ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 139
บทที่ 139 พึ่งพากำลังของสามี
กล่าวย้อนกลับไปที่บ้านของหลินชิงเหอ
โจวชิงไป๋ได้ยินเรื่องที่น้องชายสามตระกูลหลินมาเยี่ยมแล้ว
“พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านนะคะ” หลินชิงเหอบอก
“งั้นผมไปกับคุณด้วย” โจวชิงไป๋เอ่ยขึ้น
หลินชิงเหอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณไม่ต้องตามไปหรอก ถ้าคุณตามไปด้วย ฉันจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ”
โจวชิงไป๋จ้องมองเธอและถามว่าหมายความว่าอย่างไรผ่านสายตาของเขา
“อย่างไรก็ช่าง คุณปล่อยเรื่องนี้เถอะค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัวฝั่งแม่ของฉันที่มีแต่ฉันเท่านั้นถึงจะแก้ไขได้” หลินชิงเหอเอ่ย
“งั้นคุณอย่าทำให้เรื่องมันตึงเครียดเกินไปนะ” โจวชิงไป๋บอก
หลินชิงเหอกลั้วหัวเราะพลางมองดูเขา “ในใจฉันมีเพียงสามีและลูกชายทั้งสามเท่านั้น ฉันจะไม่ปรานีกับคนที่กล้ามายุ่งกับชีวิตของฉันหรอกค่ะ”
แน่นอนว่าเธอไม่แสดงความปรานีใด ๆ วันต่อมาหลังทานอาหารเช้าเสร็จหญิงสาวก็ได้เดินทางมาที่บ้านตระกูลหลิน
ท่านแม่หลินเพิ่งจะเตรียมข้าวของเสร็จและกำลังจะออกไปสั่งสอนบุตรสาวอกตัญญูคนนั้นอยู่พอดี
“โอ้ นั่นน้องสาวสามเหรอนั่น? พี่ไม่คิดเลยว่าเธอจะเดินผ่านประตูบ้านมาได้…”
เพี๊ยะ!
หลินชิงเหอจอดจักรยานไว้ข้าง ๆ แล้วตบเปรี้ยงใส่สะใภ้รองปากกรรไกรแห่งบ้านหลิน แรงตบนี้ทำให้หล่อนถึงกับงงงวย
ไม่เพียงแต่สะใภ้รองบ้านหลินจะประหลาดใจ คนอื่น ๆ ในบ้านตระกูลหลินก็ตกใจเหมือนกัน
ท่านแม่หลิน พี่ชายใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ พี่ชายรอง น้องชายสาม และน้องสะใภ้สามต่างไม่คาดคิดเลยว่าหลินชิงเหอผู้ไม่ได้กลับบ้านมานานแสนนาน จะต้อนรับพี่สะใภ้รองของเธอด้วยการตบหน้าหล่อนฉาดหนึ่ง
“แกตบฉันเหรอ?” สะใภ้รองบ้านหลินกุมแก้มและเอ่ยตอบได้ในที่สุด หล่อนจ้องมองหลินชิงเหอด้วยดวงตาเบิกกว้าง “นังสารเลว แกกล้าตบฉันเหรอ? วันนี้ฉันจะต้องทุบตีแกให้ตายให้ได้!”
พอพูดจบ หล่อนก็พุ่งตัวเข้าใส่หลินชิงเหอ
หลินชิงเหอน่ะหรือจะกลัวหล่อน? เธอเบี่ยงตัวหลบมือที่กำลังจะฟาดใบหน้าได้ จากนั้นก็คว้าผมของสะใภ้รองตระกูลหลินไว้ ก่อนจะเหวี่ยงตัวหล่อนข้ามหัวไหล่
เกิดเสียงดัง โครม พร้อมกับร่างสะใภ้รองตระกูลหลินร่วงลงบนพื้นและส่งเสียงร้องโหยหวน
หลินชิงเหอเคยใช้วิธีนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่เธอรู้สึกว่าสะใภ้รองบ้านโจวชักน่ารำคาญก่อนจะเหวี่ยงทุ่มหล่อนลงบนพื้นโดยไม่ลังเลใด ๆ
ทันใดนั้นเอง เหล่าคนตระกูลหลินก็นิ่งแข็งเป็นรูปปั้นจากการกระทำของเธอ
“เรื่องซุบซิบของหลินชิงเหอเป็นเรื่องที่เธอ หลี่ซุ่ยฮวา กล้าพูดได้งั้นเหรอ? ฉันคงยังไม่ได้สั่งสอนเธอสินะ เธอถึงไม่รู้จักนิสัยของฉัน?” หลินชิงเหอเอ่ยขณะก้มมองสะใภ้รองตระกูลหลินที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น
“อาสอง คุณตายหรือยังน่ะ? เห็นเมียคุณถูกทำร้ายขนาดนี้แต่ยังยืนนิ่งดูดายแบบนั้นอยู่น่ะเหรอ!” สะใภ้รองตระกูลหลินยังคงนอนอยู่บนพื้นส่งเสียงครวญครางพร้อมกับตวาดด่าพี่ชายรองตระกูลหลินไปด้วย
“เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างผู้หญิงด้วยกัน หากพี่รองกล้าแตะต้องฉัน ชิงไป๋ของฉันจะมาหักขาสุนัขเน่า ๆ ของพี่ในทันทีโดยไม่ลังเลเลย ถ้าพี่ไม่เชื่อก็ลองดู” หลินชิงเหอกวาดสายตาเย็นชามองพี่ชายรองตระกูลหลิน
ในตอนนี้เอง พี่ชายรองตระกูลหลินถึงได้มีปฏิกิริยากลับ ใบหน้าของเขามืดครึ้มอย่างยิ่ง เขาอยากจะสั่งสอนน้องสาวตัวเองเหลือเกิน แต่พอหลินชิงเหอพูดมาแบบนี้ เขาก็ไม่กล้าทำจริง ๆ
ใครคือโจวชิงไป๋กันล่ะ? ชายคนนั้นลาออกในฐานะทหารนะ หากต้องสู้กันเขาคงต้านอีกฝ่ายได้ไม่กี่ยก
ยิ่งกว่านั้นมันไม่จำเป็นต้องถามเลยว่าใครเป็นคนสอนกระบวนท่าจับคนทุ่มข้ามบ่าแบบสวย ๆ เหมือนในตอนนี้ให้กับหลินชิงเหอ!
“อาสอง คุณจะปล่อยให้ฉันถูกทำร้ายแบบนี้น่ะเหรอ?” สะใภ้รองตระกูลหลินเห็นแล้วก็เดือดขึ้นมา
“ทำแบบนี้จะทำให้สามีเธอโดนหักขาสุนัขเน่า ๆ ทิ้งนะ พี่รอง…ทำไมพี่ถึงอยู่กับเมียใจร้ายแบบนี้ได้อยู่ล่ะ? หย่าจากหล่อนแล้วแต่งงานใหม่เถอะ แต่งงานกับคนที่ดีกว่านี้ พี่อย่าเก็บตัวปัญหาไว้แบบนี้เลย บรรยากาศบ้านตระกูลหลินพังพินาศก็เพราะหล่อนนะ” หลินชิงเหอบอก
“ตัวเธอเองก็ไม่ได้ดิบดีอะไร ยังจะริกลับมาชี้นิ้วสั่งคนบ้านแม่ตัวเองให้ทำนั่นทำนี่อีก!” พี่ชายรองตระกูลหลินโต้กลับทันควัน
“พี่รอง พี่ระวังคำพูดขณะพูดจะดีกว่านะ ถ้าพี่ยังพูดขี้ ๆ อยู่แบบนี้ พี่ไม่เชื่อเหรอว่าฉันจะยัดขี้ใส่ปากพี่น่ะ?”
พี่ชายรองตระกูลหลินได้ฟังก็ควันออกหู
มีคำบอกเล่าในชนบทว่าเด็กกล้าสู้กับคนนอกได้เป็นเพราะพึ่งพากำลังของผู้ใหญ่ ขณะที่ผู้หญิงจะกล้าทำตัวกร่างนอกบ้านได้ก็เพราะพึ่งพากำลังของสามีพวกหล่อน!
และการที่หลินชิงเหอกล้าทำอะไรไม่ไว้หน้าคนอื่นแบบนี้ได้มันก็เป็นเพราะโจวชิงไป๋คนเดียว
พี่ชายรองตระกูลหลินหวาดกลัวโจวชิงไป๋น้องเขยเย็นชาคนนี้มาก เขากลัวอีกฝ่ายอยู่ตลอด
“คุณพ่อ คุณแม่ พวกคุณปล่อยให้ลูกสาวที่แต่งงานไปแล้วกลับมาที่บ้านเพื่อรังแกลูกสะใภ้ของพวกคุณเหรอคะ? ที่รังแกกันได้เป็นเพราะตระกูลหลี่ของฉันไม่มีใครแล้วใช่ไหม?” เมื่อสะใภ้รองตระกูลหลินเห็นว่าสามีของหล่อนยั้งมือไว้และทำอะไรไม่ได้ หล่อนก็รีบหันมาทางพ่อแม่สามี
ท่านแม่หลินได้ยินดังนั้นก็ได้สติกลับมา นางตัวสั่นเทิ้มพร้อมกับชี้หน้าด่าหลินชิงเหอ “แกมันนังวัวลืมตีน! นังคางคกขึ้นวอ!”
“ไอ้หยา แม่เฒ่า อย่าโมโหจนป่วยเป็นอะไรไปนะคะ ถ้าคุณเกิดเส้นเลือดในสมองแตกขึ้นมา อย่าคิดที่จะพึ่งพาลูกชายกับลูกสะใภ้ทั้งสองคู่ให้มาช่วยเหลือเลยค่ะ ดูจากนิสัยของพวกเขาแล้ว” หลินชิงเหอเอ่ยเสียงนุ่มพลางยิ้มกริ่ม
ดวงตาของท่านแม่หลินเบิกกว้าง “แกกล้าพูดกับฉันแบบนี้เรอะ? ในสายตาแกยังเห็นฉันเป็นแม่อยู่หรือเปล่า?”
“แน่สิคะว่าฉันเห็น ไม่อย่างนั้นฉันจะยังจำแม่กับพ่อได้จนต้องรีบมาหาเหรอคะ? อ้อ ฉันยังไม่ได้จ่ายค่าเทอมปีหน้าของเจ้าใหญ่เลยค่ะ คุณพอจะมีให้มากกว่าของหลายอย่างที่ฉันนำกลับมาให้พวกคุณสองคนในอดีตไหมคะ!” หลินชิงเหอเอ่ยขึ้น
“แกยังมีหน้ากลับมาบ้านเพื่อมาขอเงินอีกเรอะ?” ท่านพ่อหลินเอ่ยเสียงขรึม
เขาเองก็หวาดกลัวเขยคนเล็กผู้เป็นเสือยิ้มยาก และมีท่าทางจริงจังอยู่ตลอดเล็กน้อยเหมือนกัน
โดยเฉพาะตอนที่รู้ว่าเขยคนเล็กไม่มีความรู้สึกดี ๆ กับครอบครัวตระกูลหลินเลย
“ทำไมฉันถึงจะไม่มีหน้ากลับมาขอเงินล่ะคะ? พ่อเฒ่า คุณความจำเสื่อมหรือเปล่า? คุณจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าในอดีตฉันนำเงินกลับมาให้คุณเยอะแค่ไหน? พอได้กินก็ลืมแล้วงั้นเหรอคะ? ไม่ต้องพูดถึงของอื่น ๆ รวมถึงผ้านวมผืนที่ใช้อยู่บนเตียงเตาของคุณนะคะ ผ้านวมผืนนั้นน่ะล้วนทำมาจากฝ้ายที่ฉันรวบรวมมาได้ ตอนนี้ฉันกลับมาเพื่อขอเงินมันผิดตรงไหนเหรอคะ?” หลินชิงเหอเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ
“น้องสาว อย่าล้อเล่นน่า สะใภ้รองเจอเธอในอำเภอเมื่อวานนี้แล้วก็เห็นว่าเธอซื้อของมาเยอะแยะมากมาย แถมเธอยังซื้อนมผงหายากกลับไปหลายถุงด้วย เธอจะยังไม่มีเงินอยู่ได้อย่างไร?” สะใภ้ใหญ่แห่งตระกูลหลินเอ่ยแทรกขึ้นมาและชี้แจงเหตุผลด้วยรอยยิ้ม
“พี่สะใภ้ใหญ่ช่างเป็นแม่พระเสียจริง ๆ นะคะ พี่เข้าข้างสะใภ้รองด้วย” หลินชิงเหอตอบ
ใบหน้าของพี่สะใภ้ใหญ่แข็งค้างไปในทันที “น้องสาว อย่ายุแยงตะแคงรั่วในความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวทางแม่สิจ๊ะ”
“จะยุแยงตะแคงรั่วกันหรือไม่ พี่เองก็รู้อยู่แก่ใจ” หลินชิงเหอแค่นเสียง “สำหรับของพวกนั้นเมื่อวานนี้มันไม่ใช่ของ ๆ ฉันหรอกค่ะ เด็ก ๆ ของฉันโตขนาดนั้นแล้ว ทำไมพวกเขายังต้องกินนมผงกันอีก? น้องสามีของฉันแต่งงานอยู่กินในเมืองแล้วส่งลูกชายมาให้แม่สามีฉันช่วยเลี้ยงต่างหาก เข้าใจไหม นังโง่?”
เธอปรายตามองหลี่ซุ่ยฮวาตั้งแต่หัวจรดเท้า
หลี่ซุ่ยฮวาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? แต่ถึงอย่างนั้นหลินชิงเหอก็ยังไม่กล้าโกหกในเรื่องที่เธอไม่ได้ซื้อของสิ่งนี้ เพราะพวกเขารู้เรื่องนี้แล้วในทันทีที่ได้กล่าวถึง
สะใภ้รองบ้านหลินขบฟันกรอด “ต่อให้เธอจะไม่ได้ซื้อนมผง แล้วของอื่น ๆ ล่ะ? ถ้าเธอมีเงินซื้อของมาได้ตั้งมากมายขนาดนั้น เธอก็ควรเคารพพ่อแม่ตัวเองไม่ใช่เหรอ?”
“อย่างที่คิดเลย ตระกูลหลินไม่ได้ใส่ใจลูกสาวอย่างฉันจริง ๆ ด้วย ถึงไม่รู้ว่าพ่อกับแม่สามีมาร่วมทานอาหารที่บ้านฉันทุกมื้อ แล้วทั้งคู่ก็ให้เงินกับเราเพื่อซื้อของที่พวกท่านอยากจะกิน หากพวกคุณมีข้อสงสัยก็ไปบอกเรื่องนี้กับบ้านตระกูลโจวเสียสิคะ” หลินชิงเหอหัวเราะคิกคัก
“น้องสาวช่างกตัญญูจริง ๆ หล่อนดูแลพ่อแม่สามีดีเหลือเกิน…”
แต่กับพ่อแม่ตัวเอง เธอไม่เหลียวแลเลยสักนิด
…………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เห็นฤทธิ์แม่กันแล้วหรือยังคะ ถ้าไม่เชื่อลองถามสะใภ้รองบ้านโจวดูก็ได้ค่ะ รายนั้นโดนทุ่มรอบปฐมฤกษ์เลยนะคะ
ไหหม่า (海馬)