ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 417 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (1) ตอนที่ 418 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 417 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (1) ตอนที่ 418 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (2)
ตอนที่ 417 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (1) / ตอนที่ 418 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (2)
ตอนที่ 417 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (1)
จากถนนใหญ่ผ่านเข้าไปในป่า ถนนหินคดเคี้ยวทอดยาวไปตามต้นหญ้าเขียวขจีและตรงเข้าไปไม่ไกลนักจะเป็นป่าไผ่เล็กแห่งหนึ่ง
หากมิใช่คนที่รู้จักที่นี่จะไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่ามีป่าไผ่แบบนี้อยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัว
ฟ่านจิ่นพาจวินอู๋เสียมาที่นี่ ด้านนอกลาน ชายหนุ่มอายุประมาณสิบห้าสิบหกปีกำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นบนถนนหิน เขาเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นฟ่านจิ่นและจวินอู๋เสีย เขาจึงรีบเข้าไปต้อนรับทันที
“คุณชายใหญ่ ท่านมาแล้วหรือขอรับ” ชายหนุ่มคนนั้นจ้องฟ่านจิ่นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเลื่อมใสศรัทธา และเมื่อดวงตาของเขากวาดไปที่จวินอู๋เสีย เขาก็มีความสงสัยเล็กน้อย
“ข้าพาสหายตัวน้อยมาขอทานอาหารด้วย เสี่ยวจัวกำลังทานอยู่ใช่หรือไม่” ฟ่านจิ่นแจ้งจุดประสงค์ของเขาทันทีทำให้ชายหนุ่มหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง คำพูดตรงไปตรงมาเช่นนี้ไม่ได้ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกไม่พอใจแม้แต่น้อย
“เชิญคุณชายใหญ่ขอรับ” ชายหนุ่มเปิดประตูด้วยรอยยิ้มและแสดงท่าทางที่เป็นมิตรต่อจวินอู๋เสีย
ประตูไม้ไผ่ถูกเปิดออก ผ่านกระดิ่งลมที่แขวนอยู่ตรงมุมประตู เสียงอันไพเราะก็ดังขึ้นในป่าไผ่อันงดงามนี้
ฟ่านจิ่นพยักหน้าและพาจวินอู๋เสียเข้าไปที่ลาน
ลานเล็กแต่วิจิตรบรรจง เรือนในลานเรียบง่ายไม่ได้หรูหรา มีเรือนหลักเพียงสามหลัง ด้านข้างมีน้ำไหลเข้าไปในสระเล็กๆ น้ำในสระใสมากจนเห็นก้นสระและมีปลาหลีว่ายอยู่ในสระจนทำให้เกิดคลื่นน้ำ
เพียงแวบเดียว จวินอู๋เสียก็ตกหลุมรักลานเล็กๆ นี้ทันที มันช่างสะอาดและสงบมาก
ในขณะที่ทั้งสองกำลังเดินอยู่ ก็มีร่างผอมบางปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูเรือนฝั่งตรงข้าม
เขาเป็นชายหนุ่มร่างผอมบาง อาภรณ์สีน้ำเงินที่ควรพอดีตัวกลับหลวมเมื่ออยู่บนตัวของเขา เขายืนอยู่หน้าเรือน ใบหน้าที่งดงามของเขาขาวซีด แม้แต่ริมฝีปากของเขาก็ซีด ทั้งๆ ที่เขาอายุยังน้อยแต่มือของเขากลับถือไม้ค้ำยันไว้ เขาเอนกายของเขาไว้บนไม้ค้ำยัน ร่างกายของเขาดูน่ากลัว แต่เขากลับมีดวงตาที่สดใส ในดวงตางดงามคู่นั้นมีรอยยิ้มแอบแฝงอยู่และภายใต้รอยยิ้มนั้นทำให้ผู้คนลืมความอ่อนแอทางร่างกายของเขาไปโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่ฟ่านจิ่นเห็นชายหนุ่มคนนั้น เขาก็ก้าวไปหาแล้วพยุงร่างกายที่โงนเงนของชายหนุ่มทันที
“ยามอู่แดดแรงเยี่ยงนี้ เจ้าไม่นั่งอยู่ในเรือนดีๆ ออกมายืนทำอะไรที่นี่” ฟ่านจิ่นขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ขณะที่พยุงชายหนุ่มเข้าไปในเรือนไม้ไผ่ เขาก็ไม่ลืมหันหลังกล่าวกับจวินอู๋เสียว่า “จวินเสีย เจ้าก็เข้ามา”
ชายหนุ่มหันศีรษะมองไปที่จวินอู๋เสีย ดวงตาที่สดใสของเขาด้วยเต็มไปด้วยความสงสัย แม้ว่าเขาจะมองอย่างพินิจพิเคราะห์แต่สายตาที่เขามองกลับเป็นมิตรไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่าถูกล่วงเกิน
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อยให้ชายหนุ่มแล้วเดินตามเข้าไป
เครื่องเรือนในเรือนไม้ไผ่นั้นเรียบง่ายเหมือนลานด้านใน ไม่ได้มีการตกแต่งที่มากเกินไป ฟ่านจิ่นพยุงชายหนุ่มให้นั่งลงบนเก้าอี้แล้วเรียกจวินอู๋เสียให้นั่ง ส่วนตัวเองก็นั่งลงข้างๆ ชายหนุ่ม
“พี่ใหญ่ไม่แนะนำให้ข้ารู้จักหน่อยหรือ” ชายหนุ่มผู้อ่อนแอมองจวินอู๋เสียด้วยรอยยิ้ม
ฟ่านจิ่นกล่าวว่า “นี่คือจวินเสียที่ข้าเคยบอกเจ้าเมื่อไม่กี่วันก่อนอย่างไรเล่า เป็นศิษย์ใหม่ในปีนี้ที่ข้าดูแล จวินเสียนี่คือน้องชายของข้า ฟ่านจัว”
ฟ่านจัวมองจวินอู๋เสียด้วยรอยยิ้ม “ที่แท้เจ้าก็คือจวินเสีย ถ้าพี่ใหญ่ไม่บอกว่าเจ้าอายุสิบสี่ปี ข้าคิดว่าตัวเล็กๆ อย่างเจ้าคงอายุเพียงสิบสองหรือสิบสามปีเท่านั้น เจ้าควรจะทานอาหารให้ดีพักผ่อนให้มากอย่าได้เจ็บป่วย”
ฟ่านจัวเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่อ่อนแอ จิตใจของเขาสะอาดบริสุทธิ์ แต่ร่างกายของเขากลับกลายเป็นภาระ
………
ตอนที่ 418 สองพี่น้องสกุลฟ่าน (2)
จวินอู๋เสียมองฟ่านจัวที่อยู่ตรงหน้า ในหัวของนางก็รู้ตัวตนของอีกฝ่ายในทันที
อาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัวมีบุตรชายทั้งหมดสองคน คนแรกคือบุตรบุญธรรมฟ่านจิ่นและอีกคนหนึ่งคือฟ่านจัวชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านาง
ฟ่านจัวเป็นบุตรชายแท้ๆ ของอาจารย์ใหญ่ แต่ร่างกายของเขาอ่อนแอกว่าคนทั่วไปมาก เขาอายุประมาณสิบหกปี แต่เขาไม่ค่อยออกไปไหน อาจารย์ใหญ่ใช้เงินทองและกำลังไปมากมายเพื่อร่างกายของฟ่านจัว หลังจากใช้ยาสมุนไพรและโอสถวิเศษมากมายจึงสามารถรักษาชีวิตของฟ่านจัวไว้ได้
คนภายนอกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าฟ่านจัวมีหน้าตาอย่างไร พวกเขารู้เพียงว่าร่างกายของเขาแย่มาก
จวินอู๋เสียลอบสังเกตสีหน้าของฟ่านจัวอย่างลับๆ
ภายใต้อาภรณ์ที่หลวมโพรก ร่างผอมบางที่เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกนั้นทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่ง เมื่อเห็นสีหน้าที่ขาวซีดจนเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังของเขาอย่างชัดเจน คิดว่าความเจ็บปวดทางร่างกายของเขาไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าใจได้ แต่สิ่งที่ยากคือ ภายใต้ความทรมานนี้ ฟ่านจัวยังคงสามารถรักษาจิตใจที่บริสุทธิ์ไว้ได้ รอยยิ้มของเขาทำให้ผู้คนไม่สามารถเชื่อมโยงเขากับชายหนุ่มที่สามารถเสียชีวิตได้ตลอดเวลาให้เข้ากันได้
จวินอู๋เสียรู้สึกประทับใจในตัวสองพี่น้องสกุลฟ่านไม่น้อย การที่ฟ่านจิ่นปกป้องนางหลายต่อหลายครั้ง ทำให้นางรู้สึกซาบซึ้งใจมากจึงทำให้นางรู้สึกดีกับฟ่านจัวไปด้วย
“ฮ่าฮ่า เสี่ยวจัว เจ้าพูดได้ตรงประเด็นมาก บอกตามตรง วันนี้เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ก็เพื่อพาน้องเสียมาทานอาหารด้วย อาหารในโรงอาหารของสำนักศึกษานั้นข้ากลืนไม่ลงจริงๆ ข้ารู้ว่าที่นี่ต้องมีของดีๆ แน่ รีบให้อาจิ้งทำให้พวกข้าชิมเถิด” ฟ่านจิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม หมายความว่าที่เขาบอกว่าจะพาจวินอู๋เสียมาทานของดีคือการมารีดไถจากน้องชายของตัวเองหรือ
ฟ่านจัวหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับว่าเคยชินกับพฤติกรรม ‘รีดไถ’ ที่โจ่งแจ้งของฟ่านจิ่นแล้ว เขายกมือขึ้นและเขย่าระฆังทองแดงที่วางอยู่บนโต๊ะ หลังจากนั้นไม่นานอาจิ้งก็ถือไม้กวาดแล้วเดินเข้ามาทันที
“คุณชาย มีอะไรหรือขอรับ”
“ไปเตรียมอาหารมา”
“ขอรับ”
อาจิ้งรีบวิ่งไปเตรียมอาหารทันที
ฟ่านจิ่นยิ้มด้วยความพึงพอใจแล้วกะพริบตาให้จวินอู๋เสีย “เสี่ยวจัวร่างกายอ่อนแอ ไม่ค่อยอยากทานอาหาร อาหารธรรมดาจึงไม่ค่อยถูกปากเขาเท่าไหร่ ท่านพ่อจึงส่งของดีๆ มากมายมาให้เขา ข้าจะบอกเจ้า ต่อไปถ้าอยากทานของดีต้องมาทานที่นี่ ไม่ผิดหวังแน่นอน”
ฟ่านจัวก็ไม่โมโห กลับกล่าวกับจวินอู๋เสียด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าอย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของพี่ชายข้าเลย แท้จริงแล้วอาหารที่นี่ของข้าก็เป็นอาหารธรรมดา แต่อาหารบางอย่างข้าก็ทานไม่ลงจริงๆ ท่านพ่อจึงใส่ใจอาหารของข้าเป็นพิเศษ ต่อไปถ้าเจ้าไม่อยากทานอาหารในโรงอาหารสำนักศึกษา เจ้าก็มาทานที่นี่เถิด มีคนทานอาหารด้วยก็ครึกครื้นดี ถือว่าเจ้ามาทานอาหารเป็นสหายข้า”
สองพี่น้องพูดเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย แม้ว่าคำพูดจะดูเหมือนไม่จริงจังแต่ทุกประโยคกลับเต็มไปด้วยความจริงใจ
จวินอู๋เสียรู้สึกว่าหัวใจที่เย็นชามาเป็นเวลานานของนางอบอุ่นขึ้นมาทันทีเมื่อได้สัมผัสกับทั้งสองคนนี้
“รบกวนเจ้าด้วย” จวินอู๋เสียกล่าว
ฟ่านจัวยิ้ม ดวงตาคู่นั้นของเขามองเจ้าแมวดำที่ยืนอยู่บนไหล่ของจวินอู๋เสีย นัยน์ตาใสของเขาแสดงความประหลาดใจออกมา “แมวตัวนี้…”
“นี่คือวงแหวนภูติวิญญาณของน้องเสีย” ฟ่านจิ่นกล่าว
“ข้าดูได้หรือไม่” ฟ่านจัวกะพริบตาแสดงความต้องการออกมาเล็กน้อย
ฟ่านจิ่นมองไปที่ฟ่านจัวแล้วมองไปที่จวินอู๋เสียแล้วพึมพำว่า “ถ้าเป็นวงแหวนภูติวิญญาณมิใช่สัตว์ธรรมดาก็น่าจะไม่มีปัญหา”
จวินอู๋เสียมองไปที่ฟ่านจัวอย่างไม่เข้าใจ ฟ่านจัวยิ้ม
เจ้าแมวดำสังเกตเห็นว่าเจ้านายของตัวเองมีความประทับใจที่ดีต่อสองพี่น้องคู่นี้ และทั้งสองคนนี้ก็ดีต่อจวินอู๋เสีย มันจึงกระโดดลงจากไหล่ของจวินอู๋เสียลงมาบนโต๊ะอย่างไม่เต็มใจแล้วเดินไปข้างหน้าฟ่านจัวอย่างช้าๆ
………..