ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 871 ตบหน้าครั้งที่เก้า (1) ตอนที่ 872 ตบหน้าครั้งที่เก้า (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 871 ตบหน้าครั้งที่เก้า (1) ตอนที่ 872 ตบหน้าครั้งที่เก้า (2)
ตอนที่ 871 ตบหน้าครั้งที่เก้า (1) / ตอนที่ 872 ตบหน้าครั้งที่เก้า (2)
ตอนที่ 871 ตบหน้าครั้งที่เก้า (1)
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ทุกคนในห้องตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจในทันที
หมอหลวงหลี่มีสีหน้าตื่นกลัวปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง แต่เขาก็รีบระงับอาการอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูจวิน ท่านหมายความว่าอย่างไร หมอตั้งหลายคนได้ตรวจอาการของชวีหลิงเย่ว์แล้ว แม้แต่การวินิจฉัยของท่านผู้อาวุโสเฟิงก็ยังยืนยันตรงกัน ท่านถามแบบนี้ไม่คิดว่ามันแปลกหรือ” ชายหนุ่มจากเมืองพันอสูรเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับหันไปมองจวินอู๋เสีย เรื่องที่ชวีหลิงเย่ว์ได้รับบาดเจ็บก็เห็นอยู่ชัดๆ เป็นเรื่องจริงที่แย้งไม่ได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ไว้ใจหมอของรัฐเหยียนอย่างเต็มที่ แต่เฟิงเย่ว์หยางก็ยืนยันความถูกต้องแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะผิดพลาด
“นั่นเป็นความจริงแน่หรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
“เด็กอย่างเจ้ายังมีหน้ามาพูดจาเหลวไหลไร้สาระที่นี่อีก เจ้าอายุเท่าไรกัน อย่างเจ้าจะไปรู้เรื่องอะไร! ต่อให้เจ้าไม่เชื่อในความสามารถทางการแพทย์ของพวกเรา แต่ท่านผู้อาวุโสเฟิงคือหนึ่งในสามหมอเทวดา ท่านวิเคราะห์โรคหรืออาการบาดเจ็บได้อย่างแม่นยำ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะให้เจ้ามาออกความคิดเห็น!” หมอหลวงหลี่พูดโต้ตอบ
“ท่านผู้อาวุโสเฟิง ท่านเองก็คิดอย่างเดียวกันนี้จริงๆ หรือ” จวินอู๋เสียหันไปถามเฟิงเย่ว์หยาง
เฟิงเย่ว์หยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คนก็พูดกันเกินไป แม้ว่าชายแก่คนนี้จะได้รับฉายาที่ไม่สมควรได้เช่นนั้นจากผู้คน แต่ข้าก็ไม่กล้าพูดหรอกว่าข้าสามารถวิเคราะห์และตรวจสอบโรคภัยไข้เจ็บทุกอย่างได้ แต่สำหรับอาการของคุณหนูใหญ่ในตอนนี้ ชายแก่คนนี้ยังสามารถระบุสาเหตุได้อยู่ ข้าไม่รู้ว่าทำไมคุณหนูจวินถึงอยากจะถามเรื่องนี้อีก”
จวินอู๋เสียตอบว่า “ถ้าเช่นนั้น ก็ให้เจ้าตัวพูดความจริงออกมาเองก็แล้วกัน” พร้อมกับพูดเช่นนั้น นางก็เดินตรงไปที่ข้างเตียงของชวีหลิงเย่ว์
พอหมอหลวงหลี่เห็นการกระทำของนาง เขาก็รีบตะโกนขึ้นทันที “ยัยเด็กนั่นคิดจะทำอะไร!”
จวินอู๋เสียหันไปมองเขา “ก็พวกหมอกำมะลออย่างท่านไม่สามารถทำได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสอนพวกท่านสักอย่างสองอย่างหรอก”
หมอหลวงหลี่มองจวินอู๋เสียด้วยแววตาตื่นตระหนก เขาหันไปทางสยงป้าทันที
“ท่านหัวหน้าตึกสยง ท่านจะปล่อยให้เด็กนั่นก่อเรื่องต่อไปแบบนี้อย่างนั้นหรือ”
สยงป้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อว่าจวินอู๋เสียจะมีความรู้ทางการแพทย์ที่เหนือกว่าเฟิงเย่ว์หยางจริงๆ ด้วยอายุเพียงเท่านี้ แต่การหายดีของชวีหลิงเย่ว์ก็เกี่ยวข้องกับนาง เขาจึงอดลังเลอยู่ครู่หนึ่งไม่ได้ สยงป้าหันไปปรึกษากับเฟิงเย่ว์หยางอย่างรอบคอบว่า “ข้าไม่รู้เรื่องการแพทย์เลยสักอย่าง ท่านผู้อาวุโสเฟิงคิดว่าก่อนหน้านี้ที่อาการของคุณหนูใหญ่ดีขึ้นอย่างกะทันหันนั้นเป็นเพราะอะไรหรือขอรับ”
เฟิงเย่ว์หยางส่ายศีรษะ ตามการวินิจฉัยของเขา ถึงจะให้เขามารับมือกับอาการบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์ตั้งแต่ต้น เขาก็ยังต้องใช้เวลาเกือบปีในการรักษานางให้หายดี แล้วที่พวกเขาพูดกันคือแค่วันเดียวเท่านั้น เวลาสั้นๆ แค่นั้นลืมเรื่องหายสนิทไปได้เลย ต่อให้เขาสามารถทำให้อาการบาดเจ็บพวกนั้นทรงตัวอยู่ได้ แต่แค่ทำให้แสดงอาการว่าดีขึ้นนั้นยังเป็นเรื่องที่ยากมาก
เมื่อได้คำตอบจากเฟิงเย่ว์หยาง สยงป้าก็ก้าวขึ้นไปยืนตรงหน้าจวินอู๋เสียทันทีเพื่อขวางไม่ให้นางไปต่อได้
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามาจากที่ไหน แต่คุณหนูใหญ่ของเมืองพันอสูรไม่ใช่คนที่ใครจะมารักษาชุ่ยๆ ได้ ข้าต้องขอเจ้าไม่ให้สร้างเรื่องวุ่นวายขึ้นที่นี่ ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องใช้กำลัง” ถึงแม้จะสงสัยอยู่ในใจ แต่สยงป้าก็ไม่อาจปล่อยให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มารักษาชวีหลิงเย่ว์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายนั้นเป็นเพียงแค่เด็กสาวคนหนึ่ง
จวินอู๋เสียมองสยงป้าพร้อมกับเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา นางพูดขึ้นด้วยเสียงนุ่มว่า “ท่านคิดว่าแค่ยืนขวางทางข้าไว้แบบนี้แล้วจะสามารถหยุดข้าได้อย่างนั้นหรือ”
สยงป้าชะงักกับคำตอบนั้น แต่ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ จวินอู๋เสียก็ยกมือขวาขึ้น แสงวาบสีเงินยวงยิงออกมาจากปลายนิ้วของนางพุ่งเข้าใส่ชวีหลิงเย่ว์ที่นอนอยู่บนเตียงในชั่วพริบตา!
“นั่นเจ้าทำอะไร!” สยงป้าตะโกนออกมาอย่างตกใจและเกรี้ยวกราด เขาคว้าคอเสื้อของจวินอู๋เสียและยกนางขึ้นทั้งตัว
ตอนที่ 872 ตบหน้าครั้งที่เก้า (2)
แต่จวินอู๋เสียกลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย นางเพียงหันไปพูดกับเฟิงเย่ว์หยางอย่างใจเย็น
“ท่านผู้อาวุโสเฟิง ท่านลองจับชีพจรของชวีหลิงเย่ว์ดูอีกครั้งเถิด”
สยงป้ายังคงจ้องมองจวินอู๋เสีย เขาไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไร
เฟิงเย่ว์หยางขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินช้าๆ ไปที่เตียงของชวีหลิงเย่ว์และจับชีพจรของนางอีกครั้ง
“ถ้าคุณหนูใหญ่ของเราเป็นอะไรไปละก็ ต่อให้เจ้าเป็นแค่เด็กสตรีตัวเล็กๆ ข้าก็จะให้เจ้าต้องชดใช้!” สยงป้าจ้องจวินอู๋เสียด้วยความโกรธ สายตามีรังสีอำมหิตลุกโชน
แต่สายตาอำมหิตนั้นไม่อาจกดดันจวินอู๋เสียได้เลยสักนิด นางตอบด้วยเสียงเย็นชาว่า “ท่านไม่มีโอกาสทำเช่นนั้นหรอก”
“ท่านหัวหน้าตึกสยง! เด็กนั่นกล้าลงมือกับคุณหนูชวีต่อหน้าต่อตาท่าน! ใครจะรู้ว่าเจตนาที่แท้จริงของนางคืออะไร!” หมอหลวงหลี่ก้าวออกมาอย่างร้อนรน สายตาของเขาลอบมองไปทางเหลยเชิน “วันนั้นเด็กนี่ก็อวดดีสามหาวแบบนี้! พวกเราเถียงกับนางอยู่นาน แต่องค์รัชทายาทก็ยืนกรานให้เราปล่อยให้นางรักษาคุณหนูชวี พวกเราเป็นแค่หมอย่อมไม่มีอำนาจคัดค้าน ข้าได้ยินองค์รัชทายาทพูดว่า คุณหนูจวินผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องของรัฐชีจวินอู๋เสีย คนทั้งโลกก็รู้ว่าจวนหลินอ๋องไม่ได้มีชื่อเสียงทางด้านการแพทย์เลย เจตนาของคุณหนูจวินจึงน่าสงสัยมาก! ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่านางจะไม่ทำร้ายคุณหนูชวี”
สยงป้ารู้สึกประหลาดใจ เขามองจวินอู๋เสียอย่างงุนงง
“เจ้ามาจากจวนหลินอ๋องอย่างนั้นหรือ”
จวินอู๋เสียเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นเป็นสัญญาณว่ายอมรับอย่างเงียบๆ
“จวนหลินอ๋องกับเมืองพันอสูรต่างไม่ก้าวก่ายกันและกัน และไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน แต่ถ้าเจ้ามาก่อเรื่องขึ้นที่นี่ละก็ ต่อให้จวนหลินอ๋องมีกองทัพรุ่ยหลินที่แข็งแกร่งอยู่เป็นแสน ฝูงสัตว์วิญญาณของเมืองพันอสูรก็จะไม่ปล่อยเรื่องนี้เอาไว้แน่!” สยงป้ากัดฟันพูด
หมอหลวงหลี่ลอบยิ้มอย่างชั่วร้าย
แต่ขณะที่หมอหลวงหลี่กำลังคาดหวังว่าจะได้เห็นความโกรธเกลียดของสยงป้ารุนแรงขึ้นจนระเบิดออกหลังจากที่ได้รู้ตัวตนของจวินอู๋เสีย เสียงที่แสดงความประหลาดใจก็ดังขึ้น!
“เป็นไปได้อย่างไร!” เสียงของเฟิงเย่ว์หยางดังเข้าหูของทุกคนที่อยู่ในห้อง
ทุกสายตาหันไปมองที่เฟิงเย่ว์หยางกันเป็นตาเดียว สยงป้าไม่อยากเถียงกับจวินอู๋เสียต่อ เขารีบหันไปมองด้วยความกังวล
แล้วเขาก็เห็นมือของเฟิงเย่ว์หยางยังคงจับอยู่ที่ข้อมือของชวีหลิงเย่ว์ ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นมีสีหน้าตกตะลึงและเหลือเชื่ออย่างถึงที่สุด ดวงตาเบิกกว้าง ปากอ้าค้างเหมือนกำลังตกใจในอะไรบางอย่าง
เมื่อหมอหลวงหลี่เห็นปฏิกิริยาของเฟิงเย่ว์หยาง เขาก็หัวเราะอยู่ในใจ สายตาเย้ยหยันของเขามองไปที่จวินอู๋เสียที่ยังถูกสยงป้าจับยกอยู่กลางอากาศ
ความโกรธแค้นระเบิดจากในอกของสยงป้า เขาจ้องมองด้วยสายตาอำมหิตและตะโกนด้วยเสียงดังลั่น “เจ้าทำอะไรคุณหนูใหญ่ของเรา! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูใหญ่ วันนี้ข้าจะ…”
“ท่านหัวหน้าตึกสยง!” ทันใดนั้นเฟิงเย่ว์หยางก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง
เขารีบสลัดความตกใจทิ้งไปและเข้ามายืนข้างๆ สยงป้าพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิว่า “ท่านหัวหน้าตึกสยง! วางคุณหนูจวินลงเดี๋ยวนี้! ท่านหยาบคายถึงขนาดนี้ได้อย่างไร!”
สยงป้าพูดไม่ออก เขาหันไปมองเฟิงเย่ว์หยางด้วยสีหน้าสับสนงุนงง ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมเฟิงเย่ว์หยางจึงพูดแทนจวินอู๋เสีย
“ท่านผู้อาวุโสเฟิง! นี่ท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร!”
“วางคุณหนูจวินลงเดี๋ยวนี้!” เฟิงเย่ว์หยางกล่าวย้ำอย่างหนักแน่น
“แต่…แต่…” สยงป้ายังคงพูดไม่ออก
เฟิงเย่ว์หยางขมวดคิ้วหน้าบึ้งด้วยความโกรธ เขาพูดว่า “เมื่อไหร่ท่านจะเปลี่ยนความหุนหันพลันแล่นนี้เสียที! มีอะไรผิดคาด ท่านก็รับมือด้วยความรุนแรงก่อนเสมอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมท่านเจ้าเมืองถึงยืนกรานให้ชิงอวี่มากับท่านด้วย นิสัยแบบนี้คงได้สร้างความเดือดร้อนให้พวกเราสักวันหนึ่ง!