ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 431 โรคภัยหรือพิษร้าย (6) ตอนที่ 432 โรคภัยหรือพิษร้าย (7)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 431 โรคภัยหรือพิษร้าย (6) ตอนที่ 432 โรคภัยหรือพิษร้าย (7)
ตอนที่ 431 โรคภัยหรือพิษร้าย (6) / ตอนที่ 432 โรคภัยหรือพิษร้าย (7)
ตอนที่ 431 โรคภัยหรือพิษร้าย (6)
จวินอู๋เสียมองไปที่ฟ่านจิ่นและกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ต่อให้ไม่ล่มสลายก็มีผลลัพธ์เดียวกัน”
ถ้าแม้แต่นางยังรู้สึกว่ายุ่งยาก สำนักชิงอวิ๋นก็คงไม่รู้ว่าต้องรักษาอย่างไร
วิชาความรู้ทางด้านการแพทย์ของสำนักชิงอวิ๋นไม่เคยอยู่ในสายตาของจวินอู๋เสียจริงๆ
“หือ” ฟ่านจิ่นชะงักงันเล็กน้อย
“ถ้าเจ้าเชื่อใจข้าก็มอบน้องชายของเจ้าให้ข้ารักษา” จวินอู๋เสียพูดขึ้นทันที
ฟ่านจิ่นกล่าวตอบอย่างไม่ลังเลใจว่า “ได้ ได้ แต่ว่า…” ฟ่านจิ่นลังเลเล็กน้อย
“ท่านพ่อเป็นผู้ดูแลร่างกายของเสี่ยวจัวมาโดยตลอด ข้าคิดว่าข้าต้องบอกเรื่องนี้กับท่านก่อน”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
ฟ่านจิ่นยิ้มออกมาทันที “ไม่คิดว่าเจ้าจะมีความสามารถด้านนี้ด้วย ข้าไม่รู้จะขอบคุณเจ้าอย่างไรจริงๆ ที่เจ้าช่วยเสี่ยวจัวเช่นนี้”
ตอนแรกที่เขาสัญญาว่าจะดูแลจวินอู๋เสียนั้นเป็นเพราะคำขอร้องของกู้หลีเซิง แต่การปกป้องนางหลังจากนั้นเป็นเพราะเขานิสัยที่ไม่ต้องเป็นห่วงของนางจริงๆ แม้ว่าจวินอู๋เสียจะเป็นคนเย็นชาเล็กน้อย แต่ก็ไม่ยากที่จะเข้าหา เป็นคนตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร ฟ่านจิ่นชอบชายหนุ่มที่มีความคิดเรียบง่ายไม่ซับซ้อนคนนี้จริงๆ
ตอนนี้จวินอู๋เสียได้ช่วยชีวิตฟ่านจัวไว้ ฟ่านจิ่นก็ยิ่งรู้สึกขอบคุณนางมากขึ้นไปอีก
“ค่าที่พัก” จวินอู๋เสียกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฟ่านจิ่นชะงักไปครู่หนึ่งจึงจะเข้าใจความหมายของจวินอู๋เสีย
“เจ้าหมายความว่าที่เจ้าช่วยเสี่ยวจัวเพราะเจ้าพักอยู่ที่นี่หรือ”
ชีวิตของน้องชายเขากลายเป็นค่าที่พัก…
ฟ่านจิ่นไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกับความคิดของจวินอู๋เสีย ทั้งๆ ที่เป็นคนที่ฉลาดมากแต่บางครั้งก็แสดงความไม่รู้เรื่องรู้ราวออกมาจนทำให้ผู้อื่นอดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
จวินอู๋เสียพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงใจ
ฟ่านจิ่นหัวเราะออกมาทันที เขายกมือขึ้นตบไหล่จวินอู๋เสียแล้วเช็ดน้ำตาตรงหางตาด้วยรอยยิ้ม
“น้องเสีย เจ้าช่างน่าสนใจจริงๆ ที่นี่สกปรกมากปล่อยให้ข้าทำความสะอาดเถิด เจ้าไปพักผ่อนก่อน” เขามองออกว่าจวินอู๋เสียไม่ชอบสิ่งสกปรกและกลิ่นเหม็นของที่นี่มาก ฟ่านจิ่นจึงบอกให้นางเข้าไปพักผ่อน
จวินอู๋เสียก็ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย อุ้มเจ้าแมวดำตัวน้อยแล้วกลับห้องของตัวเองทันที
ในฐานะบุตรชายคนโตของอาจารย์ใหญ่ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฟ่านจิ่นทำความสะอาดห้องด้วยตัวเอง และเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกตรงหน้ามันทำให้เขารู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆ
เมื่อทำความสะอาดห้องเสร็จ ฟ่านจิ่นก็หมดแรงทันที ในขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้เพื่อดื่มน้ำ เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากข้างหลัง เขารีบลุกจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ
เมื่อเขาหันไปมองก็เห็นอาจิ้งยืนถือมีดปังตออยู่ที่หน้าประตูด้วยท่าทางโมโห
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความมึนงง
“อาจิ้ง เจ้ากำลังทำอะไร” ฟ่านจิ่นมองอาจิ้งอย่างงุนงง ปรกติเจ้าเด็กคนนี้จะเป็นคนเรียบร้อย ใจเย็นแต่ตอนนี้เขากลับมีด้านที่บ้าคลั่งแบบนี้ด้วย
“คุณ…คุณชายใหญ่…” ทันทีที่อาจิ้งเห็นฟ่านจิ่น ความกล้าหาญที่รวบรวมมาก็หายไปทันที เขาทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพร้อมกับมีดปังตอที่ตกลงกับพื้น
“คุณชายใหญ่ ในที่สุดท่านก็กลับมา จวินเสีย… จวินเสียเขาต้องการทำร้ายคุณชาย คุณชายใหญ่รีบไปช่วยคุณชายเถิด” อาจิ้งทรุดตัวลงแทบเท้าของฟ่านจิ่นแล้วร้องไห้คร่ำครวญอย่างหนัก
ฟ่านจิ่นชะงักงันไปครู่หนึ่ง และก่อนที่เขาจะพูด ร่างเล็กก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตู
จวินอู๋เสียกอดอกแล้วยืนพิงอยู่ที่ประตู นางมองอาจิ้งที่กำลังกอดขาฟ่านจิ่นแล้วร้องไห้ด้วยสายตาเย็นชา
“น้องเสีย ทำไมเจ้าไม่ไปพักผ่อน” ฟ่านจิ่นมองจวินอู๋เสียแล้วกล่าวถาม
จวินอู๋เสียเม้มปากแน่น
“เสียงดัง”
ตอนที่ 432 โรคภัยหรือพิษร้าย (7)
คำว่า ‘เสียงดัง’ คำเดียวทำให้อาจิ้งสั่นไปทั้งตัว เขาหันไปมองที่หน้าประตูและกรีดร้องออกมาทันทีที่เห็นจวินอู๋เสีย
“คุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่” อาจิ้งหวาดกลัวจนพูดอะไรไม่ได้
“อาจิ้ง” ฟ่านจิ่นกุมขมับแล้วจับตัวอาจิ้งขึ้นมาแล้วพาเขาไปที่เตียงของฟ่านจัว
อาจิ้งที่กำลังสั่นอยู่ ทันทีที่เห็นฟ่านจัวนอนนิ่งอยู่บนเตียง เขาพบว่าสีหน้าของฟ่านจัวได้กลับเป็นปกติแล้ว เหมือนนอนหลับไปอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ อาจิ้งชี้ไปที่ฟ่านจัวแล้วกล่าวกับฟ่านจิ่นว่า “ข้าเห็น…ข้าเห็นจวินเสียใช้…ใช้เข็มเงินยาวๆ แทงเข้าทั่วร่างกายของคุณชาย”
“อาจิ้ง เสี่ยวจัวสบายดี เมื่อครู่คือน้องเสียกำลังรักษาเสี่ยวจัว เจ้าเข้าใจผิดแล้ว” ฟ่านจิ่นถอนหายใจ อาจิ้งภักดีต่อฟ่านจัวมาก แต่เขาไม่ค่อยฉลาดและเป็นคนหัวรั้น
อาจิ้งชะงักงันไปครู่หนึ่งแล้วมองจวินอู๋เสียด้วยความหวาดกลัวแล้วมองไปที่ฟ่านจิ่น จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่ข้างเตียงแล้วจับชีพจรตรงคอของฟ่านจัว หลังจากมั่นใจว่าฟ่านจัวสบายดี เขาจึงมองจวินอู๋เสียอย่างไม่มั่นใจ
จวินอู๋เสียยังคงเย็นชาเหมือนเคย นางไม่ได้มีสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ไม่มีรอยยิ้ม
“คุณชายใหญ่ คุณชายจวินอายุแค่นี้ เขาจะรักษาได้อย่างไร” อาจิ้งพึมพำ
ฟ่านจิ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เงียบ ข้าจะนอน” จวินอู๋เสียไม่มีอารมณ์มาทะเลาะกับอาจิ้งที่นี่ นางจึงทิ้งคำเตือนไว้แล้วหันกลับไปพักผ่อนทันที
นางใช้พลังงานไปไม่น้อยกับการรักษาในครั้งนี้ นางจึงต้องจัดเรียงความคิดของนางก่อนจึงจะคิดเรื่องน่าสงสัยที่นางได้รับจากตัวฟ่านจัว
หลังจากที่จวินอู๋เสียเดินออกไป ฟ่านจิ่นจึงจะมองอาจิ้งด้วยความไม่พอใจ
“อาจิ้ง เจ้าพูดอะไรของเจ้า ข้าเห็นน้องเสียช่วยชีวิตเสี่ยวจัวด้วยตาของข้าเอง เจ้าคิดว่าดวงตาของข้ามีปัญหาหรือ” ฟ่านจิ่นพูดอย่างเคร่งขรึม
อาจิ้งมองฟ่านจิ่นด้วยความเสียใจ
“หากอาการป่วยของคุณชายรักษาง่ายเยี่ยงนี้ก็คงจะไม่ยืดเยื้อมาจนถึงตอนนี้ ข้ารู้ว่าคุณชายใหญ่ชอบคุณชายจวิน แต่ว่าคุณชายต่างหากที่เป็นน้องชายของท่าน! คุณชายเจ็บปวดทรมานมานานหลายปี หาหมอที่เก่งกาจมามากมายก็ไม่ดีขึ้น จวินเสียอายุแค่เท่าไหร่ แล้วเขาจะรักษาคุณชายได้อย่างไร ข้าได้ยินมาว่าชื่อเสียงของจวินเสียในสำนักศึกษานั้นแย่มากแล้วยังส่งผลถึงคุณชายใหญ่ด้วย คุณชายใหญ่ท่านกับจวินเสียไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วเพราะเหตุใดท่านจึงต้องปกป้องเขา”
ชายหนุ่มอายุสิบสี่ปีสามารถรักษาโรคที่หมอเก่งกาจมากมายไม่สามารถรักษาได้ นี่มันเรื่องตลกชัดๆ
ฟ่านจิ่นกล่าวอย่างไม่พอใจ “ข้าหวังว่าจะไม่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากของเจ้าอีก น้องเสียเป็นคนอย่างไร ข้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาพูดให้ข้าฟัง ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกว่าว่างเกินไป ข้าก็จะให้ท่านพ่อส่งเจ้ากลับสำนักศึกษาไป เจ้าจะได้ไม่ต้องมาคิดเรื่องไร้สาระพวกนี้อีก”
เมื่ออาจิ้งได้ยินอย่างนี้ก็ตื่นตระหนกในทันที
“คุณชายใหญ่ ข้าไม่ไป ข้าจะดูแลคุณชาย คุณชายเป็นผู้ช่วยชีวิตข้า ชีวิตของข้าเป็นของคุณชาย”
ขณะที่เขาพูด เขาก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“พอแล้ว ที่นี่ไม่มีอะไรให้เจ้าทำแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนเถิด” เขากลัวว่าอาจิ้งจะส่งเสียงดังรบกวนจวินอู๋เสีย ฟ่านจิ่นจึงขมวดคิ้วไล่เขาออกไป
อาจิ้งเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ ในใจของเขาแอบตัดสินใจอะไรบางอย่าง
คุณชายใหญ่ดีกับจวินเสียมากเกินไปแล้วยังพาคุณชายทำผิดไปด้วย ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ใครจะไปรู้ว่าจวินเสียจะทำร้ายคุณชายทั้งสองหรือไม่ เขาจะต้องไปหาอาจารย์ใหญ่แล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ท่านฟังแล้วให้ท่านไล่คนใจคดอย่างจวินเสียออกไปจากลานป่าไผ่โดยเร็วที่สุด!