ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 809 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (2) ตอนที่ 810 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 809 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (2) ตอนที่ 810 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (3)
ตอนที่ 809 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (2) / ตอนที่ 810 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (3)
ตอนที่ 809 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (2)
เฉียวฉู่และคนอื่นๆ มองเหลยเชินอย่างสงสัย ถ้าไม่ใช่เพราะสีหน้าไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิงของเหลยเชินและดวงตาที่ไม่จับจ้องสิ่งใดของเขา พวกเขาคงคิดว่าเหลยเชินตั้งใจที่จะไม่พูดความจริงกับพวกเขา
“นี่มันอะไรกันเนี่ย แผนที่ไม่ได้อยู่ที่เหลยเชินหรือ เขาพูดความจริงหรือเปล่า” เฉียวฉู่หันไปถามจวินอู๋เสียทันที
จวินอู๋เสียเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เขาพูดความจริง”
ก่อนหน้านี้นางรู้สึกว่าปฏิกิริยาของเหลยเชินค่อนข้างแปลก เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้รับการฝึกใดๆ มา ซึ่งหมายความว่าเขาไม่น่าจะต่อต้านโอสถสะกดใจได้ แต่พอนางถามเขาถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสามโลกชั้นกลาง เขากลับแสดงอาการดิ้นรนออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผ่านการฝึกพิเศษมาและคำถามนั้นสำคัญมากต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การสะกดจิต แต่ก็มีอีกกรณีหนึ่งที่อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ขึ้นได้…
ถ้าคนที่ถูกถามไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับคำถามนั้นอยู่เลย หรือเขาไม่เคยได้ยินมันมาก่อน สมองของผู้ที่ถูกสะกดจิตก็จะสับสนอย่างหนักจนไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้
จวินอู๋เสียคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนี้นางแน่ใจแล้ว
แผนที่นั้นไม่เคยอยู่ที่เหลยเชิน!
“มิน่าเล่า ครั้งที่แล้วเสี่ยวเฮยถึงไม่พบคนจากสามโลกชั้นกลางในตำหนักรัชทายาทเลย” จวินอู๋เสียพึมพำกับตัวเองเสียงเบา
“ท่านมีสำเนาแผนที่อีกหรือไม่”
เหลยเชินตอบว่า “นั่นเป็นแผนที่ฉบับเดียวที่ข้ามี ข้ากลัวว่าจะถูกพบเข้าก็เลยไม่ได้คัดลอกเอาไว้”
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง “ท่านได้แผนที่ฉบับนั้นมาอย่างไร” ถึงแม้แผนที่จะไม่ได้อยู่ภายใต้การครอบครองของเหลยเชิน แต่พวกเขาก็ได้ข้อมูลมาว่าแผนที่นั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน และถ้านั่นเป็นความจริง การจะชิงแผนที่นั้นมาย่อมยากยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาคิดว่ามันอยู่กับเหลยเชินมาก
ในฐานะผู้ปกครองแห่งรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุด ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนย่อมไม่ขาดแคลนยอดฝีมืออันแข็งแกร่งและมีความสามารถสูงอยู่ข้างกาย นี่ไม่ใช่อะไรที่อดีตฮ่องเต้โง่ๆ แห่งรัฐชีอันเล็กจ้อยจะเทียบได้
เหลยเชินตอบอย่างไม่เร่งรีบ นัยน์ตาเขาไม่ขยับเคลื่อนไหวเลยตลอดเวลาที่พูด “วันนั้นข้าไปคารวะเสด็จแม่และน้องสี่ก็อยู่ที่ตำหนักของเสด็จแม่ด้วย ข้าไม่อยากพบเขาเลยเลี่ยงเสีย คิดว่าจะเข้าไปหลังจากที่เขากลับไปแล้ว เพราะอย่างนั้นข้าเลยเตร็ดเตร่แบบไร้จุดหมายอยู่ในวังหลวง และบังเอิญไปเห็นองครักษ์ที่เสด็จพ่อไว้วางพระทัยกำลังส่งจดหมายให้ทหารนายหนึ่งจากมุมที่ซ่อนอยู่ ถึงข้าจะไม่ได้ยินว่าพวกเขาพูดอะไรกัน แต่ข้าก็เห็นว่าพวกเขาสบตากันอย่างมีพิรุธ ข้าเลยแอบตามทหารนายนั้นออกไปนอกวังหลวงและสังหารเขาโดยไม่ให้มีใครรู้เพื่อยึดเอาจดหมายจากมือเขามา แผนที่ฉบับนั้นคือสิ่งที่ข้าพบในจดหมายนั่น”
น้ำเสียงของเหลยเชินราบเรียบ แต่สิ่งที่เขาพูดได้เปิดเผยเรื่องใหญ่เข้าแล้ว
“ไหนว่าองค์ชายสี่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหลยเชินไม่ใช่หรือ แล้วทำไม…เหลยเชินถึงไม่อยากเจอหน้าเขาเล่า” เฟยเยียนลูบคางพลางวิเคราะห์สิ่งที่ได้ยิน คำพูดของเหลยเชินได้เปิดเผยปัญหาอื่นขึ้นมาอีกสองประเด็น หนึ่งคือความสัมพันธ์ระหว่างเหลยเชินกับองค์ชายสี่ที่ไม่ได้เป็นมิตรกันอย่างที่คนภายนอกคิดว่าเป็น และอย่างที่สองนั้นน่าสนใจมากกว่า…เหลยเชินกังวลกับสิ่งที่ฮ่องเต้ทำมากจนถึงกับทำการฆาตกรรมเพื่อชิงเอาจดหมายนั่น สำหรับองค์รัชทายาทที่ตำแหน่งดูไม่น่าจะสั่นคลอนได้ ทั้งการกระทำและวิธีการของเหลยเชินนั้นค่อนข้างแปลกประหลาดและไม่น่าเชื่อ
“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าตำแหน่งของเหลยเชินในฐานะองค์รัชทายาท มันแตกต่างจากที่ข้าคิดเอาไว้เล่า” หรงรั่วถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
จวินอู๋เสียมองเหลยเชิน สิ่งที่เหลยเชินพูดได้เปิดเผยเรื่องที่น่าตกใจ และจวินอู๋เสียต้องทบทวนการคาดเดาที่ตัวเองได้คิดเอาไว้ในใจอีกครั้ง
“ในจดหมายฉบับนั้น นอกจากแผนที่แล้วมีอะไรอย่างอื่นอีกหรือไม่”
“ไม่มี”
“ทำไมท่านถึงส่งคนไปที่ผาสุดขอบฟ้า”
“ข้าอยากรู้ว่าเสด็จพ่อกำลังค้นหาอะไรที่นั่น”
ตอนที่ 810 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (3)
เหลยเชินตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ของโอสถวิเศษ จึงพูดทุกสิ่งที่เขารู้ออกมาอย่างละเอียดตามคำถามของจวินอู๋เสีย บอกทุกอย่างที่เขาสามารถบอกได้ จากสิ่งที่นางรวบรวมได้จากคำตอบของเหลยเชิน จวินอู๋เสียสามารถสรุปได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่แผนที่ต้นฉบับจะอยู่ในความครอบครองของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน
“เรื่องนี้ชักจะยากมากขึ้นทุกทีแล้วนะ ถ้าแผนที่อยู่กับฮ่องเต้ มันก็ยากมากเลยหากเราจะไปเข้าเฝ้า” ฟ่านจัวพูดพร้อมกับมองจวินอู๋เสีย “ตอนนี้เรื่องเป็นแบบนี้แล้ว เราคงไม่สามารถแยกตัวออกจากเหลยเชินได้ชั่วคราว”
จวินอู๋เสียพยักหน้า “เราจะมีโอกาสเข้าเฝ้าฮ่องเต้ได้ผ่านทางเหลยเชินเท่านั้น”
ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนไม่ค่อยสบายในช่วงหลายปีมานี้ และแทบจะไม่ได้ออกจากวังหลวงเลย ถ้าไม่มีเหลยเชิน หนทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถเข้าเฝ้าฮ่องเต้ได้ก็คงเป็นการบุกเข้าวังหลวง แต่พวกเขายังไม่เข้าใจสถานการณ์ภายในวังหลวงดีนัก การบุกเข้าไปแบบส่งเดชอาจจะทำให้พวกเขาถูกยอดฝีมือที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้โจมตีเอาได้
ถ้าหากไม่มั่นใจว่าพวกเขาจะทำได้สำเร็จ จวินอู๋เสียจะไม่มีวันเลือกเดินทางนั้น
“เรายังใช้ประโยชน์จากเหลยเชินได้อยู่ แต่ตอนนี้เหลยเชินกลายเป็นเป้าหมายของใครบางคน และถ้าเรายังข้องเกี่ยวกับเขาต่อไป ชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัวก็อาจจะ…” เสียงของฮวาเหยาขาดหายไป เขามองฟ่านจัวอย่างมีความหมาย
“ข้าเชื่อว่าต่อให้ชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัวถูกใส่ร้ายเหมือนอย่างในตอนนี้ แต่วันหนึ่งทุกอย่างจะกระจ่างออกมาเอง ยิ่งกว่านั้นต่อให้มีคนจงใจทำให้สำนักศึกษาเฟิงหัวเสื่อมเสียแล้วอย่างไร ตราบเท่าที่เราชนะศึกประลองภูติวิญญาณในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่ ทุกคนก็ทำได้แค่หุบปากเงียบเท่านั้น” ฟ่านจัวรู้ว่าฮวาเหยากังวลเรื่องความห่วงใยของเขาที่มีต่อฟ่านจิ่น ดังนั้นเขาจึงตอบคำถามฮวาเหยาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนโดยไม่แสดงความกังวลใดๆ
“ไม่จำเป็น” จวินอู๋เสียขัดขึ้นมา
ทุกคนหันไปมองนางทันที
“น้องเสีย เจ้าบอกว่าไม่จำเป็นหรือ” ฟ่านจัวถาม สายตาเต็มไปด้วยความสับสนงุนงง
จวินอู๋เสียมองเหลยเชินอย่างใคร่ครวญแล้วถามทุกคนว่า “พวกเจ้าคิดว่าเราจะสามารถชิงแผนที่จากฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนได้อย่างง่ายปานนั้นเชียวหรือ”
คำถามของจวินอู๋เสียที่โยนใส่พวกเขาทำให้ทุกคนนั่งอึ้งไปชั่วขณะ
นอกจากแผนที่ที่ฟ่านจัวให้พวกเขามา ก่อนที่พวกเขาจะได้แผนที่อีกสองส่วนมา พวกเขาก็ต้องผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดกับผู้ที่ครอบครองแผนที่ วังหลวงนั้นไม่อาจเปรียบได้กับตำหนักรัชทายาท เนื่องจากมันไม่อนุญาตให้พวกเขาเดินไปมาได้ตามใจชอบเหมือนตำหนักรัชทายาท
“ถ้าแผนที่หายไป สิบสองตำหนักจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ แน่” จวินอู๋เสียพูดนิ่งๆ สำหรับคนอย่างเคอฉังจวีและหนิงรุ่ยนั้น แผนที่พวกนั้นเป็นเหมือนโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นอันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วย ถ้าแผนที่ที่ถูกส่งมอบให้กับพวกเขาหายไป จินตนาการได้เลยว่าคนจากสิบสองตำหนักจะโกรธมากขนาดไหน!
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองหรือการปกป้องชีวิตของตัวเองก็ตาม ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนย่อมปกป้องแผนที่นั้นด้วยทุกสิ่งที่เขามีอย่างแน่นอน
และถ้าจวินอู๋เสียกับสหายของนางอยากจะชิงเอาแผนที่นั้นมาจากฮ่องเต้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมากขนาดไหน
สายตาของจวินอู๋เสียกวาดผ่านใบหน้าของเหลยเชิน ถ้านางสามารถผลักดันให้มั่วเฉี่ยนยวนขึ้นครองบัลลังก์ได้ นางก็ไม่รังเกียจที่จะทำเช่นนั้นอีกครั้งกับเหลยเชิน แต่ก่อนหน้านั้น นางจำเป็นต้องรู้สถานการณ์ภายในรัฐเหยียนให้มากขึ้นก่อน
โดยผิวเผินแล้วตำแหน่งของเหลยเชินอาจจะดูมั่นคง แต่จากการที่มีคนจงใจเล่นงานเขา และจากที่เหลยเชินพูดออกมาเองในการซักถามด้วยโอสถวิเศษ ก็ชัดเจนแล้วว่าตำแหน่งรัชทายาทนั้นสั่นคลอนมากกว่าที่ดูเหมือนจะเป็น
เมื่อรู้สึกได้ถึงท่าทางที่ตัดสินใจไม่ได้ของจวินอู๋เสีย เฉียวฉู่ก็กลืนน้ำลายเสียงดังพร้อมกับถามอย่างระวังว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรหรือน้องเสีย” ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อเห็นสีหน้าเช่นนั้นของจวินอู๋เสียก็ทำให้เขารู้สึกอย่างรุนแรงว่าบางสิ่งที่น่ากลัวกำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
แต่จวินอู๋เสียกลับส่ายศีรษะ นางประเมินเวลาที่ผ่านไปก่อนจะลงความเห็นว่าฤทธิ์โอสถจะหมดลงในอีกไม่นาน พวกเขาไม่สามารถคุยกันต่อได้แล้วในวันนี้
“กลับก่อนเถอะ”