ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 605 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (12) ตอนที่ 606 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (13)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 605 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (12) ตอนที่ 606 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (13)
ตอนที่ 605 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (12) / ตอนที่ 606 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (13)
ตอนที่ 605 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (12)
แม้ว่าทหารสองนายจากกองทัพรุ่ยหลินจะไม่ปรานี พวกเขาก็รู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ ถึงแม้การเหวี่ยงไม้ของพวกเขาจะฉีกเนื้อหักกระดูกของนาง พวกเขาก็ไม่ปล่อยให้หนิงซินตายไปง่ายๆ การลงโทษโบยหนึ่งร้อยครั้งและเฆี่ยนสามสิบครั้ง จะต้องทำได้ครบเต็มจำนวนทั้งหมด พวกเขาจะไม่ยอมให้หนิงซินหลบหนีไปได้แม้แต่ครั้งเดียว!
ต่อให้หนิงรุ่ยจะชั่วร้ายมากขนาดไหน เขาก็ยังตกตะลึงในสิ่งที่เห็นอยู่ดี เขามองหนิงซินที่ร่างกายช่วงล่างชุ่มโชกไปด้วยโลหิตอย่างตื่นตระหนก ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือบุตรีผู้งดงามของเขาที่กำลังนอนอยู่บนพื้นนั่น
เขาอยากจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าแต่ก็ขลาดกลัว และได้แต่เฝ้ามองหนิงซินเจ็บปวดทรมานจากการโบยตีอย่างไร้ความปรานีด้วยตาตนเอง
โบยหนึ่งร้อยครั้งด้วยทหารร่างกำยำ ต่อให้เป็นบุรุษทั่วไปก็ไม่สามารถรอดชีวิตมาได้ แต่หนิงซินอดทนผ่านหนึ่งร้อยไม้มาได้ หลังจากถูกโบยแล้ว หนิงซินก็รู้สึกเหมือนนางจะตายจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนแทบไม่น่าเชื่อ แต่นางก็ยังสามารถคงสติเอาไว้ได้เล็กน้อย
และสติเล็กน้อยนั่นเองที่ทำให้นางต้องทนทรมานกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
ทหารกองทัพรุ่ยหลินทั้งสองยกหนิงซินขึ้น ร่างกายช่วงล่างของนางชุ่มโชกไปด้วยโลหิต แม้ว่าลมหายใจนางจะอ่อน นางก็ยังคงมีสติรับรู้ ผมยาวของนางยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงห้อยลงมาติดกับของเหลวสีแดงรอบๆ ตัว
การโบยหนึ่งร้อยครั้งเสร็จสิ้นแล้ว ต่อไปคือการเฆี่ยนด้วยแส้สามสิบครั้ง…
และหลงฉีจะเป็นคนเฆี่ยนด้วยตัวเอง
หนิงซินเงยหน้าขึ้นอย่างอ่อนแรง นางมองผ่านหลงฉีไปที่จวินอู๋เสียซึ่งยืนอยู่ด้านหนึ่ง
นางไม่คิดว่านางจะผ่านการโบยหนึ่งร้อยครั้งมาได้ นางคิดว่าตัวเองจะตายระหว่างการลงโทษเสียแล้ว แต่นางกลับยังมีชีวิตอยู่โดยไม่คาดคิด
เปรียบเทียบกับการโบยหนึ่งร้อยครั้ง การเฆี่ยนสามสิบครั้งดูจะทรมานน้อยกว่า และหนิงซินก็รู้สึกว่าความหวังเล็กๆ ได้จุดประกายขึ้นท่ามกลางความสิ้นหวัง
จวินอู๋เสียแค่สั่งให้นางรับโทษตามกฎของกองทัพรุ่ยหลิน นั่นหมายความว่าถ้านางรอดชีวิตมาได้ นางจะไม่ต้องตายใช่หรือไม่
นางเห็นแสงสว่างเล็กๆ จากเคราะห์กรรมครั้งนี้ หนิงซินอดไม่ได้ที่ปล่อยให้ตัวเองอยากจะมีชีวิตรอดไปได้ และความปรารถนานั้นก็ทำให้นางมีสติขึ้นมาซึ่งทำให้นางรู้สึกถึงความทรมานได้อย่างเต็มที่
เมื่อมีสติชัดเจน หนิงซินก็เห็นบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ก่อนหน้านี้ นางเห็นศีรษะเล็กๆ ของเจ้าแมวดำตัวน้อยที่แอบดูอยู่ใต้แขนเสื้อของจวินอู๋เสีย หนิงซินตกตะลึงกับการเปิดเผยที่น่าตกใจนี้!
แมวดำตัวเล็กนั่นใหญ่เท่าฝ่ามือเท่านั้น มันซ่อนตัวอยู่ในแขนเสื้อกว้างของจวินอู๋เสียซึ่งหลบสายตาทุกคนได้อย่างดีจากจุดที่นางยืนอยู่ เพียงแต่จากมุมที่หนิงซินอยู่นั้น ทำให้นางสามารถมองเห็นมันได้
เมื่อเห็นเจ้าแมวดำ หนิงซินก็ตัวแข็งทื่อในทันที นางไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนร่างกายเนื่องจากความตกใจ และรู้สึกว่าความเย็นยะเยือกได้แล่นไปทั่วร่าง
ในสำนักศึกษาเฟิงหัวนี้ คนผู้เดียวที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม ก็จะมีภูติวิญญาณของเขาซึ่งมีรูปร่างเป็นแมวดำตัวเล็กอยู่ข้างกายเสมอ
จวินเสีย…จวินอู๋เสีย…
ดวงตาของหนิงซินเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ในตอนนั้นเองนางก็เข้าใจแล้วว่าการกระทำก่อนหน้านี้ของนางทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง
นอกจากหน้าตาแล้ว นางเห็นว่าจวินเสียกับจวินอู๋เสียแตกต่างกันแค่ตัวอักษรเดียว รูปร่างและขนาดตัวของทั้งคู่เหมือนกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาเย็นชาเสียดแทงคู่นั้น ทั้งสองคนจะต้องเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน!
ความจริงแล้วจวินเสียก็คือจวินอู๋เสีย!
เจ้าเด็กที่ถูกทุกคนในสำนักศึกษาเฟิงหัวเหยียดหยามชิงชังตลอดมา แท้จริงแล้วคือคุณหนูใหญ่ของกองทัพรุ่ยหลิน!
มิน่าเล่า…
ในตอนที่พวกเขาอยู่ในป่าประลองวิญญาณ จวินเสียถึงได้พุ่งเข้าไปช่วยหลงฉีกับคนของเขา
หนิงซินอยากจะหัวเราะ แต่ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ได้รับทำให้นางไม่มีเรี่ยวแรงพอกระทั่งจะอ้าปากพูด นางทำได้เพียงจ้องมองจวินอู๋เสียด้วยแววตาเกลียดชังและหมดหนทาง
นางคิดขึ้นมาได้ว่านางก้าวผิดตั้งแต่แรกแล้ว ผิดจนไม่อาจผิดไปมากกว่านี้ได้อีก
จวินอู๋เสียไม่ใช่แค่ศิษย์คนโปรดของกู้หลีเซิงเท่านั้น แต่นางยังเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องด้วย!
ตอนที่ 606 ตบหน้าครั้งที่เจ็ด (13)
การทรยศด้วยการเปิดเผยทุกอย่างของอิ่นเหยียนเมื่อครู่ได้ปิดผนึกชะตากรรมของนางไปแล้ว
ก่อนที่นางจะรู้ถึงตัวตนของจวินอู๋เสีย หนิงซินยังมีเศษเสี้ยวแห่งความหวังอยู่บ้าง แต่บัดนี้นางตกลงสู่หลุมแห่งความสิ้นหวังที่ลึกที่สุดไปแล้ว!
จวินอู๋เสียจะไม่มีวันละเว้นชีวิตของนาง…ไม่มีวัน…
ในตอนนั้นเองหนิงซินเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างถึงที่สุด ถ้านางรู้ตัวจริงของจวินอู๋เสียก่อนหน้านี้ละก็ นางจะไม่หาเรื่องคนอย่างจวินอู๋เสียเป็นอันขาด
อย่างไรก็ตาม เสียใจตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว
ไม่มีใครคิดว่าหนิงซินจะรอดมาได้จนถึงตอนนี้ หนิงรุ่ยที่ตัดสินใจยอมละทิ้งหนิงซินเมื่อครู่ก็พลันคิดในสิ่งเดียวกับที่บุตรีของเขาคิดก่อนหน้านี้ เขาอยากจะพูด แต่ก็ลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดเขาก็ไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้อีก เขาก้าวขึ้นมาข้างหน้าและถามว่า “คุณหนูจวิน”
จวินอู๋เสียมองหนิงรุ่ยด้วยสายตาทิ่มแทง
“ถึงแม้หนิงซินจะก่ออาชญากรรมที่ไม่อาจให้อภัยได้ก็ตาม แต่โลหิตอย่างไรก็ย่อมข้นกว่าน้ำ ข้าอาจจะพูดตัดขาดลูกสาวคนนี้ไปแล้ว แต่ข้าขอถามคุณหนูจวินสักเล็กน้อย ถ้าหนิงซินยังคงมีชีวิตรอดผ่านการลงโทษตามกฎของกองทัพได้ นั่นหมายความว่าหลังจากนั้นนางจะพ้นผิดใช่หรือไม่” หนิงรุ่ยรู้สึกกระสับกระส่ายภายใต้สายตาที่จ้องมองของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียละสายตากลับไปและพูดอย่างเฉยชาว่า “ใช่”
หนิงรุ่ยลอบถอนหายใจโล่งอก ทุกคนที่นั่นก็รู้สึกเหมือนกัน หลังจากรอดชีวิตผ่านการโบยหนึ่งร้อยครั้งที่โหดที่สุดมาได้ นางก็อาจจะรอดผ่านการเฆี่ยนอีกสามสิบครั้งได้
หนิงซินเห็นหนิงรุ่ยพยายามดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาของนางก็ยิ่งเต็มไปด้วยความสิ้นหวังหดหู่
นางปรารถนาว่าจะสามารถบอกบิดาของนางได้ว่านางไม่มีโอกาสรอดอีกแล้ว นางอยากบอกหนิงรุ่ยว่าคุณหนูผู้หยิ่งยโสเย็นชาของสกุลจวินที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ก็คือคนเดียวกับคนที่กู้หลีเซิงเชิญให้กลับเข้าสู่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณด้วยตัวเอง…จวินเสีย!
เหตุผลที่จวินเสียไปจากสำนักศึกษาเฟิงหัวกะทันหันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สถานการณ์นี้ได้ถูกจวินอู๋เสียวางแผนมาอย่างดีเพื่อปรากฏตัวในวันนี้ด้วยตัวตนที่แท้จริง เพื่อดำเนินการลงโทษนางที่ก่ออาชญากรรมขึ้น!
หนิงซินพยายามอ้าปากพูดแม้ว่าจะเจ็บปวด แต่นางพบว่าลำคอแห้งผากของนางไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาเลย
“หลงฉี เริ่ม!” จวินอู๋เสียไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะฟังเรื่องไร้สาระของหนิงซินอีกจึงออกคำสั่งห้วนๆ
ปลายอีกด้านของแส้ที่อยู่ในมือหลงฉีฟาดผ่านอากาศเกิดเป็นเสียงดังตรงไปที่หนิงซิน!
ครั้งแรกฟาดเข้าที่ใบหน้าที่หนิงซินคิดอยู่เสมอว่างดงามไร้ผู้ใดเปรียบ สร้างรอยแผลบาดลึกบนใบหน้าของหนิงซิน รอยแผลนั้นพาดจากสันจมูกผ่านแก้มลงมาจนถึงหัวไหล่
หนิงซินร้องคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมาน เสียงของนางแหบพร่าราวกับเสียงกรีดร้องนั้นได้ฉีกลำคอของนาง
ไม่มีอะไรจะทำให้นางทุกข์ทรมานได้มากกว่าการทำลายใบหน้าอันงดงามที่นางภาคภูมิใจอีกแล้ว
ความเจ็บปวดที่ใบหน้าได้เตือนนางถึงความจริงที่ว่าหน้าตาของนางได้ถูกทำลายลงแล้วด้วยการฟาดแส้เพียงครั้งเดียว ความงดงามของนางได้ถูกพรากไปอย่างโหดร้ายเลือดเย็น!
แส้ในมือหลงฉีถูกเหวี่ยงออกไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นความตั้งใจหรือไม่ แต่ทุกแส้ที่ฟาดลงมา ปลายของมันจะกระทบกับใบหน้าเล็กๆ ของหนิงซินเสมอ ถึงแม้มันจะเจ็บน้อยกว่าที่ฟาดใส่ร่างกาย แต่ใบหน้าของหญิงสาวเป็นส่วนที่อ่อนนุ่มที่สุดและไม่อาจทนต่อการเฆี่ยนตีได้
ไม่นานใบหน้าที่เคยงดงามมีเสน่ห์ของหนิงซินก็เต็มไปด้วยบาดแผลพาดผ่านไปมา เนื้อและโลหิตสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผล จำนวนบาดแผลเพิ่มขึ้นจนเริ่มจะเต็มใบหน้า ความสวยงามได้หายไปจนสิ้นภายใต้บาดแผลยุ่งเหยิงที่เปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีแดง!
การได้เห็นหญิงสาวที่งดงามบอบบางและมีเสน่ห์กลายเป็นสัตว์ประหลาดอัปลักษณ์น่าเกลียด ทำให้ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทุกคนยกมือปิดปากซ่อนเสียงกรีดร้องที่หลุดออกมาจากลำคอของพวกเขา!
โหดร้ายเกินไปแล้ว!
สตรีมีชีวิตอยู่ได้ด้วยใบหน้าของพวกนาง…