ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม - บทที่ 352 ตั้งครรภ์?
บทที่ 352 ตั้งครรภ์?
ในสายตาของโจวเสี่ยวเหมย พี่สะใภ้รองของหล่อนมีนิสัยแบบหมาป่าตาขาว(คนเนรคุณ)
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ทำให้โจวเสี่ยวเหมยไม่สบายใจ เพราะพี่สะใภ้สี่ของหล่อนดีต่อหลานสาวคนนี้มาก
เธอพาหล่อนมาจากบ้านเกิดและให้หล่อนทำหน้าที่แค่เฝ้าร้านเสื้อผ้า เงินเดือนก็เท่ากับคุณป้าหม่าที่ทำงานล้างจาน แต่รวมค่ากินค่าอยู่อาศัยทุกอย่างแล้ว
ของอย่างเสื้อผ้า ผ้านวม พัดลม อื่น ๆ เธอเป็นคนซื้อให้ทั้งหมด
ของกินอะไรที่มีอยู่เธอก็ให้หล่อนกินหมด
ต้องบอกว่าชีวิตในชนบทของโจวเสี่ยวเหมยยังไม่ดีเท่าชีวิตของสวี่เชิ่งเหม่ยที่นี่เลย
แถมพี่สะใภ้สี่ยังอยากฝึกงานให้พวกเขาด้วย เอ้อร์นีกับหู่จือลงเรียนวิชาภาคค่ำเพื่อจะได้ศึกษาต่อสูง ๆ และมีความก้าวหน้าในชีวิต หากสวี่เชิ่งเหม่ยอยากไปเรียนด้วยหล่อนก็ได้ไป
ทั้งหมดที่ได้กลับมาคือคำพูดในคืนนี้ของสวี่เชิ่งเหม่ยงั้นเหรอ?
ยิ่งโจวเสี่ยวเหมยคิดต่อ หล่อนก็ยิ่งโมโห หล่อนรู้สึกว่าสวี่เชิ่งเหม่ยหลานสาวคนนี้เป็นคนเนรคุณไม่น้อย ไม่หัดจดจำอะไรดี ๆ บ้างเลย!
ซูต้าหลินที่ไม่รู้ว่าในใจของภรรยากำลังปั่นป่วนเพียงใดได้แต่เอ่ยขึ้น “คุณ…นอน…แต่หัวค่ำเถอะครับ”
“งั้นนอนกันเถอะค่ะ” โจวเสี่ยวเหมยรู้ว่าเขาต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเปิดร้านในวันรุ่งขึ้นจึงพยักหน้า
“ผมอยาก….อยาก…” ซูต้าหลินเอ่ยขึ้นมา ทำให้หล่อนประหลาดใจ
โจวเสี่ยวเหมยอึ้งไป จากนั้นก็ทุบเขาเบา ๆ ซูต้าหลินที่กินเนื้อแกะเข้าไปก็ยิ้มออกมาและพลิกตัวขึ้นทับ
โจวเสี่ยวเหมยนอนหลับสบายในที่สุดหลังถูกรบกวนแบบนี้แล้ว
หล่อนไม่ได้บอกพี่สะใภ้สี่ในเรื่องนี้ ก็เพราะไม่อยากใส่เชื้อไฟให้พี่สะใภ้สี่
ช่วงนี้หลินชิงเหออารมณ์ดีมาก แกงเนื้อแกะที่โจวชิงไป๋เป็นคนตุ๋นช่างมีรสชาติดีและหอมน่ารับประทานจริง ๆ
ยิ่งกว่านั้นเขายังปรุงน้ำแกงเก๋ากี้ให้เธอกินก่อนนอนอีกด้วย
“กินแบบนี้บ่อย ๆ เดี๋ยวฉันต้องอ้วนแน่ ๆ เลยค่ะ” หลินชิงเหอพึมพำ
“อวบหน่อยสิครับถึงจะดี คุณผอมเกินไปแล้ว” โจวชิงไป๋บอก
หลินชิงเหอกลอกตา เธอจะผอมเกินไปได้อย่างไรล่ะ? เธอก็หุ่นแบบนี้แหละ ถึงจะใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายแบบ
“กินอีกหน่อยนะครับ” โจวชิงไป๋เอ่ยด้วยดวงตาเป็นประกาย
หลินชิงเหอทำเพียงดื่มน้ำแกงแต่ไม่ได้กินเนื้อ แต่ด้วยการคะยั้นคะยอของโจวชิงไป๋ เธอจึงได้แต่เล็มไปเล็กน้อยและให้โจวชิงไป๋กินส่วนที่เหลือ
ทั้งคู่แปรงฟันหลังกินอาหารเสร็จจากนั้นก็พักผ่อน
ไม่รู้ว่าที่นี่เป็นฤดูหนาวหรือเป็นเพราะพวกเขากินเนื้อแกะกันมากเกินไปกันแน่ เพราะโจวชิงไป๋ถึงกับนอนกระสับกระส่ายทั้งคืน และเขาจะไม่หยุดจนกว่าหลินชิงเหอจะยอม
หลินชิงเหอปล่อยให้เขาเป็นคนควบคุม แต่แล้วในวันหนึ่งหญิงสาวก็จู่ ๆ นึกขึ้นมาได้
เดือนนี้รอบเดือนของเธอมาช้าไป 2 วันไม่ใช่เหรอ?
หลินชิงเหอนิ่งไป จนโจวชิงไป๋ต้องถามขึ้นมา “มีอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไรค่ะ” หลินชิงเหอส่ายหน้า แต่ในใจของเธออดคิดกังวลไม่ได้
รอบเดือนของเธอจะมาตรงเวลาตลอด หลังลองนับดูแล้วจนถึงวันนี้มันกลับยังไม่มางั้นเหรอ? ช้าไป 2 วันแล้วนะ
เมื่อคิดไปว่าช่วงนี้โจวชิงไป๋คึกขนาดไหน เธอก็พบว่าเขาทำทุกวัน…
หัวใจของหลินชิงเหอเต้นช้าลงไปหนึ่งจังหวะ
โจวชิงไป๋จะรู้ได้อย่างไรว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่? เขาอยากจะนัวเนียกับเธออีกรอบ
หลินชิงเหอปฏิเสธทันควัน “คืนนี้ฉันเหนื่อยแล้ว เรารีบนอนกันเถอะค่ะ”
โจวชิงไป๋เหลือบมองเธอ เมื่อเห็นว่าหลายวันที่ผ่านมานี้เธอเหนื่อยมากจริง ๆ ก็เอ่ยขึ้น “งั้นเรานอนกันนะครับ”
เขาจึงนอนกอดภรรยาอย่างอิ่มเอมใจ
หลินชิงเหอรู้สึกกังวลเล็กน้อย เธอท้องหรือเปล่านะ? แต่ไม่น่าจะใช่ เธอทำหมันไปแล้วนี่ จะเป็นไปได้อย่างไรที่เธอยังท้องได้?
หลินชิงเหอครุ่นคิดอยู่อย่างนั้นจนถึงเที่ยงคืน ส่วนโจวชิงไป๋หลับสบายหายห่วงราวกับหมูไปแล้ว
หลินชิงเหออดไม่ได้ที่จะบีบหน้าของเขา คนไม่ดี…เขาช่างไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรดี ๆ ลงไปแล้วยังหลับสบายได้อยู่อีก
“ภรรยาครับ” โจวชิงไป๋ปรือตาขึ้นมามอง
“กอดให้ฉันหลับหน่อยค่ะ” หลินชิงเหอบอก
โจวชิงไป๋จึงสวมกอดเธอไว้และทั้งคู่ก็นอนหลับไปพร้อมกัน
ตอนนี้หิมะด้านนอกกำลังตกหนัก แต่ถึงอย่างนั้นข้างในบ้านก็อุ่นสบาย
หลินชิงเหอมีสอนตอนเช้าแค่ 2 วิชาเท่านั้น หลังสอนสองวิชานี้เสร็จเธอก็มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเงียบ ๆ
“รอบเดือนคุณมาช้าไป 3 วันไม่ได้หมายความว่าคุณจะตั้งครรภ์นะคะ คุณมีอาการไม่สบายอย่างอื่นด้วยหรือเปล่า?” คุณหมอถาม
“ไม่มีค่ะ” หลินชิงเหอส่ายหน้าและเอ่ยอย่างอดไม่ได้ “ปกติมันมาตรงเวลานะคะ”
นับจากวันนี้ก็เป็นวันที่สามแล้ว หลินชิงเหอยังไม่รู้สึกว่ารอบเดือนของตัวเองจะมาเลย นั่นทำให้เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย
“ช่วงนี้ความอยากอาหารของคุณเป็นอย่างไรบ้างคะ?” คุณหมอถามอีกครั้ง
“ฉันกินจุมากค่ะ กินข้าวเยอะมาก ยิ่งกว่านั้นยังรู้สึกง่วงบ่อย ๆ ด้วยค่ะ” หลินชิงเหอตอบ
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องรอบเดือนมาช้าเลย ช่วงนี้เธอยังกินจุและง่วงเหงาหาวนอนอยู่บ่อย ๆ จนขนาดสามารถหลับคาโต๊ะขณะเตรียมการเรียนการสอนได้เลยทีเดียว!
“ช่วงนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยง่ายมากเลยค่ะ” หลินชิงเหอพูดต่อ
ปกติเธอสอน 4 วิชาในตอนเช้าได้อย่างสบาย ๆ แต่วันนี้เธอสอนไปเพียง 2 วิชาก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว
“เป็นไปได้นะคะว่าคุณกำลังตั้งครรภ์” คุณหมอเอ่ยขณะมองเธอ
“แต่ฉันทำหมันไปแล้วนะคะ” หลินชิงเหออดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกมา ใบหน้าของเธอปรากฏความรู้สึกหลากหลาย ไม่รู้ว่าควรจะมีความสุขหรือไม่มีความสุขดี
“มีโอกาสหนึ่งในหมื่นนะคะที่การทำหมันจะล้มเหลว นานมาแล้วหมอก็เจอคนที่คล้ายกับคุณล่ะค่ะ สามีของหล่อนทำหมันไปแล้วแต่หล่อนยังตั้งครรภ์ได้อยู่ โชคดีที่สามีภรรยาคู่นี้รักใคร่กันดี ไม่อย่างนั้นก็คงจะมีปัญหาครอบครัวกันไปแล้ว” คุณหมออธิบาย
“แต่…แต่ลูกชายคนเล็กของฉันตอนนี้อายุ 13 ปีแล้วนะคะ หลังปีใหม่นี้เขาก็จะมีอายุครบ 14 ฉันไม่ได้ตั้งท้องมานานหลายปีแล้ว แต่ทำไมตอนนี้ถึง…” หลินชิงเหอพูดตะกุกตะกัก
“ช่วงนี้คุณได้กินอะไรดี ๆ หรือเปล่าคะ?” คุณหมอเอ่ยออกมาโดยไม่ได้มองหน้าขณะกำลังเขียนใบวินิจฉัยอาการ
“กินเนื้อแกะมามากกว่าครึ่งเดือนแล้วค่ะ” หลินชิงเหอตอบ
“ค่ะ งั้นเรามาตรวจร่างกายคุณก่อนนะคะ” คุณหมอเอ่ยหลังเขียนใบวินิจฉัยอาการเสร็จ
หลินชิงเหอรับการตรวจร่างกายด้วยอาการตื่นตระหนก จากนั้นเธอก็ออกมาพร้อมกับผลการตรวจด้วยสีหน้าโล่งใจ “ดูสิคะคุณหมอ ฉันไม่ได้ท้อง!”
หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวนิดหน่อยกับการต้องคลอดลูก ตอนนี้เธออายุ 35 แล้ว ถ้าเธอตั้งครรภ์ขึ้นมา เธอก็จะกลายเป็นแม่คนตอนอายุมากแน่ ๆ ซึ่งนั่นมันน่ากลัว!
“คุณพูดแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ” คุณหมออ่านเอกสารแล้วก็เอ่ยขึ้น “ยังมีโอกาสเป็นไปได้ที่คุณจะตั้งครรภ์อยู่เพราะเวลาที่ตรวจสอบยังสั้นเกินไป”
หลินชิงเหอถึงกับชะงักค้างไป จากนั้นคุณหมอก็เอ่ยต่อ “อาการของคุณคล้ายคลึงกับคนที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนอยู่มากทีเดียว หมอแนะนำให้คุณกลับมาตรวจร่างกายอีกครั้งในสัปดาห์หน้านะคะ แต่ถ้ารอบเดือนของคุณมาช่วงนี้พอดี คุณก็ไม่จำเป็นต้องมาตรวจ”
เมื่อหลินชิงเหอมาถึงร้านเกี๊ยว เธอก็เห็นโจวชิงไป๋กำลังทำเกี๊ยวไส้แกะอยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะปรี่ไปตีเขา
โจวชิงไป๋มองภรรยาด้วยสีหน้าสับสน
“อย่ามาแกล้งไม่รู้เรื่องนะคะ!” หลินชิงเหอแค่นเสียง
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” โจวชิงไป๋เลิกคิ้ว
หลินชิงเหอเมินชายหนุ่มก่อนหันหลังเดินกลับบ้าน ส่วนโจวเฉวี่ยนกำลังเขียนวิทยานิพนธ์อยู่ที่ชั้นสองของร้านเกี๊ยว จากนั้นก็ได้ยินเสียงโจวชิงไป๋ตะโกนเรียก “เจ้ารอง ลงมาทำงานข้างล่าง”
“ผมยุ่งอยู่นะป๊า” โจวเฉวี่ยนตอบ
“เดี๋ยวนี้” โจวชิงไป๋บอก
โจวเฉวี่ยนจึงเดินลงมา จากนั้นโจวชิงไป๋ก็โยนงานให้ลูกชายและวิ่งไล่ตามภรรยากลับไป
…………………………………………………………………………………