ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 85 ผู้มาเยือนที่มีเจตนาร้าย (3)ฝตอนที่ 86 ผู้มาเยือนที่มีเจตนาร้าย (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 85 ผู้มาเยือนที่มีเจตนาร้าย (3)ฝตอนที่ 86 ผู้มาเยือนที่มีเจตนาร้าย (4)
ตอนที่ 85 ผู้มาเยือนที่มีเจตนาร้าย (3)
ทว่าบัดนี้หลังจากดวงวิญญาณของร่างนี้ถูกสับเปลี่ยนไป จวินอู๋เสียก็ไม่เคยเห็นมั่วเซวี่ยนเฝ่ยอยู่ในสายตาของนางอีกเลย คนทั้งคนถูกเมินเฉยมองข้ามอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่พอใจเป็นอย่างมาก
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยคิดว่าหลังจากที่เขาทอดทิ้งจวินอู๋เสียไปแล้วและเริ่มสร้างความสัมพันธ์มีรักใหม่ ต่อให้จวินอู๋เสียจะร้องไห้ฟูมฟาย ทุรนทุรายพยายามแขวนคอฆ่าตัวตายเพื่อข่มขู่เขา เขาก็จะไม่แยแสสักนิด อย่างไรก็ตามใครจะไปรู้เล่าว่านางกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่หนักข้อยิ่งไปกว่านั้นคือนางถึงขั้นปฏิบัติต่อเขาราวกับว่าเขาเป็นอากาศธาตุ แถมยังเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์พัวพันกับองค์รัชทายาทอีก!
นี่มันแตกต่างจากที่เขาคิดไว้โดยสิ้นเชิง!
เขาเป็นฝ่ายทอดทิ้งจวินอู๋เสียนะ นางก็ควรจะผิดหวังช้ำรักอย่างถึงที่สุดสิ ไฉนนางยังดูสงบนิ่งได้ถึงเพียงนี้
คำพูดของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยทำให้ดวงตาของมั่วเฉี่ยนยวนเกิดประกายอำมหิตเย็นชา
“ข้าจะเลือกคบใครมันก็เป็นสิทธิ์ของข้า คงไม่รบกวนให้น้องรองต้องเป็นกังวล”
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยจ้องมองจวินอู๋เสียด้วยหางตาของเขาอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่านางไม่แม้แต่จะตอบสนองใดๆ หัวใจของเขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก พูดย้อนไปอย่างอุกอาจว่า “เสด็จพี่เข้าพระทัยผิดแล้ว ข้าเป็นห่วงท่านจริงๆ ในฐานะที่ทรงเป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งรัฐชี สตรีที่ท่านจะเลือกขึ้นมาเป็นพระชายารัชทายาทนั้น อย่างต่ำก็ต้องมีความสามารถพอที่จะขึ้นเป็นมารดาของแผ่นดินในอนาคตได้ด้วย สตรีบางคนอาจจะรูปโฉมงดงามโดดเด่น แต่อุปนิสัยนั้น…ในความเป็นจริงแล้วทั้งชั่วช้าและโง่เขลา เสด็จพี่ยังไม่รู้จักนางลึกซึ้งดีพอ ข้าจึงเป็นห่วงกลัวว่าท่านจะถูกปิดหูปิดตา”
มั่วเฉี่ยนยวนไม่สบอารมณ์อย่างมาก ตั้งแต่เมื่อไรกันที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยมีสิทธิ์เข้ามายุ่มย่ามชี้โน่นชี้นี่ตำหนิเขา ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากพูดออกไป ฉับพลันนั้นเองก็พบว่าจวินอู๋เสียที่นั่งก้มศีรษะมาโดยตลอดจู่ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมามอง
สายตาเย็นชาแกมเย้ยหยันจ้องตรงไปยังมั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่เพิ่งกล่าววาจาดูถูกนางเป็นนัยๆ
“ช่างน่าละอายจริงๆ ทำเช่นนี้สนุกมากหรือ” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็เอ่ยขึ้น ดวงตาสงบไร้ระลอกคลื่นปรายตามองไปทางมั่วเซวี่ยนเฝ่ยและไป๋อวิ๋นเซียน วนเวียนอยู่แค่ระหว่างสองคนนั้น
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยถลึงตาจ้องใส่จวินอู๋เสียอย่างโกรธเกรี้ยว
จวินอู๋เสียเบี่ยงสายตาไปทางเม็ดยาน้ำค้างหยก
เหมียว
ตอนนั้นเองที่เจ้าแมวดำก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนโต๊ะ พวงหางหนานุ่มของมันกวาดไปโดนขวดกระเบื้องโดยไม่ได้ตั้งใจ
ขวดกระเบื้องที่บรรจุยาตกลงพื้นแล้วเสียงขวดแตกก็ดังขึ้นทันที เม็ดยาสีขาวราวกับหยกหลายเม็ดกลิ้งไปบนพื้นพรม
“จวินอู๋เสีย! ดูสิว่าเจ้าทำเรื่องบ้าอะไรลงไป!” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยระงับอารมณ์โกรธไว้ไม่อยู่ เขาตะคอกใส่หน้าจวินอู๋เสียโดยตรง เม็ดยาของไป๋อวิ๋นเซียนถูกทำลายอย่างเสียเปล่าไปทั้งแบบนี้!
จวินอู๋เสียไม่แม้แต่จะปรายตามองเขาสักนิด นางจ้องแต่เจ้าแมวดำตัวน้อยที่กระโดดลงมาบนพื้นพรม เดินนวยนาดเข้าหาเม็ดยาน้ำค้างหยกก่อนจะก้มหน้าลงแล้วดมกลิ่นมันช้าๆ ทว่าในวินาทีต่อมาจวินอู๋เสียก็อุ้มมันกลับเข้าไปในอ้อมกอดของนาง
“อย่ากิน สกปรก”
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ใบหน้าของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำทันที ไป๋อวิ๋นเซียนเองก็ไม่ต่างกันนัก
นางกล้ากล่าวว่ายาที่ไป๋อวิ๋นเซียนหลอมขึ้นมานั้นสกปรก!
ใบหน้าของไป๋อวิ๋นเซียนมืดสนิท นางรู้ว่าจวินอู๋เสียเป็นใคร ทั้งยังทราบถึงความสัมพันธ์ที่มีก่อนหน้านี้ระหว่างมั่วเซวี่ยนเฝ่ยและจวินอู๋เสียอีกด้วย…ก็แค่ผู้หญิงหน้าไม่อายที่เอาแต่วิ่งไล่ตามมั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่ใช่หรือ นางถึงกับกล้าพูดจาแบบนี้ต่อหน้าข้า!
ไม่ทันให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยได้เอ่ยบางอย่างออกไป ไป๋อวิ๋นเซียนก็ยกมือของนางขึ้นมาหยุดเขาเอาไว้
“คุณหนูใหญ่จวิน” ไป๋อวิ๋นเซียนเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ น้ำเสียงเย็นชาของนางทั้งไม่พอใจและเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งทะนงตน
จวินอู๋เสียไม่สนใจนาง ยังคงวุ่นอยู่กับการลูบขนนุ่มๆ ของเจ้าแมวดำตัวน้อย
“แม้ว่าเม็ดยาน้ำค้างหยกนี้จะไม่ใช่เม็ดยาล้ำค่าอะไร แต่ก็ยังหาได้ยากมากเช่นกัน และตอนนี้คุณหนูจวินก็ได้ทำลายยาขององค์รัชทายาทไปแล้ว ไม่คิดบ้างหรือว่านี่ออกจะเป็นการกระทำที่หยาบคายเกินไปสักหน่อย” ไป๋อวิ๋นเซียนยิ่งมองจวินอู๋เสียมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตามากขึ้นเท่านั้น เป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องแล้วอย่างไรเล่า ต่อหน้าศิษย์สำนักชิงอวิ๋นอย่างนางอีกฝ่ายไม่นับว่าเป็นตัวอะไรทั้งนั้น!
นางอาศัยอะไรมาวางตัวหยิ่งยโส ทำกิริยาเช่นนี้ต่อหน้านาง!
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น มองไปทางไป๋อวิ๋นเซียนที่แต่งหน้าอย่างประณีตด้วยแววตาเย็นชาและว่างเปล่า “หาได้ยากหรือ” นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็ปรายตามองเม็ดยาน้ำค้างหยกอย่างไม่แยแสสักเท่าไหร่นัก คลับคล้ายกับว่าการที่ไป๋อวิ๋นเซียนให้ความสำคัญกับเม็ดยาน้ำค้างหยกเสียเต็มประดา เป็นเรื่องที่น่าขันเล็กน้อยสำหรับนาง
ท่าทางเช่นนี้ของนางคืออะไรกัน! ไป๋อวิ๋นเซียนขมวดคิ้วแน่น
…………
ตอนที่ 86 ผู้มาเยือนที่มีเจตนาร้าย (4)
“จวินอู๋เสีย หากเจ้าไม่เข้าใจก็อย่าได้เสนอหน้าออกมาทำให้ตัวเองต้องอับอายเช่นนี้! เม็ดยาน้ำค้างหยกพวกนี้คือโอสถลับของสำนักชิงอวิ๋น มีผู้คนเท่าไหร่ที่ใฝ่ฝันอยากจะได้มันมาครอบครองแต่ก็ไม่สามารถทำได้!” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยกล่าวขึ้นอย่างอดไม่อยู่ ท่าทางไม่แยแสของจวินอู๋เสียในวันนี้นั้นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก วิธีการพูดจาของเขาจึงฟังดูยุ่งเหยิงเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะทิ้งนางไปแล้ว แต่นางก็ควรจะชื่นชมเขาในใจต่อไปเงียบๆ สิ มองข้ามเพิกเฉยใส่เขาแบบนี้มันหมายความว่าอย่างไรกัน!
การถูกคนที่เคยเทิดทูนตัวเอง รักใคร่หลงใหลตัวเองจนแทบเป็นบ้าเป็นหลังมองเมินใส่ กระทั่งทำราวกับเขาเป็นอากาศธาตุ มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็รู้สึกทั้งหงุดหงิดทั้งฉุนเฉียว ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
“ใฝ่ฝันอยากจะได้มันมาครอบครองแต่ก็ไม่สามารถทำได้หรือ” จวินอู๋เสียมองคู่บุรุษสตรีสุนัขตรงหน้าที่กำลังดิ้นเร่าๆ ด้วยแววตานิ่งสงบ
ประโยคนี้ช่างฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน คลับคล้ายว่าเมื่อครั้งตอนที่พวกเขาอยู่ในเมืองผี คนพวกนี้ก็พูดประโยคในทำนองที่ว่า ‘อยากได้เม็ดยาฉีอวิ๋นมาไว้ในมือ แต่ก็ไม่สามารถไขว่คว้าได้’ ออกมาเหมือนกัน
แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ถูกผู้อื่นปฏิเสธไปอย่างไม่ไยดี
เหมียว เจ้าแมวดำเล็กที่นอนขดอย่างสบายในอ้อมแขนของจวินอู๋เสียจ้องไปยังคู่รักน่ารังเกียจนั่นด้วยสายตาดูถูก
ช่างน่าอับอายขายขี้หน้าจริงๆ กับแค่เม็ดยาระดับนี้ยังพูดยกราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าหายาก ทั้งที่ในความเป็นจริงเจ้านายข้าเพียงสะบัดมือลวกๆ ยังหลอมเม็ดยาคุณภาพสูงกว่านี้ขึ้นมาได้ไม่รู้กี่ตั้งกี่เท่าเลย คำก็สูตรลับของท่านเจ้าสำนัก เหอะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีแพศยาอย่างเจ้า!
ไป๋อวิ๋นเซียนเคยถูกคนดูหมิ่นเหยียดหยามเช่นนี้เสียที่ไหน และยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเป็นแค่คุณหนูใหญ่ของจวนอ๋องเล็กๆ คนหนึ่งที่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะถือรองเท้าให้นางด้วยซ้ำ!
“คุณหนูใหญ่จวินนี่คือกำลังดูถูกเม็ดยาของข้ารึ แต่ว่าเม็ดยานี้ข้ามิได้มอบให้กับเจ้า เจ้าทำลายโอสถขององค์รัชทายาทเช่นนี้ เกรงว่าคงจะไม่เหมาะสมเท่าไรกระมัง” ไป๋อวิ๋นเซียนเหลือบมองมั่วเฉี่ยนยวนอย่างเย่อหยิ่ง สีหน้าฉายความภาคภูมิใจเด่นชัด จริงอยู่ที่ว่าในรัฐนี้แห่งนี้จวนหลินอ๋องอาจทรงอำนาจมาก แต่เมื่อเทียบกับสำนักชิงอวิ๋นแล้ว พวกเขาก็เปรียบเสมือนฝูงมดเล็กกระจ้อยร่อย หากมั่วเฉี่ยนยวนไม่ใช่คนโง่ เขาก็ควรรู้ว่าตัวเองต้องกล่าวเช่นไรออกมา
แน่นอนว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดนักหากจะสร้างความขุ่นเคืองใจให้แก่ลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเพียงเพื่อจวิ๋นอู๋เสียแค่คนเดียว นี่มันได้ไม่คุ้มเสียเลย
มั่วเฉี่ยนยวนปรายตามองสลับไปมาระหว่างไป๋อวิ๋นเซียนและจวินอู๋เสีย
สิ่งที่ไป๋อวิ๋นเซียนคิดนั้นถูกต้องแล้ว หากผู้ใดมีสมองย่อมรู้ว่าสมควรจะเลือกฝ่ายไหนระหว่างสองคนนี้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือมั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่เลือกข้างไป๋อวิ๋นเซียน
อย่างไรก็ตาม…
มั่วเฉี่ยนยวนเหยียดมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน “สิ่งของของข้าก็คือของของอู๋เสียด้วยเหมือนกัน นางอยากจะทำอะไรกับมันข้าย่อมไม่ถือสา” จากนั้นเขาก็มองไปยังจวินอู๋เสียด้วยแววตาอบอุ่นเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่อย่างไร้ขอบเขต
สำนักชิงอวิ๋นแล้วจะอย่างไรเล่า
ในเมื่อไป๋อวิ๋นเซียนไปเข้าพรรคเข้าพวกกับมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแล้ว เรื่องที่ทั้งสองสนิทสนมกันมากเป็นความจริงที่รู้กันโดยทั่ว ต่อให้เขาเลือกเข้าข้างไป๋อวิ๋นเซียนในครั้งนี้ แต่แล้วเขาจะได้อะไรตอบแทนกัน
มั่วเฉี่ยนยวนไม่ใช่คนโง่แน่นอน เขารู้ดีว่าจวินอู๋เสียต่างหากที่เป็นมิตรแท้ของเขา ให้ความช่วยเหลือเขาอย่างแท้จริง!
เมื่อมั่วเฉี่ยนยวนแสดงเจตนาอยู่ข้างเดียวกันกับจวินอู๋เสีย ร่องรอยของความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋อวิ๋นเซียนอย่างระงับไม่อยู่
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยลอบกัดฟันอย่างลับๆ เขาไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียไปทำท่าไหนถึงได้ยั่วยวนมั่วเฉี่ยนยวนจนเขาติดกับหลงใหลนางได้ถึงเพียงนี้ พวกเขาเพิ่งจะพบหน้ากันได้กี่ครั้งเชียว หากจะกล่าวว่านี่เป็นรักแรกพบ เช่นนั้นมันก็ควรเกิดขึ้นทันทีหลังจากพวกเขาพบหน้ากันครั้งแรกสิ ทว่ายามที่จวินอู๋เสียพบกับมั่วเฉี่ยนยวนที่งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพเมื่อครั้งก่อน ในตอนนั้นนางยังแสดงออกอย่างชัดเจนว่าลุ่มหลงรักใคร่ในตัวเขา มิใช่ไอ้องค์รัชทายาทนี่! คำนวณดูเวลาที่ทั้งสองคนเริ่มสนิทชิดเชื้อพูดคุยกัน มันก็เพิ่งผ่านมาได้ไม่นานเอง แต่มั่วเฉี่ยนยวนกลับหลงใหลในตัวจวินอู๋เสียถึงขั้นนี้แล้ว
ครั้งแรกเขายอมมอบยอดสุราธาราหยกให้กับจวินอู๋เสีย และตอนนี้เขายังกล้าขัดใจไป๋อวิ๋นเซียนโดยตรงเพื่อปกป้องจวินอู๋เสียอีก
มั่วเฉี่ยนยวนน้ำเข้าสมองแล้วหรืออย่างไรถึงได้เลือกข้างนางโจรจวินอู๋เสียนี่ เขาไม่กลัวว่าตัวเองจะทำให้สำนักชิงอวิ๋นขุ่นเคืองใจเลยหรือ
“มันก็แค่เม็ดยามิใช่หรือ” จวินอู๋เสียพูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่ร้อนไม่เย็น นางรู้สึกว่าไป๋อวิ๋นเซียนนั้นช่างน่าขันยิ่งนัก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มองว่าก้อนหินก้อนหนึ่งเป็นสมบัติล้ำค่า แถมยังชอบเอะอะโวยวายทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่อีก
“ก็แค่เม็ดยาอย่างนั้นรึ เจ้าพูดได้ง่ายดายนัก รู้หรือไม่ว่ากว่าอวิ๋นเซียนจะหลอมยาพวกนี้ขึ้นมาได้นั้นนางต้องใช้เวลาและความพยายามมากเพียงใด เจ้าปล่อยปละละเลยตามใจแมวของเจ้าจนมันวิ่งไปชนขวดยาของอวิ๋นเซียนตกแตกและไม่รับผิดชอบยังไม่ว่า เสด็จพี่ยังหลับหูหลับตาเข้าข้างคนผิดไม่เอาโทษอีก อย่างไรก็ตามสำหรับเจ้าข้าจะไม่ถือสาหาความใดๆ เพราะเสด็จพี่ได้ออกปากตรัสขึ้นมาแล้ว แต่เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่อย่างไรก็ต้องลงโทษมันให้ได้” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยหัวเราะอย่างเย็นชา สายตาที่มั่วเฉี่ยนยวนใช้มองจวินอู๋เสียมันช่างขัดตาเขาเสียเหลือเกิน ความเฉยเมยไม่แยแสบนใบหน้าของจวินอู๋เสียยิ่งทำให้เขาแทบคลั่ง
……………..