ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 805 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (2) ตอนที่ 806 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 805 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (2) ตอนที่ 806 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (3)
ตอนที่ 805 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (2) / ตอนที่ 806 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (3)
ตอนที่ 805 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (2)
เมื่อจวินอู๋เสียและสหายมาถึงหน้าประตูตำหนักรัชทายาท เหลยเชินก็ได้ยืนรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว การที่องค์รัชทายาทออกมายืนต้อนรับแขกถึงที่หน้าประตูนั้น เป็นการแสดงถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างมาก
เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะอาหาร เหลยเชินก็ยิ้มและพูดว่า “เป็นเกียรติยิ่งนักที่พวกเจ้ามาที่นี่ ข้าขอดื่มให้กับพวกเจ้าทุกคน” พูดจบเหลยเชินก็ยกถ้วยขึ้นดื่มทันที
หลังจากนั้นเขาก็นั่งลงและหันไปมองจวินอู๋เสียอย่างลุแก่โทษ
“ข้าคิดว่าเหตุผลที่น้องจวินมาที่นี่วันนี้ น่าจะเพราะข่าวลือที่กำลังแพร่กระจายอยู่ในเมืองหลวงใช่หรือไม่” เหลยเชินไม่ได้โง่ เขารู้ว่าจวินอู๋เสียกับสหายของนางจะไม่มาที่นี่โดยไม่มีเหตุผล
ศึกประลองภูติวิญญาณรอบที่สามเพิ่งจบลงวันนี้ และจวินเสียก็เจอกับคู่ต่อสู้ที่สละสิทธิ์ถึงสามครั้ง ถูกตราหน้าว่าเป็นคนประจบประแจงจอมเจ้าเล่ห์ สำหรับคนที่มีนิสัยเย็นชาและพึ่งพาตนเองอย่างจวินเสีย ไม่มีทางที่เขาจะยินดีกับเรื่องนี้
“ถูกต้อง” จวินอู๋เสียตอบแบบไร้ความรู้สึก
เหลยเชินยิ้มอย่างขมขื่นและตอบว่า “ข้าต้องบอกว่าข้าตัดสินใจผิดพลาดไปจริงๆ ในเรื่องนี้ ตอนแรกข้าตั้งใจว่าจะให้น้องจวินได้ขึ้นอันดับไปแบบง่ายๆ สักหน่อย แต่ข้ากลับนำความเดือดร้อนมาให้น้องจวินแทนเสียนี่”
เหลยเชินได้เข้าหาศิษย์ที่จะสู้กับจวินอู๋เสียเป็นการส่วนตัวจริงๆ เขาจับตามองสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณของสำนักศึกษาเฟิงหัวมานานแล้ว และย่อมเคยได้ยินเรื่องของศิษย์สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณมามาก จากข้อมูลที่เขาได้มา ศิษย์ในสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณมักจะไม่ค่อยได้บ่มเพาะพลังวิญญาณเท่าไรนัก พวกเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการขัดเกลาทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ ถึงแม้สำนักศึกษาเฟิงหัวจะทำได้เกินกว่าที่คาดเอาไว้ แต่จวินอู๋เสียยังเด็กมากและยังเป็นศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ นอกจากนั้นเหลยเชินยังได้เข้าหาผู้เยาว์หลายคนที่เคยอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวและสอบถามพวกเขาเกี่ยวกับจวินอู๋เสีย
คนพวกนั้นบอกเขาว่าตั้งแต่ที่จวินอู๋เสียได้เข้าไปเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัว ไม่มีใครเคยเห็นเขาบ่มเพาะพลังวิญญาณเลย แต่เขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับการปรับปรุงพัฒนาทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ และจากข้อมูลพวกนั้นเหลยเชินจึงคิดเอาเองว่าระดับพลังวิญญาณของจวินอู๋เสียน่าจะแค่ธรรมดาๆ เท่านั้น
ในตอนแรก เหลยเชินไม่ได้ตั้งใจจะเข้าหาคนพวกนั้นหรอก เนื่องจากคู่ต่อสู้ในรอบแรกของจวินอู๋เสียคือศิษย์จากสำนักศึกษาพิชิตมังกร เขาเพิ่งทำให้สำนักศึกษาพิชิตมังกรต้องขายหน้าไปเมื่อเร็วๆ นี้ จึงคิดว่าต่อให้เขาเข้าไปหาเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ ด้วยสถานะของสำนักศึกษาพิชิตมังกร พวกเขาคงไม่สนใจสิ่งใดเป็นแน่
แต่ไม่คาดคิดว่าสำนักศึกษาพิชิตมังกรเลือกที่จะสละสิทธิ์ในวันประลองด้วยตัวเอง เหลยเชินยินดีและประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างกะทันหันนั้น
เหลยเชินไม่รู้ว่าทำไมหลินฉีแห่งสำนักศึกษาพิชิตมังกรจึงสละสิทธิ์ในการประลองกับจวินอู๋เสีย แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เริ่มต้นขึ้นเช่นนั้น มันจึงเป็นเหตุเป็นผลที่ทำให้เขาลงมือทำเรื่องต่อมา เขาได้บอกจวินอู๋เสียกับสหายไว้แล้วว่าเขาจะช่วยเหลือพวกเขาสักเล็กน้อย และสำนักศึกษาพิชิตมังกรก็บังเอิญให้โอกาสนั้นมา เขาไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ควรสานต่อ
ดังนั้นเขาจึงไปพบกับคู่ต่อสู้ในรอบที่สองและสามของจวินอู๋เสีย ใช้เงินและคำสัญญาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนให้พวกเขาสละสิทธิ์การประลอง
อย่างไรเสียการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้จากสำนักศึกษาที่ทำผลงานได้ดีในการประลองนั้น พวกเขามีโอกาสน้อยนิดที่จะได้รับชัยชนะ ในเมื่อไม่มั่นใจว่าจะชนะ พวกเขาจึงเลือกยอมรับข้อเสนอของเหลยเชินซึ่งมีผลประโยชน์ต่อพวกเขามากกว่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นตามที่เหลยเชินคิดว่ามันควรจะเป็น แต่วันนี้ผู้เยาว์คนหนึ่งกลับปรากฏตัวขึ้นบนถนนด้วยอาการบาดเจ็บ และข่าวลือก็แพร่กระจายไปทั่วทันที แถมยังลากเอาเหลยเชินเข้าไปคลุกน้ำโคลนด้วย
“ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย” จวินอู๋เสียพูดพลางมองเหลยเชินที่มีทีท่าสำนึกผิด
แต่เหลยเชินกลับส่ายหน้า “เป็นความผิดของข้าที่ทำให้น้องจวินต้องติดร่างแหไปด้วย ไม่ใช่ว่าข้าสงสัยในพลังของน้องจวินหรอกนะ แต่ข้าแค่อยากช่วย น้องจวินอย่าตำหนิข้าเลยนะ”
จวินอู๋เสียรินสุราใส่จอกอย่างช้าๆ และด้วยการบิดข้อมือเพียงครั้งเดียว นางก็ส่งมันไปอยู่ตรงหน้าของเหลยเชิน
ตอนที่ 806 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (3)
“ดื่ม แล้วข้าจะไม่ตำหนิท่าน” เสียงเย็นชาเล็กน้อยของจวินอู๋เสียดังขึ้นเบาๆ
เหลยเชินสะดุ้ง เนื่องจากเขาไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะพูดเช่นนั้นและลืมไปสิ้นว่าตนเองคือองค์ชาย แต่เหลยเชินตกใจอยู่แค่ครู่เดียวเท่านั้น เขาก็ยิ้มกว้างและรับจอกสุราที่จวินอู๋เสียส่งให้เขาขึ้นดื่มอย่างรวดเร็ว และคว่ำถ้วยลงเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีสุราเหลืออยู่แม้แต่หยดเดียว
“ข้าจะยึดตามคำพูดของน้องจวิน ในเมื่อข้าดื่มสุราหมดจอกแล้ว ก็หมายความว่าน้องจวินจะไม่ตำหนิข้าอีกต่อไป”
“แน่นอน” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับเบนสายตาที่มีแววตาแปลกๆ ไปทางอื่น
หลังจากได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสีย เหลยเชินก็โล่งอกได้ในที่สุด อารมณ์ของเขาดีขึ้นมาก เขาพูดคุยและดื่มกินกับจวินอู๋เสียและสหายอย่างมีความสุข สุราชั้นยอดถูกยกมาที่โต๊ะไหแล้วไหเล่าก่อนจะเกลี้ยงฉาดไปอย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปจนถึงกลางดึก เหลยเชินก็นั่งมึนเมาตัวเอียงอยู่ที่โต๊ะ
จวินอู๋เสียและคนอื่นๆ เมาพับหมดสติ ฟุบลงกับโต๊ะไปแล้วเรียบร้อย
เหลยเชินยืนขึ้นอย่างโงนเงน เขาส่ายศีรษะเพื่อไล่อาการมึนงง
“ทหาร! พาแขกของเราไปส่ง…” เหลยเชินอยากจะส่งจวินอู๋เสียกับสหายของนางกลับไปที่โรงเตี๊ยมตำหนักเซียน แต่หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็เปลี่ยนใจและพูดว่า “จัดห้องรับรองให้พวกเขาพักผ่อนที่เรือนฝั่งทิศตะวันตก”
แม้ว่าจะมึนหัวแต่เหลยเชินก็ยังไม่ลืมที่จะคว้าโอกาสเอาชนะใจจวินอู๋เสีย
สำหรับองค์รัชทายาทในตอนนี้ เหล่าผู้เยาว์จากสำนักศึกษาเฟิงหัวสำคัญยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น
ทหารจากตำหนักรัชทายาทปฏิบัติตามคำสั่ง พวกเขาช่วยพยุงศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวไปยังห้องรับรองเพื่อนอนหลับพักผ่อน ขณะที่เหลยเชินเองก็ยอมแพ้ต่อฤทธิ์สุราและถูกข้ารับใช้ช่วยพยุงตัวไปที่ห้องบรรทมของเขา
ตำหนักรัชทายาทตกสู่ความเงียบ ภายใต้ความเงียบยามค่ำคืน จวินอู๋เสียที่น่าจะหลับฝันหวานอยู่ก็พลันลืมตาขึ้น ดวงตาเย็นชาคู่นั้นใสกระจ่าง ไม่มีร่องรอยของความมึนเมาแม้แต่น้อย
จวินอู๋เสียลุกขึ้นนั่งและก้าวเท้าลงบนพื้น เจ้าแมวดำตัวน้อยก็กระโจนขึ้นบนไหล่ของนางอย่างเงียบเชียบ ในขณะที่จวินอู๋เสียผลักประตูเปิดออกและก้าวเท้าออกไปข้างนอกอย่างช้าๆ
เรือนฝั่งทิศตะวันตกของตำหนักรัชทายาทถูกใช้สำหรับรับรองแขกที่พักค้างคืนโดยเฉพาะ และเพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของแขกที่มาพัก ทหารรักษาการณ์จะยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าทางเข้าเท่านั้น
ภายในความมืดมิดได้ปรากฏร่างคนหลายคนขึ้นที่ลานอันเงียบสงัด
“โอสถวิเศษของน้องเสียนี่ได้ผลดีจริงๆ ทั้งที่ดื่มไปมากขนาดนั้น แต่ข้ายังไม่รู้สึกเมาเลย” เฉียวฉู่พูดขึ้นพร้อมกับเดินมาหาจวินอู๋เสีย นอกจากกลิ่นสุรารุนแรงที่ออกมาจากร่างของเขาแล้ว ใบหน้าของเขาดูไม่เมาเลยสักนิดราวกับว่าเขาไม่ได้ดื่มสุราเลยแม้แต่หยดเดียว
ฮวาเหยาและคนอื่นๆ ยืนอยู่รอบๆ จวินอู๋เสียแล้ว ก่อนที่จะเริ่มกินเลี้ยงกัน พวกเขาทุกคนได้กินโอสถล้างพิษสุราที่จวินอู๋เสียปรุงขึ้น จึงไม่มีใครรู้สึกเมามายจากสุราชั้นยอดที่เหลยเชินนำมาให้ดื่มอย่างต่อเนื่องเลยสักนิด ต่อให้พวกเขาดื่มต่ออีกหลายจอก พวกเขาก็จะรู้สึกอย่างที่พวกเขากำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้
“ทุกคนรู้แล้วใช่หรือไม่ว่าห้องบรรทมของเหลยเชินอยู่ที่ไหน” ฟ่านจัวถามขณะจัดแจงอาภรณ์ให้เรียบร้อย การใช้ชีวิตอยู่กับโอสถมายาวนานหลายปี ทำให้ฟ่านจัวไม่ได้แตะต้องสุราเลยสักหยด ถึงแม้เขาจะไม่เมาหลังจากดื่มในค่ำคืนนี้ แต่กลิ่นสุราอันรุนแรงที่ลอยออกมาจากร่างกายก็ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัวเท่าไรนัก
จวินอู๋เสียพยักหน้าและวางเจ้าแมวดำตัวน้อยลงบนพื้น เจ้าแมวดำตัวน้อยเหยียดร่างทันทีที่อุ้งเท้าแตะพื้นดิน ไม่นานนักมันก็กระโจนออกไปข้างนอกอย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว
กลางดึกในช่วงเวลาที่ผู้คนหลับลึกมากที่สุด ทหารรักษาการณ์สองคนที่ทางเข้าเรือนฝั่งทิศตะวันตกกำลังพยายามอย่างหนักที่จะบังคับให้ตัวเองตื่นอยู่