ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 701 การตายของฟ่านฉี (4) ตอนที่ 702 เตรียมตอบโต้ (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 701 การตายของฟ่านฉี (4) ตอนที่ 702 เตรียมตอบโต้ (1)
ตอนที่ 701 การตายของฟ่านฉี (4) / ตอนที่ 702 เตรียมตอบโต้ (1)
ตอนที่ 701 การตายของฟ่านฉี (4)
ฟ่านจิ่นถูกพาตัวออกไป และโลหิตที่เปื้อนทั่วห้องหนังสือก็ถูกทำความสะอาด ความสงบเงียบกลับมาสู่ห้องหนังสือที่ว่างเปล่า อาจิ้งซ่อนตัวอยู่ในช่องลับถึงสามวันเต็มด้วยความกลัวจนไม่กล้าออกมา จนกระทั่งตอนกลางดึกในคืนที่สาม เขาถึงได้ออกมาจากที่ซ่อนและหลบหนีไป
หลังจากเขาออกมาแล้วก็พบว่าสำนักศึกษาเฟิงหัวได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง!
หนิงรุ่ยเข้ารับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ฟ่านจิ่นถูกขังและอาจจะถูกประหารได้ทุกเมื่อ กู่อิ่งชายหนุ่มคนที่ฆ่าฟ่านฉีได้ทำให้เกิดความหวาดกลัวไปทั่วสำนักศึกษาเฟิงหัว
อาจิ้งอยากจะหนีไป เขาไม่รู้ว่ามีใครที่เขาจะหันหน้าไปขอให้ช่วยได้อีก
เขาคิดที่จะซ่อนตัวรอคอยโอกาสพบฟ่านจัว และบอกฟ่านจัวถึงความจริงทั้งหมดเบื้องหลังเรื่องที่เกิดขึ้น
แต่ไม่นานกู่อิ่งก็จับตัวอาจิ้งได้
กู่อิ่งไม่รู้ว่าอาจิ้งอยู่ที่ไหนในวันที่ฟ่านฉีถูกฆ่า แต่กู่อิ่งหาตัวจวินอู๋เสียอยู่ และเขาเคยได้ยินเรื่องความผิดของอาจิ้งจากหนิงรุ่ยมาก่อน กู่อิ่งตัดลิ้นของอาจิ้งและหักนิ้วของเขาด้วยเหตุผลที่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการแก้เบื่อ
ที่อาจิ้งยังมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะ…อาจิ้งเสียสติไปแล้วนั่นเอง
การฆ่าคนบ้าไม่สามารถทำให้เขาได้รับความพึงพอใจจากการล่าสังหารได้ เขาคิดว่ามันไม่น่าสนใจ นอกจากนั้นเวินซินหันก็กลับมาอย่างกะทันหัน ทำให้เขาถูกจำกัดการล่าสังหารแบบไร้เหตุผลในเวลาที่เขารู้สึกอยากได้ ดังนั้นเขาจึงไว้ชีวิตอาจิ้งเพื่อใช้เขาเป็นที่ระบายความหงุดหงิด
อาจิ้งเพิ่งหนีออกจากที่ซ่อนเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากหนีมาแล้วเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในลานป่าไผ่และไม่กล้าเดินเตร็ดเตร่ไปไหน เขาซ่อนอยู่ที่นั่นไม่ใช่เพราะเขากลัวตาย แต่เขาหวังว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้นานพอที่จะพบคุณชายของเขาและได้บอกฟ่านจัวถึงความจริงเบื้องหลังการตายของฟ่านฉี
อาจิ้งไม่คิดว่าการรอคอยของเขา จะนำพาให้เขามาพบกับจวินอู๋เสียแทนฟ่านจัว!
เมื่ออาจิ้งเห็นจวินอู๋เสีย เขาอยากบอกจวินอู๋เสียทุกอย่าง แต่พอคิดถึงความแข็งแกร่งที่เกินธรรมดาของกู่อิ่งที่แม้แต่อาจารย์ใหญ่กับฟ่านจิ่นก็ยังสู้ไม่ได้ เขาก็คิดว่าจวินอู๋เสียจะไม่รอดเช่นกันถ้าต้องเผชิญหน้ากับกู่อิ่ง
ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะปกปิดความจริงเอาไว้
จนกระทั่งตอนนี้ เมื่อเยี่ยซาปรากฏตัวขึ้น มันทำให้อาจิ้งมองเห็นแสงแห่งความหวังอันริบหรี่
เขาเป็นคนที่แข็งแกร่ง เขาอาจจะจัดการกับกู่อิ่งได้!
ในที่สุดเขาก็เรียกความกล้าออกมาเพื่อเปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างให้จวินอู๋เสียได้รู้!
จวินอู๋เสียอ่านสิ่งที่อาจิ้งเขียนทั้งหมด นางขมวดคิ้วนิ่วหน้าขณะจ้องมองอาจิ้งที่ยังคงโขกศีรษะคำนับนางอยู่
เขากำลังขอร้องให้นางช่วยฟ่านจิ่น
เขาได้พูดถึงความรู้สึกผิดและความละอายใจที่กัดกินอยู่ในใจของเขา อาจิ้งยังบอกด้วยว่า…ถ้านางช่วยฟ่านจิ่น เขาจะตอบแทนนางด้วยการฆ่าตัวตาย
จวินอู๋เสียนวดขมับตัวเอง สิ่งที่อาจิ้งบอกนางได้ทำให้ข้อสงสัยก่อนหน้านี้ของนางกระจ่างขึ้น
ทำไมฟ่านจิ่นถึงไม่ขัดขืนในตอนที่ถูกจับ เวินซินหันก็อยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัว แล้วทำไมฟ่านจิ่นถึงไม่บอกเรื่องทุกอย่างแก่เขา
ตราบเท่าที่ฟ่านจิ่นสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาได้ เวินซินหันย่อมรับรองความปลอดภัยของเขาและกระทั่งกำจัดกู่อิ่งกับหนิงรุ่ยให้ด้วย
ความจริงก็คือ…
ไม่ใช่ว่าฟ่านจิ่นไม่ยอมบอกความจริง แต่เขาไม่สามารถบอกได้ต่างหาก!
ตามที่อาจิ้งบรรยายเหตุการณ์มา จวินอู๋เสียเดาว่าการโจมตีของกู่อิ่งเข้าที่ศีรษะของฟ่านจิ่นจะต้องกระแทกเส้นประสาทในหัวของฟ่านจิ่นอย่างรุนแรงจนเกิดอาการบาดเจ็บในศีรษะ
อาจิ้งแสร้งทำเป็นคนบ้าเพื่อปกป้องตัวเอง แต่ฟ่านจิ่น…
คงเสียสติของจริง และได้กลายเป็นคนปัญญาอ่อนไปแล้ว
ชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยสดใสและเปิดเผยตรงไปตรงมา บัดนี้ได้หายไปแล้ว ฟ่านจิ่นที่ถูกขังอยู่ในห้องของเขาตอนนี้ กลายเป็นร่างที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะใดๆ!
“ลุกขึ้น” จวินอู๋เสียพูดกับอาจิ้งหลังสูดลมหายใจเข้าลึก
แต่อาจิ้งยังคงโขกศีรษะกับพื้นเพื่อวิงวอนต่อไป หน้าผากของเขาแตกและมีเลือดไหลชุ่มโชก เกิดแอ่งโลหิตขนาดเล็กขึ้นตรงหน้าเขา
เขาสมควรตาย เขามันโง่ เขาน่าจะตายไปเสียตั้งนานแล้ว!
ถ้าจวินอู๋เสียอยากจะเอาชีวิตเขา เขาก็ยิ่งกว่าสมควรได้รับมัน
แต่คุณชายใหญ่ต้องรอด!
ใครที่ช่วยคุณชายใหญ่ได้!
ได้โปรดช่วยเขาด้วย!
ตอนที่ 702 เตรียมตอบโต้ (1)
อาจิ้งไม่ยอมหยุดโขกศีรษะกับพื้น เขารู้ว่าคนเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยฟ่านจิ่นตอนนี้ได้ก็คือจวินอู๋เสียเท่านั้น อาจิ้งฝากความหวังทั้งหมดของเขาไว้ที่จวินอู๋เสีย เขาทั้งขอร้องและอ้อนวอน ละอายแก่ใจอย่างถึงที่สุดในความอ่อนแอของตัวเอง เสียงศีรษะกระแทกพื้นดังก้องสะท้อนอยู่ในหูของจวินอู๋เสีย
“ข้าจะช่วยฟ่านจิ่น” ในที่สุดจวินอู๋เสียก็พูดออกมา
อาจิ้งเงยหน้าขึ้น โลหิตไหลลงมาตามใบหน้าของเขา แต่เขาก็ยังยิ้มกว้างออกมา เขามองจวินอู๋เสียอยู่ครู่หนึ่งด้วยความรู้สึกซาบซึ้งสำนึกบุญคุณ และเมื่อเขากำลังจะคำนับจวินอู๋เสียต่อ นางก็จับบ่าเขาเอาไว้
“ถ้าเจ้ายังคุกเข่าอยู่อย่างนี้ ข้าจะไม่ช่วยเขาแล้วนะ” จวินอู๋เสียขู่อาจิ้ง
อาจิ้งตกใจมาก เขาเงียบอยู่นานก่อนจะลุกขึ้นยืนในที่สุด แต่เขาก็ยังโค้งคำนับจวินอู๋เสียอยู่ดี หลังที่โค้งเต็มที่แสดงถึงการขออภัยนั้น ได้แสดงถึงความละอายใจอย่างมากมายของอาจิ้งในเวลานั้นด้วย
จวินเสียไม่ต้องการชีวิตข้า และไม่ได้คาดหวังให้ข้าขอโทษอีกด้วย นั่นทำให้หัวใจของอาจิ้งแทบระเบิดออกด้วยความเสียใจและสำนึกผิด
ถ้าเพียงแต่ข้าไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินมาอย่างง่ายดาย และกล่าวใส่ร้ายประณามจวินเสีย สิ่งต่างๆ จะแตกต่างไปจากตอนนี้หรือไม่
ด้วยความสามารถของจวินเสีย ถ้าเขายังอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวไม่ได้จากไปไหน เรื่องพวกนั้นก็คงไม่เกิดขึ้นกับฟ่านฉีและฟ่านจิ่นใช่หรือไม่
เมื่อความคิดทั้งหมดนั้นผุดขึ้นมาในหัว น้ำตาของอาจิ้งก็ไหลลงมาอย่างไม่อาจหยุดได้ เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้เพื่อทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม
“เยี่ยซา” จวินอู๋เสียพูดขึ้น
เยี่ยซาที่เพิ่งจากไปเมื่อสักครู่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จวินอู๋เสียชี้ไปที่อาจิ้งและพูดกับเยี่ยซาว่า “พาเขาไปที่ตำบลชานหลิน และอย่าให้ฟ่านจัวเห็นเขา”
เยี่ยซาพยักหน้า อาจิ้งมองจวินอู๋เสียอย่างตกใจ เขาเพิ่งได้ยินชื่อของคุณชายรองถูกกล่าวถึง!
“ฟ่านจัวไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ ถ้าเจ้าอยากชดเชยความผิดในอดีตของเจ้า เช่นนั้นก็จงมีชีวิตอยู่ และใช้ชีวิตที่เหลือของเจ้าชดเชยมันเสีย ไม่ใช่เพื่อข้า…แต่เพื่อฟ่านจิ่น” จวินอู๋เสียโยนขวดยาสองสามขวดให้อาจิ้ง อาการบาดเจ็บของอาจิ้งไม่ได้หนักหนา แต่นางไม่มีทางทำให้ลิ้นของเขากลับคืนมาได้
นางไม่ได้ช่วยอาจิ้งเพราะเมตตาหรือให้อภัย แต่เพราะจวินอู๋เสียรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นฟ่านจัวหรือฟ่านจิ่น ทั้งคู่จะดีใจที่นางเลือกทำเช่นนี้
อาจิ้งกอดขวดยาที่จวินอู๋เสียโยนให้เขาอย่างระมัดระวัง น้ำตายังคงไหลอาบแก้ม เขาเข้าใจสิ่งที่จวินอู๋เสียบอกเขา เขาต้องบ้าแน่ในตอนที่เขาสงสัยฟ่านจิ่นในครั้งนั้น ทำให้เกิดข่าวลือว่าฟ่านจิ่นอยากทำร้ายฟ่านจัวไปทั่วสำนักศึกษาเฟิงหัว แม้ว่าอาจิ้งจะไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น แต่นั่นก็ส่งผลกระทบกับชื่อเสียงของฟ่านจิ่นครั้งใหญ่ และตอนนี้การที่หนิงรุ่ยสามารถโยนความผิดฐานฆาตกรรมฟ่านฉีมาให้ฟ่านจิ่นได้อย่างง่ายดายก็ เนื่องมาจากผลจากอิทธิพลของข่าวลือครั้งก่อนนี่เอง
ผู้คนมักจะเชื่อว่าสิ่งต่างๆ มีด้านมืดซุกซ่อนอยู่เสมอ เมื่อเรื่องเหลวไหลพวกนั้นถูกพูดบ่อยเข้า มันก็จะถูกคิดว่าเป็นความจริง ไม่มีใครจะมานั่งพิจารณาถึงเบื้องหลังที่แท้จริงให้เสียเวลาหรอก
“อา…อา…” อาจิ้งมองจวินอู๋เสียพร้อมกับส่งเสียงที่ฟังไม่เข้าใจออกมาจากลำคอ
เขาอยากพูดขอโทษ เขาอยากพูดขอบคุณ แต่เขาละอายเกินไปที่จะพูดออกมา
ตอนนี้เขาพูดไม่ได้อีกแล้ว มันอาจจะเป็นการลงโทษจากสวรรค์สำหรับความโง่เง่าของเขาที่ทำร้ายผู้คนมากมาย
อาจิ้งมองจวินอู๋เสียเงียบๆ อยู่นานก่อนจะจากไปพร้อมเยี่ยซา
เขาสวดภาวนาอย่างแรงกล้าอยู่ในใจว่าขอให้ทุกสิ่งจบลงด้วยดี
เพื่อฟ่านจิ่น ฟ่านจัว และเพื่อจวินอู๋เสีย
เมื่อกู่อิ่งกลับมาที่เรือนหลังน้อยในลานป่าไผ่ อาจิ้งก็จากไปนานแล้ว ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สังเกตเห็นการหายตัวไปของอาจิ้ง แต่จวินอู๋เสียได้กลิ่นคาวเลือดรุนแรงมาจากตัวกู่อิ่ง