ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 521 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (3) ตอนที่ 522 พายุลูกใหญ่พลันบังเกิด (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 521 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (3) ตอนที่ 522 พายุลูกใหญ่พลันบังเกิด (1)
ตอนที่ 521 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (3) / ตอนที่ 522 พายุลูกใหญ่พลันบังเกิด (1)
ตอนที่ 521 งานล่าวิญญาณสิ้นสุดลง (3)
เพราะได้รับความช่วยเหลือจากจวินอู๋เสีย หลังจากกลับมาถึงที่พักกลุ่มที่หลี่จื่อมู่อยู่ด้วยในตอนแรกจึงเริ่มปกป้องชื่อเสียงของจวินอู๋เสียทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ
พวกเขาถูกหลี่จื่อมู่ทรยศจนเกือบเสียชีวิตในป่าประลองวิญญาณ แต่สามารถรอดมาได้เพราะจวินอู๋เสีย ฉะนั้นพวกเขาจึงสำนึกบุญคุณที่จวินอู๋เสียมีต่อพวกเขามาก แต่เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาฟังคำพูดของหลี่จื่อมู่มามากและพวกเขาก็วิพากษ์วิจารณ์จวินอู๋เสียไปไม่น้อย ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกขอบคุณในใจ พวกเขาก็ละอายใจที่จะเข้าใกล้จวินอู๋เสีย พวกเขารู้สึกผิดในใจเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องที่จวินอู๋เสียนำสัตว์วิญญาณระดับต่ำกลับมาได้แพร่กระจายไปทั่วที่พักอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่เรื่องนี้จะได้รับความสนใจก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความตกใจให้กับทุกคนในที่พักเป็นอย่างมาก
กลุ่มของลู่เว่ยเจี๋ยที่ถูกยกย่องมาเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดประกาศถอนตัวก่อนงานล่าวิญญาณสิ้นสุดลงและในกลุ่มนั้นไม่มีผู้ใดอยู่ต่อแม้แต่คนเดียว พวกเขาทั้งหมดถูกหนานกงซวี่ส่งกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวด้วยตัวเอง
เรื่องนี้ทำให้ผู้คนมากมายตกใจเป็นอย่างมาก
เป็นที่รู้กันดีว่าอันดับหนึ่งของศึกประลองภูติวิญญาณนั้นหายตัวไปเป็นปี นานแล้วที่เขาไม่ได้ปรากฏตัวในสำนักศึกษาเฟิงหัวและอันดับสองของศึกประลองภูติวิญญาณก็คือลู่เว่ยเจี๋ย
ในช่วงเวลาที่อันดับหนึ่งไม่อยู่ ทุกคนต่างมองว่าลู่เว่ยเจี๋ยเป็นศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักศึกษาเฟิงหัว แต่ครั้งนี้ กลุ่มที่ลู่เว่ยเจี๋ยนำไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียวแต่ยังมีหนิงซินที่ได้อันดับสาม คนที่ได้อันดับเก้า อันดับสิบ และยังมีอิ่นเหยียนที่มาจากสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณด้วย แม้แต่สมาชิกที่เหลือก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน
แต่กลุ่มที่โดดเด่นมาโดยตลอดนี้ กลับประกาศถอนตัวออกจากงานล่าวิญญาณกลางคันแล้วยังถูกหนานกงซวี่นำตัวกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวด้วยตัวเอง เรื่องนี้ทำให้ศิษย์ทุกคนสงสัยเป็นอย่างมาก
หลายคนคาดเดาว่าพวกเขาอาจพบสัตว์วิญญาณที่ทรงพลัง ระดับสูงหรืออาจเป็นระดับภัยพิบัติแล้วได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องสละสิทธิ์แล้วรีบกลับสำนักศึกษาเฟิงหัว มิเช่นนั้นการถอนตัวของพวกเขาทำให้ผู้คนไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก
การคาดเดามากมายค่อยๆ ออกมาจนทำให้จวินอู๋เสียและลูกแกะถูกผู้คนเพิกเฉยอย่างไม่รู้ตัว
อันดับหนึ่งตกเป็นของกลุ่มเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง เรื่องนี้ทำให้กลุ่มนั้นดีใจเป็นอย่างมาก
ในที่สุดงานล่าวิญญาณก็จบลง หลังจากเหล่าลูกศิษย์ที่เหนื่อยล้าทุกคนได้พักผ่อนไปหนึ่งวันก็เริ่มเดินทางกลับสำนักศึกษาเฟิงหัว พวกเขาไม่รู้ว่าจำนวนลูกศิษย์ที่เสียชีวิตในช่วงงานล่าวิญญาณครั้งนี้สูงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
และพวกเขาก็ยิ่งไม่รู้ว่าอนาคตอันใกล้นี้สำนักศึกษาเฟิงหัวจะมีพายุลูกใหญ่เกิดขึ้น
ระหว่างทางกลับ จวินอู๋เสียได้นำเจ้าแมวดำตัวน้อยและลูกแกะนั่งรถม้าคันเดียวกับฟ่านจิ่นกลับไป ตลอดการเดินทาง ฟ่านจิ่นรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนพรมเข็ม เพราะลูกแกะนั่งอยู่ในอ้อมแขนของจวินอู๋เสียและใช้สายตาที่ไม่เป็นมิตรจ้องมาที่เขา
ฟ่านจิ่นแทบจะร้องไห้ออกมา เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเขาไปยั่วยุสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่แสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือท่านนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาทำได้เพียงแต่พยายามยิ้มออกมาเพื่อลดความเกลียดชังของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่มีต่อเขา
แต่ก็ไร้ประโยชน์
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็ยังคงจ้องเขาเหมือนเดิม
ก็คือคนนี้
คนที่นำเจ้านายมาใส่ไว้ในกล่องเล็กๆ ที่สั่นๆ นี้! จนทำให้ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไม่มีหญ้าอร่อยๆ ทาน
คนไม่ดี
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจะกินเขา
ถ้าฟ่านจิ่นรู้คำในใจของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ เกรงว่าเขาจะต้องกลิ้งและคลานออกจากรถม้าทันที
เขาก็ไม่เกี่ยวนะ
เรื่องเดินทางกลับก็มิใช่เรื่องที่เขาสามารถตัดสินใจได้! กรุณาอย่ากินข้าเลย
ตอนที่ 522 พายุลูกใหญ่พลันบังเกิด (1)
สำนักศึกษาเฟิงหัวยังคงสงบเหมือนเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
งานล่าวิญญาณได้จบลงแล้ว เหล่าลูกศิษย์เดินทางกลับมา เมื่ออยู่ในสำนักศึกษาที่คุ้นเคยทุกคนก็ต่างหวนคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่าประลองวิญญาณ
แต่ท่ามกลางความสงบสุขนี้ก็มีการระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้น
ในขณะที่ลูกศิษย์ทุกคนยังคงโศกเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานล่าวิญญาณ เพียงสองวันหลังจากกลับมาที่สำนักศึกษา พวกเขาก็ได้ยินเรื่องที่น่าตกใจอีกเรื่องหนึ่ง
กลุ่มของลู่เว่ยเจี๋ยที่ถอนตัวออกจากงานล่าวิญญาณก่อนหน้านี้ถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งหมด แม้ว่าจะไม่ได้ระบุเหตุผลอย่างชัดเจน แต่ก็มีการออกคำสั่งออกมาอย่างชัดเจน ลูกศิษย์ยี่สิบกว่าคนถูกตัดออกจากรายชื่อของสำนักศึกษาเฟิงหัว
และหนึ่งในนั้นก็มีลู่เว่ยเจี๋ยที่เป็นผู้ชนะอันดับสองของศึกประลองภูติวิญญาณด้วย
และลูกศิษย์ที่ถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์ที่อยู่กลุ่มเดียวกับเขาทั้งหมด ทุกคนในกลุ่มถูกไล่ออกยกเว้นหนิงซินและอิ่นเหยียน
เรื่องใหญ่แบบนี้แม้ว่าสำนักศึกษาจะสามารถปิดบังได้แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งมันได้!
ศิษย์ทุกคนต่างตกใจกับเรื่องนี้มาก เดิมทีเรื่องที่กลุ่มของลู่เว่ยเจี๋ยถอนตัวออกไปก่อนก็ทำให้ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์สงสัยกันมากแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวเลย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ในห้องหนังสือของรองอาจารย์ใหญ่ หนิงรุ่ยมองหนิงซินที่มีสีหน้าซีดเผือดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ในสายตานั้นมีแววตำหนิอยู่
“เรื่องนี้ ข้าได้พูดคุยกับอาจารย์ใหญ่แล้วว่าให้ลู่เว่ยเจี๋ยและคนอื่นๆ รับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมด ช่วงนี้เจ้าก็อยู่แต่ในห้องอย่าออกไปไหน รอให้เรื่องทุกอย่างสงบลงแล้วค่อยว่ากัน” หนิงรุ่ยอารมณ์ไม่ดีมาก ทั้งๆ ที่เขาคิดไว้แล้วว่างานล่าวิญญาณครั้งนี้จะสามารถกำจัดฟ่านจิ่นที่เป็นเสี้ยนหนามในใจของเขาได้ แต่ไม่คิดว่า หนิงซินจะโลภมากอย่างนี้ ไม่เพียงแต่ทำแผนการไม่สำเร็จ นางกลับไปมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่องด้วย
ลูกศิษย์ของมู่เฉินจากยอดเขาเทียมเมฆาและกองทัพที่รบได้ดุดันมากที่สุดอย่างกองทัพรุ่ยหลิน
หลังจากหนานกงซวี่พาหนิงซิน ลู่เว่ยเจี๋ยและคนอื่นๆ กลับมา เขาก็ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟ่านฉีและ หนิงรุ่ยฟัง หนิงรุ่ยเดือดดาลแทบคลั่ง
เขารู้ดีว่าบุตรีของเขามีนิสัยอย่างไร ความแข็งแกร่งและความคิดของหนิงซินนั้นถูกใจหนิงรุ่ยมาก ไม่ว่านางจะทำอะไรเขาก็วางใจมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้กลับสร้างปัญหาใหญ่อย่างนี้ซึ่งทำให้หนิงรุ่ยตกใจเป็นอย่างมาก
เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัว หนิงรุ่ยจึงต้องพยายามปกป้องบุตรีของตัวเองไว้ หากเรื่องของหนิงซินถูกแพร่กระจายออกไป ไม่เพียงแต่นางเท่านั้นที่จะไม่มีที่ยืนในสำนักศึกษา แม้แต่ชื่อเสียงของเขาก็จะเสียหายไปด้วย
ฉะนั้นครั้งนี้ หนิงรุ่ยจึงต้องยอมลดตัวลงเพื่อขอร้องฟ่านฉีด้วยน้ำตาจนทำให้ฟ่านฉีเกิดความสงสาร เขาจึงแอบจัดการกับลู่เว่ยเจี๋ยและคนอื่นๆ อย่างเงียบๆ เพื่อปกปิดความจริง
การไล่ศิษย์ยี่สิบกว่าคนออกในครั้งเดียวก็ถือว่าเป็นคำตอบให้กับหรงเหิงและหลงฉี
“ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นความผิดของข้า ท่านพ่อโปรดยกโทษให้ข้าด้วย ต่อไปข้าจะระวังให้มากกว่านี้” หนิงซินพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ในใจของนางนั้นยังคงตกใจอยู่
“ข้าจะเก็บอิ่นเหยียนไว้ให้เจ้าก่อน เจ้ารู้ดีแก่ใจว่าต้องใช้เขาอย่างไร” หนิงรุ่ยมองไปที่หนิงซินแล้วกล่าว
หนิงซินตอบรับอย่างเชื่อฟัง
หนิงรุ่ยถอนหายใจ “เจ้ามั่นใจหรือว่าเจ้าดูไม่ผิด จวินเสียคนนั้นกับศิษย์ตึกรองกลุ่มนั้นมีพลังมากเพียงนั้นเลยหรือ” สิ่งที่ทำให้หนิงรุ่ยกังวลไม่เพียงแค่เรื่องที่ฆ่าไม่สำเร็จ ยังมีเรื่องพลังของจวินอู๋เสียและกลุ่มของเฉียวฉู่ด้วยที่ทำให้เขากังวลใจ
ก่อนหน้านั้น หนิงรุ่ยไม่ได้ใส่ใจจวินอู๋เสียเลย เพราะเขาคิดว่านางเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่มีไว้เพื่อทำลายชื่อเสียงของฟ่านจิ่นเท่านั้น ศิษย์ที่ต่ำต้อยเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องให้เขาออกโรงเอง