ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 717 ความเจ็บปวด (1) ตอนที่ 718 ความเจ็บปวด (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 717 ความเจ็บปวด (1) ตอนที่ 718 ความเจ็บปวด (2)
ตอนที่ 717 ความเจ็บปวด (1) / ตอนที่ 718 ความเจ็บปวด (2)
ตอนที่ 717 ความเจ็บปวด (1)
จวินอู๋เสียนั่งอยู่ที่โต๊ะพักใหญ่ ความเงียบรอบตัวนางทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เจ้าแมวดำตัวน้อยกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนนางเพื่อให้ความอบอุ่นอย่างที่นางคุ้นเคย
ทันใดนั้น เสียงของแตกก็ดังขึ้นจากระยะไกล จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นทันที
“ท่านอยากไปดูใช่หรือไม่” เจ้าแมวดำตัวน้อยถามพร้อมกับยกอุ้งเท้าขึ้นตะปบไปที่แขนเสื้อของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียยืนขึ้นและเดินตรงไปยังห้องที่ให้กำเนิดเสียง
เมื่อจวินอู๋เสียมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของฟ่านจัว นางยืนอยู่เงียบๆ ครู่หนึ่ง ภายในห้องเงียบกริบ นางจึงผลักประตูเข้าไป มีกลิ่นโลหิตจางๆ ลอยโชยมา กู้หลีเซิงที่ยืนอยู่ในห้องหันหน้ากลับมามองนาง จากนั้นก็เบนสายตาหลบไป เขาไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้
จวินอู๋เสียเดินเข้าไปในห้องและมองไปยังภาพด้านหลังที่นางคุ้นเคย
ฟ่านจัวนั่งหันหลังให้จวินอู๋เสีย เขากำลังจับใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอาบน้ำยา
อาการของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะดีขึ้นมาก มันสามารถลืมตาได้แล้ว ดวงตาใสกระจ่างของมันมองมาที่จวินอู๋เสียครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองฟ่านจัวที่หันหลังให้จวินอู๋เสีย มันพยายามส่งเสียงร้องออกมาอย่างอ่อนแรง
“แบ๊ะ…”
“ให้เราอยู่ตามลำพังกันสักครู่เถิด” จวินอู๋เสียพูดเมื่อเห็นเศษกระเบื้องแตกอยู่บนพื้นตรงเท้าฟ่านจัว และรู้ว่านั่นต้องเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียงดังเมื่อครู่
กู้หลีเซิงพยักหน้าและออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูตามหลังอย่างระมัดระวัง
ภายในห้องเหลือเพียงจวินอู๋เสียและฟ่านจัวเท่านั้น
“พี่ใหญ่…เขาเป็นอะไรหรือไม่” เสียงของฟ่านจัวฟังไม่ต่างไปจากยามปกติ แต่เนื่องจากจวินอู๋เสียไม่เห็นสีหน้าของเขา จึงไม่รู้ว่าเขากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่
“ไม่ดีเลย” จวินอู๋เสียตอบ
แผ่นหลังของฟ่านจัวแข็งเกร็งขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“เจ้ารักษาเขาได้หรือไม่ ขนาดข้าเจ้ายังรักษาได้เลยนี่นา ใช่หรือไม่”
“ข้ายังไม่มีเวลาไปตรวจอาการเขาเลย” จวินอู๋เสียตอบตรงๆ แต่นางรู้สึกเจ็บเมื่อพูดถ้อยคำเหล่านั้นออกมา เหมือนกับว่านางไม่ควรพูดอย่างเย็นชาไร้ความรู้สึกแบบนั้น
“น้องเสีย”
“หือ”
“ข้าขอร้องเจ้า เจ้าต้องรักษาเขาให้ได้นะ” น้ำเสียงของฟ่านจัวฟังเหมือนกำลังข่มใจอย่างหนัก
“ได้สิ”
ฟ่านจัวไม่ขยับ เขายังคงหันหลังให้จวินอู๋เสียอยู่อย่างนั้น มือของเขาอุ้มร่างเล็กๆ ของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเอาไว้ ขณะที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยังคงแช่อยู่ในอ่างน้ำยา
“เจ้าบอกให้ข้าอยู่ดูแลใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่นี่ เพราะได้ข่าวก่อนที่จะไปใช่หรือไม่”
“ใช่”
“เจ้าไม่อยากให้ข้ารู้เรื่อง ก็เลยกลับไปเองคนเดียวเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นใช่หรือไม่”
“ใช่”
เสียงหัวเราะยาวนานดังออกมาจากปากของฟ่านจัว แต่ไม่มีความรื่นเริงอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความขมขื่นและสิ้นหวังเท่านั้น เสียงหัวเราะนั้นทำให้ผู้คนที่ได้ฟังรู้สึกปวดใจ
“อย่างนั้นทำไมเจ้าถึงมาบอกข้าตอนนี้เล่า”
จวินอู๋เสียเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดช้าๆ ว่า “มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ฟ่านจิ่นได้”
“อาจิ้งอยู่ที่ไหน”
“ชั้นสาม ห้องสอง” จวินอู๋เสียให้อาจิ้งกับกู้หลีเซิงอยู่ที่โรงเตี๊ยมเดียวกับฟ่านจัว “เจ้าจะไม่ถามหรือว่าฟ่านจิ่นอยู่ที่ไหน”
ฟ่านจัวส่ายหน้า
“ข้าไม่กล้าไปเจอหน้าเขา” เสียงของฟ่านจัวแหบแห้งฟังแทบไม่ได้ยินเหมือนฝืนเปล่งเสียงออกมา ทำให้คนฟังรู้สึกอึดอัดไปด้วย
จวินอู๋เสียไม่ตอบ นางเดินไปด้านหน้าฟ่านจัวโดยไม่พูดอะไร และได้เห็นสีหน้าของฟ่านจัวที่นางจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต!
ราวกับถูกล้อมรอบไปด้วยความมืด ไร้ซึ่งแสงสว่างและความสดใสโดยสิ้นเชิง ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวที่จะเข้าไปใกล้
จวินอู๋เสียปล่อยเจ้าแมวดำตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนของฟ่านจัว แล้วก้มตัวลงกอดฟ่านจัวแบบเก้ๆ กังๆ พร้อมกับกดศีรษะของฟ่านจัวลงมาที่ไหล่ผอมบางของนาง
“ร้องออกมาเถอะ”
โดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ ฟ่านจัวพยายามระงับความรู้สึก ซ่อนอารมณ์ของตัวเองเอาไว้…
แต่จวินอู๋เสียรู้สึกได้ว่าเสื้อบริเวณไหล่ของนางกำลังเปียกชุ่ม…
ตอนที่ 718 ความเจ็บปวด (2)
จวินอู๋เสียพาฟ่านจัวไปหาอาจิ้ง นางยืนอยู่นอกประตูโดยไม่เข้าไปข้างใน เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของอาจิ้งดังออกมาจากในห้อง นางก็หมุนตัวเดินไปยังอีกห้องหนึ่ง
เวินซินหันเปิดประตู และเมื่อเห็นจวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างนอก ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้ม เขาเพิ่งรู้ว่าแผนของจวินอู๋เสียไม่ได้แค่ช่วยเหลือฟ่านจิ่นเท่านั้น เมื่อเขาเห็นกู้หลีเซิงในโรงเตี๊ยม เขาก็รู้ว่าคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องวางแผนการได้ละเอียดซับซ้อนมากกว่าที่เขาคิด
ฟ่านจิ่นนั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียงภายในห้อง เขาไม่พูดและไม่ยอมนอน แค่นั่งอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ โดยไม่เคลื่อนไหว ความสกปรกถูกชำระล้างออกไปแล้ว เสื้อผ้าก็ถูกเปลี่ยนใหม่ มีคนหวีผมให้เขาด้วย ตอนนี้เขาค่อยดูใกล้เคียงอย่างที่เขาเคยเป็นขึ้นมาหน่อย
เพียงแต่ดวงตาคู่นั้นไร้ซึ่งชีวิตชีวาอย่างที่เคยเป็น
จวินอู๋เสียมายืนอยู่ข้างๆ ฟ่านจิ่นและจับมือเขาก่อนจะวางปลายนิ้วลงไปบนข้อมือ
อาการบาดเจ็บภายนอกของฟ่านจิ่นไม่ร้ายแรง แค่รักษาพยาบาลเล็กน้อยก็หาย แต่อาการที่ยากต่อการรักษามากที่สุดก็คือสมอง
ฝ่ามือทั้งสองของกู่อิ่งได้ทำร้ายสมองของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีแต่เปลือกอันว่างเปล่าไร้ซึ่งจิตใจ
จวินอู๋เสียตรวจอาการของฟ่านจิ่นอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะปล่อยมือเขาในที่สุด
“เป็นอย่างไรบ้าง” เวินซินหันถามขณะที่เฝ้าดูอยู่ที่ด้านข้าง
ตั้งแต่ที่เม็ดยาของจวินอู๋เสียช่วยรักษาชีวิตหลานชายของเขาได้อย่างปาฏิหาริย์ เขาก็เพิ่มความนับถือในตัวคุณหนูใหญ่จวินขึ้นอย่างมากมาย และไม่นานหลังจากที่เขาก้าวออกจากการเก็บตัว เขาก็ได้ข่าวการล่มสลายของสำนักชิงอวิ๋น เขาพบมู่เฉินตอนที่ไปถึงจวนหลินอ๋อง และได้รู้ว่าคำพูดที่จวินอู๋เสียพูดกับศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นด้านนอกประตูจวนหลินอ๋องในตอนนั้นไม่ใช่แค่คำขู่ นางทำตามคำพูดของนางทุกคำ!
สำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินถูกนางทำลายจนราบคาบ!
“เขายังรักษาได้อยู่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้” จวินอู๋เสียพูด
อาการบาดเจ็บของฟ่านจิ่นรุนแรงมาก ต้องใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน และตอนนี้นางไม่มีเวลาเพียงพอ
เรื่องที่สำนักศึกษาเฟิงหัวยังไม่จบ ถ้านางล้มเลิกตอนนี้ หนิงรุ่ยก็จะได้ผลประโยชน์ไปเพียงคนเดียว
จวินอู๋เสียมองฟ่านจิ่น และไม่สนใจว่าตอนนี้เขาจะเข้าใจนางหรือไม่ นางพูดกับฟ่านจิ่นว่า “ตอนที่ข้าเข้าเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัว ข้าโชคดีที่มีเจ้าคอยปกป้อง หนี้แค้นของเจ้ากับบิดาของเจ้า ข้าจะเรียกคืนให้เอง!”
เวินซินหันที่เฝ้าดูอยู่รู้สึกซาบซึ้งมาก
“ท่านคิดจะทำอย่างไรต่อไป” เวินซินหันคิดว่าจวินอู๋เสียแค่จะช่วยชีวิตฟ่านจิ่นเท่านั้น แต่เมื่อได้ฟังคำพูดของนาง เขาก็รู้ว่าเรื่องยังไม่จบ
“ข้าคงต้องรบกวนผู้อาวุโสเวินให้คอยดูแลฟ่านจิ่นไปอีกสักระยะ ข้ามีเม็ดยาอยู่ อยากจะขอให้ท่านป้อนให้เขาวันละสามครั้งด้วย” ขณะที่พูด จวินอู๋เสียก็วางขวดยาลงบนโต๊ะ และอธิบายผลของเม็ดยาและปริมาณเม็ดยาที่ต้องใช้อย่างละเอียดก่อนจะออกจากห้องไป
จวินอู๋เสียพบฟ่านจัวยืนอยู่ข้างนอกห้อง ใบหน้าของเขาขาวซีดปราศจากสีเลือด ปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อยพยายามจะยิ้มอย่างขมขื่นและเยาะหยันตัวเอง
เขาไม่รู้ว่ายืนอยู่ด้านนอกประตูนั้นนานเท่าไร แต่ฟ่านจัวไม่มีความกล้าที่จะเปิดประตูเข้าไป
เขาไม่รู้ว่าเขาจะไปพบหน้าฟ่านจิ่นได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะฟ่านฉีคิดจะปกป้องเขา ฟ่านฉีก็คงไม่บอกทุกคนว่าเขาเป็นบุตรชายแท้ๆ และหนิงรุ่ยก็คงไม่สามารถโยนความผิดข้อหาวางแผนยึดตำแหน่งอาจารย์ใหญ่และฆาตกรรมฟ่านฉีให้แก่ฟ่านจิ่นได้
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ฟ่านจัวรู้สึกว่าเขาเป็นหนี้สกุลฟ่านมากมายเหลือเกิน
“ข้ารักษาเขาได้” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับมองฟ่านจัว
ฟ่านจัวยิ้มอย่างขมขื่น
“ข้าขอรบกวนเจ้าด้วย”
จวินอู๋เสียนิ่งเงียบ นางไม่รู้ว่าจะปลอบฟ่านจัวอย่างไรดี และนางไม่มีคำพูดที่เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะเดินจากไป เยี่ยซาก็พลันปรากฏตัวขึ้น
“รายงานคุณหนูใหญ่ หนิงรุ่ยกำลังวางแผนเคลื่อนขบวนศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทุกคนไปที่ผาสุดขอบฟ้าในอีกสามวันขอรับ!”