ้มค่าแล้วเพราะเขาจะได้ชื่นชมใบหน้าที่บิดเบี้ยวทรมานของพวกมันก่อนตาย
มองตามพิษควันเดียวดายที่แพร่กระจายไปทั่วห้องใต้ดิน ความตื่นเต้นในดวงตาของเคอฉังจวีก็แทบจะปกปิดไว้ไม่มิด ควันพิษสีเขียวลามไปจนถึงปลายเท้าของจวินอู๋เสียและรอบตัวนาง และเมื่อควันพิษนั้นไล้ผ่านผิวกายของนางไปเบาๆ ไอ้หนูที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำผู้นี้ ก็จะเหลือเพียงแต่โครงกระดูกสีขาวกองหนึ่ง!
“ล้ำค่า?” จวินอู๋เสียหัวเราะเบาๆ ราวกับว่านางได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในโลก หญิงสาวเอียงศีรษะเล็กน้อย มองดูพิษควันเดียวดายที่ค่อยๆ โอบล้อมรอบตัวนาง สายตาที่เย็นชาก็ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
“ของเล่นเด็กพวกนี้ ถ้าเจ้าคิดว่ามันล้ำค่านัก เช่นนั้นข้าจะให้อะไรดีๆ เจ้าสักอย่างหนึ่ง” เสียงกลั้วหัวเราะดังขึ้นพร้อมๆ กับมือที่ยกขึ้นกลางอากาศ จวินอู๋เสียก้าวขึ้นไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ชายเสื้อที่สะบัดไปมาก็สลายกลุ่มควันที่เกิดจากพิษนั้นจนไม่เหลือซาก
“เจ้า…ทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลย!” การแสดงออกของเคอฉังจวีเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทั้งๆ ที่นางโดนควันพิษแล้ว แต่ว่าทำไมถึงยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ อีก
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
พิษควันเดียวดายเมื่อแทรกผ่านชั้นผิวหนังของมนุษย์เข้าไป มันจะส่งผลกับร่างกายของคนนั้นๆ แล้วเริ่มออกฤทธิ์ทันที แต่เจ้าเด็กนี่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เป็นอะไรทั้งนั้น
“ของเล่นของเด็กๆ คิดว่าจะสามารถทำอะไรข้าได้หรือ! ตลกสิ้นดี!” จวินอู๋เสียแค่นเสียงเอ่ยไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา