ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 87 ก็แค่เม็ดยา (1)ตอนที่ 88 ก็แค่เม็ดยา (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 87 ก็แค่เม็ดยา (1)ตอนที่ 88 ก็แค่เม็ดยา (2)
ตอนที่ 87 ก็แค่เม็ดยา (1)
“โอ้” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“อวิ๋นเซียนเป็นแขกผู้ทรงเกียรติและสำคัญยิ่งสำหรับรัฐชีของพวกเรา การที่เจ้าสัตว์เดรัจฉานตัวนั้นกล้าแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อหน้านางถือเป็นเรื่องเลวร้ายอย่างยิ่ง และการเก็บมันไว้ข้างกายของจวินอู๋เสียต่อก็รังแต่จะนำพาความหายนะมาให้ ดังนั้นแล้ววันนี้เจ้าจะต้องฆ่ามันซะ ทางหนึ่งก็เพื่อแสดงความขอโทษต่อสำนักชิงอวิ๋น อีกทางเพื่อป้องกันไม่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกในอนาคต!” นัยน์ตาของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยวาบขึ้นเล็กน้อยในขณะที่ริมฝีปากแสยะยิ้มขึ้นอย่างมาดร้าย เขาทำอะไรจวินอู๋เสียต่อหน้าองค์รัชทายาทไม่ได้ก็จริง แต่ใช่ว่าจะจัดการกับผู้ก่อปัญหาอย่างเจ้าแมวดำนั่นไม่ได้เลย
เขาดูออกว่าจวินอู๋เสียหวงแหนเจ้าแมวดำตัวเล็กนี้อย่างมาก และตอนนี้สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดก็คือการฉีกกระชากสีหน้าอันเรียบเฉยและนิ่งสงบของนางออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ต่อให้มั่วเฉี่ยนยวนสามารถปกป้องจวินอู๋เสียได้แล้วอย่างไร แต่เขาไม่มีทางคุ้มกะลาหัวเจ้าแมวดำตัวนั้นได้แน่ หากเขาเลือกที่จะช่วยเหลือทั้งคู่ นั่นก็เท่ากับว่าเขาเลือกที่จะตบหน้าสำนักชิงอวิ๋น!
แต่เดิมเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก เป็นเพียงเรื่องขี้ปะติ๋วเท่านั้น ทว่ามั่วเซวี่ยนเฝ่ยกลับยกชื่อสำนักชิงอวิ๋นขึ้นมาอ้างซ้ำแล้วซ้ำเล่า เห็นได้ชัดว่าต้องการกดดันให้มั่วเฉี่ยนยวนตกที่นั่งลำบาก
มั่วเฉี่ยนยวนหรี่ตาลง ประกายโทสะปรากฏให้เห็นในดวงตาเรียวคมคู่นั้น
จวินอู๋เสียอุ้มเจ้าแมวดำขึ้นมากอดไว้ในอ้อมแขน สายตาชำเลืองมองมั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่กำลังพูดพล่ามไปเรื่อยอย่างเฉยเมย
ดวงตาของเจ้าแมวดำตัวน้อยหรี่ลง พลังวิญญาณที่ลอยปนอยู่ในอากาศกระเพื่อมขึ้นอย่างช้าๆ ท่ามกลางความเงียบประหนึ่งเค้าลางก่อนเกิดหายนะบางอย่าง จวินอู๋เสียหลังจากจับสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ก็รีบกดมือของตนลงไปบนหลังคอของเจ้าแมวดำทันที นางลูบมันอย่างช้าๆ พยายามปลอบให้มันสงบลง
“ก็แค่ของเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากพวกเจ้าให้ความสำคัญกับมันมากจริงๆ ข้าชดใช้คืนให้ก็ได้” จู่ๆ จวินอู่เสียก็พูดโพล่งขึ้นมา
“ชดใช้รึ เจ้าจะเอาอะไรมาชดใช้ไม่ทราบ เม็ดยาน้ำค้างหยกพวกนี้ไม่ใช่ของที่หาซื้อได้ด้วยเงินตามท้องตลาดหรอกนะ หากเจ้าไม่รู้เรื่องจริงๆ ก็อย่าได้มาพูดจาอวดฉลาดแถวนี้” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยกล่าวอย่างดูถูก
สีหน้าของไป๋อวิ๋นเซียนเองก็ดูน่าเกลียดไม่น้อย เมื่อไหร่กันที่เม็ดยาน้ำค้างหยกของนางกลายเป็นเพียง ‘ของเล็กน้อย’ ในสายตาของผู้อื่น คุณหนูใหญ่จวนหลินอ๋องผู้นี้ไม่รู้ว่าควรจะนิยามนางว่ายโสโอหังดีหรือว่าโง่เขลาเบาปัญญาดี
แม้ว่าเม็ดยาน้ำค้างหยกจะไม่ล้ำค่าเท่ากับเม็ดยาฉีอวิ๋นที่หลอมขึ้นโดยท่านอาจารย์ของนาง แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถหาซื้อได้โดยง่าย เนื่องจากมันเป็นโอสถที่ปรุงขึ้นจากตำรับลับของสำนักชิงอวิ๋น จึงไม่มีที่ใดในโลกแล้วนอกจากสำนักชิงอวิ๋นที่หลอมกลั่นและวางขายพวกมัน ยิ่งไปกว่านั้นขนาดลูกศิษย์ทั่วไปของสำนักยังเข้าถึงมันได้ไม่ง่ายเลย เช่นนี้แล้วจวินอู๋เสียจะเอาปัญญาที่ไหนมาชดใช้คืนนาง!
จวินอู๋เสียไม่ได้สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย นางเพียงอุ้มเจ้าแมวดำแล้วยืนขึ้น ก่อนจะหันไปสอบถามมั่วเฉี่ยนยวนว่า “ที่นี่มีห้องปรุงยาหรือไม่”
มั่วเฉี่ยนยวนผงะไปครู่หนึ่ง ยังคาดเดาไม่ออกว่าจวินอู๋เสียต้องการจะทำอะไรกันแน่ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบขี้หน้าไป๋อวิ๋นเซียน แต่เขาก็รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของสำนักชิงอวิ๋นดี จึงรีบกล่าวไปว่า “อู๋เสีย เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนบังคับตัวเอง ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้พวกเขาแตะต้องเจ้าได้แน่ๆ”
“สรุปแล้วคือมีหรือไม่เล่า” จวินอู๋ซีถามซ้ำคำเดิม นางเมินเฉยต่อความหวังดีของเขาอย่างสิ้นเชิง
มั่วเฉี่ยนยวนถอนหายใจเล็กน้อยอย่างจนใจ โบกมือเรียกให้นางกำนัลประจำตำหนักคนหนึ่งเข้ามา
หลังจากที่เสด็จแม่ทรงสิ้นพระชนม์ไปด้วยโรคร้าย สุขภาพของเขาก็เสื่อมโทรมลงทุกวัน ในปีแรกๆ ฮ่องเต้ยังแสดงความใส่พระทัยต่อสุขภาพของเขาด้วยการเรียกหมอฝีมือดีทั้งหมดมารักษาให้กับเขา ในช่วงเวลานั้น เนื่องจากร่างกายของเขาอ่อนแอมากเกินไป จึงไม่มีโอกาสก้าวออกนอกตำหนักบ่อยนัก และเพื่อให้เขาสามารถ ‘ฟื้นจากอาการเจ็บป่วยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น’ ฮ่องเต้จึงมีพระประสงค์ให้สร้างห้องปรุงยาขึ้นในตำหนักหลินยวนของเขาโดยเฉพาะ
ในตอนแรก ไม่อาจไม่กล่าวว่าการกระทำของเสด็จพ่อของเขาสร้างความประทับใจต่อมั่วเฉี่ยนยวนเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าเสด็จพ่อทรงต้องการให้เขาหายป่วยโดยเร็วจริงๆ ทว่าภายหลังจากที่ค้นพบเจตนาที่แท้จริงของพระองค์ เขาก็ไล่หมอทั้งหมดออกไปและทำลายโอสถที่ถูกหลอมขึ้นมาเพื่อเขาทั้งหมด
“ให้เขานำทางเจ้าไปที่นั่น หากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมแค่บอกเขาให้ทราบ อย่างไรก็ตามห้องนั้นไม่ได้ถูกเปิดใช้งานมาเป็นเวลานานมากแล้ว ข้าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเตาหลอมโอสถจะยังใช้งานได้ดีอยู่หรือเปล่า” มั่วเฉี่ยนยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงยอมจำนน
จวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อยให้กับเขาและเดินตามหลังนางกำนัลผู้นั้นออกไป
มั่วเฉี่ยนยวนมองตามแผ่นหลังของจวินอู๋เสียจนลับสายตา มือที่อยู่ใต้ชายเสื้อลอบกำหมัดแน่น
…………..
ตอนที่ 88 ก็แค่เม็ดยา (2)
“เสด็จพี่ไยต้องกังวลพระทัยถึงเพียงนั้น” มองดูใบหน้าที่ซีดขาวของมั่วเฉี่ยนยวน มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็ยกมุมปากของเขาขึ้นพลางยิ้มหยัน
“นิสัยของจวินอู๋เสียก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ท่านไม่รู้หรือว่านางไม่เคยรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเลย เม็ดยาของสำนักชิงอวิ๋นจะถูกหลอมเลียนแบบขึ้นมาอย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน หากข้าจำไม่ผิด จวินอู๋เสียนั้นไม่เคยศึกษาวิชาด้านการหลอมโอสถใดๆ มาก่อนเลยกระมัง เหตุผลเดียวที่นางทำเรื่องเช่นนี้ในวันนี้ก็เพราะพยายามเอาหน้าต่อหน้าเสด็จพี่แค่นั้นเอง”
นึกถึงยามที่จวินอู๋เสียหันหน้ากลับมาถามถึงตำแหน่งที่ตั้งของห้องปรุงยา มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็แทบอยากจะปล่อยเสียงหัวเราะออกไปดังๆ ด้วยความขบขัน ถึงเขาจะไม่ชอบนาง แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่พวกเขาสองคนเคยหมั้นหมายกันมาก่อนเพราะแรงกดดันจากทางจวนหลินอ๋อง อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างนี้มีหนึ่งหรือสองสิ่งที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวของจวินอู๋เสีย นั่นคืออุปนิสัยที่ย่ำแย่อย่างถึงที่สุดของนางและความไร้สามารถนั่นเอง
อาจกล่าวได้ว่าจวินอู๋เสียเป็นสตรีที่มีดีแค่รูปโฉมงดงามเท่านั้น หากนางไม่โชคดีเกิดมาในจวนหลินอ๋อง ด้วยอารมณ์และนิสัยที่หยิ่งยโสต่ำช้าของนาง เกรงว่าคงตายซ้ำไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว!
หลอมเม็ดยาอย่างนั้นหรือ ช่างตลกสิ้นดี!
ผู้ใดไม่รู้บ้างว่าคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องนั้นทำเป็นแค่อย่างเดียวคือสร้างปัญหา นอกเหนือจากนั้นนางก็ไม่รู้เรื่องอะไรอีก
แล้ววันนี้นางยังจะมีหน้ามาพูดว่าต้องการหลอมเม็ดยาขึ้นเองเพื่อชดใช้ให้กับไป๋อวิ๋นเซียน นี่นางยังทำตัวเองขายหน้าไม่พออีกหรือไร
จากมุมมองของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยแล้ว นี่สิถึงจะสมกับเป็นการกระทำของสตรีที่มีชื่อว่า ‘จวินอู๋เสีย’ คุณหนูใหญ่ผู้โง่เขลาและหยิ่งผยองคนนี้เกลียดที่สุดคือการทำให้ตัวเองต้องขายหน้าต่อหน้าสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าคนที่นางชอบ
ดังนั้นเรื่องตบหน้าทำลายภาพลักษณ์ของตัวเองจนย่อยยับนั้น จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ ‘จวินอู๋เสีย’ มักทำอยู่เสมอๆ
เมื่อคิดถึงคำว่า ‘คนที่ชอบ’ ใบหน้าของมั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็เริ่มมืดครึ้มขึ้นมา
“อู๋เสียเป็นคนเช่นไร ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาพูดแทนนาง” มั่วเฉี่ยนยวนเหลือบมองมั่วเซวี่ยนเฝ่ยอย่างเย็นชา เขารู้ดีว่าในสายตาของผู้อื่นนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขาและจวินอู๋เสียดูคลุมเครือและชวนให้คิดไปไกลเพียงใด ทั้งที่ในความเป็นจริงพวกเขาทั้งคู่เป็นแค่พันธมิตรกันเท่านั้น
จวินอู๋เสียมีดีอยู่บ้างแน่นอน นั่นคือสิ่งที่เขารู้
อย่างไรก็ตามตำรับยาของสำนักชิงอวิ๋นนั้นไม่ใช่สิ่งที่บุคคลภายนอกสามารถหลอมกลั่นขึ้นมาได้ง่ายๆ เพียงเอ่ยปากพูด
นางไม่เคยแม้แต่จะสัมผัสกับเม็ดยาน้ำค้างหยกเหล่านั้นด้วยซ้ำ แล้วนางจะหลอมมันขึ้นมาได้อย่างไรกัน
“หากเสด็จพี่ทรงรู้สึกลำบากพระทัยนัก เช่นนั้นก็ฆ่าเจ้าแมวดำนั่นเถอะแล้วทุกอย่างจะจบสิ้นลง และหากว่านางยังไม่พอใจ เช่นนั้นท่านก็แค่หาแมวตัวใหม่มาชดเชยให้นางก็สื้นเรื่อง แต่ถึงอย่างไรพวกเราจะปล่อยให้ผู้อื่นพูดถึงราชวงศ์ของเราว่าละเลยสำนักชิงอวิ๋นไม่ได้เป็นอันขาด” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยหัวเราะเบาๆ แต่ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตาของเขาแม้แต่น้อย เขาต้องการให้จวินอู๋เสียรู้ว่ามั่วเฉี่ยนยวนนั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี และถึงแม้ว่าตัวเขามั่วเซวี่ยนเฝ่ยจะไม่ต้องการนาง แต่หากนางคิดจะเลือกข้างมั่วเฉี่ยนยวนรัชทายาทที่ไม่ต่างอะไรกับของเหลือเดนผู้นี้ นางก็คิดผิดมหันต์แล้ว!
เพราะองค์รัชทายาทที่ไม่แม้แต่สตรีของตัวเองก็ไม่สามารถปกป้องได้ เป็นได้แค่เศษขยะเท่านั้น
มั่วเฉี่ยนยวนมองไปที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ย ชัดเจนแล้วว่าหลังจากที่อีกฝ่ายเริ่มคบหากับไป๋อวิ๋นเซียน เขาก็เริ่มทำตัวโอหังต่อหน้าเขามากขึ้นทุกที แม้กระทั่งมารยาทขั้นพื้นฐานที่สุดก็็ไม่คิดจะรักษามันไว้อีกต่อไปแล้ว
เจ้าโง่นี่คิดจริงๆ หรือว่าจะสามารถยั่วยุ สร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นระหว่างความสัมพันธ์ของข้าและจวินอู๋เสียได้ ช่างโง่ดักดานเสียจริง
เขายังจำได้อย่างชัดเจนถึงค่ำคืนนั้นที่ถูกเงาดำขนาดมหึมาจู่โจมเข้าใส่ ความน่าหวาดกลัวเช่นนั้น ตัวเขามั่วเฉี่ยนยวนไม่มีทางกระทำผิดซ้ำสองโดยการดูถูกเจ้าแมวดำตัวน้อยนั่นเป็นอันขาด
มั่วเฉี่ยนยวนแทบอดใจไม่ไหว อยากให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยทำเรื่องรนหาที่ตายมากขึ้นกว่านี้อีกสักนิด เจ้าแมวดำตัวนั้นจะได้สติแตกแล้วกลายร่างจู่โจมเข้าใส่เขา ขย้ำและฝังเขี้ยวลงไปที่คอของเขาแรงๆ
ในอีกด้านหนึ่ง จวินอู๋เสียเดินตามนางกำนัลไปยังห้องปรุงยาของตำหนักหลินยวน อย่างที่มั่วเฉี่ยนยวนได้บอกไว้เมื่อสักครู่ ถึงแม้ว่าห้องปรุงยานี้จะสะอาดสะอ้าน อุปกรณ์ทุกอย่างถูกดูแลรักษาและเก็บไว้เป็นอย่างดี ทว่าจากความสะอาดที่เห็นได้ชัดจากข้างใต้หม้อปรุงยานั้น ก็เป็นหลักฐานที่ดีที่บ่งบอกว่าห้องปรุงยานี้ไม่ได้ถูกใช้งานมานานมากแล้ว
“ไปนำกระดาษกับพู่กันมา” จวินอู๋เสียสั่งนางกำนัลที่ยืนอยู่ด้านข้างเสียงเบา
นางกำนัลผู้นั้นรีบวิ่งไปหยิบของมาให้ทันที โดยไม่รีรอชักช้าจวินอู๋เสียตวัดพู่กันเขียนรายการสมุนไพรจำนวนหนึ่งที่นางต้องการอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งมันคืนกลับไปให้อีกฝ่าย
“ไปหาพวกมันมาให้ข้า”
…………..