ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 567 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (6) ตอนที่ 568 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (7)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 567 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (6) ตอนที่ 568 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (7)
ตอนที่ 567 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (6) / ตอนที่ 568 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (7)
ตอนที่ 567 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (6)
ผลของโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณอาจจะน่าทึ่ง แต่มันก็ถูกจำกัดให้ใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียว การสิ้นเปลืองเงินถึงหนึ่งแสนตำลึงเพื่อของเช่นนั้นคงมีแต่พวกศิษย์ผู้ร่ำรวยของสำนักศึกษาเฟิงหัวเท่านั้นที่ทำได้
ในช่วงเวลาสั้นๆ โอสถกระตุ้นพลังวิญญาณทั้งห้าเม็ดก็ถูกกวาดเรียบ และทุกเม็ดก็ถูกประมูลไปโดยศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัว ทำให้คนอื่นๆ พากันหมดโอกาส
ในห้องส่วนตัวบนชั้นสอง เฉียวฉู่กำลังสรุปยอดเงินที่ได้จากการขายโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณ ดวงตาของเขาเบิกกว้างและเขาไม่สามารถหยุดยิ้มได้เลย
“น้องเสีย เจ้าต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการหลอมโอสถวิเศษพวกนี้” เฉียวฉู่ถามจวินอู๋เสีย ดวงตาทอประกายอย่างสนใจ
จวินอู๋เสียคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “หนึ่งวัน”
เฉียวฉู่อ้าปากค้าง จากนั้นเขาก็พูดพร้อมหัวเราะว่า “ฮ่าๆ! เจ้าสามารถหลอมโอสถวิเศษได้หนึ่งเม็ดต่อหนึ่งวันอย่างนั้นหรือ ฮ่าๆ! ก็หมายความว่าเจ้าจะมีเงินหนึ่งแสนสามหมื่นตำลึงใช้ทุกวันเลยน่ะสิ”
จวินอู๋เสียกลับตอบด้วยเสียงเรียบว่า “หนึ่งเตาหลอมโอสได้ครั้งละยี่สิบเม็ด”
“…..” เฉียวฉู่ขากรรไกรค้างจนหุบไม่ลง
กระทั่งเฟยเยียนที่อยู่ข้างๆ ก็ยังยืนอ้าปากค้างตามไปด้วย
ไม่นานโรงประมูลชานหลินก็หยิบเอาสินค้าชิ้นที่สองที่จะทำการประมูลขึ้นมาบนเวที มันเป็นโอสถวิเศษอีกชนิดหนึ่ง
และฤทธิ์ของโอสถวิเศษชนิดนี้ก็เรียกได้ว่าดีกว่าโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณมาก
เมื่อได้กำลังใจจากผลสำเร็จของโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณ ผู้รับผิดชอบการประมูลก็รู้สึกมั่นใจมากพอที่จะกล่าวเกินจริงเพิ่มขึ้นอีกสักนิด
“นี่เรียกว่าโอสถต้านร้อยพิษ มันสามารถต้านพิษได้หลายร้อยชนิด…” ผู้รับผิดชอบการประมูลยังพูดไม่จบประโยค เสียงของเขาก็ถูกเสียงเอะอะของฝูงชนด้านล่างกลบหาย
ต้านพิษได้เกือบทั้งหมด!
นั่นมีประโยชน์มากกว่าโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณหลายเท่านัก!
เป็นการยากมากที่จะป้องกันผู้ใช้พิษหรือภูติวิญญาณที่เกิดมาพร้อมกับพิษ ถ้าพวกเขาถูกภูติเช่นนั้นโจมตี พวกเขาจะเสียเปรียบในการต่อสู้เป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์วิญญาณหลายตัวก็ยังมีความสามารถในการโจมตีด้วยพิษเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่อยู่ในขั้นสูงๆ ความสามารถในด้านพิษก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
ถ้าโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณที่ทำให้พวกเขาเพิ่มพลังวิญญาณได้ชั่วคราวเป็นอาวุธไร้ต้าน เช่นนั้นโอสถต้านร้อยพิษก็เหมาะสมที่สุดที่จะใช้เป็นเครื่องรางเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้!
ในตอนนั้น ไม่เพียงแต่ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวเท่านั้นที่ตื่นเต้น แม้แต่คนจากตระกูลและสำนักที่มีอำนาจใหญ่ๆ ที่มาเยือนยังตำบลชานหลินเพื่อชักชวนเหล่าศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวให้เข้าร่วมด้วยก็ไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้อีกต่อไป!
โอสถวิเศษที่มีฤทธิ์น่าเหลือเชื่อเช่นนั้น ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นใคร ก็หาซื้อได้ยากมากอย่างถึงที่สุด!
ราคาเริ่มต้นของโอสถต้านร้อยพิษสูงกว่าโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณ ทุกเม็ดเริ่มที่หนึ่งแสนตำลึง
และครั้งนี้ไม่เพียงแต่ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวเท่านั้นที่เสนอราคา แต่ทุกคนที่มีตระกูลหรือขุมอำนาจที่ทรงพลังหนุนหลัง โดยเฉพาะด้านการเงิน ต่างก็ไม่ต้องการเสียโอกาสครอบครองโอสถที่วิเศษเช่นนี้
ราคาของโอสถต้านร้อยพิษเม็ดแรกพุ่งขึ้นไปถึงสองแสนห้าหมื่นตำลึงอย่างรวดเร็ว!
ราคาที่ถูกผู้รับผิดชอบการประมูลประกาศออกมาทำให้เฉียวฉู่กระโดดขึ้นอย่างยินดี ไม่ช้าเขาก็ค้นพบว่าราคาของสินค้าที่ออกประมูลนั้น ความสามารถในการกระตุ้นฝูงชนของผู้รับผิดชอบการประมูลมีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่การเสนอราคาเริ่มหยุดนิ่ง ผู้รับผิดชอบการประมูลจะกระตุ้นผู้คนด้วยการกล่าวโม้ถึงสรรพคุณของโอสถวิเศษอันมหัศจรรย์และคุณสมบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนของโอสถวิเศษที่หาได้ยากยิ่งนี้ ซึ่งมันก็ทำให้ฝูงชนตื่นเต้นและเร่าร้อนขึ้นไปอีกระดับ ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นไปอีกเท่าตัวแทบจะในพริบตา
“น้องเสีย ข้าว่าโอสถวิเศษที่เราขายที่หน้าประตูสำนักศึกษาเฟิงหัวในครั้งนั้นถูกเกินไปหน่อยแล้ว! ถ้าเราเอามันมาประมูลที่โรงประมูลนี่ เราน่าจะได้อย่างน้อยสองเท่าของราคานั้น!” เฉียวฉู่พูดอย่างตื่นเต้น ดูเหมือนจะถูกผู้รับผิดชอบการประมูลกระตุ้นไปด้วย
ถึงแม้โรงประมูลชานหลินจะไม่ได้ถือว่าเป็นสถานประกอบการขนาดใหญ่ แต่ผู้รับผิดชอบการประมูลคนนี้ก็ทำหน้าที่ของเขาได้ดี ความสามารถในการโน้มน้าวชักจูงฝูงชนของเขานั้นช่างเปิดหูเปิดตาคนที่กำลังเฝ้าดูเขาจากข้างบน
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย นางไม่ได้คาดหวังว่าโอสถวิเศษจะได้รับการตอบรับที่เร่าร้อนมากขนาดนี้ นอกจากเรื่องที่โอสถวิเศษของจวินอู๋เสียอยู่ในระดับสูงแล้ว ความนิยมส่วนใหญ่ของมันก็ล้วนมาจากพรสวรรค์ในการพูดชักจูงผู้คนของผู้รับผิดชอบการประมูลที่ยืนอยู่บนเวที และความสามารถในการสร้างบรรยากาศ กระตุ้นให้กลุ่มคนเร่าร้อนเดือดพล่าน จนพวกเขาเสนอราคาสูงขึ้นไปอีก และพากันทุ่มเงินเพื่อให้ได้สินค้าที่พวกเขาต้องการไปครอบครอง
ตอนที่ 568 การประมูลของเหล่าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย (7)
“โอสถต้านร้อยพิษสามารถต้านพิษได้ทุกชนิดจริงๆ หรือ มันใช้รักษามู่เชียนฟานได้หรือไม่ ถ้าเราเอาให้เขาสักเม็ด” จู่ๆ เฉียวฉู่ก็ฉุกคิดได้แล้วถามออกไป
จวินอู๋เสียส่ายหน้า “โอสถวิเศษที่ข้าให้เขาวันนั้น ก็คือโอสถต้านร้อยพิษ โอสถวิเศษชนิดนี้ใช้ได้ผลกับพิษทั่วไปเท่านั้น แต่กับพิษที่มู่เชียนฟานโดน น่าจะมาจากสามโลกชั้นกลางซึ่งฤทธิ์ของโอสถต้านร้อยพิษธรรมดาๆ ไม่สามารถถอนพิษมันได้”
เฉียวฉู่กระจ่างขึ้นมาทันที เขาพยักหน้าก่อนจะถามขึ้นอีกครั้งว่า “แล้วโอสถต้านร้อยพิษนี่ เจ้าใช้เวลาหลอมนานเท่าไร”
จวินอู๋เสียกำลังจะตอบ เฉียวฉู่ก็ยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่…เดี๋ยวก่อน! อย่าบอกข้า ข้าไม่รู้จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นหัวใจข้าคงรับไม่ไหว”
ราคาของโอสถต้านร้อยพิษสูงกว่าโอสถกระตุ้นพลังวิญญาณ และสำหรับคนที่เคยยากจนข้นแค้น ไม่มีเงินอยู่ในมือแม้แต่เหรียญเดียว เขาย่อมกลัวสิ่งที่จวินอู๋เสียจะพูดออกมาเป็นธรรมดา อย่างเช่นว่านางสามารถหลอมโอสถวิเศษชนิดนี้ได้สิบเม็ดในหนึ่งวันอะไรทำนองนี้
จวินอู๋เสียยอมแพ้และตัดสินใจไม่อธิบายต่อ
ถ้าเฉียวฉู่รู้ว่าโอสถวิเศษที่มีฤทธิ์ต้านทานสวรรค์ที่จวินอู๋เสียขายที่หน้าประตูสำนักศึกษาเฟิงหัวก่อนหน้านี้ นางหลอมออกมามากถึงหนึ่งแสนเม็ดภายในหนึ่งเดือน…
เฉียวฉู่อาจจะหัวใจวายตายไปจริงๆ ก็เป็นได้
โอสถวิเศษของจวินอู๋เสียถูกนำออกประมูลชุดแล้วชุดเล่า ราคาก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ตราบเท่าที่พวกเขายังมีเงินมากพอที่จะทุ่มซื้อมัน แต่ละคนก็ไม่ลังเลที่จะกระโดดเข้าร่วมกับสงครามประมูลราคาอันดุเดือดนี้ บรรยากาศเร่าร้อนภายในโรงประมูลร้อนระอุมากขึ้นเรื่อยๆ และในทุกๆ นาทีที่ผ่านพ้นไป คำพูดของผู้รับผิดชอบการประมูลที่อยู่บนเวทีก็จะคอยกระตุ้นอารมณ์ผู้คนอย่างต่อเนื่อง ดึงให้ฝูงชนเสนอราคาเพิ่มขึ้น และเผลอทุ่มเงินเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของสินค้าประมูล
ด้านหลังเวที กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหอฉางเล่อแทบจะเป็นตะคริวจากการยิ้มไม่หุบ เขาพยายามที่จะยืนตัวตรง เพราะไม่สามารถทิ้งสถานการณ์ตรงหน้าไปได้ จึงตะโกนสั่งให้พนักงานยกเก้าอี้มาให้ เขาจะได้เฝ้ามองฉากการแสดงนี้ต่อไปด้วยอิริยาบถที่สบายขึ้นเล็กน้อย
ไม่นานโอสถวิเศษชนิดที่สามและสี่ก็ถูกประมูลออกไปจนเกลี้ยง
โอสถวิเศษชนิดสุดท้ายถูกนำขึ้นมาบนเวทีอย่างช้าๆ ภายใต้สายตาที่เฝ้ามองของผู้ชมด้านล่าง
ผู้รับผิดชอบการประมูลบนเวทีเหงื่อออกจนเสื้อผ้าเปียกชุ่ม ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น เขาไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรืออ่อนล้าแม้แต่น้อย เมื่อโอสถวิเศษชนิดที่ห้าถูกนำขึ้นเวที เขาก็รวบรวมสมาธิอีกครั้งเพื่อให้การแนะนำสินค้าของเขาออกมาดีที่สุด
“ต่อไปเป็นโอสถวิเศษชนิดสุดท้ายที่เรามีในวันนี้ ฤทธิ์ของโอสถวิเศษชนิดนี้…ข้าขอรับรองและสาบานจากใจเลยว่าสุดยอดยิ่งกว่าโอสถทั้งหมดที่เราเคยมีมา! โอสถวิเศษชนิดนี้เรียกว่า…โอสถจำศีล! ไม่ว่าบาดแผลจะสาหัสร้ายแรงมากแค่ไหนก็ตาม ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่ เมื่อกลืนโอสถวิเศษเม็ดนี้เข้าไป มันจะทำให้คนผู้นั้นตกอยู่ในภาวะจำศีลเป็นเวลาสามวัน! เวลาสามวันที่โอสถวิเศษนี้ซื้อให้พวกท่าน จะเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่ามากที่สุดและสำคัญมากที่สุดสำหรับอาการบาดเจ็บสาหัส!”
ทั่วทั้งโรงประมูลฉับพลันตกอยู่ในความเงียบสงัด
สายตาทุกคู่จ้องมองไปยังสุดยอดผู้ช่วยชีวิตที่อยู่บนถาดเล็กๆ นั่น…โอสถจำศีล!
การเข้าสู่ภาวะจำศีลจะทำให้มีเวลาเพิ่มมากขึ้นในการรักษาและช่วยชีวิต ถึงแม้การกินโอสถวิเศษนั่นจะไม่ได้ช่วยรักษาพวกเขาก็ตาม แต่มันก็ช่วยยื้อชีวิตของพวกเขาออกไปได้ และทำให้โอกาสในการรอดชีวิตกลับมาจากปากประตูแห่งความตายเพิ่มสูงขึ้น
โลกนี้เต็มไปด้วยเคราะห์ร้ายและเหตุการณ์ไม่คาดคิดนับไม่ถ้วน การปะทะกันมีอยู่ตลอดเวลาไม่จบสิ้น และไม่ว่าใครก็สามารถเผชิญหน้ากับความตายอย่างกะทันหันได้
โอสถจำศีลนี้จะดึงพวกเขากลับมาและซื้อเวลาอีกสามวันให้พวกเขาได้ต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด!
สำหรับคนที่มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังเป็นระยะเวลานาน และคนที่บาดเจ็บสาหัส ล้วนต้องการโอสถจำศีลนี้มากกว่าคนทั่วไป!
“ด้วยความสัตย์จริง ข้าเองก็อยากจะประมูลโอสถจำศีลนี้มาก มันเป็นไพ่ใบสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตของข้าเอาไว้ได้ ราคาประมูลเริ่มต้นของโอสถจำศีลทุกเม็ดก็คือสองแสนตำลึง ยกเว้นครั้งนี้ครั้งเดียว ข้าจะขอเสนอราคาครั้งแรกที่สองแสนหนึ่งหมื่นตำลึง และถ้าทุกท่านให้เกียรติข้า โอสถวิเศษเม็ดแรกนี้ข้าก็ขอประมูลเก็บไว้เอง” นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้รับผิดชอบการประมูลทำสิ่งที่คาดไม่ถึง
ยังไม่พูดประโยคนี้ออกมาก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อพูดออกมาแล้ว ฝูงชนด้านล่างพลันก็โห่ร้องเสียงดังกึกก้องอีกครั้ง!
โดยปกติ คนจากโรงประมูลจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเสนอราคาเพื่อประมูลสินค้า และในฐานะผู้รับผิดชอบการประมูล เขาน่าจะชินชาต่อสินค้าล้ำค่าและหายากที่เคยพบเห็นมานับไม่ถ้วน แต่ตอนนี้ผู้รับผิดชอบการประมูลกลับอยากได้และเสนอราคาประมูลเสียเอง แล้วผู้คนที่นั่งอยู่ด้านล่าง จะยังนั่งนิ่งอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรได้อย่างไร
ในเวลาต่อมา ฝูงชนก็พากันบ้าคลั่งและบรรยากาศการประมูลก็ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด!