ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 705 เตรียมตอบโต้ (4) ตอนที่ 706 เตรียมตอบโต้ (5)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 705 เตรียมตอบโต้ (4) ตอนที่ 706 เตรียมตอบโต้ (5)
ตอนที่ 705 เตรียมตอบโต้ (4) / ตอนที่ 706 เตรียมตอบโต้ (5)
ตอนที่ 705 เตรียมตอบโต้ (4)
“ดูเหมือนเขาจะกินเองไม่ได้นะ กงเฉิงเหล่ย เจ้าป้อนเขาหน่อยสิ” หนิงรุ่ยพูดด้วยสายตาประสงค์ร้าย
กงเฉิงเหล่ยยกชามขึ้นทันที และใช้ช้อนตักน้ำแกงที่ยังร้อนๆ ยัดเข้าไปในปากของฟ่านจิ่นคำแล้วคำเล่า
แต่ฟ่านจิ่นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแม้แต่น้อย เขานั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยสายตาเหม่อลอย ขณะที่กงเฉิงเหล่ยยัดข้าวคำใหญ่พร้อมกับข้าวอย่างอื่นเข้าปากของเขาซึ่งยังคงอ้าค้างไว้โดยไม่ขยับ อาหารถูกยัดเข้าปากเขาจนล้นและหกลงมาตามคางหล่นลงบนเสื้อผ้า ทำให้เสื้อผ้ายิ่งสกปรกมากขึ้นไปอีก
น้ำแกงและน้ำซึมเข้าไปในเสื้อผ้าของเขา ฟ่านจิ่นตอนนี้ดูแย่ยิ่งกว่าขอทานตามถนนเสียอีก เป็นเพียงแค่ตุ๊กตาให้คนอื่นชักเชิดได้ตามใจ
การกระทำอันหยาบคายรุนแรงของกงเฉิงเหล่ยไม่ได้แสดงถึงความเมตตาเลยแม้แต่น้อย เห็นอยู่ชัดๆ ว่าปากของฟ่านจิ่นเต็มไปด้วยอาหาร เขาก็ยังยัดเข้ามาอีกเรื่อยๆ แผลแตกที่ปากฉีกออกและโลหิตก็ไหลลงมาผสมกับอาหารที่หกจากปากเขา
จวินอู๋เสียมองฟ่านจิ่นที่ตกอยู่ภายใต้การทรมานนั้นตาไม่กะพริบ นางไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย ดูเหมือนนางต้องการจะจดจำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ในใจของนาง
นางจะจดจำความอัปยศที่คนพวกนี้ทำไว้ในวันนี้
หนิงรุ่ยหัวเราะ กู่อิ่งหัวเราะ พวกเขาพบว่ามันเป็นเรื่องสนุกมากที่ได้เล่นตลกกับฟ่านจิ่นที่ป้องกันตัวเองไม่ได้แบบนี้
จวินอู๋เสียเฝ้าดูทุกสิ่งโดยไม่พูดอะไร นางสังเกตเห็นว่าไม่ใช่ว่าฟ่านจิ่นจะไม่รู้สึกเจ็บปวด และไม่ใช่ว่าเขาไม่ตอบสนอง นางเห็นขากรรไกรล่างของฟ่านจิ่นถูกทำให้เคลื่อนออก และเขาไม่สามารถหุบปากได้…
ประกายเย็นยะเยียบปรากฏขึ้นในดวงตาอันสงบนิ่งของจวินอู๋เสีย นางรีบซ่อนมันอย่างรวดเร็วและนิ่งเงียบเอาไว้ขณะที่นั่งดูต่อไป
มองดูผู้ที่เคยเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่น่าภาคภูมิ มองดูชายหนุ่มที่เคยเป็นมิตรถูกเล่นตลกและทรมานเหมือนสัตว์ชั้นต่ำโดยศัตรูที่สังหารบิดาของเขาอย่างเลือดเย็น จวินอู๋เสียนั่งเฝ้าดูทุกการกระทำโดยไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาแม้แต่น้อย
กู่อิ่งลอบสังเกตจวินอู๋เสีย แต่ก็จับร่องรอยความผิดปกติใดๆ บนหน้ากากอันสงบนิ่งของจวินอู๋เสียที่เขาคาดหวังจะได้เห็นไม่ได้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจางหายไปขณะที่มุมปากเหยียดตรง ความหงุดหงิดเริ่มแสดงออกทางแววตาของเขา
แต่หนิงรุ่ยต่างจากกู่อิ่ง เขาสนุกสนานยินดีเมื่อเห็นฟ่านจิ่นถูกทรมานเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง นั่นช่วยบรรเทาไฟแห่งความเกลียดชังที่เผาไหม้อยู่ในหัวใจเขาได้ เสียงหัวเราะของเขาดังสะเทือนแก้วหูขณะที่ดูเหตุการณ์ไร้มนุษยธรรมตรงหน้า
ทันใดนั้นฟ่านจิ่นก็อาเจียนออกมาอย่างรุนแรงจากการทรมานที่ไปขวางกั้นทางเดินหายใจของเขา เขาล้มลงกับพื้นเสียงดังขณะที่ขย้อนเอาทุกสิ่งทุกอย่างออกมา อาหารทั้งหมดที่ถูกยัดอยู่ในปากก็ออกมาด้วย ตัวของเขาเริ่มสั่นอย่างรุนแรง หมดสภาพอย่างสิ้นเชิง มันเป็นภาพที่สุดจะทนได้
“เป็นอะไรเล่า เจ้ากินไปนิดเดียวก็อิ่มแล้วหรือ ไม่รู้หรือไงว่าอาหารทั้งหมดนี้ทำยากแค่ไหน คุณชายฟ่านผู้สูงส่งของเราช่างไม่รู้ถึงความลำบากของคนธรรมดาบ้างเลย ทำไมเป็นคนฟุ่มเฟือยเช่นนี้” รอยยิ้มเยาะปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของหนิงรุ่ย เขาส่งสายตาสื่อความหมายให้กงเฉิงเหล่ยซึ่งก้าวขึ้นมาทันทีและคุกเข่าลงข้างๆ ฟ่านจิ่น จากนั้นก็คว้าเข้าที่ผมของฟ่านจิ่นและกดหน้าเขาลงไปที่กองอ้วก เหมือนเขาคาดหวังให้ฟ่านจิ่นกินอ้วกที่น่าขยะแขยงที่เขาเพิ่งขย้อนออกมา
“เจ้ากินเสร็จหรือยัง” ทันใดนั้นจวินอู๋เสียก็เอ่ยปากถามกู่อิ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ นาง
กู่อิ่งประหลาดใจ ความรื่นเริงปรากฏขึ้นอีกครั้งในแววตาของเขา
ในที่สุดเขาก็ทนไม่ได้แล้วล่ะสิ
“ยังไม่อิ่มเลย ทำไมหรือ ศิษย์พี่อิ่มแล้วหรือ ทำไมไม่ให้ข้าอยู่ต่ออีกหน่อยเล่า” กู่อิ่งพูด
แต่จวินอู๋เสียลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
“เหม็น ถ้าเจ้าชอบดมก็อยู่ไปเถอะ” จวินอู๋เสียพูดพลางก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้าและเดินออกไปพร้อมกับเอามือปิดจมูก
กู่อิ่งพูดอะไรไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง เขาไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะพูดเช่นนั้น
กระทั่งหนิงรุ่ยก็ยังตะลึงงัน เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าจวินอู๋เสียกับฟ่านจิ่นสนิทกันมาก ดังนั้นเมื่อเห็นฟ่านจิ่นถูกปฏิบัติอย่างหยาบคายเช่นนั้น เขาจะทนนิ่งไม่รู้ไม่ชี้อยู่ได้อย่างไร! ไม่เพียงเท่านั้น เขายังแสดงความขยะแขยงอย่างถึงที่สุดก่อนจะสะบัดแขนเสื้อจากไปอย่างรังเกียจอีกด้วย!
เขาจะไม่พูดอะไรเพื่อช่วยฟ่านจิ่นสักหน่อยหรือ
ตอนที่ 706 เตรียมตอบโต้ (5)
กู่อิ่งกับหนิงรุ่ยไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะแสดงปฏิกิริยาเช่นนั้น ภาพที่พวกเขาจินตนาการไว้ว่าอยากจะเห็นไม่ได้เกิดขึ้นเลย
กู่อิ่งยืนขึ้นด้วยความรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขามองไปที่หนิงรุ่ยและพูดว่า “ตลกร้ายของเจ้าไม่เห็นจะได้เรื่องอะไรขึ้นมาเลย” พูดจบเขาก็หมุนตัวจากไปทันทีเพื่อไล่ตามจวินอู๋เสียให้ทัน
ใบหน้าของหนิงรุ่ยบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียดด้วยความโกรธ เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันทีและพลิกโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารล้มคว่ำ ทั้งแกงและกับข้าวทั้งหมดหกลงบนตัวฟ่านจิ่น
ฟ่านจิ่นนอนกองอยู่บนพื้น ร่างกายของเขายังคงสั่นอย่างรุนแรง
“เอาตัวมันกลับไป! อย่าลืมล้างตัวมันให้สะอาดและเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย ต้องแน่ใจว่าเวินซินหันจะไม่สังเกตเห็นอะไรผิดปกติ” หนิงรุ่ยกัดฟันพูด
กงเฉิงเหล่ยผงะถอยแต่ก็รีบพยักหน้า ก่อนจัดการลากฟ่านจิ่นที่ตัวเหม็นหึ่งออกไป
เมื่อจวินอู๋เสียกลับไปที่ลานป่าไผ่ นางก็ปิดประตูห้องตามหลัง กู่อิ่งอยากจะคุยด้วยเล็กน้อยแต่จวินอู๋เสียก็ยืนกรานปฏิเสธ
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของกู่อิ่งเดินจากไป จวินอู๋เสียก็นั่งลงที่โต๊ะ นางรู้สึกหายใจไม่ทันเล็กน้อยเนื่องจากความโกรธที่ลุกไหม้อยู่ในอกจนเกือบจะทำให้นางควบคุมตัวเองไม่ได้ มือของนางกำแน่นอยู่บนโต๊ะ และนางรู้ดีว่าเล็บของนางได้แทงเข้าไปในฝ่ามือจนโลหิตสีแดงสดหยดลงมา
เหมียว แมวดำตัวน้อยปรากฏตัวขึ้น มันรับรู้ได้ถึงความโกรธอันรุนแรงในหัวใจของจวินอู๋เสีย มันเอาตัวถูกับมือของนางและเลียบาดแผลของนางเพื่อปลอบประโลม
“ข้าทำผิด” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็พูดขึ้น
แมวดำตัวน้อยนั่งลงบนโต๊ะและมองสบดวงตาอันเย็นชาของนาง
“ข้าควรนัดพบกับเวินซินหันคืนนี้” จวินอู๋เสียไม่เข้าใจว่าทำไมนางถึงได้โกรธมากขนาดนี้ นางรู้สึกเหมือนกับมีก้อนหินใหญ่กดทับอยู่ในอก นางอยากจะพุ่งเข้าไปฉีกหนิงรุ่ยให้เป็นชิ้นๆ เสียเดี๋ยวนั้นเลย
“พรุ่งนี้ก็จบแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะจบลงพรุ่งนี้ เมื่อวันพรุ่งนี้มาถึงและท่านได้คำตอบที่แน่ชัดว่ามีคนอื่นที่มาจากสามโลกชั้นกลางอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวอีกหรือไม่ ท่านก็จะสามารถลงมือได้เสียที” เจ้าแมวดำตัวน้อยเอาตัวถูแขนจวินอู๋เสีย นอกจากมันจะรู้สึกถึงความโกรธของจวินอู๋เสียแล้ว มันยังรับรู้ถึงความอยากฆ่าที่เจ้านายของมันพยายามอย่างเต็มที่ที่จะระงับเอาไว้
จวินอู๋เสียสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามที่จะระงับความอยากฆ่าในหัวใจให้เบาบางลง
พรุ่งนี้ แค่รอจนถึงพรุ่งนี้เท่านั้น!
……
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น กู่อิ่งมาเคาะประตูห้องของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียควบคุมอารมณ์ของนางได้แล้ว เมื่อนางเห็นกู่อิ่ง สีหน้าของนางจึงสงบนิ่งและไร้ความรู้สึกเหมือนที่เคยเป็น
ทั้งสองคนไปที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ จวินอู๋เสียขอพูดคุยกับกู้หลีเซิงตามลำพังอีกครั้ง และกู่อิ่งก็เพียงแค่ยักไหล่เฉยๆ โดยไม่ห้ามปราม
ตอนที่เขาออกจากลานป่าไผ่มาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณเมื่อวานนี้ เขาไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ เขาไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะคุยกับกู้หลีเซิงด้วยเรื่องธรรมดาทั่วๆ ไป แต่จวินอู๋เสียสามารถปกปิดมันไว้ได้ดีเกินไป เขายังค้นไม่พบเจตนาที่แท้จริงของจวินอู๋เสีย ตอนนี้เขาจึงยอมตามใจจวินอู๋เสียเพื่อกระตุ้นให้นางเคลื่อนไหว
แต่กู่อิ่งไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียวางแผนได้ละเอียดรอบคอบและพิถีพิถันเสมอ นางจะไม่ปล่อยให้กู่อิ่งมีเวลาค้นพบหรือตรวจจับสิ่งใดจากนางได้
จวินอู๋เสียเข้าไปในห้องทำงานของกู้หลีเซิงตามลำพัง กู่อิ่งมองไปรอบห้องก่อนปิดประตู และเมื่อเขาเห็นว่ามีกู้หลีเซิงอยู่ในนั้นเพียงคนเดียว เขาก็ยิ้มและบ่นพึมพำสองสามประโยคก่อนจะถอยออกจากห้อง
เมื่อประตูปิดลง รอยยิ้มแข็งทื่อบนใบหน้าของกู้หลีเซิงก็หายวับไปอย่างรวดเร็ว เขาก้าวเร็วๆ มาที่ประตูและแนบหูฟังเสียงอย่างตั้งใจอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากแน่ใจว่ากู่อิ่งไม่ได้พยายามแอบฟังพวกเขาอยู่ที่ประตู เขาก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก และสามารถส่งยิ้มอย่างจริงใจให้จวินอู๋เสียได้
“เจ้าคือจวินเสียอย่างนั้นหรือ” เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นในใจของนาง จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นนางก็เห็นเวินซินหันในชุดคลุมสีฟ้าเดินออกมาจากด้านหลังตู้หนังสือที่ปิดสนิท