ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1 - ตอนที่ 997 มังกรมายา (3) / ตอนที่ 998 มังกรมายา (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร เล่ม 1
- ตอนที่ 997 มังกรมายา (3) / ตอนที่ 998 มังกรมายา (4)
ตอนที่ 997 มังกรมายา (3) / ตอนที่ 998 มังกรมายา (4)
ตอนที่ 997 มังกรมายา (3)
ลานประลองสัตว์วิญญาณของเมืองพันอสูรไม่เคยคึกคักวุ่นวายเท่าช่วงไม่กี่วันมานี้เลย สัตว์วิญญาณที่ดูเหมือนไร้ประโยชน์ตัวหนึ่งเอาชนะสัตว์วิญญาณตัวอื่นๆ ทั้งหมดและขึ้นครองอันดับหนึ่ง ทำเอาคนจำนวนมากต้องอ้าปากค้าง และหลังจากนั้นก็มีสัตว์วิญญาณอีกตัวโผล่มากวาดชัยชนะที่ลานประลองสัตว์วิญญาณอีกครั้ง
และสัตว์วิญญาณสองตัวที่ผู้คนจำนวนมากต่างพูดคุยถกเถียงเรื่องของมันก็จะมาประลองกันในวันนี้ มันเป็นสุดยอดการต่อสู้ที่ทุกคนคาดหวังอย่างสูง
ทุกคนต่างตั้งตารอการประลองครั้งนี้ ลานประลองสัตว์วิญญาณจึงแออัดไปด้วยผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากคนที่ได้ข่าวต่างก็รีบพากันมาที่นี่
หลินเฟิงสวมผ้าคลุมยาวปิดบังตัวตน เขามาที่ลานประลองสัตว์วิญญาณเป็นการส่วนตัวเพราะอยากเห็นปฏิกิริยาของจวินอู๋เสียตอนที่เห็นสัตว์วิญญาณของตัวเองถูกกิน เขาหันไปมองชายหนุ่มที่พามังกรมายามาลงทะเบียน คนคนนั้นเป็นลูกไม่มีพ่อของหญิงรับใช้ในเรือนพักของเขาและแทบไม่เป็นที่รู้จักในเมืองพันอสูร ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ตัวจริงของเขา ที่คอของชายหนุ่มคนนั้นมีสร้อยเงินอยู่เส้นหนึ่ง เป็นสิ่งที่มังกรมายาจดจำได้ ใครก็ตามที่สวมสร้อยเงินนี้จะสามารถควบคุมมังกรมายาและสั่งให้มันทำตามความต้องการได้!
ครั้งนี้หลินเฟิงวางเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่เขามี ทั้งมังกรมายาและสร้อยเงินถูกหลินเฟิงแอบนำออกมาลับหลังหลินเชวียเพื่อให้เขาเอาชนะจวินอู๋เสีย ทั้งทำเพื่อตัวเขาเองและเพื่อซั่งกวนเหมี่ยว
เขาไม่กังวลเลยสักนิดว่ามังกรมายาจะโดนทำร้ายที่นี่ ตั้งแต่ตอนที่มังกรมายาถูกจับและพาตัวมาจนถึงตอนนี้ มันลอกคราบไปแล้วสองครั้ง และเมื่อไม่กี่เดือนก่อนมันก็ลอกคราบครั้งที่สามเสร็จแล้ว แม้ว่าจะยังดูเหมือนสัตว์วิญญาณระดับสูง แต่พลังของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติก็ถูกปลุกขึ้นแล้วและกำลังค่อยๆ วิวัฒนาการ
บิดาของเขาคิดว่าจะรอจนมังกรมายาวิวัฒนาการจนกลายเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติเต็มตัวก่อนถึงค่อยส่งมอบมันให้ท่านผู้นั้น
เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเห็นหลินเฟิง เขาก็พยักหน้าให้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
ผู้ชมต่างแออัดยัดเยียดอยู่ในลานประลองสัตว์วิญญาณ อีกคนที่พวกเขากำลังรอดูได้นำสัตว์วิญญาณของเขาเดินเข้ามาในลานประลองแล้ว
จวินอู๋เสียอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเดินผ่านประตูลานประลองสัตว์วิญญาณเข้ามาโดยมีสายตาของทุกคนมองตาม จวินอู๋เสียเดินต่อไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางสายตาจำนวนมากที่จับจ้องอยู่เหมือนไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากเสียงเอะอะวุ่นวายและความอึกทึกครึกโครมรอบตัวเลย
เมื่อหลินเฟิงเห็นจวินอู๋เสียปรากฏตัวขึ้น โลหิตในกายของเขาก็เดือดพล่าน เขาทนรอที่จะเห็นสัตว์วิญญาณในอ้อมกอดของจวินอู๋เสียถูกมังกรมายากลืนลงไปทั้งตัวไม่ไหวแล้ว!
ก่อนการแข่งขันเริ่มต้น จวินอู๋เสียก็วางใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะลงบนเวทีประลองและพูดเสียงเบาว่า ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ก็แปลงร่างได้นะ
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกะพริบตาปริบๆ มองจวินอู๋เสีย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันยืนอยู่บนเวทีนี้ และทั้งหมดที่มันได้เจอก็คือสัตว์วิญญาณกระจอกงอกง่อยที่ไม่พอจะแหย่ขี้ฟันมันได้ด้วยซ้ำ แล้วทำไมเจ้านายของมันถึงบอกว่ามันจะแปลงร่างก็ได้กันเล่า
ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย
อย่างไรก็เถอะ ที่มันต้องทำก็แค่ส่งเสียงร้องออกมาสักสองสามครั้ง แล้วคู่ต่อสู้ก็จะกลัวจนหนีไปเอง แล้วมันก็จะได้กินใบบัวแสนอร่อยนั่น!
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไม่สนใจคำพูดของจวินอู๋เสียเลย มันกระหายอยากกลับไปกินอาหารของมันแล้ว ทั้งๆ ที่ยังยืนอยู่บนเวทีแต่มันก็แทบจะมองเห็นกองใบบัววางอยู่ตรงหน้าแล้ว ท่าทีของมันดูตื่นเต้นมาก หางเล็กๆ กระดิกดุ๊กดิ๊กอย่างมีความสุข
หลินเฟิงลอบสังเกตสัตว์วิญญาณตัวเล็กที่ดูไม่น่าประทับใจบนเวทีแล้วเหยียดยิ้มเย้ยหยัน เขาสงสัยอยู่ว่าจวินอู๋เสียมีสัตว์วิญญาณชนิดใดอยู่ และเมื่อเขาเห็นว่ามันเป็นแค่ไอ้ตัวจิ๋วเช่นนั้น เขาก็ไม่เข้าใจว่าสัตว์วิญญาณแบบนั้นสามารถครองอันดับหนึ่งของลานประลองสัตว์วิญญาณได้อย่างไร
ซั่งกวนเหมี่ยวไม่สามารถกำจัดใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะได้ แต่หลินเฟิงไม่สงสัยเลยว่าสัตว์วิญญาณตัวเล็กจิ๋วตัวนี้ไม่ได้ชนะมาด้วยพลังของมันเอง!
ตอนที่ 998 มังกรมายา (4)
ซั่งกวนเหมี่ยวไม่สามารถกำจัดใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะได้ แต่หลินเฟิงไม่สงสัยเลยว่าสัตว์วิญญาณตัวเล็กจิ๋วตัวนี้ไม่ได้ชนะมาด้วยพลังของมันเอง!
วิธีการนอกรีตพวกนั้นอาจจะใช้ได้ผลกับแสัตว์วิญญาณระดับต่ำ แต่กับมังกรมายาที่เป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ…มันก็แค่หนทางไปสู่ความตายเท่านั้น!
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของหลินเฟิงขณะที่รอคอยช่วงเวลานั้นให้มาถึง
ไม่นานการประลองก็กำลังจะเริ่มขึ้น มังกรมายาถูกนำออกมาในกรงเหล็ก เทียบกับวานรทมิฬหกแขนแล้ว มังกรมายานั้นตัวใหญ่กว่ามากมายมหาศาลนัก!
เวทีประลองในลานประลองสัตว์วิญญาณนั้นกว้างใหญ่มาก แต่เมื่อมังกรมายาเลื้อยขึ้นมาขดตัวบนเวที ตัวมันก็แทบจะเต็มพื้นที่ลานประลองเลยทีเดียว! เหลือแค่พื้นที่เล็กๆ ตรงขอบเวทีที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยืนอยู่เท่านั้น!
เมื่อเทียบขนาดของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับวานรทมิฬหกแขน ตัวของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็ใหญ่เท่ากับหัวของวานรทมิฬหกแขนเท่านั้น และเมื่อเทียบกับมังกรมายาที่อยู่ตรงหน้ามันตอนนี้ ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็ตัวเท่ากับดวงตาข้างหนึ่งของมันเท่านั้น!
ทั้งร่างของมันปกคลุมด้วยเกล็ดหนาสีเขียว มังกรมายาขดตัวขึ้นมาดูใหญ่โตเกือบเท่าภูเขาลูกเล็กๆ!
บนหัวของมันมีเขาแหลมอยู่สองข้าง
ทันใดนั้นมันก็ชูคอขึ้นและจากท่าทางให้สัญญาณของชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่างลานประลอง มันก็หันหัวไปทางใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่อยู่ริมเวที
ด้วยขนาดที่แตกต่างกันแบบสุดขั้วของสัตว์วิญญาณทั้งสองตัว จึงไม่จำเป็นต้องจินตนาการว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะออกมาเป็นแบบไหน!
มังกรมายาพ่นลมออกมาทางจมูก ไอความร้อนกระจายไปในอากาศ ขณะที่มันขยับตัว เกล็ดของมันก็จะถูกันจนเกิดเสียงคล้ายกับปลายดาบกระทบกัน
มันเป็นการประลองที่ทุกคนไม่หวั่นเกรงผลที่จะออกมา ไม่มีสักคนที่จะเชื่อว่าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจะยัง ‘โชคดี’ แบบเหลือเชื่อสามารถเอาชนะได้อีกเมื่อเผชิญหน้ากับมังกรมายาเช่นนี้
ดูจากความแข็งแกร่งที่มังกรมายาแสดงออกมาแล้ว ทุกคนก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่แค่สัตว์วิญญาณระดับต่ำ แต่เป็นสัตว์วิญญาณขนาดใหญ่ที่อย่างน้อยก็อยู่ในจุดสูงสุดของสัตว์วิญญาณระดับสูง!
นี่เป็นครั้งแรกที่สัตว์วิญญาณระดับสูงปรากฏตัวขึ้นในลานประลองสัตว์วิญญาณ
คนของเมืองพันอสูรรู้จักสัตว์วิญญาณของพวกเขาดี จากความแข็งแกร่งที่พวกเขารู้สึกได้พวกเขาก็เข้าใจว่าสัตว์วิญญาณระดับสูงไม่ได้แตกต่างจากสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่เป็นตำนานมากนัก ต่อหน้าสัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนั้น ต่อให้พวกเขาค้นหาทั่วทั้งเมืองพันอสูร ก็ไม่สามารถหาคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับมันได้!
พวกผู้ชมอ้าปากค้างและส่งเสียงอุทานออกมาอย่างประหลาดใจและตกตะลึง นี่ไม่ใช่การแข่งขันอีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นการแสดงเดี่ยวของมังกรมายา ไม่มีใครกังวลว่าการประลองจะออกมาเป็นอย่างไรอีกต่อไปแล้ว ในใจของพวกเขาสัตว์วิญญาณแกะน้อยขนปุยที่ยืนอยู่บนเวทีก็ไม่ต่างกับตายไปแล้ว!
ต่อหน้าสัตว์วิญญาณระดับสูงที่อยู่ในจุดสูงสุด สัตว์วิญญาณตัวอื่นๆ ที่ต่ำกว่าระดับภัยพิบัติก็ทำได้เพียงเลือกว่าจะตายหรือจะยอมจำนนเท่านั้น!
หลินเฟิงสังเกตปฏิกิริยาของทุกคนในลานประลองสัตว์วิญญาณ สายตาทอประกายยินดี นี่แหละปฏิกิริยาที่เขาอยากเห็น
เมืองพันอสูรไม่ต้องการให้คนนอกเข้ามาอวดเก่งที่นี่หรอก!
เขาจะทำให้จวินเสียรู้ว่าสัตว์วิญญาณตัวเล็กๆ ของมันไร้ค่าแค่ไหน!
ไม่ว่าจวินเสียจะฉลาดอย่างไร เขาก็ต้องทนดูสัตว์วิญญาณของตัวเองถูกมังกรมายากลืนลงท้องด้วยตาของตัวเอง!
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงมองมังกรมายาบนเวทีประลอง มันเหมือนกับที่ชิงอวี่บรรยายไว้ไม่ผิดเพี้ยน ตัวของมันเหมือนอสรพิษ ความกว้างเกือบเท่าเอวคน ตอนนี้มันขดตัวอยู่ ถ้ามันยืดตัวออกเต็มที่ ขนาดตัวของมันคงใหญ่จนน่าตกใจ!