ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 561 ผาสุดขอบฟ้า (8) ตอนที่ 562 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 561 ผาสุดขอบฟ้า (8) ตอนที่ 562 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (1)
ตอนที่ 561 ผาสุดขอบฟ้า (8) / ตอนที่ 562 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (1)
ตอนที่ 561 ผาสุดขอบฟ้า (8)
ฟ่านจัวเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นให้ข้าเข้าร่วมด้วยคนสิ”
เฉียวฉู่ยิ้มกว้าง
“เอาจริงหรือ”
“แน่นอน” ฟ่านจัวพยักหน้าแล้วหันไปมองจวินอู๋เสีย “น้องเสีย เจ้าไม่ใช่เด็กกำพร้าที่ถูกไล่ล่าจากสิบสองตำหนักอย่างพวกเรา แล้วทำไมเจ้าถึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้”
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นตอบนิ่งๆ ว่า “เพื่อกลับบ้าน”
ฟ่านจัวสับสนมึนงงอย่างถึงที่สุด
ทันใดนั้น จวินอู๋เสียก็ยกมือขึ้น หมอกสีขุ่นปรากฏขึ้นจางๆ และค่อยๆ รวมตัวกันอยู่ด้านข้างของนาง ก่อตัวขึ้นเป็นร่างเล็กๆ ร่างหนึ่ง
แบ๊ะ! ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่ทิ้งตัวลงนั่งอย่างขี้เกียจอยู่ด้านข้างโดยไม่สนใจสิ่งใด จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นร่างที่เริ่มก่อตัว ดวงตาของมันลุกวาว!
หอม…สุดๆ!
“อ๊ากกก! อย่ากัดข้า!” ทันทีที่เจ้าดอกบัวขาวน้อยปรากฏตัวออกมา ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็กระโจนเข้าหามันทันที อุ้งเท้าเล็กๆ กดร่างนุ่มนิ่มและอ้วนกลมไว้กับพื้น จากนั้นพวกเขาก็เห็นเจ้าลูกบอลขนปุยหรือก็คือใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะทิ้งตัวลงบนร่างเจ้าดอกบัวขาวน้อยอย่างมีความสุข แล้วใช้ลิ้นเล็กๆ เปียกแฉะของมันเลียใบหน้ากลมๆ ของเจ้าดอกบัวขาวน้อยไม่หยุด
ตอนนั้นเอง เจ้าดอกบัวขาวน้อยก็น้ำตาทะลักไหลลงมาเป็นสายกับ ‘การโจมตี’ ที่กะทันหันแบบนี้
เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความต้องการอย่างแรงกล้าของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่จะเขมือบเขาลงท้อง!
ภูติวิญญาณประเภทพฤกษามีสัมผัสที่ว่องไวต่อความต้องการของพวกกินพืชอยู่เสมอ
ดวงตาของฟ่านจัวเบิกกว้าง ขณะที่มองเจ้าดอกบัวขาวน้อยที่ถูกใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะลวนลามอยู่โดยไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้
“ภูติวิญญาณของน้องเสียเป็นภูติวิญญาณประเภทพฤกษา!” เฉียวฉู่ช่วยอธิบาย
ในที่สุดฟ่านจัวก็เข้าใจ ทุกคนในสามโลกชั้นกลางรู้ดีว่าภูติวิญญาณประเภทพฤกษาจะดึงดูดความสนใจจากสิบสองตำหนักได้มากขนาดไหน คนบริสุทธิ์จะกลายเป็นผู้ร้ายเพียงเพราะครอบครองสมบัติล้ำค่าที่ผู้อื่นต่างเฝ้าถวิลหา ภูติวิญญาณประเภทพฤกษาของจวินอู๋เสีย จะทำให้นางถูกตามล่าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ถ้านางยังอยากมีชีวิตอยู่ ก็มีเพียงหนทางเดียวนั่นก็คือต้องแข็งแกร่งให้มากกว่าสิบสองตำหนัก และทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนไม่กล้าปรารถนาในภูติวิญญาณของนางอีก
ฟ่านจัวหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น ดวงตาของเขาเป็นประกายวาววับ
“สรุปแล้ว ทุกคนในห้องนี้ล้วนเป็นศัตรูกับสิบสองตำหนักหมดเลยสินะ”
“ถูกต้อง” ฮวาเหยาตอบพร้อมกับพยักหน้ายืนยัน
“ถ้าอย่างนั้น พวกเราทุกคนก็ไปเอาสมบัติของเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมาใช้กันเถอะ!” พอพูดเช่นนั้นแล้ว ฟ่านจัวก็หยิบถุงผ้าไหมที่ห้อยไว้ตรงสะโพกออกมาเปิด แผนที่เก่าๆ ขาดๆ ที่วาดลงบนหนังมนุษย์ถูกกางลงบนโต๊ะ
จากสิ่งที่แสดงอยู่บนแผนที่นั้น มันดูเหมือนกับแผนที่ที่พวกเขามีอยู่มากจริงๆ
ฟ่านจัวอธิบายว่า “ท่านพ่อท่านแม่ของข้าเอง ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ปีนลงหน้าผาสุดขอบฟ้าด้วยกันในตอนนั้น แผนที่ส่วนหนึ่งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ จึงถูกวาดลงบนแผ่นหลังของท่านแม่ข้าด้วย หลังจากที่ท่านพ่อกลับไปยังสิบสองตำหนัก ท่านก็ไม่ได้กลับมาอีก ท่านแม่ของข้าที่เล็งเห็นแล้วว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น จึงได้เฉือนเอาเนื้อบริเวณแผ่นหลังที่บันทึกเส้นทางแผนที่ของนางลงมาแล้วมอบให้ข้าเก็บซ่อนเอาไว้ เพราะฉะนั้น แผนที่ของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิจึงไม่เคยสมบูรณ์มาตั้งแต่แรกแล้ว เพราะจำนวนคนที่ไปยังสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิจริงๆ แล้วคือแปดคน ไม่ใช่เจ็ดคน!”
และแผนที่ส่วนสุดท้าย ก็อยู่ในมือของฟ่านจัวเด็กชายเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์จากการตามล่าอย่างไม่ลดละของสิบสองตำหนัก!
เรื่องที่เพิ่งค้นพบนี้ ทำให้เฉียวฉู่และคนอื่นๆ พากันตกตะลึง
“ก่อนที่เราจะมายังสำนักศึกษาเฟิงหัว พวกเรารู้มาก่อนแล้วว่ามีคนในสำนักศึกษาเฟิงหัวติดต่อกับสิบสองตำหนัก สิบสองตำหนักได้ให้แผนที่ส่วนของพวกเขาแก่ผู้มีอำนาจในสามโลกเบื้องล่างที่รับใช้พวกเขาอยู่ ในเมื่อชิ้นที่เจ้าถือครองอยู่ไม่ได้มาจากสิบสองตำหนัก เช่นนั้น…บิดาของเจ้ามีแผนที่อีกส่วนใช่หรือไม่” เมื่อเป้าหมายของพวกเขาตรงกัน ฮวาเหยาก็ไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องพูดจาอ้อมค้อมยืดเยื้ออีกต่อไป
ฟ่านจัวส่ายหน้า
“ท่านพ่อบุญธรรมของข้าไม่ได้ติดต่อกับสิบสองตำหนักอย่างแน่นอน เขารู้ตัวตนที่แท้จริงของข้า จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะติดต่อกับคนพวกนั้น ถ้าข้อมูลที่เจ้าได้รับมาเป็นความจริง คนที่เชื่อมโยงกับสิบสองตำหนักย่อมเป็นคนอื่นไม่ใช่ท่านพ่อของข้า”
ถ้าไม่ใช่ฟ่านฉี แล้วจะเป็นผู้ใด
เวลานี้เอง ฮวาเหยากับพรรคพวกพลันพบว่าพวกเขาจำต้องมานั่งขบคิดถึงตัวเลือกใหม่อีกครั้ง
ตอนที่ 562 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (1)
“ที่จริงแล้ว ถ้าต้องการจะหาว่าคนผู้นั้นเป็นใครจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก มีคนผู้หนึ่งสามารถช่วยพวกเราได้” จู่ๆ เฟยเยียนก็พูดแทรกขึ้น
“เจ้าหมายถึงมู่เชียนฟานอย่างนั้นหรือ” หรงรั่วถามพร้อมกับเลิกคิ้ว
เฟยเยียนพยักหน้า “มู่เชียนฟานกล่าวว่ามีคนให้เงินพวกเขาและสั่งให้พวกเขาไปที่ผาสุดขอบฟ้า ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวจัวเองก็ยืนยันกับพวกเราแล้วว่าสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิตั้งอยู่ด้านล่างของผาสุดขอบฟ้าจริงๆ นั่นหมายความว่าคนที่จ้างมู่เชียนฟานกับพี่น้องของเขาให้ไปที่นั่น ย่อมต้องเป็นคนเดียวกับที่ติดต่อกับสิบสองตำหนัก และเขาต้องมีแผนที่อยู่กับตัวแน่! มู่เชียนฟานกลายเป็นพันธมิตรที่มีค่ามากกว่าที่พวกเราคาดไว้ ไม่เพียงแต่จะสามารถพาพวกเราไปที่ผาสุดขอบฟ้าได้ แต่ยังสามารถช่วยพวกเราหาเบาะแสของคนในสำนักศึกษาเฟิงหัวที่มีแผนที่อยู่กับตัวได้ด้วย”
เฟยเยียนหยุดไปชั่วขณะ ก่อนจะหันไปสบตาจวินอู๋เสียแล้วถามนางด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “น้องเสีย เจ้ามั่นใจว่าจะรักษามู่เชียนฟานจากพิษนั่นได้สำเร็จหรือไม่”
จวินอู๋เสียตอบเบาๆ ว่า “มั่นใจ”
ด้วยคำตอบเพียงคำเดียวของจวินอู๋เสีย เฟยเยียนก็เชื่อถืออย่างหมดใจโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ อีก
“ก่อนหน้านั้น เราน่าจะเดินทางไปยังผาสุดขอบฟ้าเพื่อตรวจสอบดูคร่าวๆ ก่อนว่าที่นั่นเป็นสถานที่เช่นไร ถึงแม้พวกเราจะยังไม่มีแผนที่ฉบับสมบูรณ์ และยังไม่สามารถค้นหาที่ตั้งที่แน่นอนของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้ แต่การทำความเข้าใจพื้นที่ก่อนย่อมช่วยพวกเราได้ไม่มากก็น้อย” ฮวาเหยาให้เหตุผล
ทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่ฮวาเหยาพูด
หลังจบการปรึกษาหารือกัน ทุกคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน
เหลือเวลาอีกสองวันก่อนที่การประมูลที่โรงประมูลชานหลินจะถูกจัดขึ้น พวกเขายังคงอยู่ในตำบลชานหลิน และในช่วงเวลานี้ จวินอู๋เสียก็ตั้งใจว่าจะปรุงยาแก้พิษในร่างของมู่เชียนฟานออกมาให้สำเร็จ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว โรงประมูลชานหลินได้เปิดการประมูลขึ้นอีกครั้ง และในครั้งนี้ ก่อนที่การประมูลจะเริ่มต้นขึ้น เหอฉางเล่อได้ว่าจ้างคนไปกระจายข่าวทั่วตำบลชานหลินว่าการประมูลที่กำลังจะมาถึงนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่จะมีสมบัติล้ำค่าหายากเท่านั้น แต่ยังมีโอสถวิเศษที่ประเมินค่าไม่ได้มาให้ทุกคนได้ทำการประมูลกันอีกด้วย!
หลายคนที่แต่เดิมไม่สนใจการประมูล พลันก็กระตือรือร้นขึ้นมาและรีบตรงดิ่งไปที่โรงประมูลชานหลินทันที
โอสถวิเศษหายากที่ประเมินค่าไม่ได้ ไม่ว่าเมื่อไรหรือที่ไหน ก็เป็นที่ต้องการอย่างมากเสมอ ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่ทราบถึงข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนของโอสถชนิดนั้นว่ามีสรรพคุณวิเศษเช่นใด แต่จากการที่โรงประมูลชานหลินมักจะนำสินค้าที่มีมาตรฐานสูงมาเปิดประมูลอยู่เสมอ มันจึงไม่น่าใช่ของธรรมดาทั่วไป
วันนี้โรงประมูลชานหลินแออัดมากกว่าที่เคยเป็นอย่างเห็นได้ชัด การประมูลยังไม่เริ่มต้นขึ้น ชั้นล่างก็อัดแน่นไปด้วยผู้คนเสียแล้ว ขณะที่ห้องส่วนตัวบนชั้นสองเองก็เต็มทุกห้องเช่นกัน
โชคดีที่เฉียวฉู่มาเกริ่นกับเหอฉางเล่อไว้ตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้วว่าพวกเขาจะมาร่วมการประมูลด้วย ห้องส่วนตัวบนชั้นสองจึงถูกจองเว้นว่างไว้ให้พวกเขาห้องหนึ่ง
เมื่อจวินอู๋เสียกับสหายของนางมาถึง กระทั่งบันไดขึ้นสู่ชั้นสองก็ยังเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาต้องเบียดผ่านผู้คนนับไม่ถ้วนก่อนจะไปถึงห้องที่พวกเขาจับจองเอาไว้ได้
“สวรรค์! จำต้องบ้าคลั่งกันถึงเพียงนี้เชียวหรือ วันนี้คนจะเยอะเกินไปหน่อยแล้ว!” เฉียวฉู่ถือรองเท้าไว้ในมือข้างหนึ่ง ขณะที่เดินขึ้นไปตามขั้นบันได เขาเกือบจะพลัดหลงกับคนอื่นๆ แต่ปฏิกิริยาอันว่องไวของเขาช่วยเขาเอาไว้ได้ รวมถึงรองเท้าคู่ใหม่ที่เขาเพิ่งซื้อมาด้วย
พนักงานที่เดินนำพวกเขาไปยังห้องส่วนตัว รีบไปชงชามารับรองแขกผู้มีเกียรติทั้งหลาย เนื่องจากรู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นแขกพิเศษของเหอฉางเล่อ การเคลื่อนไหวของเขาจึงดูใส่ใจมากกว่าปกติ
“คุณชายทั้งหลาย พวกท่านอาจจะยังไม่รู้ แต่สินค้าที่ลงประมูลในวันนี้น่าสนใจกว่าปกติมากนัก นอกจากหินวิญญาณที่มีตามปกติแล้ว เรายังมีโอสถวิเศษที่ยอดเยี่ยมและประเมินค่าไม่ได้ที่ทำให้คนเกือบทั้งตำบลแห่กันมาที่นี่อีกด้วย ดูสิขอรับ การประมูลยังไม่ทันเริ่มเลย แต่นี่ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่คนจะมากที่สุดนะขอรับ เมื่อการประมูลเริ่มต้นขึ้น ข้ามั่นใจว่าโรงประมูลได้แตกอย่างแน่นอน!”