ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 81 ไข่มุกเสริมพลัง (2)ตอนที่ 82 ไข่มุกเสริมพลัง (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 81 ไข่มุกเสริมพลัง (2)ตอนที่ 82 ไข่มุกเสริมพลัง (3)
ตอนที่ 81 ไข่มุกเสริมพลัง (2)
เจ้าดอกบัวขาวรีบอธิบายวิธีการฝึกฝนของภูติวิญญาณให้จวินอู๋เสียทราบทันที
เดิมทีภูติวิญญาณอาศัยอยู่ในโลกภูติวิญญาณ เมื่อมนุษย์เกิด เหล่าภูติวิญญาณจะรับรู้และถูกซ่อนอยู่ในจิตวิญญาณของมนุษย์ตั้งแต่กำเนิด จนกว่ามนุษย์จะทำพิธีปลุกภูติวิญญาณเมื่ออายุครบสิบสี่ปี ภูติวิญญาณจึงจะสามารถเข้ามาในโลกนี้ได้อย่างแท้จริง
ในโลกภูติวิญญาณ ภูติวิญญาณสามารถฝึกฝนพลังและเติบโตได้ที่นั่น แต่เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ พวกเขาจะสามารถเติบโตได้ก็ต่อเมื่ออาศัยพลังวิญญาณที่บ่มเพาะผ่านร่างกายของมนุษย์เท่านั้น
สามารถกล่าวได้ว่าหลังจากที่ภูติวิญญาณถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากจิตวิญญาณของมนุษย์ ความเร็วในการฝึกฝนพลังของพวกมันจะช้าลงมาก
ไข่มุกเสริมพลัง เป็นสิ่งของในโลกภูติวิญญาณ มันไม่มีพลังใดๆ ในตัวเอง แต่มีประโยชน์พิเศษหนึ่งอย่าง นั่นคือพลังแห่งการชำระล้างให้บริสุทธิ์
ในสภาพแวดล้อมที่มนุษย์อาศัยอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่มีพลังที่ภูติวิญญาณสามารถฝึกฝนได้ เพียงแต่พลังนั้นผสมปนเปไปกับสิ่งเจือปนมากมาย มันจึงยากที่จะสกัดและดูดซับมันออกมา
แต่เมื่อมีไข่มุกเสริมพลัง สถานการณ์นี้จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไข่มุกเสริมพลังสามารถชำระล้างพลังที่ขุ่นมัวเหล่านั้นและดูดซับพลังในส่วนที่ภูติวิญญาณสามารถฝึกฝนได้ออกมาโดยตรง ด้วยวิธีนี้ ภูติวิญญาณจึงสามารถบ่มเพาะพลังได้เองโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเจ้านายที่เป็นมนุษย์
“เครื่องกรอง” จวินอู๋เสียแตะคางของตัวเอง สิ่งนี้ฟังดูลึกลับ แต่เมื่อได้ใช้งานจริงๆ ผลลัพธ์มันกลับดีมาก
คุณค่าทาง ‘ยา’ ของเจ้าดอกบัวขาวนั้นสูงมาก แต่แรงโจมตีนั้นก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากเช่นเดียวกัน หากสามารถฝึกฝนพลังได้เองผ่านไข่มุกเสริมพลังได้ ก็ยากที่จะคาดเดาได้ว่ามันจะเติบโตไปไกลแค่ไหนในอนาคต
“มันคือของล้ำค่า” เจ้าดอกบัวขาวถือไข่มุกเสริมพลังไว้ในมือและยิ้มอย่างมีความสุข
แม้ว่ามันจะเจ็บปวดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่สนถ้าจะต้องเจ็บปวดนานกว่านี้เพื่อแลกกับสิ่งล้ำค่าชิ้นนี้!
“เช่นนั้นเจ้าก็เก็บมันไว้ ส่วนวิธีการฝึกฝน เจ้าต้องคิดหาวิธีเอง” จวินอู๋เสียพยักหน้า ประวัติที่มาของจวินอู๋เย่านั้นลึกลับ วิธีลงมือของเขาก็โหดร้าย แม้แต่สิ่งที่เขาเอาออกมาเกลี้ยกล่อมเจ้าดอกบัวขาวยังมีค่าเยี่ยงนี้
แม้ว่านางจะไม่เข้าใจโลกภูติวิญญาณ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าดอกบัวขาว นางก็ไม่เคยรู้จักสิ่งนี้มาก่อน แต่จวินอู๋เย่ากลับโยนมันให้เจ้าดอกบัวขาวง่ายๆ เช่นนี้
ถ้าเป็นศัตรูกับคนแบบนี้ มันคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก แต่ถ้าเป็นสหาย…
จวินอู๋เสียขมวดคิ้ว เป็นเรื่องยากสำหรับนางเช่นกันที่จะเชื่อมโยงจวินอู๋เย่ากับคำว่าสหายรวมเข้าด้วยกัน
คำว่าสหายในอดีตและชีวิตปัจจุบันของนาง ใช้ได้กับคนเพียงคนเดียวเท่านั้น
“เจ้าโง่นั่น” จวินอู๋เสียกำหมัดแน่น เดิมทีนางเป็นสัตวแพทย์ในเมืองA แต่กลับถูกองค์กรลึกลับค้นพบความสามารถ นางจึงเข้าไปอยู่ในองค์กรนั้นโดยถือใบอนุญาตสัตวแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้คน นางจำได้ในวันนั้น องค์กรถูกโจมตีโดยกลุ่มศัตรูและมีศัตรูจำนวนมากบุกเข้ามา ร่างนั้นยืนหยัดอยู่ต่อหน้านาง ปกป้องนางและรับทุกอย่างแทนนาง
แขนขาเล็กๆ ของเธอจะไปทำอะไรได้ รีบไป อย่าเป็นตัวถ่วง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหญิงสาวยังคงชัดเจนในความทรงจำของตัวเอง แต่คนคนนั้นได้…
จวินอู๋เสียนวดบริเวณขมับของตัวเอง น้อยครั้งที่นางจะคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้ว นางเย็นชามาโดยตลอด แม้แต่ญาติทางสายเลือดของนาง นางก็ยังกล้าลงมือ นางมองว่าชีวิตและความตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่มีเพียงคนเดียวที่ปกป้องนางด้วยชีวิต ทำให้นางไม่อาจลืมได้
เหตุผลที่นางเกลียดกลิ่นคาวเลือดมากก็เป็นเพราะในวันนั้น ดอกไม้สีเลือดที่เบ่งบานบนหน้าอกของคนคนนั้นทำให้นางแสบตามาก และกลิ่นที่คุ้นเคยนั้นก็ทำให้นางรู้สึกถึงความเจ็บปวดเป็นครั้งแรก
“มันไม่คุ้มที่จะช่วยชีวิตคนอย่างข้า” จวินอู๋เสียหลับตาลง ท้ายที่สุดแล้วนางก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากเงาแห่งความตายไปได้ หากคนคนนั้นไม่สนใจนางแต่แรก บางทีอีกฝ่ายอาจจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้ด้วยความสามารถของเธอเอง
ช่างเป็นคนที่โง่เขลาจริงๆ
……………
ตอนที่ 82 ไข่มุกเสริมพลัง (3)
เมื่อมีไข่มุกเสริมพลัง เจ้าดอกบัวขาวก็สามารถฝึกฝนพลังในโลกฝั่งนี้ได้ ที่มาของการบ่มเพาะพลังของภูติวิญญาณประเภทพฤกษานั้นมาจากต้นไม้ เพื่อไม่ให้เจ้าดอกบัวขาวเปิดเผยตัวตนออกมา จวินอู๋เสียจึงสั่งให้คนนำกระถางดอกไม้จำนวนมากมาวางไว้ที่เรือนของนาง
เจ้าดอกบัวขาวถือไข่มุกเสริมพลังไว้ แล้วกระโดดลงไปในอ่างบัวที่อยู่ในห้องทันที กลายเป็นดอกบัวขาวที่สวยงามท่ามกลางดอกบัวสีชมพูมากมาย
ภูติวิญญาณประเภทพฤกษานั้นช่างเลี้ยงง่ายจริงๆ แค่หาที่ปลูกก็พอแล้ว!
เจ้าดอกบัวขาวต้องฝึกฝน จึงไม่สามารถอยู่ข้างจวินอู๋เสียตลอดเวลาได้ จวินอู๋เสียไม่สนใจเรื่องนี้ นางกำลังจดจ่ออยู่กับเมล็ดบัวที่อยู่ในอ่างบัว
ใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืน ยอดสุราธาราหยกที่เต็มอ่างก็หายไปกว่าครึ่ง เหลือเพียงแค่น้ำตื้นๆ และเงาในอ่างจะเห็นว่ามียอดสีเขียวกำลังแตกหน่อออกมาจากเมล็ดบัว
ความเร็วนี้…มันจะเร็วเกินไปหน่อยหรือไม่
แม้ว่าจวินอู๋เสียจะสะสมพลังได้เล็กน้อย แต่ยอดสุราธาราหยกนี้ก็หมดเร็วเกินไปแล้ว ด้วยอัตราความเร็วนี้ ไม่ถึงสองวันสุราหนึ่งไหของนางจะต้องหมดลงอย่างแน่นอน
เสียงเคาะประตูดังขึ้น จวินอู๋เสียจึงกล่าวออกไปว่า “เข้ามา”
ทว่าหลังจากรอเป็นเวลานาน ด้านนอกประตูก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ นางจึงลุกขึ้นไปเปิดประตู ด้านนอกไม่มีแม้แต่เงาคน มีเพียงไหสุราที่สวยงามวางอยู่หน้าประตู
จวินอู๋เสียยกไหสุราขึ้นมาและเปิดฝา ทันใดนั้นกลิ่นหอมของสุราก็อบอวลไปทั่วทั้งห้อง กลบกลิ่นหอมของยอดสุราธาราหยกไปจนสิ้น
กลิ่นหอมนี้ เข้มข้นกว่ายอดสุราธาราหยกเสียอีก
“…” จวินอู๋เสียใช้ปลายนิ้วเท้าคิด ก็รู้ว่าใครเป็นคนวางสิ่งนี้ไว้ที่นี่
จวินอู๋เสียถือไหสุราแล้วเดินออกจากห้อง ณ มุมมืดด้านนอก จวินอู๋เย่ากำลังมองตามแผ่นหลังของจวินอู๋เสียที่ค่อยๆ จากไปด้วยรอยยิ้ม
ในห้องหนังสือ จวินชิงกำลังเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษโดยมีหลงฉียืนอยู่ข้างเขา
จวินอู๋เสียเดินเข้ามา บนใบหน้าของจวินชิงก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“อู๋เสีย”
“ท่านอาเล็กสุรานี้ข้าให้ท่าน” จวินอู๋เสียวางสุราลงบนโต๊ะ
“ยอดสุราธาราหยกรึ” จวินชิงกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม เขารู้ว่าจวินอู๋เสียได้รับสุราชั้นเลิศมาจากมั่วเฉี่ยนยวน
“ไม่ใช่”
“ข้าดื่มสุราได้หรือ” จวินชิงก็ไม่ถามอะไรมาก
“ดื่มไม่กี่จอกได้ สุรานี้ไม่เลวเลย” จวินอู๋เสียไม่ชอบดื่มสุรา ยอดสุราธาราหยกก็แค่ใช้เพื่อปลูกดอกไม้เท่านั้น
แม้ว่าสุรานี้จะดี แต่ก็ไม่สามารถปลูกดอกบัวได้ สำหรับนาง มันจึงไร้ประโยชน์
“ถ้าเยี่ยงนั้นก็ขอบใจเจ้ามาก” จวินชิงกล่าว
จวินอู๋เสียพยักหน้าและเดินออกจากห้องหนังสือ หลงฉีโค้งคำนับอย่างเคารพและมองตามหลังจวินอู๋เสียออกไป
ร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านนอกมองดูการ ‘ยืมดอกไม้ถวายพระ’ ของจวินอู๋เสียอย่างเงียบๆ บนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หากเขาไม่เห็นจวินอู๋เสียเทยอดสุราธาราหยกลงในอ่างดอกบัว เขาคงจะเสียใจจริงๆ
เด็กน้อยไม่ดื่มสุรา แต่ปลูกเมล็ดบัวด้วยสุรานั่น ช่างน่าสนใจจริงๆ
ถ้าเอาไว้ปลูกดอกไม้ ก็แล้วแต่นางเถิด
ใครบางคนไม่สนใจเรื่องที่จวินอู๋เสียยกสุราที่ดีกว่ายอดสุราธาราหยกให้คนอื่น แต่คำว่า ‘สุรานี้ไม่เลวเลย’ กลับทำให้ใครบางคนมีความสุขอย่างมาก
เมื่อเทียบกับยอดสุราธาราหยกที่ใช้ปลูกดอกไม้แล้ว เห็นได้ชัดว่าสุราที่ยกให้คนอื่นมันมีระดับมากกว่ามิใช่หรือ
สองวันต่อมา จวินอู๋เสียก็ได้รับเชิญจากองค์รัชทายาทให้เข้าวังอีกครั้ง และนางก็นำยอดสุราธาราหยกหนึ่งไหกลับมาอีกครั้ง
ยอดสุราธาราหยกที่เป็นสมบัติหวงแหนขององค์รัชทายาท ถูกมอบให้กับจวินอู๋เสียอย่างต่อเนื่องเหมือนแจกฟรี หลังจากนั้นทุกครั้งที่จวินอู๋เสียไปที่ตำหนักหลินยวน ก่อนจากไป นางจะถือยอดสุราธาราหยกหนึ่งไหออกมาด้วยเสมอ
เพราะเรื่องนี้ ทุกคนในเมืองหลวงจึงจับคู่จวินอู๋เสียกับมั่วเฉี่ยนยวน
เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์มาก ผู้คนที่รอชมเรื่องตลกก็มากขึ้นตาม มั่วเซวี่ยนเฝ่ยถูกมั่วเฉี่ยนยวนต่อว่าในงานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์รัชทายาท เขาครุ่นคิดและจดจำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด และเมื่อจวินอู๋เสียมาที่ตำหนักหลินยวนอีกครั้ง เขาจึงได้พาไป๋อวิ๋นเซียนเดินเข้าตำหนักหลินยวนไปอย่างเปิดเผย
……………..